เหนื่อยใจกับครอบครัว

สวัสดีค่ะคืออยากจะมาถามความเห็นของหลายๆท่าน
คือ เราประสบปัญหา คือ เราเป็นโรคซึมเศร้า
แล้วช่วงหลังๆนี่เราเป็นหนักกว่าเดิมเลยไปหาหมอที่รพ.มนารมย์ สาเหตุที่เราเป็นก็เพราะครอบครัวค่ะ คือเราเป็นพี่สาวคนโต ตอนนี่อยู่ปี3แล้ว อีกปีครึ่งก็จบ แต่นับวันๆยิ่งไม่อยากอยู่
เราไปหาหมอเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วคุยกับหมอเป็นชั่วโมง  หมอก็ถามไถ่ว่า ที่บ้านเวลาทะเลาะกันเป็นยังไง เราก็บอกว่าแบบเงียบค่ะที่บ้านถ้าทะเลาะกันไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผู้ใหญ่ในบ้านจะถูกกว่าเสมอ เราอยู่กับพ่อกับอา  แม่เราอยู่กับน้องที่ต่างจังหวัด เราเป็นคนที่โดนพ่อแซะเยอะสุดในบ้านก็ว่าได้ ตอนจะขึ้นมหาลัยติดที่ม.รัฐหลายที่แต่ต้องไปเรียนต่างจังหวัดเค้าก็ใช้คำว่า มีแต่คนไม่อยากอยู่บ้านเท่านั้นแหละที่จะออกไปอยู่หอ โดนแซะสารพัด ไหนจะอาอีก หมอก็ถามเวลาทะเลาะหนักสุดเคยโดนอะไร อย่างเรา เราเคยโดนปารีโมทใส่หน้าแต่เราก็เงียบ พอเรายิ่งโตเรายิ่งรู้สึกอยากเงียบมากกว่าอยากเถียงเพราะเราเหนื่อย ที่ไม่ว่าจะเถียงยังไงเค้าก็ต้องถูกอยู่ดี ตอนที่อารู้ว่าเราเป็นซึมเศร้าตอนแรก เค้าก็หันมาบอกว่าเค้ากับพ่อเจออะไรหนักกว่านี้อีกทำไมยังไม่เห็นจะเป็นอะไรจนไปหาหมอครั้งล่าสุดสรุปได้ว่า หมอแนะนำให้ นำพ่อกับอามาทำครอบครัวบำบัดในครั้งต่อไปเขียนจดหมายมาเชิญพ่อกับอา แต่เราก็บอกแล้วแหละว่าไม่มีใครมาหรอกเพราะอีโก้สูงทั้งคู่ หมอก็เลยบอกอีกอย่างถ้าไม่มาจริงๆหมออยากให้คุยกับแม่ว่าส่งเราเรียนได้มั้ยให้เราแยกออกไปอยู่คนเดียวเลยเพราะกลับบ้านไปก็จะเจอแต่ปัญหาเดิมๆเพราะคนไม่เข้าใจต่อให้อธิบายเป็นพันล้านรอบเค้าก็ไม่เข้าใจ แล้วหมอก็แนะนำให้หาอะไรเลี้ยงในตอนที่ไม่อยากทำอะไร หรือจะไปเดินห้างเล่นก็ได้ แต่คือเราไม่อยากทำอะไรเลยอะ  แม่ก็บอกว่าอย่าบอกพ่อนะ เดี๋ยวพ่อเครียด จนล่าสุดเราได้หมามาเลี้ยงคือแม่ก็อยากเลี้ยงแต่ไม่มีใครกล้าขัดพ่อซักคนแม่ก็เป็นคนจ่ายให้ค่าหมา แต่พอเอาเข้าบ้านเราก็โดนพ่อด่ายับเลยว่าไม่ให้เลี้ยง ไหนจะอาที่แม่ทักไปคุยให้ว่า เนี่ยหมอให้ไปบำบัดแล้วหาอะไรมาเลี้ยงให้แก้เหงา หรืออีกทางที่จะไปอยู่ข้างนอก อาก็ทักมาหาเราเลยว่า จะไปคุยกับหมอจะได้ฟังเรื่องจริงทั้งสองฝ่าย เราก็เลยบอกว่า มาเลยเพราะยังไงเราก็ไม่ได้โกหกอะไรอยู่แล้วดีเหมือนกัน แล้วอาเราก็ยังถามอีกว่า มันมีเครื่องที่เอาไว้ตรวจอาการซึมเศร้ามั้ยว่าเป็นจริงรึเปล่า คือเรารู้สึกเหมือนแบบ คือไม่ได้ขอให้เชื่อแต่ขอให้พยายามช่วยกันหน่อยนิดนึงก็ยังดีตอนแรกแม่บอกว่าสู้คนเดียวไปก่อนนะ ทนพ่อกับอาด่าไปก่อนอีกปีกว่าก็จบแล้ว แต่คือพอเมื่อคืนคุยกับแม่อีกที แม่บอกว่าเหมือนอาจะไม่ให้เลี้ยงหมาแต่เรื่องไปแยกไปอยู่คนเดียวเดะว่ากันอีกทีหลังจากพบหมอ เราก็โอเคแต่เราก็บอกแม่นะว่าเราไม่ไหวแล้ว ให้หนูทนอีกปีครึ่งหนูจะอยู่ถึงปีหน้ารึเปล่าหนูยังไม่รู้เลยแม่ คืออันไหนที่เราไหวเราก็บอกว่าไหวอะ ก่อนหน้านี้เรื่องแยกออกมาอยู่คนเดียวเนี่ยเราแทบไม่คิดเลยเพราะอย่างน้อยก็รุ้สึกว่าสงสารอากับพ่อ แต่ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเราโดนทิ้งไว้คนเดียวให้แก้ปัญหาคนเดียวตลอด มีแค่ป้ากับลุงที่ตอนรู้แล้วเดินร้องไห้เข้ากอดว่าแบบถ้ามีอะไรบอกป้าเลยนะลูก ป้าจะช่วยเต็มที่ อย่าเก็บไว้คนเดียว เราเลยคุยกับแม่ว่า ถึงอีกสองอาทิตย์ไปหาหมออีกจะว่ายังไงเราก็อยากออกมาจากบ้านแบบไม่สนอะไรแล้วเราเหนื่อยจนไม่อยากจะอยู่แล้วอะ แม่ก็บอกว่าก็ลองทักไปคุยกับป้าดู เราเลยกะจะบอกป้าว่าส่งเราก่อนได้มั้ยเรียนจบเราจะใช้คืน แม่ก็บอกจะช่วยอีกแรงคือแม่เราก็แทบไม่มีอำนาจอะไรเลยแต่เค้าก็บอกว่าแบบเวลาเราร้องไห้โดนพ่อกับอาด่าก็อยากหย่ากับพ่อไปเลยเพราะสงสารเรา น้องชายที่ตอนนี้ไปอยู่หอที่มหาลัยก็บอกว่าแบบชีวิตพี่ พี่เลือกเอาเอง ยังไงก็เปนพี่สาวยังไงก็รักยังไงก็เข้าใจ เราก็เครียดคิดวนไปวนมาจนไม่อยากจะทำอะไรมาสองสามวันแล้วแต่ตอนนี้ก็รู้สึกอยากเดินออกมาแล้วเพราะเราไม่ไหวจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่