นิทาน สนามเด็กเล่นนักการเมือง


นิทานเรื่องนี้ เริ่มจากที่ หลายวันที่ผ่านมา มีข่าวการย้ายพรรคของพรรคใหญ่ เข้าพรรคใหม่ที่น่าจับตามองมาก มีข่าวหนาหูเรื่องการเสนอเงินหลักร้อยล้าน เงินเดือนอีกครึ่งแสน (อันนี้ผมคนที่ย้ายยืนยันว่า ไม่ถึง) ซึ่งเจ้าสังกัดเดิม อดีต สส. ก็เคยเล่าให้ฟังว่า ช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ทางพรรคไม่เคยดูแลอะไรเลย อดีต สส. ผู้ใดมีคดี ก็เอาตัวรอดเอง เงินหมดกันไปเป็นแถว ถูกเชือดติดคุยกันมากมาย เพื่อใคร ก็เพื่อนายใหญ่ สำหรับผมมันเป็นเรื่องปกติ คนที่รับใช้ จงรักพักดี จะรับโทษแทนนาย แล้วสิ่งตอบแทนมหาศาล ส่วนที่รับโทษแทนพรรคนั้น ตัวใครตัวมันแล้วกัน ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เคยมองว่าหัวหน้าพรรคเค้าเก่งทแต่ไม่กี่วันที่ผ่านมา สองเกลอพี่น้อง มีความสุขที่เมืองผู้ดี แล้วมากล่าวหา ด่าว่าลูกพรรคเก่าที่ต้องเอาตัวรอด ดูถูกนโยบายความเป็น สส.เค้า ว่าเค้าทรยศ เป็น สส.เกรดสอง หรือเห็นแก่เงินบ้าง ทำไมไม่มองตัวเองบ้าง ตอนที่หนีเอาตัวรอด ทั้งพี่ทั้งน้อง หายเงียบสองสามเดือน แล้วออกมาทำน่าสงสาร ร้องประกาศว่าตัวเองโดนแกล้ง ทั้งคู่พี่น้องมีเงินนิ อย่างบางคนที่ ซวยหนักหน่อย คิดว่าหนีตามนาย นายจะช่วย ผมก็เห็นไม่มีอะไรดีขึ้น ก็อยู่ได้นะต่างประเทศ แต่ชะตากรรมเดียวกัน คือไม่มีวันกลับบ้านเกิด แม้แต่วันงานศพพ่อตัวเอง ได้แต่โพสแฟสบุ๊ค อยู่อย่างหลบๆ ถึงแม้จะได้พาสประเทศนั้นแล้ว เงินก็ต้องหาเอง
เพื่อใคร ทั้งหมด? นี้ถ้าคือหนึ่งใน นโยบายพรรคที่ท่านหัวหน้าพรรคจะหมายถึง การที่ สส. ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในการกระทำผิดเพื่อหัวหน้าพรรค หรือ ถ้าออกก็คือคนทรยศ... ช่วยมองให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้หน่อยในการใช้คำพูดคำจา ไหนๆก็สร้างพรรคมาให้ครอบครัวตัวเองปกครองแล้ว ถ้าท่านไม่ดูแลดี จะเหลือคนในพรรคที่ต้องรับกรรม แทนตระกูลท่านอีกกี่ราย แล้วคนในบ้านเหลือกี่คนเอง ที่สามารถจะรับตำแหน่งได้อีก ลูกชายลูกสาวท่านก็นะ รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นยังไง แต่ทุกคนก็รู้ดี ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จรีง แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา สส.คนไหนลงเขตอะไร ค่าใช้จ่ายในการหาเสีย ใครจัดการจำนวนเท่าไหร่ เมื่อต้นปีมีการพบกันที่ฮ่องกง เคยตกลงคุยอะไรกันไว้ มีอะไรเดินหน้าบ้างไหม
อ่านมาก็อาจจะว่าผม เป็นอีกฝั่ง หรือ พวกที่ต้องการป่วนความคิดคนเล่น แต่ผมบอกได้เลย คนบางท่านที่ผมพาดพิงถึง ผมเคยพบเป็นการส่วนตัวหลายท่าน ใช้คำเรียกแทนตัวว่า พี่ น้อง ... มันเลยทำให้ผมตั้งกระทู้นี้ เพราะคนที่ผมเคยเจอตัวจรีงๆ และเคารพ เค้าต้องถูกตีตราบาปรับกรรม อย่างแทบจะเอาตัวไม่รอด เพื่อใคร เพื่อให้ตระกูลนั้นอยู่รอดปรอทภัยไง
หยุดเถอะครับท่านผู้นำไร้บ้านเกิด อย่าเอาแต่ใจมากเหมือนเด็ก วันไหนว่างๆ ลองนั่งคิดดูเอาว่า ตอนที่ตัวเองหนี มีใครเค้าส่งข่าวบอก ใครคอยเปิดทางให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ตอนที่ตั้งพรรคนี้ตลอดมา คนที่เค้าเป็น สส. แล้วได้เลือกตั้ง ท่านให้เงินเค้าแค่เท่าไหร่ ครั้งนี้เค้าได้ทุนเยอะกว่า คิดว่าจะเดินหน้าสู้ท่านไม่ได้หรอ ยิ่งไปว่าไปดูถูกเค้า คนที่ท่านว่า เค้าอยู่พื้นที่ สามารถเจอประชาชนได้ทุกเมื่อนะ ส่วนตัวท่านเอง ก็แค่คนมีอายุติดโซเชียวใช้คอย วัดเรทติ้ง และหาทางประคองคะแนนเสียงตัวเอง ผมว่ามีหลายคนยังชอบท่านนะครับ ตัวผมเองจรีงๆก็ยังนับถือความคิดบางอย่างด้านการทำธุระกิจของท่านอยู่ แต่อย่าให้มันเสื่อมไปมากกว่านี้เลย
เอาว่าที่เค้าย้ายๆกันไป ทางพรรคที่มาทาบทามผมว่าเค้าคงคิดดีอย่างมากๆแล้ว ว่าใครเหมาะสม และคุ้มไหมกับการลงทุน สส.ก็คืออาชีพ อาชีพนึง ใครเหมาะ ใครพอใจจะทำงานที่ไหน ทุกคคนที่ทำงานก็คงรู้แกใจ เงินอย่างเดียวไม่ใช่จุดจูงใจที่จะย้ายบริษัท มันมีหลายองประกอบในการตัดสินใจย้ายสังกัด ท่านหัวหน้าพรรคลองมองกลับกันที่ด้วยสาเหตุที่เกิด แล้วหาวิธีดูแล คนที่เหลือที่เค้าติดต่อแต่ไม่ไปเพราะรักอุดมคติของพรรค หรือ อยู่ต่อเพราะไม่มีคนทาบทาม เพราะเค้าคงเห็นความคลั่งในนโยบายพรรค อันเนียวแน่นจนไม่น่าคุยด้วยเพราะคงไม่ย้ายแน่ๆ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สส. ก็เป็นอาชีพ ที่มีอุดมคติสูง แต่เมื่อถูกวางอย่างไร้ค่า ไม่มีศักดิ์ศรี เค้าก็จะหาจุดยืน ให้เค้ากลับมายืนในสถาณะ สส. ได้เหมือนเดิมให้คนเคารพ

ปล. ถ้าอ่านแล้วตรงไหน งงๆ ขออภัยด้วยนะครับ พิมๆ พักๆ ไปทำอย่างอื่น เลยมีอาจวกไปวนมา ซ่ำๆบ้าง.ก็ขอโทษ ณ จุดนี้นะครับ และถ้าผู้ใดรู้สึกพาดพิง นี้ก็แค่เรื่องแต่ง ที่ได้ยินมา เอามาปะติปะต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่