พรรคแมลงสาบและสาวก กปปส.น่าจะไปเชิญทั่นสุวิทย์มาเป็นหัวหน้าพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป....

มาร์คหัวหน้าพรรคแมลงสาบคงเลยช่วงเวลาทางการเมืองพี้คสูงสุดไปแล้ว..
ตั้งแต่ตอนเป็นนายกฯทางลัดโดยวิธีเชิญสส.งูเห่า(สส.ทรยศปชช.ภาค2)มาร่วมเสวยอำนาจ
สส.งูเห่าคว้าเก้าอี้ตำแหน่งดีๆไปครองแบบสส.ปชป.ได้แค่มองตาปริบๆ แต่ก็ทำให้สส.พรรคงูเห่าแพ้เลือกตั้งจนเกือบสูญพันธุ์

หลังจากคำสั่งใช้กระสุนจริงสลายม็อบมือเปล่าที่มาขอให้ยุบสภาด้วยอาวุธสงคราม
มาร์คก็พาพลพรรคแพ้เลือกตั้งอย่างไม่เป็นท่า ทำให้เมือกแค้นที่โดนตบหน้าแทบต้องมุดไปอยู่ในกะลาตามที่ประกาศผ่านสื่อ
ครานี้ เมือกไม่สนใจจะเป็นสส.เล่นการเมืองตามระบอบอีกต่อไป(รัฐสภา)เริ่มติดใจวิธีทางลัดของสนธิลิ้ม
ตามป่วนในนอกสภา ระดมสาวกปิดกรุงฯยุตัวช่วยให้ล้ม รบ.ที่ชนะเลือกตั้งจนสำเร็จ
พร้อมไม่เอาการเลือกตั้ง(อ้างต้องปฎิรูปก่อนแบบลมๆแล้งๆไม่มีรูปธรรมใดๆนอกจากใช้วาทะกรรมพื้นๆหลอกล่อสาวก)
โดยไม่สนใจปชช.ส่วนใหญ่ว่าเห็นด้วยหรือไม่

ช่วงออกเดินตะเวนขอเงินตามท้องถนนได้เงินจำนวนมากจนน่าตกใจ
ถ้าเทียบบารมีแล้วเมือกน่าจะแซงมาร์คและสส.พรรคแมลงสาบคนอื่นๆทั้งหมดถ้าจะมาเป็นหน.พรรคแมลงสาบก็คงไม่ยาก
แต่เพราะเมือกเดิมพันโดยประกาศเลิกยุ่งการเมือง จึงเท่ากับตะวัดลิ้นมัดคอตัวเองให้หมดสิทธิ์จะลงเลือกตั้งตลอดชีวิต

หลังจากเชิญชวนการยึดอำนาจจนสำเร็จเมือกต้องหนีคุกกระเซอะกระเซิงไปชุบตัวโดยเข้าไปหลบห่มผ้าเหลืองอยู่ในวัดร่วมปี
ในทางตรงข้ามนายสุวิทย์ที่ยังห่มเหลืองลูกศิษย์ตำแหน่งใหญ่ๆโตๆล้นหลาม
กลับมีบทบาททางการเมืองอย่างโดดเด่นแม้แต่ อดีตสส. สว.ก็ไม่มีใครทาบบารมีติด
นายสุวิทย์โด่งดังจากการตั้งกรวยพาสาวกยึดศูนย์ราชการ (ขยับเป็นตายหรือไม่ก็ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม)
ผลงานทางการเมืองของนายสุวิทย์จึงยากที่ใครจะมองข้ามทางด้านศาสนาก็ตามไล่ล่า ธัมมะชโยแห่งวัดธรรมกาย
จนต้องสละตำแหน่งเจ้าอาวาส รวมๆแล้วบารมีนายสุวิทย์จึงกำลังพุ่งสูงสุด
ขนาดเรื่องวัดบุกรุกที่ดินอุทยานนายสุวิทย์ก็มีเอี่ยว และน่าจะใช้วาทะกรรมหลบหลีกลื่นไหลสอบผ่านไปได้แบบสบายๆ

พรรคแมลงสาบพรรคนี้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เกี่ยวกับเรื่องที่ดินมาอย่างต่อเนื่องแทบทุกยุคสมัยเช่นคดีที่ดิน สปก.4-01 ที่ภูเก็ต ฯลฯ
แต่ สส.หรือกระทั่งนายยกฯชวนก็สามารถลอยตัวรอดคุกแบบชิวๆ
ดังนั้นศึกเลือกตั้งครั้งหน้าคนที่น่าจะมีบารมีครบเครื่องสมควรนำพรรคแมลงสาบน่าจะเป็นนายสุวิทย์
ที่เก่งทางโลกจนหาตัวจับยากคำพูดทางการเมืองของนายสุวิทย์แหลมคมราวกับเป็นนักปลุกระดม ผู้อ่านข่าวหรือสื่อชื่อดังของพรรคแมลงสาบ
ส่วนทางธรรมคงไม่ต้องพูดถึงว่าศิษย์นายสุวิทย์ปึ้กขนาดไหน พระองค์ไหนๆในประเทศก็คงเทียบยาก
ดังนั้นถ้านายสุวิทย์ถือโอกาสยอมสละผ้าเหลืองสละวัด
ออกมานำพลพรรคแมลงสาบรับรองว่าการเมืองพรรคแมลงสาบจะไม่เป็นสองลองใคร
แม่ยกพ่อยกสลิ่มคงต้อนรับกันอย่างอุ่นหนาฝาคลั่งคะแนนนิยมอาจจะเฉือนชนะ ทั่นเมือกแบบสบายๆ