ท่านใดมีคำถาม ส่งมาทางเฟสบุ๊คนะคะ ถามทาง pantip อาจตอบช้า เพราะไม่ค่อยเข้ามาเช็คค่ะ
https://www.facebook.com/Fenix-Journey-502550063240429/
ประมาณอาทิตย์ที่ 25 ของการตั้งครรภ์ คุณหมอให้เราตรวจเบาหวาน โดยการดื่มน้ำตาลกลูโคส
และเจาะเลือด 1 เข็ม หลังจากดื่มน้ำตาลแล้ว 1 ชั่วโมง
วันต่อมา คุณหมอโทรมาบอกว่าผลตรวจเราไม่ผ่านค่ะ คือเราน่าจะเป็นเบาหวานตอนท้องค่ะ
คุณหมอเลยให้เราเข้ามาตรวจอีกครั้ง
ครั้งนี้ดื่มกลูโคสในปริมาณที่มากขึ้น และเจาะเลือด 4 เข็ม เจาะทุก ๆ 1 ชั่วโมง
ทรมานมากค่ะ สำหรับคนไม่ชอบเข็มอย่างเรา
ข้างละ 2 รู พรุนไปเลยวันนั้น 555

วันนั้นทั้งวัน อยู่แต่กับพยาบาลคนเดิม จนเบื่อหน้ากันไปเลยค่ะ 555
ห้าถึงหกวันต่อมา คุณหมอโทรมาแจ้งผลเรา
ผลออกมาคือไม่ผ่านค่ะ สรุป เราเป็นเบาหวานตอนท้องค่ะ
คุณหมอเป็นห่วงเรามากค่ะ เพราะเบาหวานนี่ส่งผลต่อทารกในครรภ์มากนะคะ
ทำให้ทารกตัวใหญ่ น้ำหนักเยอะเกิน คลอดก่อนกำหนด
เมื่อทารกคลอดออกมา ปอดอาจทำงานไม่ดี
ตัวเหลือง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทารกอาจเกิดภาวะช็อค และอื่น ๆ อีกค่ะ
ส่วนผลกระทบต่อมารดาก็คือ ทำให้ครรภ์เป็นพิษ
มีภาวะน้ำคร่ำมาก และอาจเป็นเบาหวานหลังคลอดได้ค่ะ
โหหหหหห อะไรกันหนักหนา เรื่องเก่าเพิ่งหมดไปเรื่องใหม่ก็เข้ามาอีก
อยากจะลาออกจากการเป็นคนท้องเลยค่ะ
แต่ทำไงได้ กว่าจะได้เขามาอยู่ในท้องเรา ก็ยากเย็นแสนเข็น
ตอนนี้เขามาอยู่กับเราแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ สู้กันซักตั้ง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบาหวานขณะตั้งครรภ์
https://www.pobpad.com/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C
คุณหมอจึงส่งเราไปที่ที่ 2 นั่นแหละค่ะ
ที่นั่นจะมีพยาบาลชำนาญการเรื่องเบาหวานตอนท้องค่ะ
แต่กว่าจะได้เจอพยาบาล ก็อีกตั้งสองสัปดาห์ เพราะไม่มีคิวว่างเลย
เราจึงโทรหาเค้า เพื่อปรึกษาว่าควรจะทำอย่างไร
และทางพยาบาลก็ได้ออกใบสั่งแพทย์ให้เราก่อนเป็นการด่วนเลยค่ะ
ก็จะเป็นเครื่องเจาะเลือดที่นิ้ว เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอ่ะค่ะ
พยาบาล ให้เราเจาะนิ้ววันละ 4 ครั้ง พยายามคุมอาหาร
กินอะไรก็ได้ที่ไม่ให้น้ำตาลเกิด 120 อ่ะค่ะ
มันยากนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรหรือไม่ควรกินอะไร
ก็ลองผิดลองถูกอ่ะค่ะ กินโน่นกินนี่ และก็จดไว้ว่ากินอะไร และตรวจเลือดดู
อันไหนกินและน้ำตาลไม่เกิน ก็พยายามจะกินอันนั้นค่ะ
บางทีกินบางอย่างเข้าไป มาตรวจเลือด โอ้โห น้ำตาลพุ่งไปเกือบ 200 ก็มีค่ะ
และยิ่งคนท้องนี่ยิ่งลำบากนะคะ มันอยากจะกินโน่นกินนี่ กินหวาน ๆ กินเค้ก กินโดนัท กินขนม กิน กิน กิน อ่ะค่ะ
พอได้เข้าพบพยาบาล เขาก็จะมีตัวอย่างอาหารที่ทานได้มาให้ค่ะ
ค่อยดีขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง
แต่อย่างว่าแหละค่ะ ที่แนะนำก็จะเป็นอาหารฝรั่งซะทั้งหมด
เราเป็นคนไทย บางทีก็ทานไม่เป็นบ้าง ไม่ถูกปากบ้างค่ะ
แต่ที่แน่ ๆ เลย เราแทบจะไม่ได้แตะข้าวขาวเลยค่ะ
ทานแต่สุกี้ ใส่น้ำจิ้มไม่เยอะ วุ้นเส้นนิดเดียว เน้นผักกับไก่ค่ะ กินทุกวันเลยค่ะ
และก็มีสเต็ก สลัดใส่น้ำสลัดที่ไม่มีน้ำตาลเป็นน้ำมันมะกอก อโวคาโด้วันละลูก
และก็กินไก่ค่ะ ทานไก่แล้วน้ำตาลไม่ขึ้นค่ะ

และที่สำคัญอย่าทานเยอะค่ะ คุณหมอบอกว่า
ให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 6 มื้อย่อย ทานมื้อละพออิ่มค่ะ
ก็ทานอยู่แต่อย่างงี้แหละค่ะ จนคลอดเลย มีบ้างเหมือนกันค่ะที่หลุด
คือมันอยากจริง ๆ ค่ะ ไปทานข้าวนอกบ้านก็ทานซะเต็มที่เลย
มันหิว มันโหย มันอยากไปหมดอ่ะค่ะ คนเคยท้องจะเข้าใจค่ะ ^_^
ทรมานสุด ๆ เลยค่ะ และจะต้องเจาะนิ้วตัวเองวันละ 4 รอบ
และคุมน้ำตาล คุมอาหาร ไปจนกว่าจะคลอด เรียกว่าทรมานแสนสาหัสเลยก็ว่าได้ค่ะ
นิ้วนี่พรุนไปหมดเลยค่ะ ท้อแท้ หดหู่มากค่ะ แต่พอนึกถึงลูกแล้ว ก็ฮึดสู้ค่ะ ทำอย่างไงก็ได้ให้ลูกปลอดภัย

คุณหมอบอกว่า ถ้าเราคุมน้ำตาลด้วยการคุมอาหารไม่ได้ ก็จะให้เราฉีดอินชูลินเข้าหน้าขาค่ะ
เรากลัวเข็มมากเลย ก็เลยขอหมอ ขอลองคุมอาหารดูก่อน
สรุปตั้งแต่ทราบว่าเป็นเบาหวานจนคลอด เราคุมน้ำตาลอยู่ค่ะ มีหลุดไม่กี่ครั้ง
คุณหมอก็เลยไม่ได้ให้ฉีดอินชูลินค่ะ
รอดตัวไป
คุณหมอที่ ที่ 2 อัลตร้าซาวด์ให้ดูพัฒนาการของทารกให้เราด้วยค่ะ
การเจริญเติบโตปกติดีค่ะ

มาว่าด้วยเรื่องความดันสูงค่ะ ทุกครั้งที่เราไปหาคุณหมอ
คุณหมอจะวัดความดันเราทุกครั้งค่ะ ปกติบ้าง สูงนิดนึงบ้าง ที่สูงเราคิดว่าเราคงจะตื่นเต้น
พอเราตั้งท้อง ทุกครั้งที่คุณหมอวัดความดัน ความดันเราจะสูงเกินค่าปกติทุกครั้งเลยค่ะ
ค่าบน 125 130 135 บ้าง ค่าล่างสูงกว่าปกติ แต่ไม่เกิน 90 ค่ะ
คุณหมอเริ่มเป็นห่วง แต่ก็คาดว่าน่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์ เพราะบางคนอาจมีความดันสูงขึ้นบ้าง
เราเลยไปหาซื้อเครื่องวัดความดันมาไว้ที่บ้าน จะได้วัดได้ตลอดเวลา
เพราะเราก็กลัว ถ้าเราความดันสูงตลอดเวลา มันจะมีผลกระทบกับลูกในท้อง
เราก็วัดตลอดเลย เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน วัดทุกวัน ความดันก็ปกติตลอด
พอมาตอนนัดพบหมอตอนท้องเดือนที่ 5 คุณหมอวัดความดันเรา สูงปรี๊ดดดดดด ขึ้นไปที่ 160/100
คุณหมอส่งให้เราไปหาหมอที่ที่ 3 ซึ่งเป็นหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจและความดันสูงเฉพาะทางทันที
พอไปถึงคุณหมอที่ที่ 3 คุณหมอก็จัดการให้เราตรวจคลื่นหัวใจ อัลตร้าซาวด์หัวใจ ฟังคลื่นหัวใจ
สายระโยงระยางเต็มไปหมดเลยค่ะ
และคุณหมอก็วัดความดันให้เรา ก็สูงประมาณ 140 ค่ะ
ส่วนตัวเรา เราคิดว่าเราเป็นโรคกลัวหมอค่ะ
คือเจอหมอเจอห้องตรวจ เจอเครื่องมือ เจอเข็ม เจอเจาะเลือดทีไร
เราตื่นเต้น กลัว รู้สึกได้ว่าหัวใจเราเต้นแรงทุกทีเลยค่ะ
แต่ตามปกติในการใช้ชีวิตประจำวัน เราไม่เป็นอะไรค่ะ
ไม่ได้รู้สึกมึนหัว หรือมีการที่แสดงว่าเราความดันสูงเลย
เราก็เอาความดันที่เราวัดที่บ้านให้คุณหมอดูค่ะ
คุณหมอดูผลตรวจคลื่นหัวใจ อัลตร้าซาวด์หัวใจ ฟังคลื่นหัวใจแล้ว ก็บอกว่าเราปกติทุกอย่างค่ะ
อาจจะเป็นโรคกลัวหมอ หรือโรคความดันโลหิตสูงปลอม
หรือ white coat syndrome หรือ white coat hypertension
คือความดันจะสูงเฉพาะเวลาที่เจอหมอเจอพยาบาล แต่ก็ยังไม่ฟันธง
เราจึงต้องไปหาคุณหมอที่ที่ 3 ทุกเดือน
พร้อมกับจดบันทึกค่าความดันที่เราวัดที่บ้านไปให้คุณหมอดูด้วยทุกครั้ง
ทุกครั้งที่ไปหาคุณหมอก็เป็นแบบเดิม ความดันสูงทุกที
คุณหมอก็เห็นว่าเราจะมีความดันสูงตอนที่เจอหมอเท่านั้น
จึงไม่เป็นอันตรายต่อทารก เพราะความดันเราไม่ได้สูงตลอดเวลา
คุณหมอบอกว่า ไม่ต้องห่วง วันคลอด คุณหมอก็จะไปเฝ้าที่ห้องคลอดด้วย
ไม่ต้องกังวล เกิดอะไรขึ้นหมอจะช่วยเอง
คุณหมอน่ารักมาก เราก็ค่อยสบายใจหน่อย
เพราะอย่างไงก็ใกล้หมอค่ะ
ขอต่อ EP 5 นะคะ ขอบพระคุณที่ติดตามค่ะ
กว่าจะได้เป็นแม่คน Ep 4 เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อเป็นเบาหวานตอนท้อง และความดันสูง
https://www.facebook.com/Fenix-Journey-502550063240429/
ประมาณอาทิตย์ที่ 25 ของการตั้งครรภ์ คุณหมอให้เราตรวจเบาหวาน โดยการดื่มน้ำตาลกลูโคส
และเจาะเลือด 1 เข็ม หลังจากดื่มน้ำตาลแล้ว 1 ชั่วโมง
วันต่อมา คุณหมอโทรมาบอกว่าผลตรวจเราไม่ผ่านค่ะ คือเราน่าจะเป็นเบาหวานตอนท้องค่ะ
คุณหมอเลยให้เราเข้ามาตรวจอีกครั้ง
ครั้งนี้ดื่มกลูโคสในปริมาณที่มากขึ้น และเจาะเลือด 4 เข็ม เจาะทุก ๆ 1 ชั่วโมง
ทรมานมากค่ะ สำหรับคนไม่ชอบเข็มอย่างเรา
ข้างละ 2 รู พรุนไปเลยวันนั้น 555
วันนั้นทั้งวัน อยู่แต่กับพยาบาลคนเดิม จนเบื่อหน้ากันไปเลยค่ะ 555
ห้าถึงหกวันต่อมา คุณหมอโทรมาแจ้งผลเรา
ผลออกมาคือไม่ผ่านค่ะ สรุป เราเป็นเบาหวานตอนท้องค่ะ
คุณหมอเป็นห่วงเรามากค่ะ เพราะเบาหวานนี่ส่งผลต่อทารกในครรภ์มากนะคะ
ทำให้ทารกตัวใหญ่ น้ำหนักเยอะเกิน คลอดก่อนกำหนด
เมื่อทารกคลอดออกมา ปอดอาจทำงานไม่ดี
ตัวเหลือง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทารกอาจเกิดภาวะช็อค และอื่น ๆ อีกค่ะ
ส่วนผลกระทบต่อมารดาก็คือ ทำให้ครรภ์เป็นพิษ
มีภาวะน้ำคร่ำมาก และอาจเป็นเบาหวานหลังคลอดได้ค่ะ
โหหหหหห อะไรกันหนักหนา เรื่องเก่าเพิ่งหมดไปเรื่องใหม่ก็เข้ามาอีก
อยากจะลาออกจากการเป็นคนท้องเลยค่ะ
แต่ทำไงได้ กว่าจะได้เขามาอยู่ในท้องเรา ก็ยากเย็นแสนเข็น
ตอนนี้เขามาอยู่กับเราแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ สู้กันซักตั้ง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบาหวานขณะตั้งครรภ์
https://www.pobpad.com/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C
คุณหมอจึงส่งเราไปที่ที่ 2 นั่นแหละค่ะ
ที่นั่นจะมีพยาบาลชำนาญการเรื่องเบาหวานตอนท้องค่ะ
แต่กว่าจะได้เจอพยาบาล ก็อีกตั้งสองสัปดาห์ เพราะไม่มีคิวว่างเลย
เราจึงโทรหาเค้า เพื่อปรึกษาว่าควรจะทำอย่างไร
และทางพยาบาลก็ได้ออกใบสั่งแพทย์ให้เราก่อนเป็นการด่วนเลยค่ะ
ก็จะเป็นเครื่องเจาะเลือดที่นิ้ว เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอ่ะค่ะ
พยาบาล ให้เราเจาะนิ้ววันละ 4 ครั้ง พยายามคุมอาหาร
กินอะไรก็ได้ที่ไม่ให้น้ำตาลเกิด 120 อ่ะค่ะ
มันยากนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรหรือไม่ควรกินอะไร
ก็ลองผิดลองถูกอ่ะค่ะ กินโน่นกินนี่ และก็จดไว้ว่ากินอะไร และตรวจเลือดดู
อันไหนกินและน้ำตาลไม่เกิน ก็พยายามจะกินอันนั้นค่ะ
บางทีกินบางอย่างเข้าไป มาตรวจเลือด โอ้โห น้ำตาลพุ่งไปเกือบ 200 ก็มีค่ะ
และยิ่งคนท้องนี่ยิ่งลำบากนะคะ มันอยากจะกินโน่นกินนี่ กินหวาน ๆ กินเค้ก กินโดนัท กินขนม กิน กิน กิน อ่ะค่ะ
พอได้เข้าพบพยาบาล เขาก็จะมีตัวอย่างอาหารที่ทานได้มาให้ค่ะ
ค่อยดีขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง
แต่อย่างว่าแหละค่ะ ที่แนะนำก็จะเป็นอาหารฝรั่งซะทั้งหมด
เราเป็นคนไทย บางทีก็ทานไม่เป็นบ้าง ไม่ถูกปากบ้างค่ะ
แต่ที่แน่ ๆ เลย เราแทบจะไม่ได้แตะข้าวขาวเลยค่ะ
ทานแต่สุกี้ ใส่น้ำจิ้มไม่เยอะ วุ้นเส้นนิดเดียว เน้นผักกับไก่ค่ะ กินทุกวันเลยค่ะ
และก็มีสเต็ก สลัดใส่น้ำสลัดที่ไม่มีน้ำตาลเป็นน้ำมันมะกอก อโวคาโด้วันละลูก
และก็กินไก่ค่ะ ทานไก่แล้วน้ำตาลไม่ขึ้นค่ะ
และที่สำคัญอย่าทานเยอะค่ะ คุณหมอบอกว่า
ให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 6 มื้อย่อย ทานมื้อละพออิ่มค่ะ
ก็ทานอยู่แต่อย่างงี้แหละค่ะ จนคลอดเลย มีบ้างเหมือนกันค่ะที่หลุด
คือมันอยากจริง ๆ ค่ะ ไปทานข้าวนอกบ้านก็ทานซะเต็มที่เลย
มันหิว มันโหย มันอยากไปหมดอ่ะค่ะ คนเคยท้องจะเข้าใจค่ะ ^_^
ทรมานสุด ๆ เลยค่ะ และจะต้องเจาะนิ้วตัวเองวันละ 4 รอบ
และคุมน้ำตาล คุมอาหาร ไปจนกว่าจะคลอด เรียกว่าทรมานแสนสาหัสเลยก็ว่าได้ค่ะ
นิ้วนี่พรุนไปหมดเลยค่ะ ท้อแท้ หดหู่มากค่ะ แต่พอนึกถึงลูกแล้ว ก็ฮึดสู้ค่ะ ทำอย่างไงก็ได้ให้ลูกปลอดภัย
คุณหมอบอกว่า ถ้าเราคุมน้ำตาลด้วยการคุมอาหารไม่ได้ ก็จะให้เราฉีดอินชูลินเข้าหน้าขาค่ะ
เรากลัวเข็มมากเลย ก็เลยขอหมอ ขอลองคุมอาหารดูก่อน
สรุปตั้งแต่ทราบว่าเป็นเบาหวานจนคลอด เราคุมน้ำตาลอยู่ค่ะ มีหลุดไม่กี่ครั้ง
คุณหมอก็เลยไม่ได้ให้ฉีดอินชูลินค่ะ
รอดตัวไป
คุณหมอที่ ที่ 2 อัลตร้าซาวด์ให้ดูพัฒนาการของทารกให้เราด้วยค่ะ
การเจริญเติบโตปกติดีค่ะ
มาว่าด้วยเรื่องความดันสูงค่ะ ทุกครั้งที่เราไปหาคุณหมอ
คุณหมอจะวัดความดันเราทุกครั้งค่ะ ปกติบ้าง สูงนิดนึงบ้าง ที่สูงเราคิดว่าเราคงจะตื่นเต้น
พอเราตั้งท้อง ทุกครั้งที่คุณหมอวัดความดัน ความดันเราจะสูงเกินค่าปกติทุกครั้งเลยค่ะ
ค่าบน 125 130 135 บ้าง ค่าล่างสูงกว่าปกติ แต่ไม่เกิน 90 ค่ะ
คุณหมอเริ่มเป็นห่วง แต่ก็คาดว่าน่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์ เพราะบางคนอาจมีความดันสูงขึ้นบ้าง
เราเลยไปหาซื้อเครื่องวัดความดันมาไว้ที่บ้าน จะได้วัดได้ตลอดเวลา
เพราะเราก็กลัว ถ้าเราความดันสูงตลอดเวลา มันจะมีผลกระทบกับลูกในท้อง
เราก็วัดตลอดเลย เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน วัดทุกวัน ความดันก็ปกติตลอด
พอมาตอนนัดพบหมอตอนท้องเดือนที่ 5 คุณหมอวัดความดันเรา สูงปรี๊ดดดดดด ขึ้นไปที่ 160/100
คุณหมอส่งให้เราไปหาหมอที่ที่ 3 ซึ่งเป็นหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจและความดันสูงเฉพาะทางทันที
พอไปถึงคุณหมอที่ที่ 3 คุณหมอก็จัดการให้เราตรวจคลื่นหัวใจ อัลตร้าซาวด์หัวใจ ฟังคลื่นหัวใจ
สายระโยงระยางเต็มไปหมดเลยค่ะ
และคุณหมอก็วัดความดันให้เรา ก็สูงประมาณ 140 ค่ะ
ส่วนตัวเรา เราคิดว่าเราเป็นโรคกลัวหมอค่ะ
คือเจอหมอเจอห้องตรวจ เจอเครื่องมือ เจอเข็ม เจอเจาะเลือดทีไร
เราตื่นเต้น กลัว รู้สึกได้ว่าหัวใจเราเต้นแรงทุกทีเลยค่ะ
แต่ตามปกติในการใช้ชีวิตประจำวัน เราไม่เป็นอะไรค่ะ
ไม่ได้รู้สึกมึนหัว หรือมีการที่แสดงว่าเราความดันสูงเลย
เราก็เอาความดันที่เราวัดที่บ้านให้คุณหมอดูค่ะ
คุณหมอดูผลตรวจคลื่นหัวใจ อัลตร้าซาวด์หัวใจ ฟังคลื่นหัวใจแล้ว ก็บอกว่าเราปกติทุกอย่างค่ะ
อาจจะเป็นโรคกลัวหมอ หรือโรคความดันโลหิตสูงปลอม
หรือ white coat syndrome หรือ white coat hypertension
คือความดันจะสูงเฉพาะเวลาที่เจอหมอเจอพยาบาล แต่ก็ยังไม่ฟันธง
เราจึงต้องไปหาคุณหมอที่ที่ 3 ทุกเดือน
พร้อมกับจดบันทึกค่าความดันที่เราวัดที่บ้านไปให้คุณหมอดูด้วยทุกครั้ง
ทุกครั้งที่ไปหาคุณหมอก็เป็นแบบเดิม ความดันสูงทุกที
คุณหมอก็เห็นว่าเราจะมีความดันสูงตอนที่เจอหมอเท่านั้น
จึงไม่เป็นอันตรายต่อทารก เพราะความดันเราไม่ได้สูงตลอดเวลา
คุณหมอบอกว่า ไม่ต้องห่วง วันคลอด คุณหมอก็จะไปเฝ้าที่ห้องคลอดด้วย
ไม่ต้องกังวล เกิดอะไรขึ้นหมอจะช่วยเอง
คุณหมอน่ารักมาก เราก็ค่อยสบายใจหน่อย
เพราะอย่างไงก็ใกล้หมอค่ะ
ขอต่อ EP 5 นะคะ ขอบพระคุณที่ติดตามค่ะ