สาวๆ คนไหนที่คิดจะทำคางอ่านทางนี้ก่อนนะคะ (Ep.2)

สวัดดีค่า หมวยนะคะ วันนี้จะมาอัพเดทคางหลังจากที่หายไปพักรักษาตัวและเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งค่ะ ก่อนหน้านี้หมวยเคยผ่าตัดคางที่ไทย พังจนหมดหวัง คิดว่าคงต้องเลิกทำงานเป็นนางแบบแล้ว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ปฎิเสธงานที่ติดต่อเข้ามา นั่งเครียดอยู่บ้านทุกวันเพราะไม่สามารถไปทำงานได้ รายได้ของหมวยส่วนใหญ่ก็จะมาจากการถ่ายแบบ พอหน้าเป็นแบบนี้เลยต้องเลิกเป็นนางแบบกระทันหัน ไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ ไหนจะต้องหาเงินเพื่อมารักษาตัวและใช้จ่ายในบ้านอีก ก็กระทบหลายอย่างเลยค่ะ
   
    ใครที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้แรกของหมวย สามารถกลับไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้นะค่ะ
https://pantip.com/topic/36780974

      หลังจากที่พักคางอยู่หลายเดือน หมวยได้หาข้อมูลและติดต่อไปที่โรงพยาบาลหลายแห่งที่เกาหลี เพื่อสอบถามที่จะผ่าตัดแก้ไขคางอีกครั้ง ได้ไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งนึง แต่ราคาค่อนข้างสูงและเหมือนจะให้เรา ตัดโหนกแก้มและทำทุกอย่างที่ ดูเยอะเกินไปซึ่งตอนนั้นใจเราแค่อยาก แก้ไขคางที่เป็นปัญหาของเราแค่นั้นเลยหา รพ.อื่นเพื่อเปรียบเทียบราคาและการผ่าตัด จนได้มาเจอ เพื่อน คนนึงเค้าแนะนำว่า รพ. Mvp เป็น รพ. ที่ไม่ค่อยทำโฆษณาในไทย เราจึงเข้าไป ดูเวปไซต์ และ สอบถามข้อมูลจากเพื่อนที่เคยทำมาจากที่นี่ จึงค่อนข้างมั่นใจ และได้เจอพี่ที่ดูแลคนใน ในรพ.นี้ พี่เค้าแนะนำให้ ข้อมูลดีทุกอย่างรวมถึง เลือกหมอที่เก่ง ในการแก้ไขปัญหานี้ให้เรา และเป็นราคาที่เราพอจ่ายไหว จึงตกลงตัดสินใจทำที่นี่


        คุณหมอที่ รพ.mvp ให้ทำ ที ซี สแกนเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้า แล้วมาประเมินว่าจะต้องผ่าตัดอย่างไร คางหมวยเสียหายค่อนข้างเยอะ กระดูกแหว่ง เนื่องจากเคยติดเชื้อและคางเริ่มเป็นพังผืด คุณหมอประเมินว่าต้องตัดกรามและสไลด์คางออกมา ตัดกระดูกคางเป็นตัวTแล้วมาประกบกัน เลาะพังผืดออกให้หมด (คางที่เคยติดเชื้อไม่สามารถใส่ซิลิโคนได้ เพราะเสี่ยงที่จะติดเชื้อง่าย จึงต้องใช้วิธิสไลด

อันนี้คือรูปก่อนที่จะผ่าตัดนะค่ะ

        วันผ่าตัดหมวยงดน้ำ งดอาหาร8ชม.ก่อนขึ้นเขียง ที่นี่ใช้วิธีวางยาสลบและสอดท่อหายใจ หมอผ่าตัดอยู่5 ชม. พอรู้สึกตัวจำได้ว่าเจ็บขอให้พยาบาลฉีดยาแก้ปวดให้ ที่นี่มีสายระบายเลือดห้อยอยู่ที่เสื้อด้วย2ข้างเลย ซ้าย-ขวา วันแรกค่อนข้างจะปวดเยอะหน่อยแต่ก็ทนได้ค่ะ นอนค้าง รพ.1วัน หลังจากนั้นกลับไปพักฟื้นที่โรงแรม และต้องมาทำล้างแผล ฉีดวิตามินและทำเลเซอร์ลดบวมทุกวันจนครบ10วัน
  
    
    
  
    
หลังผ่าตัด1เดือนค่ะ

หลังผ่าตัด2เดือนค่ะ

คางปัจจุบันค่ะหลังผ่าตัด6เดือน และคางจะยังเล็กลงอีกเรื่อยๆจนกว่าจะครบ1ปีถึงจะเข้าที่ค่ะ

         หลังผ่าตัดหน้าจะเริ่มบวมวันที่3-4 ทานได้แต่ข้าวต้ม อ้าปากได้ไม่กว้าง เพราะผ่าแผลในปาก ต้องหมั่นบ้วนน้ำยาตลอดหลังทานอาหาร หมวยนี่นับวันรอเลยอยากเห็นว่าคางจะออกมาเป็นยังไง ตื่นเต้นมาก แต่ช่วงแรกๆจะบวมๆ ดูไม่ค่อยออก กว่าคางจะสวยเข้ารูปจริงๆปาไปเดือนที่6หลังผ่าตัด หน้าเล็กลง คางเล็ก ดูธรรมชาติ พอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมามากค่ะ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย ทนอยู่กับคางที่แหว่งนี้อยู่1ปีเต็มๆ จากที่เคยทำงานถ่ายภาพนิ่งต้องหยุดงานไปเป็นปี เสียความมั่นใจ เสียการเสียงานไปเลย ตอนนี้คางกลับมาโอเคแล้วค่ะ ต้องยอมรับว่าหมอที่เกาหลีเก่งมากจริงๆ พอได้ไปทำที่เกาหลีถึงรู้ว่าที่ผ่านมาเราเอาชีวิตไปเสี่ยงขึ้นเขียงผ่าที่ไทยหลายครั้ง ที่เกาหลีก่อนผ่าตัดจะต้องมีการตรวจเลือด เช็คสภาพร่างกาย และวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เท่านั้น ห้องผ่าตัดต้องเป็นห้องปลอดเชื้อ และยิ่งการดูแลหลังผ่าตัดของเกาหลีเค้าดีมากจริงๆค่ะ ล้างแผลกันทุกวันฉีดยา ฉีดวิตตามินให้ทุกวัน แผลติดเชื้อไม่ต้องพูดถึง คนไข้ที่นี่ไม่เคยมีแผลติดเชื้อเลยค่ะ ครั้งนี้หมวยต้องขอบคุณพี่ๆเอเจนซี่มากๆค่ะ พี่ๆน่ารักและดูแลดีทุกคน เค้าดูแลเหมือนญาติเลย ช่วยเรื่องผ่าตัดเสร็จยังพาไปกิน ไปเที่ยว เป็นทริปที่สนุกมากค่ะ เหมือนได้มาพักผ่อนในตัว ที่มาเขียนเล่าเพื่อจะแชร์ประสบการณ์ตรงของหมวยเองให้กับคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันนี้ ไว้เป็นข้อมูล เพราะมีคนหลังไมค์มาถามเรื่องคางเยอะมาก หมวยเข้าใจหัวอกดีค่ะว่าทุกข์ทรมานแค่ไหน อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ หาข้อมูลดีๆ เลือกที่ดีๆมีสติแล้วค่อยๆแก้ไขนะคะ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่