เรื่องสั้นเรื่องที่สองและเป็นเรื่องสุดท้ายสำหรับวีคนี้ ใช้ชื่อว่า "น่ารักทุกคน" อืม...อ่านไปๆ ถึงตอนท้าย กรรมการสำลักเบียร์!!
ทำไมเป็นยังงั้น ??
ต้องมาติดตามอ่านกันดูครับ จบแล้วแจกเกรดตามอัธยาศัย แล้วล็อกเป้าดูทีรึ ? ใครเขียนเรื่องนี้.....


หลังจากเจี๊ยบไปงานแต่งงานเพื่อนสมัยเรียนประถม ที่ ตจว แล้ว ก็ได้เดินทางกลับ กทม เพื่อทำงานตามปกติ แม้ว่าจะไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเรียนประถมที่สนิทกัน คือ แดง หนึ่ง เอ๋ สามสาวแก๊งจอมกวนก็ตาม
เมื่อกลับถึงกรุงเทพ พี่เฮาะเจ้าของบริษัท ประกาศว่า เธอได้งานใหม่ จะไปเป็นโค้ชให้ดารา ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงซะงั้น และเจี๊ยบก็ต้องหางานใหม่ แบบมึนไปหมดกับโชคชะตา
ไปงานแต่งกลับมา ตกงานเลยหรือเรา ?
เจี๊ยบนั่งอยู่บ้าน เปิดอินเตอร์เน็ต หวังหางาน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเพลง
กระบี่ไร้เทียมทาน เหมือนที่ตั้งไว้เช่นเดิม
“ ฮัลโหล ขอสาย เจี๊ยบหน่อย “ เสียงตามสายคุ้นหูพูดทักทายมา
“ เจี๊ยบพูดสาย เอ่อ ไม่ทราบว่านั่นใครพูด “ เจี๊ยบไม่แน่ใจ จึงต้องถามอีกที
“เราเอง น้อต ที่เคยตามคุณเจี๊ยบไปหาลูกค้า ช่วยยกของบ่อยๆไง ตอนนี้เราได้เป็น ผจก แล้ว เลยโทรมาแจ้งข่าวให้คุณเจี๊ยบทราบ “
เจี๊ยบฟังแล้วก็ดีใจกับน้อต “ ดีใจด้วย ว่าแต่ งานอะไรละ ผจก ที่ว่า “
น้อตตอบเสียงใส “ เป็น ผจก โรงงานนำเข้าเครื่องเสียง ยี่ห้อ
เพลียโอไหน “
หลังจากสนทนาได้สัก 30 นาที เจี๊ยบก็เล่าให้ฟังว่า ตกงาน เพราะเฮาะไปเป็นโค้ชให้ดาราแล้ว ซึ่งน้อตได้ยินดังนั้น จึงชวนเจี๊ยบมาทำงานบริษัทนำเข้าเครื่องเสียง
เพลียโอไหน ทันที แบบไม่ได้คิดอะไรเลย
เจี๊ยบตอบตกลง ไปทำงานตำแหน่งพนักงานขาย เงินเดือนน้อยไม่ว่า ขอให้มีงานทำก่อน เจี๊ยบนึกในใจ
วันแรกของการเริ่มงาน เมื่อได้พบกัน น้อตเข้าสวมกอดเจี๊ยบแบบแนบแน่น และทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มไปด้วยความฟิน จนเจี๊ยบรู้สึกว่า น่าจะพอแล้ว จึงตีเข่าเบาๆพร้อมดันน้อต ผจก คนใหม่ ให้ห่างๆไป
น้อต ตั้งสติได้หลังจากกระเจิงไปชั่วขณะ เสียงเนียนๆ พูดออกมาทันที "คุณเจี๊ยบ นี่เพื่อนพนักงานขายของคุณ มีสองคน คนแรก คุณ แจน คนที่สอง คุณ ติ๊ก" ซึ่งเจี๊ยบกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานใหม่ทั้งสองคน และ น้อต ผจก ใหม่ ก็ฝากคุณเจี๊ยบกับ พนักงานขายทั้งสองแล้วแยกตัวไป
ณ ห้องทำงานของพนักงานขาย เจี๊ยบได้มีโต๊ะเก่าๆตัวนึง ในห้องขนาด 4x4 เมตร ทาสีฝาผนัง ทูโทน ขาวกับดำ โดยเพื่อนร่วมงาน มีโต๊ะทำงานใหม่เอี่ยมทั้งสองตัว แต่เจี๊ยบก็ไม่คิดอะไรมาก และเริ่มถามเพื่อนร่วมงานว่า บริษัทนี้ เป็นไงบ้าง
แจน ตอบทันที “โอย ที่นี่ทำงานกัน ชิลๆ เราทำมาสามเดือนแล้ว ขายไม่ได้เลย” แจนคนที่มีท่าทีขี้เล่น พูดเสร็จหัวเราะร่วน
ติ๊ก ซึ่งดูเหมือนจะจริงจังกว่า ทำท่าไม่พอใจ แล้วพูดออกมาว่า “ ไปหาอะไรกินกันเหอะ “
เจี๊ยบมองนาฬิกา
คือ เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงตรง อีกชั่วโมงถึงจะพักเที่ยงนี่ จะไปพักเที่ยงกันแล้วเหรอ เจี๊ยบคิดในใจ พอได้สติ ก็เห็นแค่ด้านหลังของ แจน ที่กำลังจะเดินผ่านประตูไป โดยมีติ๊กเปิดไปก่อนคนแรกแล้ว เจี๊ยบจึงรีบลุกตามไป โดยที่ ทั้งไฟ แอร์ และ เครื่องคอมพิวเตอร์ เปิดทิ้งไว้แบบไม่ช่วยชาติเลย
เมื่อตามมาทันถึงหน้าลิฟท์ แจน กดปุ่มลงข้างล่าง ส่วนติ๊ก ยืนเล่นไลน์ ไม่คุยกับใคร
เจี๊ยบถามแบบคนซื่อว่า “ เราเดินลงดีไหม นี่มันชั้นสองเองนะ “
แจน หันหน้ามามองด้วยค้อนเบอร์ใหญ่มาก คอแทบบิด แล้วจ้องหน้าเจี๊ยบ เหมือนกับว่า ถ้าสิงได้ คงเข้าไปสิงในร่างเจี๊ยบตอนนั้นเลย พร้อมมีเสียงจากลำคอ หงื่อๆๆๆ เหมือน อัลเซเชียน ตอนเจอ โดเบอร์แมน
ติ๊ง เสียงลิฟท์มา ประตูเปิด แจนเข้าคนแรก เจี๊ยบเข้าคนที่สอง แจนกดปุ่มปิดลิฟท์ทันที ด้วยความที่ยังโมโหเจี๊ยบอยู่
ประตูลิฟท์ปิดแล้ว เจี๊ยบค่อยถามว่า “ อ้าว ไม่รอติ๊กเหรอ ? “
แจนทำตาเหลือก พร้อมบอกว่า “ เออ ลืม”
เมื่อถึงชั้น 1 ลิฟท์เปิด เห็น ติ๊ก ยืนเล่นมือถือรออยุ่แล้ว แจนเลยถามว่า “ เฮ้ย ทำไมลงมาก่อนเราได้ “
ติ๊กไม่มองหน้า เล่นไลน์ต่อแล้วพูดว่า “โถ่ ก็ชั้นเดียวเอง เดินลงยังเร็วกว่า ที่ยืนรอนั่นไม่ใช่ลิฟท์ รอคุณเจี๊ยบตะหาก เรากะเดินลงอยู่แล้ว “
เจี๊ยบนึกขำในใจ แต่ก็ยังรู้สึกผิดที่กดลิฟท์ชั้นเดียวลงมากะแจน แล้วทั้งสามคนก็พากันเดินไปจนถึงร้าน สมชายโภชนา เป็นร้านอาหาร มีข้าว และก๋วยเตี๋ยว ซึ่งยังไม่มีใครมาทานอาหารเลย เพราะสามคนนี้ออกก่อนเวลา
เจ้าของร้าน เฮียชาย ตัวอ้วนๆ ใส่วิกหลวมๆเหมือนจะหลุด เพราะเส้นผมได้หนีแกไปเกือบหมดแล้ว เดินอาดๆ มาถาม “ รับอะไรดีครับ? “
ติ๊ก ตอบคนแรก “ข้าวหมูแดงหมูกรอบกุนเชียงไข่”
เฮียชาย ตะโกนสั่งลูกน้องทันที “ ข้าวรวม หนึ่ง “
ติ๊กชายตามองด้วยหางตา
ทำไมสั่งสั้นจัง ได้มาไม่ครบจะตบให้วิกกระเด็นลงหม้อก๋วยเตี๋ยวเลย ติ๊ก นึกในใจ
แจนไม่รอช้า ออกเสียงสั่งเส้นเล็กน้ำเย็นตาโฟ พิเศษ ใส่เยอะๆทุกอย่าง
ส่วนเจี๊ยบ ก็สั่ง ข้าวกุนเชียง 1 เส้น แล้วไข่สองใบ ไม่เอาหมูกรอบ ไม่เอาหมูแดง ซึ่งเฮียชายมองหน้าและทำคิ้วผูกโบว์เล็กน้อย แล้วค่อยเดินจากไป
ไม่นาน อาหารก็มาเสิร์ฟ จานแรกของเจี๊ยบเลย เป็นข้าวเปล่า ครึ่งจาน ส่วนอีกครึ่งจาน มีการจัดวางอาหารเหมือนร้านหรูในแวร์ซายที่ฝรั่งเศส คือ เป็นภาพของไข่สองใบวางประกบกุนเชียงหนึ่งเส้น ตรงกลาง ดูแล้วเหมือนอะไร จินตนาการกันออกแน่นอน ทำเอา แจน กับ ติ๊ก หัวเราะชอบใจ กับภาพอาหารในจานของเจี๊ยบ เสียงลั่นร้าน แล้วบอก " โห น่ากิน "
เวลาผ่านไป ประมาณสองนาที ขณะที่ เจี๊ยบค่อยๆหั่นกุนเชียง และ ผ่าไข่ แบบวุ่นวาย และ แจน ก็กำลังโรยเครื่องปรุง พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล อย่างบรรจงกะสัดส่วนเหมือนกับกำลังดำเนินกระบวนการผลิตหรือผสมระเบิดด้วยสารเคมีรุนแรงอะไรสักอย่าง คือ เป๊ะมาก
แต่แล้ว เมื่อแจนใส่ส่วนผสมเสร็จแล้ว เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นภาพ ติ๊ก นั่งเล่นไลน์ต่อ และจานข้าวรวมนั้น ไม่เหลืออะไรเลย เรียกว่า เกลี้ยงเหมือนโดนเลียจนสะอาดแล้ว
แจนออกปากทันที “ เฮ้ย ติ๊กทำข้าวหกเหรอ ? ”
เจี๊ยบได้ยินเผลอหัวเราะลั่นออกมา จนติ๊กต้องหยุดเล่นไลน์เป็นครั้งแรกตั้งแต่หน้าลิฟท์มา จนถึงร้านอาหาร แล้วมองแจนแบบสายตาพิฆาตเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร และหันกลับไปเล่นไลน์ต่อ
แจนเริ่มลงมือ ทำลายล้างอาหารของตัวเองบ้าง เสียงซดน้ำเย็นตาโฟ ซ่วบ ซ่าบ ดังนานต่อเนื่อง และทำให้แจนต้องก้มหน้าลงไป เพราะกลัวน้ำก๋วยเตี๊ยวกระเด็น และดำเนินการต่อเนื่องไม่เงยหน้า อย่างเมามัน ประดุจว่าจะดำลงไปในชามเย็นตาโฟนั้นให้ได้
“ คุณแจน เอาถัง อ๊อกซิเย่นไม๊ ? ” เสียงติ๊ก พูดแบบนิ่มๆ และยิ้มด้วยสายตามองมาที่แจน
แจน ยังคงดูเส้นเล็กเหมือนสายพานลำเลียงเข้าไปในโรงงาน แต่ก็ยังเงยหน้า มองลอดแว่นหนาๆ ไปที่ติ๊ก แบบ เหล่ๆ
เจี๊ยบ ยิ่งหัวเราะดังกว่าเดิม และนึกในใจ คนพวกนี้คิดได้ไง ทั้งยิงมุขและท่าทางกริยาตอบโต้ แบบเจี๊ยบเริ่มรู้สึกหนาวๆซะแล้ว
เมื่อทั้งสามคน ได้แสดงแสนยานุภาพการทำลายล้างอาหารจนอิ่มหนำแล้ว ก็เริ่มเดินกลับบริษัท พร้อมกะว่ากดลิฟท์ขึ้นชั้นสองเหมือนเดิม
คราวนี้ ติ๊กเข้าคนแรก แจน กับ เจี๊ยบ ตามเข้ามาไม่พลาด แต่เมื่อเข้าไปแล้ว ปรากฏว่ามี คุณน้อต และหัวหน้าคุณน้อต คือเจ้าของบริษัท เดินตามเข้าลิฟท์มา
ตาย-ห่าง ทั้งสามคนคิดเหมือนกัน แต่เอามือปิดปากไว้
คุณน้อต กดลิฟท์ชั้นสี่ไปชั้นผู้บริหาร ด้วยมือใหญ่ๆ ขนดกๆ ที่ข้อมือ แสดงความน่ายำเกรงกลัวและสยองให้เห็น
แจน ติ๊ก เจี๊ยบ มองหน้ากัน แล้วไม่กดลิฟท์ เพราะความตกใจทำอะไรไม่ถูก
น้อต กระแอม แล้วพูดว่า “ เดี๋ยวถึงชั้นสี่แล้ว ก็เดินลงมาแล้วกันนะพวกคุณ “
สรุป ทั้งสามคนต้องเดินลงมาพร้อมหัวเราะกันคิกคัก เหมือนคนตัวเป็นผู้ใหญ่แต่สมองเป็นเด็กๆ
และเมื่อถึงเวลาบ่ายสองโมง น้อต ได้คุยกับลูกค้า และทิ้งท้ายบทสนทนาทางโทรศัพท์ว่า "ผมจะส่งพนักงาน น้องๆไปพบพี่เดี๋ยวนี้เลยครับ น่ารักทุกคน ชื่อ ติ๊ก เจี๊ยบ แจน ครับ"
อีกฝั่งของสายโทรศัพท์ คือผู้ชาย ที่เมื่อได้ยินชื่อเล่นทั้งสามพนักงานแล้ว หัวเราะชอบใจ ยิ่ง น้อต บอกว่า น่ารักด้วย
น้อต โทรบอกพนักงานขายทั้งสามไปหาลูกค้า เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลบริษัท ทำให้ทั้งสามคนดีใจว่ามีลูกค้าแล้ว แม้จะไปกันหลายคนต้องแบ่งคอมมิชชั่นกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
เมื่อไปถึงบริษัทลูกค้า พนักงานต้อนรับพาทั้งสามคนเข้าห้องไปพบเจ้าของบริษัททันที
และเมื่อพนักงานต้อนรับสาวสวยปิดประตู และแจ้งเจ้าของบริษัทว่า "มาแล้วค่ะ พนักงานขายที่นัดไว้" ภาพต่อมา เหมือนค้างไว้ คือ เจ้าของบริษัท ท่าทางภูมิฐาน ถามว่า “ สามคนนี่น่ะเหรอ “ ด้วยน้ำเสียงประหลาดใจมาก
”ผมนัด คนชื่อ แจน ติ๊ก เจี๊ยบ ไว้น่ะ” ผู้จัดการพูดเสียงเบาๆ พร้อมมองทั้งสามพนักงานขายที่เดินเข้าไป อย่างแปลกใจ
”ผมแจนครับ” ชายหนุ่มใส่แว่นร่างสูงผอมเหมือนต้นตาล มีขี้กลากหน่อยๆตรงคาง ยกมือ
”ผม ติ๊ก ครับ “ชายหนุ่มอ้วนดำ ใส่กางเกงแทบจะหลุดจากก้นเปิดไฟท้าย พูดพร้อมยิ้มหวาน
”ส่วน ผม เจี๊ยบ ครับ” ชายหนุ่มหนวดเครารุงรัง ใส่ที่คาดผมสีดำ พูดเป็นคนสุดท้าย
เจ้าของบริษัท เบ้ปาก ทำสีหน้าเหมือนเจอผี พร้อมบอกว่า “พอดีผมมีประชุมด่วน พวกคุณกลับไปก่อน วันหลังจะนัดคุณน้อตอีกที “
สามเกลอหัวแข็ง เดินคอตกกลับบริษัท
ขณะที่ เจ้าของบริษัทลูกค้า รำพึงกับตัวเองว่า “ เจี๊ยบ ติ๊ก แจน ฮ่วย ! นึกว่าผู้หญิง ดันมากันแต่ตอ !! "
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. kasareev
6. KTHc
7. ladylongleg (สมาชิกหมายเลข 2326325)
8. Lady Star 919
9. Luckard
10. Na(นะ)
11. peiNing
12. psycho_factory
13. Soul Master
14. Susisiri
15. Tantava
16. TOSHARE (สมาชิกหมายเลข 4563770)
17. turtle_cheesecake
18. WANG JIE
19. คีตมินทร์
20. จอมยุทธนักสืบ
21. ชายขอบคันนายาว
22. นลินมณี
23. ศรเขียว
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. สวนดอก
27. อิสิ
28. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
29. พวงดารา
30. มัศยวีร์
***
รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออกได้ ตลอดเวลา *** ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 22 มิถุนายน 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 21 (เที่ยงคืนวันที่ 20) ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ
"เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ในฐานะมือวาง ตอนปลายปี ครับผม
🐱💁🏽😸 THE WEEKLY GLOVES วีคที่ 26 เรื่องสั้น#52 "น่ารักทุกคน" โดย ถุงมือ "คุณก็รู้ว่าใคร" 😸💁🏽🐱
เรื่องสั้นเรื่องที่สองและเป็นเรื่องสุดท้ายสำหรับวีคนี้ ใช้ชื่อว่า "น่ารักทุกคน" อืม...อ่านไปๆ ถึงตอนท้าย กรรมการสำลักเบียร์!!
ทำไมเป็นยังงั้น ??
ต้องมาติดตามอ่านกันดูครับ จบแล้วแจกเกรดตามอัธยาศัย แล้วล็อกเป้าดูทีรึ ? ใครเขียนเรื่องนี้.....
หลังจากเจี๊ยบไปงานแต่งงานเพื่อนสมัยเรียนประถม ที่ ตจว แล้ว ก็ได้เดินทางกลับ กทม เพื่อทำงานตามปกติ แม้ว่าจะไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเรียนประถมที่สนิทกัน คือ แดง หนึ่ง เอ๋ สามสาวแก๊งจอมกวนก็ตาม
เมื่อกลับถึงกรุงเทพ พี่เฮาะเจ้าของบริษัท ประกาศว่า เธอได้งานใหม่ จะไปเป็นโค้ชให้ดารา ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงซะงั้น และเจี๊ยบก็ต้องหางานใหม่ แบบมึนไปหมดกับโชคชะตา ไปงานแต่งกลับมา ตกงานเลยหรือเรา ?
เจี๊ยบนั่งอยู่บ้าน เปิดอินเตอร์เน็ต หวังหางาน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเพลง กระบี่ไร้เทียมทาน เหมือนที่ตั้งไว้เช่นเดิม
“ ฮัลโหล ขอสาย เจี๊ยบหน่อย “ เสียงตามสายคุ้นหูพูดทักทายมา
“ เจี๊ยบพูดสาย เอ่อ ไม่ทราบว่านั่นใครพูด “ เจี๊ยบไม่แน่ใจ จึงต้องถามอีกที
“เราเอง น้อต ที่เคยตามคุณเจี๊ยบไปหาลูกค้า ช่วยยกของบ่อยๆไง ตอนนี้เราได้เป็น ผจก แล้ว เลยโทรมาแจ้งข่าวให้คุณเจี๊ยบทราบ “
เจี๊ยบฟังแล้วก็ดีใจกับน้อต “ ดีใจด้วย ว่าแต่ งานอะไรละ ผจก ที่ว่า “
น้อตตอบเสียงใส “ เป็น ผจก โรงงานนำเข้าเครื่องเสียง ยี่ห้อ เพลียโอไหน “
หลังจากสนทนาได้สัก 30 นาที เจี๊ยบก็เล่าให้ฟังว่า ตกงาน เพราะเฮาะไปเป็นโค้ชให้ดาราแล้ว ซึ่งน้อตได้ยินดังนั้น จึงชวนเจี๊ยบมาทำงานบริษัทนำเข้าเครื่องเสียง เพลียโอไหน ทันที แบบไม่ได้คิดอะไรเลย
เจี๊ยบตอบตกลง ไปทำงานตำแหน่งพนักงานขาย เงินเดือนน้อยไม่ว่า ขอให้มีงานทำก่อน เจี๊ยบนึกในใจ
วันแรกของการเริ่มงาน เมื่อได้พบกัน น้อตเข้าสวมกอดเจี๊ยบแบบแนบแน่น และทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มไปด้วยความฟิน จนเจี๊ยบรู้สึกว่า น่าจะพอแล้ว จึงตีเข่าเบาๆพร้อมดันน้อต ผจก คนใหม่ ให้ห่างๆไป
น้อต ตั้งสติได้หลังจากกระเจิงไปชั่วขณะ เสียงเนียนๆ พูดออกมาทันที "คุณเจี๊ยบ นี่เพื่อนพนักงานขายของคุณ มีสองคน คนแรก คุณ แจน คนที่สอง คุณ ติ๊ก" ซึ่งเจี๊ยบกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงานใหม่ทั้งสองคน และ น้อต ผจก ใหม่ ก็ฝากคุณเจี๊ยบกับ พนักงานขายทั้งสองแล้วแยกตัวไป
ณ ห้องทำงานของพนักงานขาย เจี๊ยบได้มีโต๊ะเก่าๆตัวนึง ในห้องขนาด 4x4 เมตร ทาสีฝาผนัง ทูโทน ขาวกับดำ โดยเพื่อนร่วมงาน มีโต๊ะทำงานใหม่เอี่ยมทั้งสองตัว แต่เจี๊ยบก็ไม่คิดอะไรมาก และเริ่มถามเพื่อนร่วมงานว่า บริษัทนี้ เป็นไงบ้าง
แจน ตอบทันที “โอย ที่นี่ทำงานกัน ชิลๆ เราทำมาสามเดือนแล้ว ขายไม่ได้เลย” แจนคนที่มีท่าทีขี้เล่น พูดเสร็จหัวเราะร่วน
ติ๊ก ซึ่งดูเหมือนจะจริงจังกว่า ทำท่าไม่พอใจ แล้วพูดออกมาว่า “ ไปหาอะไรกินกันเหอะ “
เจี๊ยบมองนาฬิกา คือ เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงตรง อีกชั่วโมงถึงจะพักเที่ยงนี่ จะไปพักเที่ยงกันแล้วเหรอ เจี๊ยบคิดในใจ พอได้สติ ก็เห็นแค่ด้านหลังของ แจน ที่กำลังจะเดินผ่านประตูไป โดยมีติ๊กเปิดไปก่อนคนแรกแล้ว เจี๊ยบจึงรีบลุกตามไป โดยที่ ทั้งไฟ แอร์ และ เครื่องคอมพิวเตอร์ เปิดทิ้งไว้แบบไม่ช่วยชาติเลย
เมื่อตามมาทันถึงหน้าลิฟท์ แจน กดปุ่มลงข้างล่าง ส่วนติ๊ก ยืนเล่นไลน์ ไม่คุยกับใคร
เจี๊ยบถามแบบคนซื่อว่า “ เราเดินลงดีไหม นี่มันชั้นสองเองนะ “
แจน หันหน้ามามองด้วยค้อนเบอร์ใหญ่มาก คอแทบบิด แล้วจ้องหน้าเจี๊ยบ เหมือนกับว่า ถ้าสิงได้ คงเข้าไปสิงในร่างเจี๊ยบตอนนั้นเลย พร้อมมีเสียงจากลำคอ หงื่อๆๆๆ เหมือน อัลเซเชียน ตอนเจอ โดเบอร์แมน
ติ๊ง เสียงลิฟท์มา ประตูเปิด แจนเข้าคนแรก เจี๊ยบเข้าคนที่สอง แจนกดปุ่มปิดลิฟท์ทันที ด้วยความที่ยังโมโหเจี๊ยบอยู่
ประตูลิฟท์ปิดแล้ว เจี๊ยบค่อยถามว่า “ อ้าว ไม่รอติ๊กเหรอ ? “
แจนทำตาเหลือก พร้อมบอกว่า “ เออ ลืม”
เมื่อถึงชั้น 1 ลิฟท์เปิด เห็น ติ๊ก ยืนเล่นมือถือรออยุ่แล้ว แจนเลยถามว่า “ เฮ้ย ทำไมลงมาก่อนเราได้ “
ติ๊กไม่มองหน้า เล่นไลน์ต่อแล้วพูดว่า “โถ่ ก็ชั้นเดียวเอง เดินลงยังเร็วกว่า ที่ยืนรอนั่นไม่ใช่ลิฟท์ รอคุณเจี๊ยบตะหาก เรากะเดินลงอยู่แล้ว “
เจี๊ยบนึกขำในใจ แต่ก็ยังรู้สึกผิดที่กดลิฟท์ชั้นเดียวลงมากะแจน แล้วทั้งสามคนก็พากันเดินไปจนถึงร้าน สมชายโภชนา เป็นร้านอาหาร มีข้าว และก๋วยเตี๋ยว ซึ่งยังไม่มีใครมาทานอาหารเลย เพราะสามคนนี้ออกก่อนเวลา
เจ้าของร้าน เฮียชาย ตัวอ้วนๆ ใส่วิกหลวมๆเหมือนจะหลุด เพราะเส้นผมได้หนีแกไปเกือบหมดแล้ว เดินอาดๆ มาถาม “ รับอะไรดีครับ? “
ติ๊ก ตอบคนแรก “ข้าวหมูแดงหมูกรอบกุนเชียงไข่”
เฮียชาย ตะโกนสั่งลูกน้องทันที “ ข้าวรวม หนึ่ง “
ติ๊กชายตามองด้วยหางตา ทำไมสั่งสั้นจัง ได้มาไม่ครบจะตบให้วิกกระเด็นลงหม้อก๋วยเตี๋ยวเลย ติ๊ก นึกในใจ
แจนไม่รอช้า ออกเสียงสั่งเส้นเล็กน้ำเย็นตาโฟ พิเศษ ใส่เยอะๆทุกอย่าง
ส่วนเจี๊ยบ ก็สั่ง ข้าวกุนเชียง 1 เส้น แล้วไข่สองใบ ไม่เอาหมูกรอบ ไม่เอาหมูแดง ซึ่งเฮียชายมองหน้าและทำคิ้วผูกโบว์เล็กน้อย แล้วค่อยเดินจากไป
ไม่นาน อาหารก็มาเสิร์ฟ จานแรกของเจี๊ยบเลย เป็นข้าวเปล่า ครึ่งจาน ส่วนอีกครึ่งจาน มีการจัดวางอาหารเหมือนร้านหรูในแวร์ซายที่ฝรั่งเศส คือ เป็นภาพของไข่สองใบวางประกบกุนเชียงหนึ่งเส้น ตรงกลาง ดูแล้วเหมือนอะไร จินตนาการกันออกแน่นอน ทำเอา แจน กับ ติ๊ก หัวเราะชอบใจ กับภาพอาหารในจานของเจี๊ยบ เสียงลั่นร้าน แล้วบอก " โห น่ากิน "
เวลาผ่านไป ประมาณสองนาที ขณะที่ เจี๊ยบค่อยๆหั่นกุนเชียง และ ผ่าไข่ แบบวุ่นวาย และ แจน ก็กำลังโรยเครื่องปรุง พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล อย่างบรรจงกะสัดส่วนเหมือนกับกำลังดำเนินกระบวนการผลิตหรือผสมระเบิดด้วยสารเคมีรุนแรงอะไรสักอย่าง คือ เป๊ะมาก
แต่แล้ว เมื่อแจนใส่ส่วนผสมเสร็จแล้ว เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นภาพ ติ๊ก นั่งเล่นไลน์ต่อ และจานข้าวรวมนั้น ไม่เหลืออะไรเลย เรียกว่า เกลี้ยงเหมือนโดนเลียจนสะอาดแล้ว
แจนออกปากทันที “ เฮ้ย ติ๊กทำข้าวหกเหรอ ? ”
เจี๊ยบได้ยินเผลอหัวเราะลั่นออกมา จนติ๊กต้องหยุดเล่นไลน์เป็นครั้งแรกตั้งแต่หน้าลิฟท์มา จนถึงร้านอาหาร แล้วมองแจนแบบสายตาพิฆาตเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร และหันกลับไปเล่นไลน์ต่อ
แจนเริ่มลงมือ ทำลายล้างอาหารของตัวเองบ้าง เสียงซดน้ำเย็นตาโฟ ซ่วบ ซ่าบ ดังนานต่อเนื่อง และทำให้แจนต้องก้มหน้าลงไป เพราะกลัวน้ำก๋วยเตี๊ยวกระเด็น และดำเนินการต่อเนื่องไม่เงยหน้า อย่างเมามัน ประดุจว่าจะดำลงไปในชามเย็นตาโฟนั้นให้ได้
“ คุณแจน เอาถัง อ๊อกซิเย่นไม๊ ? ” เสียงติ๊ก พูดแบบนิ่มๆ และยิ้มด้วยสายตามองมาที่แจน
แจน ยังคงดูเส้นเล็กเหมือนสายพานลำเลียงเข้าไปในโรงงาน แต่ก็ยังเงยหน้า มองลอดแว่นหนาๆ ไปที่ติ๊ก แบบ เหล่ๆ
เจี๊ยบ ยิ่งหัวเราะดังกว่าเดิม และนึกในใจ คนพวกนี้คิดได้ไง ทั้งยิงมุขและท่าทางกริยาตอบโต้ แบบเจี๊ยบเริ่มรู้สึกหนาวๆซะแล้ว
เมื่อทั้งสามคน ได้แสดงแสนยานุภาพการทำลายล้างอาหารจนอิ่มหนำแล้ว ก็เริ่มเดินกลับบริษัท พร้อมกะว่ากดลิฟท์ขึ้นชั้นสองเหมือนเดิม
คราวนี้ ติ๊กเข้าคนแรก แจน กับ เจี๊ยบ ตามเข้ามาไม่พลาด แต่เมื่อเข้าไปแล้ว ปรากฏว่ามี คุณน้อต และหัวหน้าคุณน้อต คือเจ้าของบริษัท เดินตามเข้าลิฟท์มา ตาย-ห่าง ทั้งสามคนคิดเหมือนกัน แต่เอามือปิดปากไว้
คุณน้อต กดลิฟท์ชั้นสี่ไปชั้นผู้บริหาร ด้วยมือใหญ่ๆ ขนดกๆ ที่ข้อมือ แสดงความน่ายำเกรงกลัวและสยองให้เห็น
แจน ติ๊ก เจี๊ยบ มองหน้ากัน แล้วไม่กดลิฟท์ เพราะความตกใจทำอะไรไม่ถูก
น้อต กระแอม แล้วพูดว่า “ เดี๋ยวถึงชั้นสี่แล้ว ก็เดินลงมาแล้วกันนะพวกคุณ “
สรุป ทั้งสามคนต้องเดินลงมาพร้อมหัวเราะกันคิกคัก เหมือนคนตัวเป็นผู้ใหญ่แต่สมองเป็นเด็กๆ
และเมื่อถึงเวลาบ่ายสองโมง น้อต ได้คุยกับลูกค้า และทิ้งท้ายบทสนทนาทางโทรศัพท์ว่า "ผมจะส่งพนักงาน น้องๆไปพบพี่เดี๋ยวนี้เลยครับ น่ารักทุกคน ชื่อ ติ๊ก เจี๊ยบ แจน ครับ"
อีกฝั่งของสายโทรศัพท์ คือผู้ชาย ที่เมื่อได้ยินชื่อเล่นทั้งสามพนักงานแล้ว หัวเราะชอบใจ ยิ่ง น้อต บอกว่า น่ารักด้วย
น้อต โทรบอกพนักงานขายทั้งสามไปหาลูกค้า เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลบริษัท ทำให้ทั้งสามคนดีใจว่ามีลูกค้าแล้ว แม้จะไปกันหลายคนต้องแบ่งคอมมิชชั่นกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
เมื่อไปถึงบริษัทลูกค้า พนักงานต้อนรับพาทั้งสามคนเข้าห้องไปพบเจ้าของบริษัททันที
และเมื่อพนักงานต้อนรับสาวสวยปิดประตู และแจ้งเจ้าของบริษัทว่า "มาแล้วค่ะ พนักงานขายที่นัดไว้" ภาพต่อมา เหมือนค้างไว้ คือ เจ้าของบริษัท ท่าทางภูมิฐาน ถามว่า “ สามคนนี่น่ะเหรอ “ ด้วยน้ำเสียงประหลาดใจมาก
”ผมนัด คนชื่อ แจน ติ๊ก เจี๊ยบ ไว้น่ะ” ผู้จัดการพูดเสียงเบาๆ พร้อมมองทั้งสามพนักงานขายที่เดินเข้าไป อย่างแปลกใจ
”ผมแจนครับ” ชายหนุ่มใส่แว่นร่างสูงผอมเหมือนต้นตาล มีขี้กลากหน่อยๆตรงคาง ยกมือ
”ผม ติ๊ก ครับ “ชายหนุ่มอ้วนดำ ใส่กางเกงแทบจะหลุดจากก้นเปิดไฟท้าย พูดพร้อมยิ้มหวาน
”ส่วน ผม เจี๊ยบ ครับ” ชายหนุ่มหนวดเครารุงรัง ใส่ที่คาดผมสีดำ พูดเป็นคนสุดท้าย
เจ้าของบริษัท เบ้ปาก ทำสีหน้าเหมือนเจอผี พร้อมบอกว่า “พอดีผมมีประชุมด่วน พวกคุณกลับไปก่อน วันหลังจะนัดคุณน้อตอีกที “
สามเกลอหัวแข็ง เดินคอตกกลับบริษัท
ขณะที่ เจ้าของบริษัทลูกค้า รำพึงกับตัวเองว่า “ เจี๊ยบ ติ๊ก แจน ฮ่วย ! นึกว่าผู้หญิง ดันมากันแต่ตอ !! "
ถุงมือ "คุณก็รู้ว่าใคร"
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. Chee River
4. GTW
5. kasareev
6. KTHc
7. ladylongleg (สมาชิกหมายเลข 2326325)
8. Lady Star 919
9. Luckard
10. Na(นะ)
11. peiNing
12. psycho_factory
13. Soul Master
14. Susisiri
15. Tantava
16. TOSHARE (สมาชิกหมายเลข 4563770)
17. turtle_cheesecake
18. WANG JIE
19. คีตมินทร์
20. จอมยุทธนักสืบ
21. ชายขอบคันนายาว
22. นลินมณี
23. ศรเขียว
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. สวนดอก
27. อิสิ
28. น้องโจอี้ (สมาชิกหมายเลข 817884)
29. พวงดารา
30. มัศยวีร์
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออกได้ ตลอดเวลา *** ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 22 มิถุนายน 2561 (ภาพปริศนาจะวาง วันที่ 21 (เที่ยงคืนวันที่ 20) ครับ) ***
สโลแกนของเราคือ "เขียนเมื่ออยากเขียน แต่งเมื่ออยากแต่ง เล่นซ่อนหากันเมื่ออยากเล่น"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ในฐานะมือวาง ตอนปลายปี ครับผม