[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/40648837 เรือนรักอำมหิต 1
ตลอดทั้งวัน ติ๊กและปรางค์ต่างก็ช่วยกันจัดข้าวของให้เข้าที่ โยกนั่นย้ายนี่มองหามุมที่คิดว่าเหมาะที่สุด สวยที่สุด บางครั้งขณะที่กำลังจัดของ ติ๊กจะแอบมาหอมแก้มภรรยาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะอยู่ด้วยกันมานานพอสมควร จนกระทั่งจะมีลูกด้วยกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ปรางค์ก็ยังคงตื่นเต้นขวยเขินกับการกระทำนั้นของสามีอยู่ดี
"เอ้!! คุณนี่ ไปจัดของให้เสร็จเลยนะไม่งั้นคืนนี้.."
ปรางค์พูดพลางทำหน้านิ่วเล็กน้อยเพราะเธอถูกสามีตัวดีดอดมาหอมแก้มอีกครั้ง
"คืนนี้อะไรเหรอครับที่รัก"
ติ๊กถามด้วยความอยากรู้ แต่สายตานั้นเล่าแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
"ไม่รู้แหละ ถ้าดื้อก็อด งดกิจกรรมทุกอย่างค่ะ!!" ปรางค์พูดต่อทำท่าเมินหน้าใส่
"จะดีเหรอครับ เดี๋ยวคุณจะนอนไม่หลับเอานะ" ติ๊กทรุดตัวลงข้าง ๆ กายภรรยาสาว กระซิบเบา ๆ ข้างหู
การกระทำนั้นเป็นเหตุให้ปรางค์รู้สึกใจเต้นแรง ติ๊กสังเกตเห็นเม็ดเล็ก ๆ ของรูขุมขนผุดขึ้นบริเวณต้นคอขาวเนียนของปรางค์ ปฏิกิริยานั้นมันบ่งบอกว่าเธอขนลุกด้วยความเสียวซ่านหัวใจ เขาจึงได้ทีโอบเธอไว้จากด้านหลังแล้วซุกหน้าลงที่ซอกคออย่างแผ่วเบา
ปรางค์สะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ขัดขืน ระหว่างที่สามีตัวดีกำลังเล่นสนุกกับต้นคอเธออยู่นั้น มันทำให้อารมณ์ของเธอเริ่มเตลิดไปทีละน้อย
"อืมมม อุ๊บ!!"
ปรางค์เผลอส่งเสียงแห่งความสุขออกมาแต่ก็ต้องเอามือปิดปากทันทีเพื่อกันเสียงเล็ดลอดให้สามีได้ยิน
"หึ หึ หึ"
ติ๊กหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เขาอุ้มปรางค์ขึ้นไว้ในอ้อมแขนเดินตรงไปที่บันได
"อ๊ะ!! จะไปไหนคะ ปรางค์จัดของอยู่" ปรางค์ถามขึ้นทำท่าดิ้นเล็กน้อย
"ไปจัดของข้างบนกัน ที่ห้องนอน" ติ๊กพูดเบา ๆ
"ไม่เอา จัดข้างล่างให้เสร็จก่อน" ปรางค์ปฏิเสธออกมาแต่น้ำเสียงของเธอนั้นแผ่วเบา ติ๊กหาได้ฟังคำทัดทานของภรรยา เขายังคงเดินขึ้นบันไดด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม
"คุณนี่ล่ะก็ จริง ๆ เลย"
ปรางค์พูดขึ้นเบา ๆ ซบหน้าลงกับแผงอกสามีสุดที่รัก
ประมาณหกโมงเย็น
"ที่รักคะวันนี้กินข้าวที่บ้านนะ ปรางค์อยากทำอาหารให้คุณกินบ้าง" ปรางค์บอกติ๊กขณะเช็ดผมที่เปียกหลังจากอาบน้ำมาใหม่ ๆ
"ได้สิครับ กินข้าวแล้วกินแม่ครัวด้วยได้มั๊ย" ติ๊กเดินเข้ามาสวมกอดภรรยาจากด้านหลัง มือก็เริ่มซุกซนไปเรื่อย
"แน๊!! หยุดเลยค่ะ ต่อไปนี้ต้องจำกัดโควต้าละ คิกๆ"
ปรางค์บอกพลางแกะมือสามีตัวดีออก เธอหันมายิ้มแล้วเดินไปแต่งตัว ติ๊กได้แต่ยืนตาละห้อย มองตามร่างผอมบางของภรรยาสาวอย่างเสียดาย
ทั้งสองพากันเดินลงจากชั้นสองพลางหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของทั้งคู่ถูกสายตาปริศนาจับจ้องอย่างเกลียดชัง
อาหารเย็นวันนั้นเป็นเมนูง่าย ๆ ไข่เจียวกับน้ำพริกกะปิ เนื่องจากปรางค์เป็นสาวสมัยใหม่เรื่องงานบ้านวางใจเธอได้แต่กับข้าวกับปลานั้นคนละเรื่องเลยทีเดียว เธอทำเป็นแค่ไม่กี่เมนูส่วนรสชาตินั้นเล่าก็พอถู ๆ ไถ ๆ เท่านั้น
"ขอโทษนะคะ ปรางค์ทำกับข้าวไม่เก่ง" เธอพูดพร้อมทำสีหน้าสลดในความด้อยฝีมือของตน
"ไม่เป็นไรครับ ผมทำอร่อยต่อไปผมจะทำให้เองนะ" ติ๊กปลอบ
แม้กับข้าวบนโต๊ะอาหารจะมีรสชาติไม่ค่อยโอชาเท่าใดนัก แต่ติ๊กก็รับประทานอย่างมีความสุข แถมยังเอ่ยปากชมฝีมือของภรรยานับครั้งไม่ถ้วน ปรางค์ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุขแม้จะรู้ว่าสามีแกล้งชมก็ตาม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ติ๊กก็อาสาเป็นคนล้างจานเองเพราะอยากให้ภรรยาพัก แต่ปรางค์แย้งขึ้นบอกว่ามันเป็นหน้าที่เมีย
"จะให้คุณล้างได้ยังไงคะ งานบ้านงานเรือนเมียต้องเป็นคนทำสิ ให้ผัวทำใครรู้เข้าถูกด่าตายเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับนี่มันยุคไหนแล้ว มา! ให้ผมล้างเถอะ"
ติ๊กแย้งขึ้นเช่นกัน สุดท้ายปรางค์ก็ต้องยอมให้สามีเป็นคนล้างจาน ติ๊กยกถ้วยโถโอชามตรงไปที่ซิงค์ล้างจานส่วนปรางค์ก็นั่งมองเขาอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว ก่อนลงมือล้างเขาจัดการดึงบานหน้าต่างตรงหน้าที่เปิดกว้างรับลมอยู่ให้ปิดสนิท หันมาบอกกับภรรยาพลางหัวเราะคิกคัก
"ผมกลัวผีน่ะ เดี๋ยวผีหลอก" ปรางค์หัวเราะร่วนให้กับความทะเล้นของสามี
แผ่นหลังกว้าง ส่วนสูงที่เพอร์เฟ็ค น้ำเสียงนุ่มลึก หน้าตาหล่อเหลา นิสัยดีไม่เจ้าชู้ไม่เคยทำให้เสียใจ ปรางค์คิดในใจว่าเธอโชคดีกว่าใครหลาย ๆ คนที่มีเขาเป็นคู่ชีวิต
ขณะที่ปรางค์กำลังเพลิดเพลินกับการมองสามีล้างจาน เธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะเงาของสามีและตัวเธอที่สะท้อนอยู่ในกระจกหน้าต่างนั้นมีอะไรแปลก ๆ
แทนที่จะมีเพียงเงาของติ๊กล้างจานอยู่คนเดียว แต่ภาพที่สะท้อนในกระจกหน้าต่างกลับมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งยืนข้าง ๆ สามีเธอ
หญิงสาวคนนั้นเอียงศีรษะซบลงบนไหล่ของติ๊กราวคู่รักแถมยังจ้องมาที่เธอตาเขม็ง
แต่ที่ทำให้ปรางค์ต้องช็อคหนักก็คือภาพสะท้อนของเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มีหญิงปริศนายืนจ้องอยู่ข้าง ๆ แถมไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่มีถึงสองคน
"กรี๊ด!!!"
ปรางค์กรีดร้องสุดเสียงอย่างหวาดผวา
"เป็นอะไรที่รัก เกิดอะไรขึ้น" ติ๊กรีบวางมือจากงานครัววิ่งเข้ามาประคองร่างภรรยาที่นั่งเอามือปิดหน้ากรีดร้องอยู่กับพื้น
"คะ ใครก็ไม่รู้ยืนอยู่ข้างคุณ ละ แล้วก็ กรี๊ด!!" ปรางค์ตอบพลางเงยหน้ามองสามี แต่แล้วเธอก็กรีดร้องแล้วก้มหน้าลงอีกครั้ง
"ปรางค์! ปรางค์!! คุณเป็นอะไรไปบอกผมสิปรางค์" ติ๊กถามอย่างตื่นตระหนก
"บอกเค้าไปสิ นังแพศยา!!"
เสียงหนึ่งดังขึ้น ปรางค์หยุดร้องทันทีหันไปมองหน้าสามีด้วยความสงสัย
ใบหน้าที่หล่อเหลาของสามีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าขาวซีดของใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก ผมเผ้าสยายลงมาปิดหน้านั้นไว้ซีกหนึ่ง หน้าด้านที่เปิดโล่งขาวราวกับกระดาษ มีเส้นเลือดปูดโปนให้เห็นอย่างเด่นชัด ใบหน้านั้นแสยะยิ้มให้เธอริมฝีปากดำสนิท ฟันที่ควรจะขาวกลับมีสีคล้ำและถูกเคลือบไปด้วยของเหลวสีดำปนเขียว
"บอกไปสิ บอกเค้าไป"
เสียงพูดดังออกมาจากใบหน้านั้นแต่ริมฝีปากกลับไม่ขยับ มันยิ้มให้เธออย่างน่ากลัว
"กรี๊ด!!!!!" ปรางค์กรีดร้องสุดเสียงและหมดสติไป
(มีต่อนะครับ)
เรือนรักอำมหิต 2. เงา?
ตลอดทั้งวัน ติ๊กและปรางค์ต่างก็ช่วยกันจัดข้าวของให้เข้าที่ โยกนั่นย้ายนี่มองหามุมที่คิดว่าเหมาะที่สุด สวยที่สุด บางครั้งขณะที่กำลังจัดของ ติ๊กจะแอบมาหอมแก้มภรรยาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะอยู่ด้วยกันมานานพอสมควร จนกระทั่งจะมีลูกด้วยกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ปรางค์ก็ยังคงตื่นเต้นขวยเขินกับการกระทำนั้นของสามีอยู่ดี
"เอ้!! คุณนี่ ไปจัดของให้เสร็จเลยนะไม่งั้นคืนนี้.."
ปรางค์พูดพลางทำหน้านิ่วเล็กน้อยเพราะเธอถูกสามีตัวดีดอดมาหอมแก้มอีกครั้ง
"คืนนี้อะไรเหรอครับที่รัก"
ติ๊กถามด้วยความอยากรู้ แต่สายตานั้นเล่าแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
"ไม่รู้แหละ ถ้าดื้อก็อด งดกิจกรรมทุกอย่างค่ะ!!" ปรางค์พูดต่อทำท่าเมินหน้าใส่
"จะดีเหรอครับ เดี๋ยวคุณจะนอนไม่หลับเอานะ" ติ๊กทรุดตัวลงข้าง ๆ กายภรรยาสาว กระซิบเบา ๆ ข้างหู
การกระทำนั้นเป็นเหตุให้ปรางค์รู้สึกใจเต้นแรง ติ๊กสังเกตเห็นเม็ดเล็ก ๆ ของรูขุมขนผุดขึ้นบริเวณต้นคอขาวเนียนของปรางค์ ปฏิกิริยานั้นมันบ่งบอกว่าเธอขนลุกด้วยความเสียวซ่านหัวใจ เขาจึงได้ทีโอบเธอไว้จากด้านหลังแล้วซุกหน้าลงที่ซอกคออย่างแผ่วเบา
ปรางค์สะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ขัดขืน ระหว่างที่สามีตัวดีกำลังเล่นสนุกกับต้นคอเธออยู่นั้น มันทำให้อารมณ์ของเธอเริ่มเตลิดไปทีละน้อย
"อืมมม อุ๊บ!!"
ปรางค์เผลอส่งเสียงแห่งความสุขออกมาแต่ก็ต้องเอามือปิดปากทันทีเพื่อกันเสียงเล็ดลอดให้สามีได้ยิน
"หึ หึ หึ"
ติ๊กหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เขาอุ้มปรางค์ขึ้นไว้ในอ้อมแขนเดินตรงไปที่บันได
"อ๊ะ!! จะไปไหนคะ ปรางค์จัดของอยู่" ปรางค์ถามขึ้นทำท่าดิ้นเล็กน้อย
"ไปจัดของข้างบนกัน ที่ห้องนอน" ติ๊กพูดเบา ๆ
"ไม่เอา จัดข้างล่างให้เสร็จก่อน" ปรางค์ปฏิเสธออกมาแต่น้ำเสียงของเธอนั้นแผ่วเบา ติ๊กหาได้ฟังคำทัดทานของภรรยา เขายังคงเดินขึ้นบันไดด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม
"คุณนี่ล่ะก็ จริง ๆ เลย"
ปรางค์พูดขึ้นเบา ๆ ซบหน้าลงกับแผงอกสามีสุดที่รัก
ประมาณหกโมงเย็น
"ที่รักคะวันนี้กินข้าวที่บ้านนะ ปรางค์อยากทำอาหารให้คุณกินบ้าง" ปรางค์บอกติ๊กขณะเช็ดผมที่เปียกหลังจากอาบน้ำมาใหม่ ๆ
"ได้สิครับ กินข้าวแล้วกินแม่ครัวด้วยได้มั๊ย" ติ๊กเดินเข้ามาสวมกอดภรรยาจากด้านหลัง มือก็เริ่มซุกซนไปเรื่อย
"แน๊!! หยุดเลยค่ะ ต่อไปนี้ต้องจำกัดโควต้าละ คิกๆ"
ปรางค์บอกพลางแกะมือสามีตัวดีออก เธอหันมายิ้มแล้วเดินไปแต่งตัว ติ๊กได้แต่ยืนตาละห้อย มองตามร่างผอมบางของภรรยาสาวอย่างเสียดาย
ทั้งสองพากันเดินลงจากชั้นสองพลางหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของทั้งคู่ถูกสายตาปริศนาจับจ้องอย่างเกลียดชัง
อาหารเย็นวันนั้นเป็นเมนูง่าย ๆ ไข่เจียวกับน้ำพริกกะปิ เนื่องจากปรางค์เป็นสาวสมัยใหม่เรื่องงานบ้านวางใจเธอได้แต่กับข้าวกับปลานั้นคนละเรื่องเลยทีเดียว เธอทำเป็นแค่ไม่กี่เมนูส่วนรสชาตินั้นเล่าก็พอถู ๆ ไถ ๆ เท่านั้น
"ขอโทษนะคะ ปรางค์ทำกับข้าวไม่เก่ง" เธอพูดพร้อมทำสีหน้าสลดในความด้อยฝีมือของตน
"ไม่เป็นไรครับ ผมทำอร่อยต่อไปผมจะทำให้เองนะ" ติ๊กปลอบ
แม้กับข้าวบนโต๊ะอาหารจะมีรสชาติไม่ค่อยโอชาเท่าใดนัก แต่ติ๊กก็รับประทานอย่างมีความสุข แถมยังเอ่ยปากชมฝีมือของภรรยานับครั้งไม่ถ้วน ปรางค์ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุขแม้จะรู้ว่าสามีแกล้งชมก็ตาม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ติ๊กก็อาสาเป็นคนล้างจานเองเพราะอยากให้ภรรยาพัก แต่ปรางค์แย้งขึ้นบอกว่ามันเป็นหน้าที่เมีย
"จะให้คุณล้างได้ยังไงคะ งานบ้านงานเรือนเมียต้องเป็นคนทำสิ ให้ผัวทำใครรู้เข้าถูกด่าตายเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับนี่มันยุคไหนแล้ว มา! ให้ผมล้างเถอะ"
ติ๊กแย้งขึ้นเช่นกัน สุดท้ายปรางค์ก็ต้องยอมให้สามีเป็นคนล้างจาน ติ๊กยกถ้วยโถโอชามตรงไปที่ซิงค์ล้างจานส่วนปรางค์ก็นั่งมองเขาอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว ก่อนลงมือล้างเขาจัดการดึงบานหน้าต่างตรงหน้าที่เปิดกว้างรับลมอยู่ให้ปิดสนิท หันมาบอกกับภรรยาพลางหัวเราะคิกคัก
"ผมกลัวผีน่ะ เดี๋ยวผีหลอก" ปรางค์หัวเราะร่วนให้กับความทะเล้นของสามี
แผ่นหลังกว้าง ส่วนสูงที่เพอร์เฟ็ค น้ำเสียงนุ่มลึก หน้าตาหล่อเหลา นิสัยดีไม่เจ้าชู้ไม่เคยทำให้เสียใจ ปรางค์คิดในใจว่าเธอโชคดีกว่าใครหลาย ๆ คนที่มีเขาเป็นคู่ชีวิต
ขณะที่ปรางค์กำลังเพลิดเพลินกับการมองสามีล้างจาน เธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะเงาของสามีและตัวเธอที่สะท้อนอยู่ในกระจกหน้าต่างนั้นมีอะไรแปลก ๆ
แทนที่จะมีเพียงเงาของติ๊กล้างจานอยู่คนเดียว แต่ภาพที่สะท้อนในกระจกหน้าต่างกลับมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งยืนข้าง ๆ สามีเธอ
หญิงสาวคนนั้นเอียงศีรษะซบลงบนไหล่ของติ๊กราวคู่รักแถมยังจ้องมาที่เธอตาเขม็ง
แต่ที่ทำให้ปรางค์ต้องช็อคหนักก็คือภาพสะท้อนของเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มีหญิงปริศนายืนจ้องอยู่ข้าง ๆ แถมไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่มีถึงสองคน
"กรี๊ด!!!"
ปรางค์กรีดร้องสุดเสียงอย่างหวาดผวา
"เป็นอะไรที่รัก เกิดอะไรขึ้น" ติ๊กรีบวางมือจากงานครัววิ่งเข้ามาประคองร่างภรรยาที่นั่งเอามือปิดหน้ากรีดร้องอยู่กับพื้น
"คะ ใครก็ไม่รู้ยืนอยู่ข้างคุณ ละ แล้วก็ กรี๊ด!!" ปรางค์ตอบพลางเงยหน้ามองสามี แต่แล้วเธอก็กรีดร้องแล้วก้มหน้าลงอีกครั้ง
"ปรางค์! ปรางค์!! คุณเป็นอะไรไปบอกผมสิปรางค์" ติ๊กถามอย่างตื่นตระหนก
"บอกเค้าไปสิ นังแพศยา!!"
เสียงหนึ่งดังขึ้น ปรางค์หยุดร้องทันทีหันไปมองหน้าสามีด้วยความสงสัย
ใบหน้าที่หล่อเหลาของสามีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าขาวซีดของใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก ผมเผ้าสยายลงมาปิดหน้านั้นไว้ซีกหนึ่ง หน้าด้านที่เปิดโล่งขาวราวกับกระดาษ มีเส้นเลือดปูดโปนให้เห็นอย่างเด่นชัด ใบหน้านั้นแสยะยิ้มให้เธอริมฝีปากดำสนิท ฟันที่ควรจะขาวกลับมีสีคล้ำและถูกเคลือบไปด้วยของเหลวสีดำปนเขียว
"บอกไปสิ บอกเค้าไป"
เสียงพูดดังออกมาจากใบหน้านั้นแต่ริมฝีปากกลับไม่ขยับ มันยิ้มให้เธออย่างน่ากลัว
"กรี๊ด!!!!!" ปรางค์กรีดร้องสุดเสียงและหมดสติไป
(มีต่อนะครับ)