ร้านแฝดค้าเฟอร์ งานชุ่ยมากๆ

กระทู้คำถาม
พอดีอยากได้ตู้เก็บชามสักหลัง เคยผ่านแถวพุทธมณฑลเห็นร้านนี้ตั้งขายมานาน เลยตัดสินใจแวะเข้าไปดู ปรากฏว่าไม่มีแบบตู้ที่ถูกใจ แต่ก็ตกลงกับแม่ค้าว่าจะสั่งทำโดยแม่ค้าขอว่า ลูกค้าอย่าเร่งงาน ตกลงราคากันที่ 15,000 บาท มัดจำก่อน 5,000 บาท ในวันที่ 30 มีนา 61 งานน่าจะแล้วเสร็จ นับหลังสงกรานต์ไป 1 เดือน (ก็ประมาณ 15 พฤษภา 61)
...ต่อมาเมื่อวันที่ 27 เมษา 61 แม่ค้าโทรแจ้งว่า งานเสร็จแล้ว ให้เข้ามาดูจะได้จัดส่งให้ เราเองก็ดีใจที่งานเสร็จก่อนกำหนด แต่คงไม่สะดวกที่จะไปดูตัวตู้ เลยถามแม่ค้าไปเบื้องต้น ว่างานเรียบร้อยดีไหม แม่ค้ายืนยันเสียงแข็งว่างานสวยมาก จึงตกลงให้มาส่งในวันรุ่งขึ้น คือ 28 เมษา
...เมื่องานมาส่ง ก็เห็นว่าตู้ มีบานประตูบานหนึ่ง สีเข้มกว่าเพื่อน เนื้องานหยาบมาก เราถามพ่อค้า งานทำไมเป็นแบบนี้ พ่อค้าบอก ถ้าไม่ถูกใจ จะกลับมาแก้ไข ลงสีให้ใหม่ แต่เราก็ซื้อใจ จ่ายเงินที่เหลือ 10,000 ให้ เพราะคิดว่า ร้านใหญ่ขนาดนั้น ต้องมีจรรยาบรรณเป็นที่ตั้ง ตกลงเบื้องต้น ว่าอีก3-4 วันจะเข้ามาแก้งาน แต่เมื่อถึงวันที่ 4 ก็ยังไม่มีวี่แวว จึงโทรตามครั้งที่ 1  ครั้งที่ 2 ได้มีการทวงถามถึงการรับประกันสินค้าว่างานสวย แต่แม่ค้าบอก ยังไม่เห็นงานเลย แฟนพี่ส่งพี่ไม่ทันได้ดู แล้วที่บอกว่างานสวยคือ 🍓 ใช่ไหมคะและครั้งที่ 3,4 ก็ตามมา อ้างแต่ว่างานยังไม่มีคิว แต่รับปากว่าแก้ไขให้แน่นอน จนกระทั่ง ครั้งที่ 5 คือเช้าวันที่ทางร้านนัดว่าจะเข้ามาวันนี้ ก็ยังดูไร้วี่แวว จึงได้ถามถึงเวลาที่แน่นอนอีกครั้ง พ่อค้าไม่รับสาย โทรอีกเบอร์แม่ค้ารับสาย บอกว่า แฟนไม่อยู่ บอกว่าจะเข้ามาแก้ให้ ให้คุณใจเย็นๆถ้ารีบมากให้ยกงานมาเอง ถึงไปแก้หน้างานก็ทำไรมากไม่ได้ คงได้แค่ขัดนิดๆหน่อยๆ ทาเคลือบเงาได้แค่นั้น แต่ถ้าน้องยกมา พี่รับรองจะแก้ให้สวยเนี๊ยบเลย (ในใจคือหงุดหงิดมาก นี่คือบริการหลังการขายคุณเหรอ เราตีค่าแม่ค้าสูงมาก การพูดเหน่อ เหมือนชาวบ้านธรรมดาขายของ ทำให้เราไว้ใจ ไม่คิดที่จะหวาดระแวง แต่แม่ค้า กลับพูดแบบนี้ เราจะจัดการกับร้านที่เลวแบบนี้ได้อย่างไร)
...ส่วนตัวดิฉัน เป็นทนายความซึ่งใครอาจจะคิดทำไมเสียเชิงให้แม่ค้า ดิฉันขออธิบายว่า การที่ดิฉันเดินเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการ ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นทนาย และ ความตรงไปตรงมาคือสิ่งที่สำคัญ เรามอบความไว้ใจให้แก่ผู้ที่ทำมาหากินสุจริต เพราะเชื่อแน่ว่า ทุกคนผ่านจุดที่ปากกัดตีนถีบ และ คาดหวังที่จะได้สินค้าให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เมื่อทางของคุณคือการค้าขาย สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น อย่าตีค่าใครให้ต่ำ ร้านมีเป็นร้อยเป็นพันร้าน แต่เขาเลือกที่จะอุดหนุนคุณนั่นแปลว่า ลูกค้าคือผู้มีอุปการะคุณที่คุณจะต้องรักษาน้ำใจเขาไว้ บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ค่ะว่า
...ซื้อของต้องดูให้แน่ใจ ว่าถูกใจค่อยจ่ายเงิน และแม่ค้าที่มีลักษณะแบบชาวบ้านธรรมดา พูดเหน่อที่ดูเหมือนจะซื่อๆ แท้จริงแล้ว ก็มีดีมีเลว ปนๆกันไป การให้ใจไม่ได้แปลว่าคุณจะได้ใจตอบ
...ดิฉันตัดสินใจจะยกงานไปให้แก้ พร้อมสัญญาการซ่อมงาน หากยังทำนิสัยแบบนี้ไม่สำนึกผิดดิฉันตั้งใจว่าจะดำเนินคดี ให้บทเรียนชีวิตกับร้านค้าขยะแบบนี้ ซึ่งมันก็มีแต่เสียกับเสีย เราเสียเวลา เสียความรู้สึก แม่ค้าก็เสียเวลาทำมาหากิน เสียชื่อเสียง คุ้มไหมกับการกระทำอันไร้จิตสำนึก
...ใครผ่านไปก็ เตือนนะคะ มีลูกค้าบางคนก็เจอมากับตัวบ้างแล้ว ทราบจากแม่ค้าเล่าว่าโทรจิก จึงทะเลาะกัน ดิฉันเพิ่งเข้าใจค่ะ ว่าลูกค้าคนนั้นรู้สึกอย่างไร การโทรจิกเป็นวิธีเบื้องต้นวิธีเดียวที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบจากแม่ค้ามักง่าย ไม่รักษาคำพูด ดังนั้น ดิฉันขอเตือนสำหรับคนที่จะซื้อของทำนองนี้ โดยเฉพาะกับร้านนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่