✿แชร์ประสบการณ์ ♥แฟนญี่ปุ่นพาเที่ยวคันไซ✿ ตอนที่ 25 ค่ำคืนลี้ลับ... บนขุนเขาในญี่ปุ่น

เรื่องเล่า วันที่ 27 สิงหาคม 2015 ณ สถานที่ เมือง นารา ญี่ปุ่น ตอนต่อจากที่เรากลับมาจากหมู่บ้านนิจา Koka

ไม่รู้ว่าเราหลับบนรถไปนานแค่ไหน แต่รู้สึกตัวตื่นมาอีกทีก็มืดแล้ว เรามองไปวิวรอบๆ ตอนนี้รถจอดอยู่ข้างทางที่ไหนก็ไม่รู้ ทำไมมันแลดูมืดและเปลี่ยว และสองข้างทางก็มีแต่ป่า!? (O_O!) มันมืดไปหมด มีแค่แสงไฟสลัวๆบนถนนแคบๆ หันไปมองแฟนก็กำลังวุ่นอยู่กับ GPS กดไปทำหน้าเครียดๆไป
N : "เอ่อ.... เราหลงทางอ่อคะ? (-..-?)"
K : "ก็ไม่เชิงครับ ผมก็ไม่แน่ใจเส้นทางนี้เท่าไหร่ แต่ GPS บอกว่าควรจะเลี้ยวซ้ายตรงนี้ แต่..มันไม่มีซอยให้เลี้ยว"
N : "แล้วทำไมไม่กลับเส้นทางเดิมที่เรามาล่ะคะ??" ( ̄▽ ̄")
K : ".....อืมมมม...." (เงียบไม่ตอบ แถมยังทำหน้าเครียดกว่าเดิมอีก)

เรามองไปรอบๆ พูดตรงๆว่าไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย มันมืดไปหมด ไฟถนนก็ไม่ค่อยสว่าง แถมรถสักคันยังไม่มี มีแค่แสงไฟของพระจันทร์ที่ส่องสลัวๆอยู่ เรากำลังอยู่เส้นทางของภูเขา เหมือนชนบทที่ไหนสักที่ มีต้นไม้เยอะมาก ข้างล่างเป็นทุ่งนาแล้วก็บ้านคนแค่ 2-3 หลัง อยู่ไกลกันพอสมควร และนานๆจะมีรถสวนมาสักคัน เมื่อเราดูเวลาก็แค่ 2 ทุ่มกว่าๆ มันไม่ได้ดึกอะไรเลย แต่บรรยากาศโดยรอบเหมือนสัก 5 ทุ่มเที่ยงคืนยังไงอย่างงั้น.... ฮืมมม์.... เรายิ่งเป็นคนคิดเรื่องอะไรพวกนี้อยู่ด้วยสิ ฮือๆ (TT)

K : "ma-ikka" (ช่างมันเถอะ)
แล้วพี่แกก็ขับรถตรงไป ทางก็เริ่มสูงเริ่มชันขึ้นแล้วถนนก็แคบขึ้นเรื่อยๆ มันแคบจนเหมือนรถจะเข้าไปไม่ได้ แต่พี่แกก็ดึงดันที่จะเข้าไป ทั้งกดพับกระจกทั้ง 2 ข้างเข้ามา เราก็ต้องเปิดหน้าต่างแล้วชะโงกหน้าออกไปดูว่าไปต่อได้มั้ย คือถ้าตกไปนี่หล่นแน่ๆ ที่กั้นก็ไม่มี ก็ค่อยๆขับรถกระดึ๊บๆต่อไป ขอนับถือสกิลการขับรถของพี่แกมาก คนญี่ปุ่นขับรถเก่งโหดมากจิงๆ ถนนแคบแบบโคตรจะแคบ พอหลุดจากตรงนั้นมาได้ เราก็มาลังเลกันตรง 3 แยกอีกครั้งนึง ทางตรงไปเป็นกรงประตูปิดทางไว้ไม่ให้เข้า เราก็มองดูเวลา 2 ทุ่ม 37 นาที... โอ้วววววว!!! เราพยายามถามแฟนแล้วถามอีกว่าจะไปจริงหรอ? ไม่ไปก็ได้นะ เราไม่อยากไปแล้วค่ะ ใจนี่คิดถึงที่ไทยแล้ว คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ลอยมาเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? จะแจ้งให้พ่อแม่รู้ยังไง? เรามองบนยอดเขาที่เป็นเงาตะคุ่มๆจากดวงจันทร์ รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันทำให้เรารู้สึกถึงอีกโลกนึง...

.....โลกของวิญญาณ....

K : "ที่จริงเราต้องตรงไปครับ แต่ตอนนี้เราคงเข้าไปไม่ได้แล้ว"
N : "นี่เรากำลังจะไปไหนคะเนี่ย T___T กลับบ้านหรอ?"
K : "เปล่าครับ... เราไม่ได้กลับบ้าน..."
N : "ห๊าาาาาา แล้วเราหลงทางอยู่ที่ไหนคะเนี่ยยยยย!?"
K : "ฮืมมมม... (ถอนหายใจ) ขอโทษนะครับ ตอนนี้เราอยู่บนทางเขาของเมืองนาราที่จริงผมตั้งใจจะพาคุณมาดูจุดชมวิวที่สูงแล้วก็สวยที่สุด ถ้าเราสามารถไปได้เราจะเห็นเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมืองเลย แต่........ เราขับรถไปต่อไม่ได้....."

คือ... มันก็ดีใจนะที่พี่เค้าพยายามที่จะพาเรามาดูวิว แต่ดูบรรยากาศโดยรอบแล้ว มันไม่โอเคค่ะพูดเลย ปกติไม่ค่อยคิดเรื่องพวกผีนะ แต่อยู่ดีๆก็คิดขึ้นมาซะงั้น นึกถึงผีญี่ปุ่น มันเงียบมาก มืดมาก ตอนนี้มีแค่แสงไฟรถของเราที่จอดอยู่ตรง 3 แยกคันเดียว ละก็เสียงเพลงของวิทยุเบาๆในรถ ในที่สุดพี่เค้าก็ตัดสินใจเลี้ยวไปทางซ้าย ที่เป็นทางลงเขา ขับไปสักพัก เสียงวิทยุหาย! (OoO!!!) หะ...หะ...หาย....ไปไหน.... ((((;゚Д゚))))))) ความรู้สึกเห้มากอ่ะ! เงียบ ขนลุก!! ไอ้เราก็โวยวายลั่นรถ พี่เค้าก้ขำเราแล้วบอก "Ahh~~ Good feel" (^∇^) ห๊าาาาา!!? ไม่ขำด้วยนะคะ น้องกลัวววววว (ó﹏ò。)

GPS บอกทางมาจนสุดทาง และไม่สามารถที่จะไปต่อได้... ซึ่งจะมีประตูไม้เก่าๆกั้นไว้ไม่ให้รถเข้า และมีทางลาดขึ้นไปต่อ มีป้ายอยู่ข้างๆประตูกั้น แถวนี้ไม่มีบ้านคนอยู่เลย และที่สำคัญไม่มีคน ไม่มีไฟ ไม่มีอะไรทั้งนั้น จนเราคิดว่าที่นี่มันปิด หรืออาจจะไม่ได้เปิดให้เข้านานแล้ว ถ้าที่นี่เป็นจุดชมวิวขึ้นบนเขา ก็ต้องมีคนมาสิ แต่นี่ทำไมมีแค่เราสองคนมาที่นี่ เราว่ามันไม่ปกติ...
เราและคุณแฟนต้องลงจากรถ (เราไม่ได้อยากลงเท่าไหร่เลยจริงๆ) และพี่เค้าก็ไปอ่านป้ายที่เขียนไว้ พี่เค้าสรุปให้ฟังคือ ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่นี่ และเดินขึ้นไปต่อ...

เรามองทางขึ้น สองข้างทางเป็นป่าต้นไม้สูง ไม่มีไฟตามทาง มืดมากกกกก มีแต่แสงจากดวงจันทร์ที่ส่องสลัวๆ และอากาศที่เริ่มเย็นผิดปกติทั้งๆที่เป็นช่วงฤดูร้อน ใจคอไม่ดียังไงก็ไม่รู้..
N : "จะไปจริงๆหรอคะ?..." เราถามแฟนด้วยความหวัง (หวังว่าจะไม่ไป) TT'
K : "ไปเถอะนะครับ ไหนๆก็มาแล้ว ทางอาจจะมืดไปหน่อยแต่ถ้าได้เห็นวิวข้างบน มันคงสวยมากๆเลยนะ"
N : "............"

หนุ่มญี่ปุ่นเดินนำทางขึ้นไปแล้ว เราถอนหายใจและทำใจเดินตามไป ...มืดมาก... มืดจนเราต้องใช้แฟลตจากมือถือ 2 เครื่อง เปิดส่องนำทางไป...

.....ความรู้สึกเหมือน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กำลังเข้าไปในป่าต้องห้าม......

พวกเราเดินขึ้นตามทางไปเรื่อยๆ มันไม่ใช่เป็นทางบันได แต่เป็นทางลาดด้วยหินที่ทอดนำขึ้นเขา สองข้างทางเป็นป่า... ดำและมืดสนิท... ไม่มีเสียงใดๆ นอกจากเสียงเท้าของพวกเราที่เหยียบหิน ถึงเราจะพยายามไม่คิดอะไร แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ...
เรารีบเอามือถือส่องไปที่จุดนั้น แต่ก็ไม่เจออะไรนอกจากต้นไม้ หัวใจของเราเริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆด้วยความกลัว... เราหันไปมองแฟนที่เดินข้างๆ...
N : "คุณไม่รู้สึกกลัวอะไรเลยหรอคะ?"
K : "กลัวอะไรหรอครับ?"
N : "ก็กลัว.... ความมืด หรือสัตว์ป่าอะไรพวกนี้"
K : "มืดๆก็กลัวอยู่นะ แต่สัตว์ป่าคุณหมายถึงแบบไหนหรอครับ?"
N : "ก็พวกหมี เสือ สิงโต อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ" เราพูดพร้อมพยายามหันไปรอบๆตลอดทาง
K : "ที่นี่เป็นทางขึ้นไปชมวิวนะครับ คงไม่มีอะไรพวกนี้หรอก" พี่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ

เราไม่อยากเถียงเยอะ ถึงจะบอกว่าที่นี่เป็นญี่ปุ่นแล้วปลอดภัยก็เถอะ แต่สถานะการณ์แบบนี้เราก็ไม่อยากที่จะเชื่ออะไรเท่าไหร่เลยจริงๆ ความมืดและเส้นทางที่ไร้ผู้คน... ถ้ามีสัตว์ป่า พวกสิงโต หรือเสือ คงกระโดดเข้ามาขย้ำพวกเราได้แบบสบายๆ...

....ไม่....ฉันยังไม่อยากตายที่ญี่ปุ่นตอนนี้....

N : "ไม่มีคนมาเลยนะคะ คุณแน่ใจหรอคะว่ามาถูกแล้ว?" เราถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหวาดหวั่น
K : "ฮืมมม์.... ผมคิดว่ามาถูกนะ GPS บอกว่าต้องเดินขึ้นเขาไปอีกหน่อยน่ะ"
N : "คุณเคยมาที่นี่ก่อนรีเปล่าคะ?" เราเริ่มเค้น
K : "ผมยังไม่เคยมาครับ"
N : ".............."

เราไม่พูดอะไรต่อ เพราะไม่อยากถามอะไรแล้วล่ะ ตอนนี้เราไม่อยากจะเชื่ออะไรสักอย่างเลยจริงๆ ทำไมต้องพาเรามาเดทในที่แบบนี้ด้วย มันไม่รู้สึกโรแมนติกเลยนะ! มนุษย์สักคนก็ไม่มี เซอร์ไพรส์บ้าอะไรเนี่ย? พามาในที่บรรยากาศวังเวง และความมืดที่กำลังกดดันเรา จะต้องเดินไปอีกไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ มันไม่คุ้มกันเลยถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เราหันไปมองข้างหลังและเอาไฟส่องไปด้วย รู้สึกหลอนๆว่าอาจจะมีอะไรตามมา จินตนาการของเรากำลังทำงานเกินกำลัง รู้สึกขนลุกแปลกๆ ทุกอย่างดูเงียบสงัด จะมีก็แต่เสียงเดินของพวกเราเท่านั้น...

K : "คุณกลัวหรอครับ?" ในที่สุดพี่เค้าก็ถามขึ้นมา
N : "กลัวสิคะ.... ต้องเดินไปอีกไกลแค่ไหนก็ไม่รู้"
K : "ที่นี่ไม่อันตรายนะครับ ไม่เหมือนที่ไทยนะ"
N : "แต่ฉันกลัวนิคะ... มืดแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้สึกเอ็นจอยด้วยแล้วแหละ" เราเริ่มรู้สึกโกรธ นี่พี่เค้าจะไม่รู้จริงๆหรอว่ามันไม่เหมาะกับการมาสักนิดเลย...
K : "ขอโทษนะครับ... แล้วคุณอยากไปต่อมั้ย?"
N : "ฉันอยากกลับแล้วค่ะ แค่วันนี้ก็เหนื่อยจากหมู่บ้านนินจามาแล้ว... ถ้าที่นี่เป็นจุดชมวิวจริงก็ต้องมีคนแห่กันมาแล้วสิ จริงมั้ย?" เราเริ่มโมโห
K : งั้นกลับกันก็ได้ครับ... ผมขอโทษนะ..."

เราไม่ตอบพี่เค้า รู้สึกทั้งกลัวทั้งโกรธ.... เป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่พาเรามาเดทในที่แบบนี้... ก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่น่ามา ตั้งแต่ที่ทางแคบๆละ ทำไมไม่ฟังกันเลย ยังจะดันทุรังมาอีก... บรรยากาศโดยรอบ ดูยังไงก็ไม่เป็นมิตร... ขณะที่กำลังเดินกลับ สักพักเราได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ตรงข้างทางอีกแล้ว... และไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ได้ยิน.... เรารีบเอาแฟลตสองเครื่องส่องไปตามสัญชาตญาณ ก็เห็นเป็นต้นไม้แล้วมีแมลงมาตอม คุณแฟนเขยิบมาใกล้ๆเราแล้วโอบไหล่ให้เรารีบเดินกลับลงไป หัวใจของเราเต้นรัว... เรากลัวมาก... แม้สิ่งที่เห็นจะไม่มีอะไร... แต่มันทำให้เรารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง.... เราพยายามอย่างหนักที่จะไม่คิด... และพากันเดินจ้ำอ้าวลงไปหารถให้เร็วที่สุด....

ความเงียบเข้าปกคลุมพวกเราทั้งสอง ยังไม่มีใครพูดอะไรกัน และเราไม่กล้าที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง... ได้แต่เดินไปตามทาง จนกระทั่งเห็นรถที่จอดอยู่ไกลๆ เรารู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย ในที่สุดก็ถึงสักทีนะ... (ó﹏ò。) พอได้ขึ้นรถเท่านั้นแหละ... สมองเราโล่งมากกกกกกก รู้สึกอุ่นใจปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ

K : "ผมขอโทษที่ทำให้คุณกลัวนะครับ... ผมน่าจะศึกษาเส้นทางให้ดีกว่านี้" พี่เค้ายังรู้สึกผิดอยู่
N : "ไม่เป็นไรค่ะ... เรารีบกลับกันเถอะนะคะ... " ^^ เราพูดพร้อมคาดเข็มขัด

มันคงไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการที่จะได้กลับบ้านเวลานี้แล้วแหละ...

นี่จะเป็นอีกวัน... ที่เราไม่มีวันลืม..


บรรยากาศตอนขับรถลงเขาค่ะ แคปจากวิดีโอในมือถือ ภาพอาจจะมัวๆหน่อย ซึ่งไม่มีไฟเลยค่ะ สองข้างทางก็มีแต่ป่า รั้วกันกันชนริมทางก็มีบ้างไม่มีบ้าง ถ้าพลาดคือตกแน่ๆ อันตรายมากค่ะ









ไว้มาอ่านต่อตอนหน้านะคะ ^^

อ่านตอนย้อนหลังได้ที่ https://pantip.com/topic/37562243

ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ https://web.facebook.com/nekocouplestory/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่