กราบ กราบ กราบ เอาธูปปักไปเสียตรงนั้น เจอเเล้ว
ฉันได้ยินเสียงชัดแต่ยังไม่ทันได้ลืมตา เสียงญาติพี่น้องฟังดูหวั่นวิตก โถ่ๆๆเอ้ยเจ้าน้อยก็จมน้ำตายแบบนี้ ตายคามือตอนอุ้มไปส่งโรงพยาบาล ไปไม่ทันมันคงตายตั้งแต่ในน้ำแล้ว
" สัปปะริสิปะทัง สิปะราทาสุโทสะสิ อินิมะโทละสะตะตันติ โธ " มือใหญ่ๆตบลงกลางหลังสักสามสี่พลั่ก พร้อมเขย่าพาดบ่าห้อยหัว น้ำทะลักพรั่งพรูออกจากปากฉัน ฉันอาเจียนออกมาเป็นน้ำทั้งทางปากและจมูก
ไม่น่าเชื่อ คาถาโบราณของหมอตาถึก เรียก น้ำฝน กลับมาได้ ทุกคนตรงนั้นส่งเสียงดีใจระคนประหลาดใจกันไปทั่ว แม่คว้าตัวฉันไปกอด ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ โถ่ๆลูกแม่ ลงไปท่าไหนถึงตกลงไปได้ แม่เช็ดตัวให้ฉันจนแห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่สีชมพูแสนสะอาด เอ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไปกินข้าวกินปลากันทุกคน ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอจะจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเดินอยู่บนบันไดไม้พาดหาอีกฝั่งและเหมือนมีอะไรบางอย่างลื่นๆเป็นเมือกๆมาจับที่เท้า ในที่สุดฉันก็หล่นตุ๋มลงไปในน้ำ หายใจไม่ได้ถนัดเท่าเดิม และกาลเวลาค่อยๆสลายไปช้าๆ จนมาได้ยินเสียงตาถึก ตาแท้ๆ ที่ใครก็ยกให้แกเป็นหมอเทวดา มีวิชาอาคมมากมากหลายตำรา
ตาถึกใจดีมากรูปร่างสูงผิวพรรณดีสะอาดสะอ้านขาวผ่องแม้แต่ฟันก็ขาวมากทั้งที่กินหมากกินไพร เย็นนั้นทุกคนพูดกันแต่ว่าจมน้ำไปตั้งนานทำไมยังรอด ตาถึกจับพระที่คอฉัน หลวงปู่แหวนองค์น้อยๆเลี่ยมทองแขวนคู่กันกับลูกนิมิตรหุ้มทองคำเปลวผ่านมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย ตาถึกเคยบอกแม่ว่าเมื่อลูก3ขวบไม่พ้น4 จะจมน้ำให้แขวนไว้อย่าได้ถอดเด็ดขาดสองสิ่งนี้
จนกระทั่งวันนี้มาถึงฉันก็จมน้ำลงไปจริงๆ
เวลานั้นฉันยังเล็กมากแต่น่าแปลกกลับจำเรื่องราวต่างๆได้เสมอ บางเรื่องจำได้แทบทั้งหมดบางเรื่องจำได้แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่
กินข้าวเสร็จตาบอกกลับกรุงเทพฯไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะมืดค่ำ ฉันลาตา ลายาย ท่านทั้งสองพูดติดหูเสมอ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้นะลูกนะ ไปๆๆๆๆๆเดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดลูก ฉันกับแม่เดินลัดเลอะไปตามร่องสวน ผ่านคูน้ำ ไปตามทางที่เป็นเนินโคก
ค่อยๆเดินค่อยๆเดิน ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่โตขึ้นตามทางมากมาย กลิ่นธรรมชาติของต้นไม้ใบหญ้า เข้าจมูกตามลมพัดพา ผ่านสวนชาวบ้าน ต้นมะพร้าว ต้นทุเรียน ต้นมะขาม ดอกบัว ดอกพุด ดอกรัก ผ่านสวนใครถ้าเจ้าของสวนเห็นจะตะโกนมาที่เราสองแม่ลูก อ้าวจะกลับกันแล้วเหรอ เอามะพร้าวไปกิน เอามะม่วงไปกิน มะนาวด้วย ฉันคิดอยู่ในใจ จะถือไปยังไงเนี่ยลำบากแม่อีก ตัวเรานี่ก็เล็กนิดเดียวช่วยอะไรแม่ก็ไม่ได้ ทางออกเจ้ากรรมนี่ก็ยาวไกลดั่งจะเข้าป่าเสียอย่างนั้น แต่สุดท้ายเราก็มีผลหมากรากไม้ติดมือกลับไปมากมายตามเคย ฉันเห็นแม่หอบหิ้วสิ่งของที่ได้มาจากชาวบ้านหลายถุงพะรุงพะรัง แต่เราก็จะต้องเดินต่อกันไปเรื่อยๆ ฉันมองหน้าแม่ แม่ได้แต่หัวเราะและบอกว่าชาวบ้านเค้ามีน้ำใจเค้ารู้จักแบ่งปัน จำไว้นะลูกนี่เค้าเรียก"น้ำใจ"
ในมือแม่จะมีไม้อยู่1อันเสมอ เคยถามว่าแม่ๆจะเอาไว้ทำอะไร แม่ว่าเสือปลาสิลูก มันชอบออกมาหากิน ต้องคอยป้องกันตัวไว้ก่อน เดินนำหน้าไปแม่จะดูข้างหลัง เผื่ออะไรมันโผล่มาจากข้างหลัง ฉันยังจำได้ทุกเสี้ยวทุกตอนในความรู้สึกนึกคิดกับดินตามทางที่เดินไปดินเป็นระแหงบ้างดินสมบูรณ์บ้างเป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตาเหมือนว่านานแสนนานสำหรับเด็กเล็กๆอย่างฉัน ทางเส้นนี้คือทางออกจากบ้านตายาย เพื่อมุ่งสู่เส้นถนนใหญ่ ในซอยโรงถ่ายกันตนา บ้านหลังใหญ่โตร่มรื่นอบอุ่นสีขาวที่คนคลองบางสโน บางใหญ่ จ.นนทบุรี แถวนี้ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นบ้านคฤหาสถ์ที่สวยงามที่สุดในแถบนั้นและในยุคนั้น อย่างกับบ้านสวรรค์ ฉันเคยคิดเวลาเค้าพูดกันว่าบ้านสวยขนาดนี้สงสัยข้างในคงมีแต่เทวดานางฟ้าแน่เลย ในที่สุดก็พ้นป่าหญ้าสวนไร่เสียที เจอเเล้วถนนใหญ่ แต่ก่อนจะออกมาพบเจอถนนเส้นใหญ่น่ะสิ ต้องบุกป่าฝ่าดงค่อยๆเลาะลัดออกจากสวนไม่รู้กี่ไร่ต่อกี่ไร่ ไม่รู้ว่ามันกี่กิโลแต่รู้ว่าไกลมาก ไม่มีผู้คนเดินสวนไปมา นานๆจึงจะมีสักคนหนึ่ง จะมีก็แต่พวกเจ้าของสวน ที่รู้จักกัน ตะวันสาดแสงทองส้มฉาดมาที่ต้นกอไผ่กอใหญ่มากผัดพลิ้วไปมาดังเอี้ยดอ้าด เสียงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ร้องส่งเป็นทอดๆตามกันมาดังระงมเพราะเริ่มจะโพล้เพล้เสียแล้ว ฉันเห็นแม่เดินฉับๆมีท่าทางเข้มแข็งและปกป้องฉันเหมือนไข่ในหินมาเสมอ ฉันเองเป็นลูกแม่ดังนั้นจะต้องอดทนเข้มแข็งไม่งอแง ให้วุ่นวาย จำได้ถนัดใจฉันนี้เป็นลูกแสนจงรักภักดีแก่แม่อย่างที่สุดตัวติดกับแม่ยิ่งกว่าอะไรในโลก ไม่ยอมห่างกันเลย แม่สั่งอะไรก็ทำก็ตาม ไม่เคยคิดปริปากปฏิเสธเพียงครั้ง
#เดี๋ยวมาต่อกันค่ะ#
ปวารณา13กันยา5ทุ่มครึ่ง
ฉันได้ยินเสียงชัดแต่ยังไม่ทันได้ลืมตา เสียงญาติพี่น้องฟังดูหวั่นวิตก โถ่ๆๆเอ้ยเจ้าน้อยก็จมน้ำตายแบบนี้ ตายคามือตอนอุ้มไปส่งโรงพยาบาล ไปไม่ทันมันคงตายตั้งแต่ในน้ำแล้ว
" สัปปะริสิปะทัง สิปะราทาสุโทสะสิ อินิมะโทละสะตะตันติ โธ " มือใหญ่ๆตบลงกลางหลังสักสามสี่พลั่ก พร้อมเขย่าพาดบ่าห้อยหัว น้ำทะลักพรั่งพรูออกจากปากฉัน ฉันอาเจียนออกมาเป็นน้ำทั้งทางปากและจมูก
ไม่น่าเชื่อ คาถาโบราณของหมอตาถึก เรียก น้ำฝน กลับมาได้ ทุกคนตรงนั้นส่งเสียงดีใจระคนประหลาดใจกันไปทั่ว แม่คว้าตัวฉันไปกอด ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ โถ่ๆลูกแม่ ลงไปท่าไหนถึงตกลงไปได้ แม่เช็ดตัวให้ฉันจนแห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่สีชมพูแสนสะอาด เอ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไปกินข้าวกินปลากันทุกคน ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอจะจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเดินอยู่บนบันไดไม้พาดหาอีกฝั่งและเหมือนมีอะไรบางอย่างลื่นๆเป็นเมือกๆมาจับที่เท้า ในที่สุดฉันก็หล่นตุ๋มลงไปในน้ำ หายใจไม่ได้ถนัดเท่าเดิม และกาลเวลาค่อยๆสลายไปช้าๆ จนมาได้ยินเสียงตาถึก ตาแท้ๆ ที่ใครก็ยกให้แกเป็นหมอเทวดา มีวิชาอาคมมากมากหลายตำรา
ตาถึกใจดีมากรูปร่างสูงผิวพรรณดีสะอาดสะอ้านขาวผ่องแม้แต่ฟันก็ขาวมากทั้งที่กินหมากกินไพร เย็นนั้นทุกคนพูดกันแต่ว่าจมน้ำไปตั้งนานทำไมยังรอด ตาถึกจับพระที่คอฉัน หลวงปู่แหวนองค์น้อยๆเลี่ยมทองแขวนคู่กันกับลูกนิมิตรหุ้มทองคำเปลวผ่านมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย ตาถึกเคยบอกแม่ว่าเมื่อลูก3ขวบไม่พ้น4 จะจมน้ำให้แขวนไว้อย่าได้ถอดเด็ดขาดสองสิ่งนี้
จนกระทั่งวันนี้มาถึงฉันก็จมน้ำลงไปจริงๆ
เวลานั้นฉันยังเล็กมากแต่น่าแปลกกลับจำเรื่องราวต่างๆได้เสมอ บางเรื่องจำได้แทบทั้งหมดบางเรื่องจำได้แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่
กินข้าวเสร็จตาบอกกลับกรุงเทพฯไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะมืดค่ำ ฉันลาตา ลายาย ท่านทั้งสองพูดติดหูเสมอ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้นะลูกนะ ไปๆๆๆๆๆเดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดลูก ฉันกับแม่เดินลัดเลอะไปตามร่องสวน ผ่านคูน้ำ ไปตามทางที่เป็นเนินโคก
ค่อยๆเดินค่อยๆเดิน ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่โตขึ้นตามทางมากมาย กลิ่นธรรมชาติของต้นไม้ใบหญ้า เข้าจมูกตามลมพัดพา ผ่านสวนชาวบ้าน ต้นมะพร้าว ต้นทุเรียน ต้นมะขาม ดอกบัว ดอกพุด ดอกรัก ผ่านสวนใครถ้าเจ้าของสวนเห็นจะตะโกนมาที่เราสองแม่ลูก อ้าวจะกลับกันแล้วเหรอ เอามะพร้าวไปกิน เอามะม่วงไปกิน มะนาวด้วย ฉันคิดอยู่ในใจ จะถือไปยังไงเนี่ยลำบากแม่อีก ตัวเรานี่ก็เล็กนิดเดียวช่วยอะไรแม่ก็ไม่ได้ ทางออกเจ้ากรรมนี่ก็ยาวไกลดั่งจะเข้าป่าเสียอย่างนั้น แต่สุดท้ายเราก็มีผลหมากรากไม้ติดมือกลับไปมากมายตามเคย ฉันเห็นแม่หอบหิ้วสิ่งของที่ได้มาจากชาวบ้านหลายถุงพะรุงพะรัง แต่เราก็จะต้องเดินต่อกันไปเรื่อยๆ ฉันมองหน้าแม่ แม่ได้แต่หัวเราะและบอกว่าชาวบ้านเค้ามีน้ำใจเค้ารู้จักแบ่งปัน จำไว้นะลูกนี่เค้าเรียก"น้ำใจ"
ในมือแม่จะมีไม้อยู่1อันเสมอ เคยถามว่าแม่ๆจะเอาไว้ทำอะไร แม่ว่าเสือปลาสิลูก มันชอบออกมาหากิน ต้องคอยป้องกันตัวไว้ก่อน เดินนำหน้าไปแม่จะดูข้างหลัง เผื่ออะไรมันโผล่มาจากข้างหลัง ฉันยังจำได้ทุกเสี้ยวทุกตอนในความรู้สึกนึกคิดกับดินตามทางที่เดินไปดินเป็นระแหงบ้างดินสมบูรณ์บ้างเป็นทางยาวสุดลูกหูลูกตาเหมือนว่านานแสนนานสำหรับเด็กเล็กๆอย่างฉัน ทางเส้นนี้คือทางออกจากบ้านตายาย เพื่อมุ่งสู่เส้นถนนใหญ่ ในซอยโรงถ่ายกันตนา บ้านหลังใหญ่โตร่มรื่นอบอุ่นสีขาวที่คนคลองบางสโน บางใหญ่ จ.นนทบุรี แถวนี้ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นบ้านคฤหาสถ์ที่สวยงามที่สุดในแถบนั้นและในยุคนั้น อย่างกับบ้านสวรรค์ ฉันเคยคิดเวลาเค้าพูดกันว่าบ้านสวยขนาดนี้สงสัยข้างในคงมีแต่เทวดานางฟ้าแน่เลย ในที่สุดก็พ้นป่าหญ้าสวนไร่เสียที เจอเเล้วถนนใหญ่ แต่ก่อนจะออกมาพบเจอถนนเส้นใหญ่น่ะสิ ต้องบุกป่าฝ่าดงค่อยๆเลาะลัดออกจากสวนไม่รู้กี่ไร่ต่อกี่ไร่ ไม่รู้ว่ามันกี่กิโลแต่รู้ว่าไกลมาก ไม่มีผู้คนเดินสวนไปมา นานๆจึงจะมีสักคนหนึ่ง จะมีก็แต่พวกเจ้าของสวน ที่รู้จักกัน ตะวันสาดแสงทองส้มฉาดมาที่ต้นกอไผ่กอใหญ่มากผัดพลิ้วไปมาดังเอี้ยดอ้าด เสียงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ร้องส่งเป็นทอดๆตามกันมาดังระงมเพราะเริ่มจะโพล้เพล้เสียแล้ว ฉันเห็นแม่เดินฉับๆมีท่าทางเข้มแข็งและปกป้องฉันเหมือนไข่ในหินมาเสมอ ฉันเองเป็นลูกแม่ดังนั้นจะต้องอดทนเข้มแข็งไม่งอแง ให้วุ่นวาย จำได้ถนัดใจฉันนี้เป็นลูกแสนจงรักภักดีแก่แม่อย่างที่สุดตัวติดกับแม่ยิ่งกว่าอะไรในโลก ไม่ยอมห่างกันเลย แม่สั่งอะไรก็ทำก็ตาม ไม่เคยคิดปริปากปฏิเสธเพียงครั้ง
#เดี๋ยวมาต่อกันค่ะ#