[แชร์] ประสบการณ์ลดน้ำหนักของเด็กน้อยที่เคยอกหักและมักแห้วกับความรัก

เริ่มต้นผมขอแนะนำก่อนว่าผมลดน้ำหนักเองโดยไม่ใช้ยาลดน้ำหนักหรือผลิตภัณฑ์ตัวใดในการช่วยลดน้ำหนักเลยเป็นการกระทำโดยความพยายามของตนเอง โดยเท้าความก่อนว่าผมเริ่มลดน้ำหนักมาตั้งแต่ช่วงก่อนปิดเทอมของม.3 (ช่วงปี 2557) จากน้ำหนักในอดีตที่เคยสูงถึงเกือบ 90+ จนปัจจุบันเหลือเพียง 60 ปลายๆเท่านั้น
เนื่องด้วยมีแรงบันดาลใจมาจากการที่ผมเคยแอบชอบผู้หญิงคนนึงครับ เขาเป็นเพื่อนที่รู้จักกันกับผมมาตั้งแต่ประถม เธอน่ารัก ตัวเล็ก ( ชั่งมันเถอะครับ ความรักของเด็ก มันก็เหมือนจุดเทียนกลางสายฝนนั่นแหละ ) ซึ่งเธอพูดทำร้ายจิตใจเด็กอ้วนอย่างผมมาก เธอกล่าวสั้นๆ คือ เธอชอบคนผอม มันจึ้กสิครับ อีกทั้งผมเคยไปเจอเพื่อนๆของเธอ เพื่อนเธอก็แสดงอาการที่ไม่พอใจในรูปร่างของผมสักเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรผมมีความพยายามมากพอที่จะเป็นคนผอมเพื่อเธอ (น้ำเน่าสุด ) นั่นแหละครับที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้ผมได้ลุกขึ้นต่อสู้กับไขมันที่ห่อหุ้มร่างกายของผมมาตลอดเกือบ 10 ปี เรามาดูภาพก่อนลดน้ำหนักของผมกันดีกว่าครับ 😄

Halo สวัสดีงับ นี่ผมเองตอนเด็กๆ ปกติจะชอบกินไก่ทอดมากๆทำให้น้ำหนักผมขึ้นตามวัยเลยครับ ฮ่าๆ

แงงงง ตอนนี้ผมอยู่อนุบาล 3 ได้ถ่ายรูปกับเด็กผญคนนึง น่ารักมั้ยหล่ะะ หมายถึงเพื่อนผมน่ารักมั้ย 5555

ตัดภาพมาที่ช่วงคริสมาสต์ป.6 โอ้โหววคนอะไรหุ่นหมีมากก นี่น่าจะเป็นซานต้ามากกว่ากวางเรนเดียร์นะเนี่ย

Before สุดท้ายละครับ นี่ตอนกำลังจะขึ้นม.1 เห็นขวดยา(ดอง)เลยหยิบมาเซลฟี่สักหน่อย 55555

เอาหล่ะครับเรามาเข้าเรื่องของการลดน้ำหนักสักที ซึ่งผมจะขอแบ่งวิธีการลดน้ำหนักของผมเป็น 3 ช่วงนะครับ คือ
1) ช่วงศึกษาหาข้อมูล
2) ช่วงลงมือปฎิบัติ
3) ช่วงควบคุมให้ร่างกายสมดุลคงที่ แต่ละรายละเอียด ผมจะขอทยอยอัพเดทให้นะครับ

ช่วงที่ 1 : ศึกษาหาข้อมูล
พอดีผมอยู่ในช่วงกม.3 กำลังจะขึ้นม.4 เลยมีเวลาว่างพอสมควร เนื่องจากผลการเรียนค่อนข้างโอเค ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องการเรียนต่อชั้นม.4 มากนักเลยมีเวลาว่างจากการเรียนค่อนข้างมาก ( เรียนหนักแล้ว สบายๆบ้าง 5555 ) เลยตัดสินใจปรึกษาเพื่อนที่ชอบออกกำลังกายและเคยมีน้ำหนักมากมาก่อน จนตอนนี้เพิ่อนมีหุ่นที่ดีเรื่องวิธีลดน้ำหนักว่าผมควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี เพื่อนจึงแนะนำว่าให้เริ่มคุมอาหารตั้งแต่มื้อเช้า กลางวันและเย็น โดยกินได้แค่ 3 มื้อเท่านั้น ซึ่งเพื่อนโคตรจะรักผมเลยครับจัดมื้ออาหารมาแต่ละอย่างนี่ผมน้ำตาจะไหล จากคนที่กินเยอะ กินจุกจิกต้องกลายมาเป็นคนที่อดทนกับเรื่องการกิน เมนูที่เพื่อนให้ผม ส่วนใหญ่จะหนักมื้อเช้ากับกลางวันครับ เช่น เช้า : โจ๊กหมู เที่ยง : ข้าวไข่ดาว 2 ฟอง อีกทั้งเพื่อนคนนี้ยังสอนผมในเรื่องของการบริโภคอีกว่าควรนับแคลที่กินไปแต่ละมื้อนะ หรือจะเป็นเรื่องการปรุงอาหารที่แตกต่างกันไป ก็ส่งผลให้แคลที่จะได้รับต่างกันออกไปด้วย อย่างเช่น ไข่ต้มก็จะแคล 80 ถ้าไข่ดาวก็ 150 แต่ถ้าไข่เจียวแคลก็จะ 300++ ผมจึงอยากจะบอกทุกคนว่าเราต้องคำนึงถึงทุกอย่างที่เรากินลงไปในกระเพาะแต่ละมื้อนะครับ ห้ามกินจุกจิกเด็ดขาด นังไม่หมดครับผมยังเข้าไปศึกษาเรื่องราวของดัชนีมวลกาย ( BMI ) คำนวณตามเว็บไซด์โดยค้นหาใน google ว่า คำนวณ BMi ก็จะเจอเต็มไปหมดเลยครับ เว็บจะบอกว่าเราบริโภคได้เท่าไหร่ต่อ 1 วัน เราก็เก็บข้อมูลนั้นไว้เอาไว้ใช้คำนวนปริมาณอาหารที่เรากินไปในแต่ละมื้อของวัน ส่วนแอพที่ใช้คำนวณแคล ผมก็ใช้แอพ Caltraker ครับ ที่สำคัญ คือ จะต้องมีวินัยในการกรอกข้อมูลนับแคลอย่างมาก สุดท้ายของช่วงที่ 1 คือการหาแรงบันดาลใจครับของผมหาง่ายมากๆ ผมจะนึกถึงสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บช้ำน้ำใจเอาไว้มากๆแล้วท่องไว้ตลอดว่า เราทำได้ๆๆ เราจะผอม ชนิดที่ว่าผมเคยสวดมนต์ขอพรให้ตัวเองผอมและดูดีจากหิ้งพระอ่ะครับ -00- ( วิธีนี้คือทำให้ผมสบายขึ้นระดับนึงหน่ะครับ ) หรือไม่ก็ลองหากระทู้ลดความอ้วนจากในพันทิปก็ได้ครับ ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว ถัดไปจะเป็นช่วงที่ 2 นะครับ

แอป caltraker ครับ

ช่วงที่ 2 : ลงมือปฎิบัติ
ผมจะอธิบายกิจวัตรของผมในแต่ละวันนะครับ
ตอนเปิดเทอม ระยะเวลา 1 เดือนกว่าๆ
ตื่นเช้า อาบน้ำ กินข้าวเช้า เช่น โจ๊กหมู กับข้าวก็จะลดลง 1/3 ของที่เคยกิน เขี่ยไว้ข้างๆจานครับ ไปโรงเรียน มื้อเที่ยงก็ให้เพื่อนผมเป็นคนจัดให้ว่าสามารถกินอะไรได้บ้างในโรงอาหาร เช่น ข้าวไข่ดาวกับไอศครีม 1 แท่ง หรือ ต้มเลือดหมูกับไส้กรอกทอด ตกเย็นกลับบ้านมาก็เปลี่ยนชุดไปออกกำลังกายโดยผมได้นัดดีลกับเจ้แถวบ้านว่าจะขอมาร่วมจอยเต้นแอโรบิคด้วย ใช้เวลาช่วง 18.00-19.00 น. กลับบ้านมาก็จะกินพวกนมกับขนมปัง อาบน้ำและนอนพร้อมตื่นไปเรียนในวันถัดไป
ตอนปิดเทอม เป็นช่วงที่ลดจริงจังมากก (ก ล้านตัว) ระยะเวลา 2 เดือน
กล่าวคือผมมักจะตื่นนอนสายครับเรียกได้ว่าตื่นมาตอนเที่ยงแล้วพร้อมกับรับรสอาหารทันที (หยอกก) คือผมจะตื่นเช้าก่อน มาทำต้มจืดหมูกับผักกาด และกลับไปนอนอีก 1 งีบ ตื่นมาละอาบน้ำพร้อมกับกินมื้อเที่ยงเลยครับ อาหารกินเล่นของผมก็จะมีช่วงบ่าย คือ น้ำมะเขือเทศดอยคำ ( กินแก้ความดำ เนื่องด้วยผิวของผมนั้น ถูกแดดแผดรังสีใส่จนตัวนั้นคล้ำไปจากกิจกรรมเชียร์บอลจตุรมิตรอ่ะครับ ) พอถึงช่วงเย็นผมก็ไปเต้นกับเจ้ๆที่ลานแอโรบิคตามช่วงเวลาเดิม โดยทำในวัน จ-ศ ส่วนวัน ส-อา ผมจะไปวิ่งที่สวนลุมครับโดยใช้ระยะเวลาวิ่งประมาณ 1-1.30 นาที ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ

อย่าลืม!!!!!
-ทุกมื้ออาหารต้องมีการจดบันทึกแคลที่กินเข้าไป
-ต้องมีวินัยกับตัวเอง
-ต้องเชื่อมั่นว่าตัวเองก็ผอมและดูดีได้ ด้วยการผลกรรม(การกระทำ)ที่เราทำ
-อย่าหลงเชื่อคำเชิญชวนของอาหารเสริมใดๆ
ถ้าเปรียบการลดน้ำหนักเหมือนการผายเรือข้ามฝั่ง เรามี 2 มือไว้ผาย ส่วนอาหารเสริมก็แค่เพิ่มฝีผายให้เราไปใกล้ฝั่งเร็วขึ้นเท่านั้น
-อาหารเสริมควรดูอย.ก่อนการบริโภค จะได้ไม่ลำบากหมอและสคบ.มาคุ้มครองคุณ

ช่วงที่ผมต้องแปลอักษรและเชียร์บอลครับ ให้ดูความพุงและผิว ยิงกว่าหมูปิ้งไหม้ๆอีก
ปล. ยืมเพื่อนมาถ่ายนะผ้าพันคอ ถถถถ

ผิวหลังจากที่กินน้ำมะเขือเทศ มันก็ดีขึ้นนิดหน่อยหน่ะ + สบู่เบนเนท + กันแดดหน้า + ไม่โดนแดด นะค้าบบ! จบช่วงที่ 2 ต่อช่วงสุดท้าย เย้

ช่วงที่ 3 : ช่วงควบคุมให้ร่างกายสมดุล
ในช่วงสุดท้ายผมจะกล่าวถึงเรื่องของรักษาน้ำหนักไม่ให้เกิดอาการที่เรียกว่า โยโย่น้ำหนัก นั่นเองงง จากปี 2557 ที่ลดน้ำหนักเสร็จเรียบร้อย จนถึงปัจจุบันปี 2561 ผมควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตราฐานมาตลอด โดยผมมักจะบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ ครบตามหลักอาหาร 5 หมู่ เนื้อ นม ไข่ ไม่ให้ขาดด ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดอาการกล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นไขมัน ซึ่งจากที่ผมพยายามฝ่าฟันวิธีการต่างๆมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย อีกทั้งเอาชนะคำดูแคลนจากคนที่เคยแอบชอบหรือเพื่อนๆที่หาว่าเราทำไม่ได้หรอก ทำให้ปัจจุบันผมมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 69 สูง 176 และเรามาดูภาพ After ของผมกันครับ

ม.4 ครับ

ม.6 แล้วววและผมกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย (หรอ คือยังรอลุ้นผลอยู่นะครับ 😂😂)

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกๆคนที่คอยเป็นแรงบันดาลใจหรือกำลังใจ ในการทำให้ผมได้มีร่างใหม่ สามารถทำอะไรได้คล่องแคล่วมากขึ้น ขอบคุณเพื่อนดลที่คอยสนับสนุน ชี้แนวทางต่างๆในเรื่องของการลดน้ำหนัก ขอบคุณความรักที่มันทำให้ผมอกหัก ทำให้ผมมีแรงที่จะขยันออกกำลังกาย ( ส่วนเรื่องเพื่อนผมคนนั้น สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนนะครับ ฮ่าๆ ^^ ) ขอบคุณเจ้ๆที่ร่วมเต้นแอโรบิคกับผมมาตลอดทุกวันจ-ศ และขอบคุณพ่อที่คอยเตือน เป็นห่วงเรา


แฮร่
ดล เทรนเนอร์ส่วนตัวผมเอง
ปล. ที่ผมมาเขียนกระทู้ในครั้งนี้เพื่อที่อยากจะตอบแทนกระทู้ดีๆที่มีสำหรับผมในตอนนั้น
ปล2. หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสอบถามผ่านทาง
fb : https://www.facebook.com/keng.playing
ig : keng_meei
นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้นะครับ 😘
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่