[CR] ชีวิตติดเกาะ Do Nothing ที่เกาะช้าง จ.ระนอง


cr.รูปภาพจาก FB เกาะช้างระนองค่ะ

เกือบทุกๆ ปี  จะเที่ยวก่อนสงกรานต์กันค่า แต่ปีนี้ หยุดพร้อมกันกับคุณสามีคือสงกรานต์พอดี
ก็เลือกๆ อยู่ว่าอยากไปเที่ยวไหนกัน โจทย์คือ คนไม่เยอะมาก เดินทางสะดวก ควบคุมค่าใช้จ่ายได้
แล้วเราสองคนก็เลือกไปติดเกาะช้าง จ.ระนอง

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 12 เมษายนค่ะ ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ใช้เวลาขับรถถึงระนอง ร่วม 8 ชั่วโมง ถนนไประนอง ขับง่ายนะคะ สบายๆ ค่า แต่กว่าจะหลุดช่วงหัวหิน ปราณบุรี ก็จะพลุกพล่านหน่อยค่ะ

ชีวิตบนเกาะเราจองที่พักไว้คือ 13-15 เมษายน แต่เลือกที่จะมานอนฝั่งก่อนคืนแรก คนขับได้ไม่เหนื่อยมาก

คืนแรก พักกันที่ The Boat House ระนองค่ะ เยื้องกับ BIG C




ที่พักในราคาหลักร้อยค่ะ ค่าที่พัก 750 บาท จองตรงกับที่ The Boat House เลย ไม่มีอาหารเช้านะคะ
สะอาด แอร์เย็น น้ำในห้องน้ำแรงดีค่ะ

ระหว่างนี้ ก็แวะเที่ยวสิคร๊าคุณ

เที่ยวน้ำตกหงาว ซึ่ง ฤดูนี้แทบไม่มีน้ำเลย แนะนำว่า มาเดือนพฤษภาคมไปแล้วจะดีมากสำหรับการเที่ยวน้ำตกค่า



ต่อจากน้ำตก เราสามารถใช้บัตรผ่านมาเที่ยว น้ำพุร้อนพรรั้งได้นะคะ
ภายในบริเวณน้ำพุร้อน มีให้แช่น้ำแร่อุ่นๆ ร้อนๆ กันด้วยค่า เตรียมพร้อมชุดมากันได้เลยน๊า



มื้อเย็นของวันแรก ฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารสมยศปากน้ำซีฟู๊ดค่ะ สั่งกับข้าว 4 อย่าง พร้อมข้าวสวย 2 จาน มื้อนี้จ่ายไป 1260 บาทค่ะ
รสชาติใช้ได้เลย และสดจริงค่ะ หอยนางรมงี้ ตัวเป้งใหญ่กว่าช้อนอีกค่า





เช้าวันที่ 13 เมษา เราก็ออกจากที่พักเช้า เพราะกังวลเรื่องที่รับฝากรถกันค่า เรือที่จองไปเกาะช้าง คือเที่ยว เที่ยงครึ่ง แต่กะว่ามาโตร๋เตร๋ก่อนดีกว่า
โชคดีมากที่ตัดสินใจมาแต่เช้า ที่รับฝากรถ เกือบจะเต็มแล้วจ้า และโชคดีอีกคือ ได้รอบเรือเร็วขึ้นคือ 10 โมงเช้า

การไปเที่ยว เกาะช้าง ระนอง
ให้ที่พักเป็นคนจองเรือให้นะคะ ค่าเรือ speed boat ไปเกาะช้าง คนละ 300 บาทค่ะ ถึงท่าเรือมีบริการรับส่งถึงที่พักเลย แต่ถ้าเป็น speed boat ของเกาะพยาม ค่าเรือจะ 350 บาท แล้วต้องไปต่อรถรับจ้างบนเกาะด้วยนะจ๊ะ (ที่พัก แนะนำมาตามนี้จ้า)

ถ้าไม่อยากนั่ง speed boat จะมีเรือเมล์ค่ะ คนละ 200 บาทนะคะ แต่ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง speed boat ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ
ท่าเรือไปเกาะนั้นไม่ยากเลย GPS นำทางเป๊ะมากจ้า



ถึงเกาะโดยสวัสดิภาพจ้า ท่าเรือน้ำใสมาก Green Sea เลยค่ะ


เราจองที่พักผ่าน agoda ในราคา 2 คืน 1,000 บาทค่ะ


ที่นี่ ไฟฟ้าเปิดตอนค่ำ ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ของ True & Dtac ค่ะ ส่วน AIS ใช้งานได้ดีทีเดียว
ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีอาหารเช้า ไม่มีกิจกรรมใดๆ มีมุ้ง ยุง และนกเงือกอยู่เป็นเพื่อนกันค่ะ
ตอบโจทย์ค่า คือ ไม่ต้องทำอะไรเลย 55+




หาดหน้าที่พัก เป็นโขดหิน เล่นน้ำไม่ได้ แต่จากหน้าห้องพัก ได้ยินเสียงคลื่นชัดมากเลย
ช่วงเวลาน้ำขึ้น ใสจริงค่ะ



ถึงแม้จะเล่นน้ำหน้าที่พักไม่ได้ มิใช่ปัญหาจ้า เดินจากที่พักไปไม่ทันเหนื่อย ก็จะได้เล่นน้ำกันแล้ว


หรือเราจะพายเรือมาอีกฝั่งก็เล่นน้ำได้เหมือนกันค่า


ทรายที่นี่ ไม่สวยเลอเลิศค่า แต่ให้ความสงบจริง

หลายคนบอกว่า เวลาบนเกาะเดินไปอย่างช้าๆ แต่เราว่า เวลาเดินไปเร็วนะคะ แป๊บเดียว หมดวันแล้ว


หน้าหาดที่นี่ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สุดยอดเลยค่ะ ดวงอาทิตย์ดวงกลมโตมากกกกกกกกกก เรานั่งเฝ้าจนเค้าลาลับขอบฟ้าเลย


บริเวณรอบๆ ที่พัก เราจะมีเพื่อนมากมายค่ะ และ นกเงือกด้วย หน้าห้องพักเรา เป็นรังนกเงือก โอ้ว แม่เจ้า !!
เช้างี้คุณพี่เล่นบรรเลงเพลงเสียงดังฟังชัด ตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเช้าเลย นอนต่อไม่ไหวล่ะค่า ก็ต้องตื่นกันแล้ว






รูปนกเงือก ถ่ายมาแต่ไม่ได้เอาเลนส์ซูมไป ตัวเค้าเลยกระจิ๊ดริด ไม่ได้เอาลงดีกว่า ท้าให้มาชมของจริงค่ะ

ที่บังกะโล สามารถฝากท้องได้ทุกมื้อนะคะ ราคาตามสั่งเริ่มต้นที่จานละ 80 บาทขึ้นไป
เครื่องดื่ม น้ำเปล่าขวด 1.5 ลิตร ราคา 30 บาท น้ำอัดลมกระป๋อง ก็ 30 บาทจ้า โซดามีให้พร้อมนะคะ

ค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายให้กับ RATTANA ไปทั้งหมดคือ 2400 บาท (รวมที่พัก)ค่ะ อาหารเราทานทั้งหมด 5 มื้อนะคะ

ขากลับ เรากลับวันที่ 15 เมษายน ซึ่งขอเลือกกลับเรือเมล์ค่ะ เพราะถ้ากลับ speed boat จะมีรถมารับตอน 7 โมงครึ่ง Oh No ไม่ค่ะไม่ ยังอยากอยู่ต่ออีกนิดนึง

เรือเมล์ จะมารับที่หน้าหาด (ที่เราเล่นน้ำกัน) เวลาบ่ายโมงค่ะ ค่าตั๋วเรือคนละ 200 บาท ใช้เวลากลับถึงฝั่งราว 2 ชั่วโมงจ้า

ชีวิตบนเกาะ ไม่มีอะไรทำจริงๆ ค่ะ ได้ดื่มด่ำธรรมชาติจริง เราเอาหนังสือไปอ่านด้วย ก็ได้อ่านจนจบ
เช้าตื่นมา นกเงือกปลุกเสร็จ ก็ลงไปเล่นน้ำทะเล ขึ้นมาอาบน้ำ หามื้อเช้าทาน แล้วก็นั่งนิ่งๆ ชมวิวหน้าที่พักอยู่อย่างนั้น เที่ยงก็มาทานข้าว บ่ายก็กลับมาอ่านหนังสือต่อ เย็นก็เล่นน้ำ หัวค่ำ ก็ทานข้าว มืดหน่อย ก็นอน ถึงที่พักจะไม่มีพัดลม แอร์ แต่อากาศดีมากค่ะ ลมโชยทั้งคืนเลย
รสชาติอาหารที่นี่ จะจืดหน่อยน๊า แม่ครัวบอกว่า ปกติมีแต่ต่างชาติมาพัก ไม่ค่อยมีคนไทยมาพักค่ะ เพราะไม่มีอะไรให้ทำจริงๆ คนไทยจึงนิยมไปเกาะพยามมากกว่า



ขากลับ มื้อเย็นก่อนเข้ากรุงเทพ เลือกทานอาหารที่กระบุรีค่ะ ร้านท่าเรือ นั่งรับลม ชมพม่ากันไปค่ะ
รสชาติอาหารใช้ได้ค่ะ ในราคาไม่ได้สูงมาก
ถ่ายรูปมา แต่หารูปไม่เจอแล้ววววววววว ไปไหนหว่า T_T


แล้วสงกรานต์ก็หมด จบลงแล้ว ขับรถเข้ากรุงเทพอีกราว 8 ชั่วโมงนะคะ กลับถึงบ้านก็สลบ หมดแรงเหมือนกันค่า

ลองดูนะคะ เป็นอีกทางเลือก หากอยากพักจริงๆ พักแบบไม่ต้องพบเจอผู้คนมากมาย ต่างคนต่างอยู่ แต่ก็ยิ้มให้กันเมื่อได้เจอกัน
มันสงบจริงๆ ค่ะ เทียวเมืองไทย ยังมีที่ให้เที่ยวอีกเยอะค่า

ค่าน้ำมันรถ ไปกลับ 3,010 บาท + ค่าทางด่วน 100 บาท
มื้อเช้า 12 เมษา แวะทานร้านอาหารริมทาง 90 บาท
ค่าเรือไป และกลับ คนละ 500 บาท รวม 1000 บาท
เข้าอุทยาน 40 บาท
ชีวิตบนเกาะ 2,400 บาท
ขนม เบ็ดเตล็ด ไม่กี่บาทค่า (จำไม่ได้แล้ว)
ร้านอาหารท่าเรือ 580 บาท
ร้านสมยศซีฟู๊ด 1,260 บาท
รับฝากรถ 13-15 เมษายน 300 บาท
ทีพักคืนแรก 750 บาท
ชื่อสินค้า:   ระนอง ไปให้รู้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่