ทริปเกาะกูดจากเกาะช้าง 22-24/3/66 น้ำใส ป่าเขียว และพระอาทิตย์ตกน้ำ:)

เราเคยมีโอกาสไปเกาะกูดแค่ครั้งเดียวเมื่อ 20 ปีก่อน
.
คราวนั้นนั่ง speed boat จากท่าเรือที่อำเภอเมืองตราด แต่มันก็นานจนลืมความรู้สึกไปแล้ว คราวนี้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ซึ่งน่าจะเป็นเฟสสุดท้ายแล้วหล่ะ ประกอบกับเป็นช่วงที่มรสุมยังไม่เข้า การเดินทางจากเกาะช้างไปเกาะกูดจึงง่ายหน่อยเพราะเรือเมล์ยังให้บริการก่อนจะเว้นช่วงในฤดูมรสุม ใช่ครับ เราอาศัยและทำมาหากินอยู่บนเกาะช้างนี่แหล่ะ
.

.
มันจะมีเรือเมล์ที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ปัจจุบันมีแค่เจ้าเดียวคือเรือของบริษัทบางเบ้าโบ๊ท (Bang Bao Boat) ส่วนเจ้าอื่นเป็นการเหมาและส่วนใหญ่ก็คือ speed boat เรือจะออกจากท่าเรือประมงบ้านบางเบ้า 9 โมงเช้า มุ่งหน้าสู่เกาะกูด โดยจะแวะรับส่งผู้โดยสารจุดแรกที่เกาะหวายระยะตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากเกาะหวายจะแวะรับส่งผู้โดยสารอีกจุดคือเกาะหมาก จากเกาะหวายถึงเกาะหมากใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
.
ถึงเกาะหมากคือเข้าเขตอำเภอเกาะกูด เกาะหมากเป็น 1 ใน 2 ตำบลของอำเภอเกาะกูดครับ
.
จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเราจะถึงท่าเรือน้ำลึกของเกาะกูด
.
เรือเมล์ของบางเบ้าโบ๊ทจะมี 2 ประเภทให้เลือกคือเรือไม้ที่อดีตเคยเป็นเรือประมง โมฯใหม่ให้เป็นเรือท่องเที่ยว และเรือเร็ว (speed boat) ที่ใช้เวลาสั้นกว่ากันเกินครึ่งแต่ค่าตั๋วก็แพงกว่าราว 2 เท่าตัวเช่นกัน อย่างเราที่ต้องการซึมซับบรรยากาศชิวๆบนเรือ ค่อยๆละเมียดเอาวิวทะเลกว้างใหญ่ซ้ายขวาและลมเย็นๆ ประกอบกับอารมณ์อันรื่นเริงของผู้โดยสารบนเรือซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยินดีจะทิ้งเวลาไปกับสิ่งเหล่านี้กับค่าตั๋วขาละ 700 บาท
.
ไปกลับก็ 1,400 บาท เราซื้อตั๋วเรือจากเค้าเตอร์ขายทัวร์แห่งหนึ่งบริเวณหาดไก่แบ้
.
เรือจอดเทียบท่าเรือบ้านบางเบ้าหันหน้าหาฝั่ง รอรับผู้โดยสาร มีพนักงานนับจำนวนผู้โดยสารให้ตรงกับยอดการจองที่จะเดินทางในวันนี้ พร้อมช่วยจัดเก็บสัมภาระไว้ให้เป็นหมวดหมู่ (ว่าใครจะลงเกาะหวาย เกาะหมาก หรือเกาะกูด)

.
หันหน้าหาทะเลและมุ่งหน้าสู่เกาะกูด
.

.


.
และที่ท่าเรือน้ำลึก อ.เกาะกูด
.

.
สรุปการเดินทางจากเกาะช้างไปเกาะกูดด้วยเรือเมล์ ประเภทเรือไม้
1. ค่าโดยสารเที่ยวละ 700 บาท/คน ไปกลับ 1,400 บาท หาซื้อได้ตามเค้าเตอร์ขายตั๋ว, ขายทัวร์ทั่วไปที่เกาะช้างและคาดว่าที่เกาะกูดก็เช่นเดียวกัน หรือซื้อที่เค้าเตอร์ของบริษัทบางเบ้าโบ๊ทที่บางเบ้า  ขออนุญาตคอนเฟิร์มข้อมูลเฉพาะที่เกาะช้างครับ เพราะเราซื้อทั้งไปและกลับที่นี่
2. ที่เกาะช้างขาไป เช้าวันเดินทางมีบริการรับจากโรงแรมถึงท่าเรือบ้านบางเบ้า (ของเราจะนัด 8.15 น) และเย็นวันกลับก็เช่นกัน มีบริการส่งถึงที่พัก
3. ที่เกาะกูดเมื่อไปถึง จะมีรถมารอรับและไปส่งถึงที่พัก ขากลับก็เช่นกัน ขากลับนัดรถมารับตอน 11.45 น. (มาจริง 12.15 น.)
4. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง คนเรือบอกว่าบางทีก็ 4 ชั่วโมง ถ้าคลื่นลมแรง
5. ฤดูมรสุมจะงดเดินเรือ คนที่เค้าเตอร์ขายตั๋วบอกว่าเรือเมล์จะให้บริการช่วงเดือน พฤศจิกายนหรือธันวาคมของทุกปีไปจนถึงประมาณต้นเดือนพฤษภาคม วันที่แน่นอนให้สอบถามอีกครั้งเพราะต้องดูคลื่นลมประกอบด้วย
.

.
ที่เกาะกูด และพระอาทิตย์ตกน้ำ ยิ้ม
.
เราไปกับเพื่อนรวมทั้งหมด 5 คน พักที่เกาะกูดบีชรีสอร์ทจองผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่นี่เราเลือกพักบ้านหลังเดียวกันซึ่งประกอบด้วยเตียงใหญ่ 1 เตียง เตียงเล็ก 3 ฟุต 2 เตียง และขอเสริมเตียง 1 เตียง โรงแรมอยู่บริเวณบ้างคลองมาดซึ่งห่างจากท่าเรือน้ำลึกประมาณนั่งรถ 10 นาที ที่พักรวมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว มีบริการเครื่องดื่มและอาหารเย็น มีช่วง happy hour 17.00-18.00 น. นั่งชมพระอาทิตย์ตกน้ำครับ
.



.
ย่านคลองมาดครับ อยู่ในระยะที่เดินไปได้หรือไม่ก็พายเรือเลาะตามริมหาดไป แต่ต้องระวังเรือเร็วหน่อยเนื่องจากบริเวณนี้มีเรือเข้าออกบ่อย
.


.
เกาะกูด ... น้ำใส
.
จริงๆ แค่ที่หน้าโรงแรมและบริเวณคลองมาดที่เราเดินลัดเลาะไปได้ คำว่าน้ำใสก็คงไม่ต้องไปหาจากที่อื่นแล้ว ยอมรับว่าน้ำเขาใสจริง แต่ด้วยความเป็นเกาะกูดและน้ำใสที่ว่า การดำน้ำจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนที่มาเกาะกูดควรหาโอกาสทำ เราเลือกดำแบบน้ำตื้น (snorkeling) เนื่องจากมีอุปกรณ์ครบอยู่แล้ว และสิ่งที่เราเตรียมไปก็คือ 1. SUP board แบบเป่าลม 2. หน้ากากดำน้ำ 3. อาหารกลางวันและน้ำเล็กๆน้อยๆ 
.
นั่นแหล่ะครับ สำภาระกองโตก็มีเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่
.

.

.
ไปดำตรงไหน?
.
จากโรงแรมเราพาย SUP แบบนั่งพายไปครับเพราะคลื่นลมมีนิดหน่อย ไม่เรียบแบบที่จะสามารถยืนพายได้ ออกจากหาดเล็กๆ ของโรงแรมเลาะไปตามโขดหิน ซึ่งแค่บริเวณนี้ก็สัมผัสได้กับความใสของน้ำจนเห็นทรายใต้ท้องทะเลและปลาที่แหวกว่ายอยู่ และเราคิดว่าเราเห็นปะการังพอสมควรอยู่บริเวณนี้แล้ว วันแรกออกจากโรงแรมประมาณ 10 โมง เจอลมและคลื่นแรงแต่ก็ไปได้ถึง วันถัดมาจึงวางแผนใหม่ไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า ลมสงบและไม่มีคลื่นจากเรือสปีดโบ๊ทที่มักจะเข้ามาจอดย่านคลอดมาด
.
ระยะพายประมาณ 2 กิโลเมตร เวลาพายประมาณ 30 นาที (ในรูประยะ 3 กิโลเมตรกว่าๆ และระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากผมไม่ได้กดหยุดนาฬิกาทันทีที่ไปถึง แต่กดหยุดหลังจากผ่านไปนานพอสมควรแล้ว) 
.
เจอทั้งปลาเล็ก ปลาใหญ่ ปลาสีสวย ปลิงทะเล ปะการังสารพัดชนิด ถือว่าคุ้มค่า (รูปใต้น้ำได้จากการแคปมาจากคลิปจาก Go Pro ครับ) ตรงนี้จะมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง มีคนพักอาศัย เหมือนว่าแต่ก่อนเคยเป็นร้านอาหารไม่ก็ที่พัก เราพายเรืออยู่ในบริเวณทะเลเท่านั้น
.





.
อาจมีคำถามว่าถ้าไม่ได้นำเรือไปเอง จะสามารถไปตรงจุดนี้ได้หรือไม่? ... เราสามารถหาเช่าเรือคายัคจากบริเวณคลองมาดมาได้ และผมว่าบริเวณหาดยายกี๋ก็น่าจะมี 
.
มันมีทางเข้ามาจากถนนหลักแล้วเดินมาโดยไม่ต้องพายเรือหรือไม่? ... อันนี้เราก็คิดว่ามี เนื่องจากบริเวณที่ผมบอกว่าเป็นบ้าน 1 หลังกลางทะเลบริเวณนั้น มีทางเดินลัดป่าเข้ามาที่สวนมะพร้าวและชายหาดให้เห็น แต่ทางเดินสภาพเป็นอย่างไร อันนี้ไม่ทราบจริงๆ 
.
ป่าเขียว น้ำตก และคุณปู่มะค่าคุณตาต้นไทร
.
เรื่องบนบก เราพกสกู๊ตเตอร์ไป 1 คัน และเช่ามอเตอร์ไซค์จากทางโรงแรมซึ่งคิดค่าเช่าไม่ร่วมเชื้อเพลิง วันละ 250 บาท ไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรเพิ่มเติม เช่า 1 วันเท่ากับ 24 ชั่วโมง
.
1. น้ำตกคลองยายกี๋
ตรงนี้อยู่ห่างจากโรงแรมของเราประมาณ 2 กิโลเมตร ถนนเป็นคอนกรีตจนถึงน้ำตกเลย เดินลงน้ำตกประมาณ 5 นาที ทางชันมาก แต่ด้วยความที่เป็นฤดูแล้ง น้ำจึงแทบไม่มี เราวิ่งไปซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายตอนเช้า ส่วนเพื่อนใช้สกู๊ตเตอร์ ทางชันขึ้นลงเขาเอาเรื่องแต่รถมากกว่า 2 ล้อแทบไม่มี ส่วนใหญ่ที่วิ่งสวนทางหรือแซงเราไปเป็นมอเตอร์ไซค์ สุนัขเยอะแต่เจ้าของสุนัขส่วนใหญ่จะบอกว่า "หมาใจดี ไม่กัดหรอก" อ้อ ที่น้ำตกสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมได้โดยไม่ต้องซื้อบัตรครับ
.



.
2. น้ำตกห้วงน้ำเขียว
จะว่าไปก็เป็นความบังเอิญก็ไม่ผิดนัก ระหว่างที่เราขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าเพื่อหาคาเฟ่สักแห่งเพื่อจิบกาแฟมื้อบ่ายสักแก้ว เราก็เห็นป้ายแนะนำเส้นทางริมถนนที่จัดทำโดยทางราชการ ... ใช่ครับ เราไม่ได้เปิด GPS เพื่อนำทาง เราตามป้ายบอกทางไป ... ป้ายนั้นแจ้งเส้นทางเพื่อมุ่งหน้าไปยัง "ต้นมะค่าใหญ่ กับต้นไทรยักษ์" แต่นั่นคือเส้นทางเดียวกันกับน้ำตกห้วงน้ำเขียวแห่งนี้
.
เส้นทางส่วนใหญ่เทคอนกรีตหมดแล้วจะมีแค่ประมาณ 1.5 กิโลเมตรก่อนถึงตัวน้ำตกเท่านั้นเองที่ยังเป็นทางลูกรังสีแดงอยู่ ขี่มอเตอร์ไซค์ต้องใช้ความระมัดระวังมากเพราะนอกจากทางจะเป็นลูกรังสีแดงแล้ว ยังขึ้นและลงเขาเป็นระยะๆ ตรงนี้ผมไม่มีแผนที่ GPS ให้ดูเพราะเราขี่ตามป้ายไม่ได้เปิด GPS หรือระบบน้ำทางใด
.



.
3. คุณปู่มะค่าคุณตาต้นไทร
ต้นไม้ขนาดใหญ่มาก อายุคงหลายร้อยปี ถูกนำเสนอจากทางราชการให้เป็นจุดท่องเที่ยวโดดเด่นของเกาะกูด 
.



.
ได้แวะไปหมู่บ้านชาวประมงบ้านอ่าวสลัด ซึ่งเป็นจุดจอดเรือเฟอรี่และเรือขนส่งสินค้าจากจังหวัดตราดแต่ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจากย่านโรงแรมที่เราพักไกลพอควร ได้แวะคาเฟ่อยู่ 2 ที่ 1. Little 9 Cafe ที่นี่แมวเยอะดี อาจเหมาะสำหรับทาสแมวแต่ไม่มีวิวทะเลให้ชม และ 2. Seafar Resort (เป็นร้านกาแฟในรีสอร์ท) อยู่ริมทะเลคาเฟ่มีห้องแอร์ ซึ่งทั้งสองอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ถนนมุ่งหน้าสู่อ่าวตะเภา ทางแยกแถวๆ หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะกูด
.
หมู่บ้านชาวประมงบ้างอ่าวสลัด

.
Little 9

.
Seafar

.
ทริปนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ตามรอยใคร แค่ตามใจเรากับป้ายบอกทางครับ นานๆ จะเที่ยวแบบ Y2K บ้างก็สนุกเหมือนกัน
.
----------------ปิดทริป-------------------------
.
คุณหมูยอ
เดินทาง 22-24 มีนาคม 2566
บันทึก 30-31 มีนาคม 2566
.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่