สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ มาเที่ยวระนองกันเถอะ (มาอีกแล้ว) จากคราวที่แล้วเราข้ามเรือไปเที่ยวเล่นเกาะพยามมา ก็สวยงามตามาก

แต่ในทริปนี้เรามาระนองเพื่อที่จะข้ามเรือไปดำน้ำกันที่เกาะเปิดใหม่ของพม่า "เกาะช้างเผือก" กันค่ะ

เราเดินทางกันเมื่อวันที่ 29 กพ. - 3 มีค. 61 โดยรถทัวร์นะคะ

สถานที่เที่ยวของเราสำหรับทริปนี้ จะเป็นการไปเที่ยวในตัวระนองก่อน แล้วค่อยไปข้ามไปดำน้ำที่เกาะพม่ากัน

ไปไหนบ้าง...ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ

เราเดินทางจากสายใต้ด้วยรถทัวร์ของสมบัติทัวร์ค่ะ คนละ 627 บาท 1 ตื่นถึงเหมือนเดิมค่ะ เรามาระนองเป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ

มาถึงเราก็ลากกระเป๋ามาหาอะไรทานกันที่ตลาดตอนเช้า (ตลาดศาลเจ้าไหหลำหรือตลาดพม่า) เดินเล่นกินหนมกินกาแฟกันไปค่ะ

วันแรกนี้..เราจะเที่ยวเล่นกันที่ระนองก่อนและจะใช้รถสาธารณะในการเดินทางเป็นหลัก เพราะเราหารถเช่าไม่ได้

ซึ่งเราจะนั่งรถสองแถวจากตลาดพม่าไปวัดหาดส้มแป้นค่ะ เป็นรถสีแดง ค่าโดยสารคนละ 20 บาท

และมีหลายเส้นทางให้ดูป้ายจากรถสองแถวที่เค้าเขียนไว้ หรือสีรถหรือจะสอบถามเค้าก็ได้นะคะ

และเค้าก็มีบริการเหมารถเพื่อเที่ยวชมเมืองโดยรอบด้วยเหมือนกันค่ะ

วัดหาดส้มแป้นนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองระนองมาประมาณ 7 กิโลเมตร สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือมีฝูงปลาพลวงขนาดใหญ่มากมายเต็มไปหมด

ซึ่งชาวบ้านเค้าจะไม่จับปลาชนิดนี้เพราะเค้าถือว่าเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

จากวัดหาดส้มแป้นไม่ไกลนัก มีอีกหนึ่งที่เที่ยวชื่อว่า ระนองแคนยอน เป็นแหล่งน้ำที่เต็มไปด้วยปลามากมายหลายชนิด เป็นจุดชมวิวและสถานที่พักผ่อน

ถึงจะไม่ไกลแต่เราก็เดินไม่ไหวค่ะ ก็เลยเช่ารถสองแถวนี่แหละค่ะ เหมาๆ เที่ยวบริเวณรอบแถบนี้ละให้มาส่งที่ตลาดพม่าด้วย (300 บาท)

ลุงที่ขับรถสองแถวนี้ใจดีมาก แนะนำและพาเรามาเที่ยวต่อที่อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้นด้วยค่ะ ทำหน้าที่ไกด์อธิบายความด้วย น่ารักมากๆ

"อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้นนี้ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางแห่งแรกของระนอง มีประโยชน์ต่อชาวบ้านมากๆ ทั้งทางด้านอุปโภคบริโภค

การเกษตร ประมงน้ำจืด อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว รวมถึงบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งอีกด้วย"

เรามาตั้งต้นกันที่ตลาดพม่าเหมือนเดิม และเปลี่ยนเส้นทางไปอีกฝั่งนึง

โดยเราจะเปลี่ยนมาขึ้นรถสองแถวสีฟ้า หน้ารถจะเขียน "กะเปอร์" คือเค้าจะวิ่งไปยังอำเภอกะเปอร์ค่ะ ระยะทางประมาณ 55 กิโล จากตลาด

ซึ่ง "บ้านไร่ไออรุณ" อยู่ในอำเภอกะเปอร์ค่ะ เราไม่ได้พักที่นี่นะคะ แต่เราจะไปทานกลางวันและเที่ยวเล่นที่นี่กันค่ะ

ค่าโดยสารคนละ 60 บาท ใช้เวลาเกือบชั่วโมงได้ นอนไปชอมวิวไปค่ะ

บ้านไร่ไออรุณ เค้าเป็นฟาร์มสเตย์ค่ะ ใกล้กับอุทยานแห่งชาติแหลมสน แบ่งเป็น 2 โซน คือโซนร้านขายสินค้าการเกษตร ครัว และสวนอาหารกลางแปลงผัก สามารถไปถ่ายรูปเล่นได้ สั่งอาหารเครื่องดื่มมาทานได้ ส่วนอีกโซนจะเป็นที่พัก สงวนสิทธิ์สำหรับแขกที่มาพักเท่านั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว

ด้วยความที่เจ้าของเป็นสถาปนิกการออกแบบมีความโดดเด่นเฉพาะตัว กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และไม่ได้มีจำนวนมาก

จึงอาจจะจองยากสักหน่อย ถ้าใครจะมาพักมาเที่ยวก็คงต้องจองล่วงหน้าหน่อยนะคะ

เราใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่งโมง ก็ถึงบ้านไร่ไออรุณ วันที่เรามาคนไม่เยอะมากนะคะ แต่ก็มีคนทยอยมากันเรื่อยๆ เราก็สั่งอาหารทาน

และถ่ายรูปชมบรรยากาศรอบๆ ระหว่างรออาหารค่ะ อาหารที่นี่เยอะแยะมากมาย เช่น ใบเหลียงผัดไข่ แกงเหลือง ขนมจีน

มีอาหารว่างของทานเล่น และก็มีเครื่องดื่มด้วยค่ะ ถ้าใครไม่ได้มาพักจะแวะมาทานอาหารก็ได้เหมือนกันค่ะ

ผ่อนคลายกับที่พักเก๋ไก๋ไปแล้ว ก็ต้องเดินทางกลับที่พักเพื่อไปเช็คอิน คุณเบสเจ้าของที่พักน่ารักมากจะมาส่งพวกเราโดยมีคุณพ่ออาสาขับไปให้

แต่เราเรียกมอเตอร์ไซด์จากหน้าตลาดกะเปอร์ให้มารับที่หน้าบ้านไรไออรุณเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงยิ้มโบกมือลาด้วยความขอบคุณ

เรากลับมาเช็คอินที่โรงแรม Tinidee ที่เราได้จองเอาไว้ ห่างจากตลาดพม่าเพียง 2.7 กิโล เราเลือกที่นี่เพราะสะดวกและใกล้หลายอย่าง

ใกล้ท่ารถบัสของสมบัติทัวร์ ซึ่งตอนที่เรามาถึงเมื่อเช้า เราจึงเอากระเป๋ามาฝากไว้กับโรงแรมก่อน แล้วค่อยออกมาเที่ยวเล่น

นอกจากนี้ที่นี่เค้าก็ยังมีอ่างจากุดชี่หรือบ่อน้ำแร่ที่เค้าต่อมาจากบ่อน้ำแร่รักษะวารินด้วยนะ สามารถแช่ที่โรงแรมได้เลย

หรือถ้าอยากไปรักษะวารินทางโรงแรมก็มีบริการไปรับไปส่ง แต่จะมีเป็นรอบๆ ต้องเช็คตารางรถจากทางโรงแรมอีกทีค่ะ

มาถึงเวลาอาหารเย็นกันบ้าง ที่โรงแรมเค้าก็มีร้านอาหารด้วยนะ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกับร้านสุกี้

สามารถขอส่วนลดอาหารจากเค้าท์เตอร์โรงแรมได้เลยค่ะ

สวัสดียามเช้า...วันนี้จะเป็นเป้าประสงค์หลักของทริปนี้ค่ะ เพราะเราจะไปดำน้ำกันที่เกาะช้างเผือก เป็นเกาะเปิดใหม่ของพม่า

โดยเราได้ซื้อวันเดย์ทริปกับเลิฟอันดามัน เป็นโปรที่จองไว้จากงานท่องเที่ยว (คนละ 2,999 บาท)

มีบริการรับ-ส่งจากที่พักโดยรถตู้บริการทำเรื่องที่ท่าเรือ มีอาหาร และกิจกรรมดำน้ำ สะดวกสบายราคารับได้ค่ะ

ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยก็เตรียมตัวออกเดินทางกันได้เลยค่ะ

รายละเอียด One Day Trip Cock Burn Islands ของเลิฟอันดามัน ตามด้านล่างนี้นะคะ

เรานั่งรถตู้จากโรงแรมมายังท่าเรือ เพื่อออกเดินทางไปท่าเรือเกาะสอง (พม่า) และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ลงเรือ และออกเดินทางไปเกาะช้างเผือก

ระหว่างทาง เลิฟอันดามันก็อธิบายวิธีการดำน้ำเบื้องต้นพร้อมแจกอุปกรณ์ และจะพาเราไปจุดดำน้ำตื้น 2 จุด

คือ "Miky Way" หรือทางช้างเผือก และ "ปากคลองตลาด" ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สอง

เราใช้เวลาจากเกาะสองไปจุดดำน้ำที่ 1 ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ระหว่างทางมีฝูงปลาโลมาว่ายเทียบเคียงเรือมาเป็นระยะ แสดงการต้อนรับทักทาย

จุดดำน้ำที่ 1 ชื่อ "Miky Way" หรือทางช้างเผือก เป็นศูนย์รวมอาณาจักรปะการังที่มีแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร

สามารถพบเห็นปลาการ์ตูนได้มากถึง 5 สายพันธุ์ มีดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่ ปพการังเขากวางที่แน่นและสมบูรณ์ สวยงามมากๆ ค่ะ

ดำน้ำเสร็จไกด์ก็พาเราไปชมความงามของทะเลแหวก เป็นอีกจุดที่ทุกคนต้องลงมาถ่ายภาพ

และสามารถปีนเขาเพื่อไปชมวิวจากด้านบนได้ด้วย สวยแบบพาโนรามาเลยค่ะ

ถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินได้สักพัก ก็ต้องรีบขึ้นเรือไปทานกลางวันละจ๊ะ **หม่อมแม่ดิฉันสนุกมากค่ะ**

ไกด์คนสวย "น้องสเตย์" พาเรามาทานอาหารเที่ยงบนเกาะที่จัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม ทั้งข้าวเหนียว ส้มตำ ซีฟู๊ดปิ้งย่างหลากหลายค่ะ

กินเสร็จก่อนได้เล่นน้ำถ่ายรูปเล่นค่ะ เค้าให้เวลาพักผ่อนพอสมควร จากนั้นก็ไปดำน้ำกันในจุดที่ 2 ที่มีชื่อว่า "ปากคลองตลาด"

ซึ่งที่นี่มีทุ่งปะการังคล้ายสวนกุหลาบสีน้ำตาล มีปะการังเกร็ดน้ำแข็ง เขากวาง ปะการังโต๊ะ และอื่นๆ

โดยรวมเกาะช้างเผือกนี้มีความสวยงามและเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ ปลาการ์ตูนก็เจอง่ายมากด้วย

ดำน้ำเสร็จไกด์เราก็พร้อมเสิร์ฟผลไม้บนเรือก่อนที่จะส่งเรากลับไปยังโรงแรมด้วยรอยยิ้มเริงร่าของนาง วันเดย์ทริปนี้สนุกมากจริงๆ

ก่อนนอนคืนนี้คงต้องกลับไปฝากท้องกับร้านสุกี้ที่โรงแรมพร้อมแช่น้ำแร่อุ่นๆ ให้สบายกายค่ะ

วันสุดท้ายแล้ว วันนี้เราจะไม่อัดกิจกรรมอะไรมากละ คงจะต้องชิลล์ ตื่นสายบ้างไรบ้าง

จากนั้นก็ไปเที่ยวเล่นบ่อน้ำพุร้อนรักษะวารินกันอีกสักครั้ง ก็ทางโรงแรมเค้ามีบริการรับส่งฟรีนิ ใช้บริการเค้าสักหน่อย

และเราจะไปทานกลางวันกันที่ร้านคุ้นลิ้นด้วย ร้านนี้น่าจะไม่ต้องอธิบายมากนะคะ คงเป็นที่รู้จักกันพอสมควร อาหารรสชาติดีค่ะ

ก่อนเดินทางกลับ (โดยรถทัวร์ตามเดิม) ก็เดินเล่นแถว ๆ ตลาดพม่าอีกครั้ง เค้ามีตลาดเย็นให้เดินเล่นกันวันเสาร์ด้วย 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม

อาหารพื้นถิ่น ของกินเล่น งานอาร์ต ร้านกาแฟเก๋ไก๋ ปิดทริปนี้ด้วยการเดินเล่นช๊อป ชิม ชิลล์ เพื่อรอเวลาเดินทางกลับค่ะ

..ขอบคุณที่ติดตามนะคะ..

คราวหน้า "Patcha-ผัดฉ่า" จะพาไปเที่ยวไหนอีก ต้องคอยติดตามนะคะ

จะพยายามมาแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวบ่อยๆ ค่ะ