ทำวีซ่าท่องเที่ยว เชงเก้น TLS contact ฝรั่งเศส ด้วยตัวเอง อัพเดท 12 เมษายน 2561

อันนี้เป็นประสบการณ์เราเอง เผื่อใครมีข้อสงสัย อ่านจากเว็บแล้วไม่มั่นใจ ถามเพื่อนแล้วได้หลายๆคำตอบ มาช่วยตอบอีกเสียงค่ะ ^^

เอกสารที่เตรียม
อันนี้เป็นอันที่เราเตรียมไปตามจริง เราไปทั้งหมด 9 คน แต่ยื่นคนละวันกัน สำหรับรอบที่เราไปยื่นวีซ่านี้เราไปยื่นกับสามี 2 คนค่ะ
แต่สำหรับคนที่มีเด็กเดินทางด้วย/เจ้าของกิจการ/คนที่เกษียณแล้ว ลองอ่านรายละเอียดจากเว็บเอานะคะ เอกสารจะต่างกันค่ะ

1. Application ใบสมัคร  กรอกได้จาก https://fr.tlscontact.com/th/BKK/index.php
    ขั้นตอนการกรอก
     1. สมัคร log in
     2. กรอกใบสมัคร (ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ กรอกง่ายไม่ยากเลย ^^) ไม่ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมใดๆค่ะ กรอกอย่างเดียวก่อน  เอกสารค่อยไปยื่นวันที่เราไป TLS ทีเดียว

พอดีเรามีกรณีพิพาทกับบริษัททัวร์อยู่ ทำให้เราไม่สามารถ submit application ได้เพราะว่าทัวรืได้ submitted ไปแล้ว (นัดวันอื่น) แล้วทัวร์แจ้งว่าไม่สามารถลบออกให้ได้ เราเลยลองกรอกเลขพาสปอร์ตเกินไป 1 ตัว ปรากฎว่า submit ได้ค่ะ แล้วพอ print เอกสารมาค่อยขีดฆ่าตัวที่เกินออก  เล่าสู่กันฟังเผื่อใครเจอกรณีแบบเราค่ะ ^^"

2. รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป เห็นหัวโต เห็นหูชัด คอและบ่านิดหน่อย ไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่ใส่คอนแทคสีหรือบิ๊กอาย
ถ้าจะถ่ายเองแล้วไปอัด 4P ก็ได้ ใบละ 5 บาทเอง  หรือไปถ่ายที่ TLS Contact 250บาท จะได้มา 4 รูป  ต้องมีเงินพอดี เป็นเครื่องอัตโนมัติไม่มีทอน

3. แผนรวมทริป อันนี้เค้าไม่ได้ขอ แต่เราทำไป  คือทำไว้ใช้เองด้วยแหล่ะ แบบว่าเพื่อนร่วมทริปคนอื่นจะได้ทราบว่าเราจะไปไหนทำอะไรกันบ้าง  ก็ทำใส่ excel ง่ายๆค่ะ มีรายละเอียดดังนี้
       1. วันที่
       2. การเดินทาง  เช่น รถไฟประมาณเวลาไหนบ้าง (เผื่อๆไว้ก่อนเผื่อไหลเผื่อชิวเลยดูเวลาไว้ 2-3 เที่ยวรถ/ ช่วงไหนเช่ารถขับ/ ช่วงไหนอยู่ยาวหลายวันใช้ Metro หรือ bus ไรงิ)
       3. เมือง
       4. กิจกรรมที่เราจะทำ
       5. โรงแรมที่เราจะนอน  อันไหนที่จองเป็น apartment  มีซักผ้ากับทำกับข้าวได้เราก็แอบดอกจันทร์ไว้ จะได้รู้ว่านี่เป็นวันที่เราจะได้ซักผ้าค่าาาา

4. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ต้องออกเดินทางจากไทยและกลับมาไทยเท่านั้น หากมีแวะพักเที่ยวที่อื่นระหว่างทางและเป็นประเทศที่ต้องมีวีซ่า เค้าบอกว่าให้ไปขอที่อื่นก่อนมาขอเค้า  แต่เราไปฝรั่งเศสอย่างเดียว ก็ตรงมาที่นี่เลยค่ะ

5. ใบจองโรงแรม - ต้องมีชื่อผู้เข้าพักทุกคน  เจ้าหน้าที่จะ highlight ชื่อเวลาตรวจเอกสารเลยทีเดียว  ของเราจอง booking.com ไม่มีปัญหาใส่ชื่อได้เลย
แต่มีจองปราสาทกับเว็บอื่นซึ่งระบบให้กรอกชื่อผู้เข้าพักพร้อมอีเมล์ (แต่ลุงๆป้าๆที่ไปด้วยไม่มีอีเมล์ จึงไม่สามารถ save ชื่อลงระบบได้)
จึงมีแค่อีเมล์คอนเฟิร์ม ไม่มีชื่อผู้เข้าพัก (มีแต่ชื่อเราที่เป็นคนจอง 555)  ตอนเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของสามีเค้าก็เปรยนิดนึงว่าไม่มีชื่อเนอะ แต่ไม่เป็นไรส่งไปก่อน ถ้าไม่ได้อย่างไรสถานทูตเค้าจะขอเอกสารเพิ่มเติมเอง แต่ตอนเค้าตรวจเอกสารเรามีชื่อเรา เค้าก็ทำการ highlight ให้ค่ะ ยิ้ม

6. หนังสือรับรองการทำงาน - รายละเอียด: ชื่อ-นามสกุล/ตำแหน่ง/วันที่เริ่มงาน/เงินเดือน/วันที่จะหยุด/วันที่จะกลับมาทำงาน/ประเทศที่จะไป/ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย (ทำนองว่า บริษัทออกตัวว่าเค้าไป vacation เอง ก็จ่ายเงินเองจ้า)


ตัวอย่าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



7. สลิปเงินเดือน - ของเราไม่มีเลยไม่ได้เอาไป  ของสามีมีก็ photocopy ไปค่ะ

8. หลักฐานการเงิน - อันนี้เห็นทุ่มเถียงกันมาก ขอแยกเป็นประเด็นดังนี้
       กรณีของเรา
            - เราไปขอ statement ย้อนหลัง 6 เดือนจากธนาคารค่ะ  จริงๆเค้าเอาแค่ 3 เดือน  แต่เราอยากเปรี้ยวเอง 555+
            - ลูกค้า First/ Wisdom สามารถขอเวฟค่าธรรมเนียม 100 บาทได้
            - เอกสารที่ใช้ขอ statement คือ บัตรประชาชน และ bookbank เพื่อยืนยันลายเซ็น
**อันนี้ขอได้รับความสับสนนิดนึง คือตอนแรกไปขอแบงค์เขียว เค้าบอกว่าจะขอ statement เล่มไหน ต้องเอาเล่มจริงมาด้วย ซึ่งสมุดบัญชีที่เงินเราเข้าออกบ่อยๆนั้น....ได้หายไปแล้วที่ไหนสักแห่งในบ้านนี่หล่ะ 5555 (แต่ไม่เคยแคร์เพราะเราเป็นสังคมไร้เงินสดนิเนาะ)
ปรากฎเจ้าหน้าที่ไม่ออก statement ให้นะคะ อ้อนวอนหาทางพิสูจน์ตัวตนทางอื่นอย่างไรเค้าก็บอกว่าออกได้แค่อันที่เรามีเล่มจริงมา แต่เล่มนั้นไม่ค่อยมีเงินเคลื่อนไหวไง ก็เลยจ๋อยๆ เดินไปแบงค์ม่วง...

แอบเม้าท์เพิ่ม คือเราลืมถ่ายหน้าพาสปอร์ตเก่าเล่มนึง เลยถาม พนง. ว่าแถวนี้มีร้านถ่ายเอกสารไหม เค้าเลยเอาไปถ่ายให้ น่ารักที่สุดเลย ^^


ต่อๆ ก็ทำแบบเดียวกันกับแบงค์ม่วงค่ะ ขอ statement เช่นกัน  ก็ใช้บัตรประชาชน+เล่มบัญชีที่จะขอ statement เหมือนกัน (แต่ไม่ได้ถามว่าขอเล่มอื่นๆได้ไหม ^^)

แอบเม้าท์เพิ่ม คือตอนแบงค์เขียวถ่ายเอกสารให้อ่ะ ก็ยังตกหล่นไปอีกหน้า ทีแรกก็จะกลับไปให้เค้าถ่ายให้อีกที แต่สามีบอกว่าเราลองทำ AB Test กันไหม ว่าถ้าเราเปรยแบบเดียวกันแล้วแบงค์ม่วงจะทำให้มั้ย
ปรากฏว่าก็ทำให้นะคะ  ก็ขอขอบคุณและชื่นชมในบริการและน้ำใจที่ทำให้ค่ะ ^^

แต่! มีความแปลกใจตรงพอเรากลับมาแบงค์เขียวอีกรอบเพื่อขอ statement เพิ่ม (คือมีความนอยด์กลัวว่าการเงินจะไม่แน่นพอเพราะเงินน้อยมากกก) ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่อีกท่านถามว่าเอาบัญชีไหนบ้าง และสามารถออก statement บัญชีที่เราไม่มีเล่มจริงได้ดั๊วะ!!
ตกลงความจริงคือยังไงก็ไม่มั่นใจนะ แต่ตรรกะส่วนตัวคิดว่า ถ้าเรามีมาเล่มเดียวเพื่อพิสูจน์ลายเซ็นแล้ว และมีบัตรประชาชนแล้ว ระบบเค้าก็เห็นอยู่แล้วนิว่าเรามีบัญชีเล่มไหนบ้าง จะออกเล่มไหนก็ไม่น่ามีปัญหานะ ไม่เกี่ยวกับว่าเราถือเล่มมาหรือไม่  แต่ก็นั่นหล่ะค่ะ เราเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไม A ไม่ให้ แต่ B ให้  และอะไรคือสิ่งที่ถูกกันแน่ ^^"


   กรณีอื่นๆที่อ่านมา
        - เอาเล่มจริงไปอัพเดท แล้ว photocopy ของสมุดบัญชีทุกหน้าแล้วให้ธนาคารประทับตรา+เซ็นให้  อันนี้ได้ยินมาว่าฟรี แต่ปัญหาคือทุกวันนี้เราไม่อัพสมุดกันใช่ม่ะ แล้วพอย้อนหลังหลายๆเดือนเนี่ยรายการมันก็จะรวบรายการเหลือบรรทัดเดียว ซึ่งมันก็ผิดจุดประสงค์สถานทูตที่อยากเห็นเงินเราหมุนเวียนเป็นประจำ ผ่าง!
        - สมุดบัญชีที่จะใช้ photocopy ได้นั้นต้องมีเลขเล่มทุกหน้า บางธนาคารไม่มีเลขเล่มนะคะ เช่น แบงค์ม่วง  ดังนั้นจะใช้วิธี photocopy ไม่ได้ ผ่าง!
        - ขอ statement online ผ่าน K PLUS หรือ SCB แล้วมาปริ้นท์เองแล้วไปให้ธนาคารประทับ คิดว่าใช้ไม่ได้  เพราะเลขบัญชีแสดงไม่ครบทุกตัว ผ่าง!
        - หนังสือรับรองการเงิน สาขาจะออกได้เป็นทีละบัญชีเท่านั้น (เค้าว่าอย่างงี้นะ) และออกได้แค่ออมทรัพย์กับฝากประจำ ดังนั้นใครที่มีเงินในกองทุน/LTF หรือใดๆก็ตาม ต้องให้สำนักงานใหญ่ออกนะคะ เผื่อเวลาไว้ด้วย   แต่เราไม่ได้ยื่นค่ะ

สรุปว่า ไทยแลนด์ 4.0 ใช้ไม่ได้กับการเตรียมเอกสารการเงินเพื่อขอวีซ่าค่ะ ^^


9. photocopy หน้าพาสปอร์ตเล่มเก่า + หน้าที่มีวีซ่าเชงเก้นและตราประทับจาก ตม. ของประเทศเชงเก้นเก่าทุกหน้า  ในเว็บแจ้งอย่างนี้ แต่ดูเหมือนว่าเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร จะสนใจเฉพาะวีซ่าเชงเก้นที่ไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น  แต่เค้าก็รับเอกสารเราไปหมดนะคะ


10. ทะเบียนสมรส อันนี้ถ้าแต่งงานแล้วอย่าลืมเอาไป (มโนว่า) ผู้หญิงโสดและสวยเดินทางมักจะลำบาก แบบว่าเค้ากลัวเราจะไปแข่งสวยกับผู้หญิงเค้างิ!!

11. ทะเบียนบ้าน อันนี้เค้าไม่ได้ระบุว่าต้องเอาไป แต่อยากแสดง ^^  คือเข้าใจว่าเราแสดงอะไรก็ได้ว่าเราผูกพันธ์กับประเทศไทย เราไม่หนีไปอยู่ประเทศคุณแน่นอนนนนนน  (พอดีเรามีทะเบียนบ้านที่เราเป็นเจ้าบ้านหน่ะค่ะก็เลยแนบไป แต่ถ้าไม่มีก็ข้ามได้ค่ะ)


12. ใบจองรถขับ อันนี้เค้าก็ไม่ได้ขอ แต่อยากแสดง 5555  ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เกียมกัวฟิตกว่านี้เราก็แนบใบขับขี่สากลไปด้วย แต่นี่พอดีเกียมกัวน้อยไปหน่อยเลยยังไม่ได้ไปทำ

13. ประกันเดินทาง ครอบคลุมวันเดินทางตั้งแต่ไปจนกลับ วงเงินคุ้มครอง 1.5ล้านบาทขึ้นไป (อยากซื้อมากกว่านี้ก็ได้ตามสะดวกค่ะ)


ทุกอย่างปริ้นไปอย่างละชุดค่ะ  ไปสองคนมีสองชุด   ตอนตรวจเอกสารเสร็จเค้าใส่ซองแยกกันนะคะ



การนัดวัน

-  พอเรากรอกเอกสารใบสมัครเสร็จ เค้าจะให้เราเลือกวัน + เวลาที่สะดวก
เรากรอกเอกสารเสร็จ 7 เมย.  คิวเร็วสุดที่เราได้คือ 12 เมย. (ประมาณ 1 สัปดาห์)  เมื่อวาน (11 เมย) เพื่อนร่วมคณะพึ่งกรอกเสร็จ กว่าจะได้ยื่นคือ 26 เมย.
ดังนั้น เผื่อเวลาไปอีก 7-14 วันนะคะกว่าจะได้คิว

- ระยะเวลาในการออกวีซ่าและรับเล่มคืน เค้าแจ้งว่า 15 วันทำการ (21 วันนับตามปฏิทิน) ก็เผื่อเวลากันด้วยจ้าาา
ถ้าเล่มเสร็จจะมี sms แจ้งจา ^^

หมายเหตุ แอบคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้ยัง 15 วันทำการมั้ย เค้าบอกว่าใช่เพราะติดวันหยุดอีกด้วยหนา เลยถามว่าถ้าเราต้องใช้พาสปอร์ตด่วนมีวิธีไหนบ้าง (แอบถามเป็นความรู้เนาะ)
ได้ความว่า ถ้าด่วนให้บอกเค้า เอาหลักฐานแนบมาด้วยนะว่าจะมีไปทริปไหนต่อ เช่นตั่วเครื่องบินทริปต่อไป แล้วเค้าจะเอาเอกสารเราใส่ซองอีกสีนึงให้ เป็นสัญญาณให้สถานทูตทราบว่า ด่วนค่ะ!
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เสียเงินเพิ่ม แต่เราไม่มั่นใจนะคะเพราะอย่างของอังกฤษคือถ้าเอาด่วนต้องจ่ายเงินเพิ่ม ลองหาข้อมูลดูนะคะ ^^



วันจริง
- เราได้คิว 10.00 ค่ะ เนื่องจากวันนี้รถไม่ติดเลยไปถึงเร็ว แบบ 9.30 ก็ถึงแล้ว ก็สามารถเข้าไปได้เลยค่ะ  
- ฝากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ทุกอย่างก่อนเข้านะคะ
- พนักงานด้านหน้าจะขอใบนัด (ไม่ได้เอาไป) เค้าเลยขอเล่มพาสปอร์ตใครก็ได้  กดๆๆคอมเช็คคิวมั้งคะ แล้วให้เราไปนั่งรอเรียกชื่อ
- 9.50 เรียกเข้าช่องเพื่อตรวจเอกสาร (10 นาทีก่อนเวลานัด ^^)
- พนักงานตรวจเอกสารสามีก่อน  ก็มี highlight ชื่อเราตามจุดต่างๆ  (ถ้า highlight เองมาจากบ้านก็น่าจะได้ค่ะ จะได้เร็วขึ้น)
- พนักงานตรวจเอกสารเรา เร็วกว่าตอนตรวจของสามีมากกกกก 555555+  สงสัยเพราะรู้ว่าไปด้วยกัน เอกสารเหมือนกัน ก็ไม่ต้องเพ่งพิศเยอะ
- เนื่องจากมีเชงเก้นเมื่อ 3 ปีก่อน เค้าเลยถามว่าจะเก็บลายนิ้วมือมั้ย จะเก็บก็ได้หรือไม่เก็บก็ได้ เราเลยบอกว่า ไม่ค่ะ  (แล้วพูดต่อเบาๆว่า จะถูกลงมั้ย 55555)
- จ่ายเงิน 6872 บาท เอาไปพอดี ไม่มีทอนค่ะ (ราคานี้สำหรับ 2 คน)

ออกมาจาก TLS แล้วพบว่า 10.10 โมงเอง เร็วมากกกกกกก น่าจะเป็นเพราะข้ามไปอีกหนึ่งขั้นตอนด้วยค่ะ ยิ้ม


เป็นการทำวีซ่าที่เร็วค่ะ และไม่ค่อยมีคำถามมากเท่าไหร่
ไม่เหมือนตอนไปขอที่สถานทูตเยอรมัน อันนั้นสัมภาษณ์ราวกับสัมภาษณ์งาน ให้บอกเลยด้วยว่าไปเที่ยวไหนบ้าง เมืองไหน จะไปดูอะไร ฯลฯ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะสถานทูตเข้ม/ เจ้าหน้าที่เข้ม หรือเพราะตอนนั้นเราไปเที่ยวยาวแบบ 3 เดือนกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ
แต่คราวนี้แทบไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับทริปเลย

ไว้ได้เล่มเมื่อไหร่จะมาอัพเดทค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่