อันนี้เป็นประสบการณ์เราเอง เผื่อใครมีข้อสงสัย อ่านจากเว็บแล้วไม่มั่นใจ ถามเพื่อนแล้วได้หลายๆคำตอบ มาช่วยตอบอีกเสียงค่ะ ^^
เอกสารที่เตรียม
อันนี้เป็นอันที่เราเตรียมไปตามจริง เราไปทั้งหมด 9 คน แต่ยื่นคนละวันกัน สำหรับรอบที่เราไปยื่นวีซ่านี้เราไปยื่นกับสามี 2 คนค่ะ
แต่สำหรับคนที่มีเด็กเดินทางด้วย/เจ้าของกิจการ/คนที่เกษียณแล้ว ลองอ่านรายละเอียดจากเว็บเอานะคะ เอกสารจะต่างกันค่ะ
1. Application ใบสมัคร กรอกได้จาก
https://fr.tlscontact.com/th/BKK/index.php
ขั้นตอนการกรอก
1. สมัคร log in
2. กรอกใบสมัคร (ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ กรอกง่ายไม่ยากเลย ^^) ไม่ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมใดๆค่ะ กรอกอย่างเดียวก่อน เอกสารค่อยไปยื่นวันที่เราไป TLS ทีเดียว
พอดีเรามีกรณีพิพาทกับบริษัททัวร์อยู่ ทำให้เราไม่สามารถ submit application ได้เพราะว่าทัวรืได้ submitted ไปแล้ว (นัดวันอื่น) แล้วทัวร์แจ้งว่าไม่สามารถลบออกให้ได้ เราเลยลองกรอกเลขพาสปอร์ตเกินไป 1 ตัว ปรากฎว่า submit ได้ค่ะ แล้วพอ print เอกสารมาค่อยขีดฆ่าตัวที่เกินออก เล่าสู่กันฟังเผื่อใครเจอกรณีแบบเราค่ะ ^^"
2. รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป เห็นหัวโต เห็นหูชัด คอและบ่านิดหน่อย ไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่ใส่คอนแทคสีหรือบิ๊กอาย
ถ้าจะถ่ายเองแล้วไปอัด 4P ก็ได้ ใบละ 5 บาทเอง หรือไปถ่ายที่ TLS Contact 250บาท จะได้มา 4 รูป ต้องมีเงินพอดี เป็นเครื่องอัตโนมัติไม่มีทอน
3. แผนรวมทริป อันนี้เค้าไม่ได้ขอ แต่เราทำไป คือทำไว้ใช้เองด้วยแหล่ะ แบบว่าเพื่อนร่วมทริปคนอื่นจะได้ทราบว่าเราจะไปไหนทำอะไรกันบ้าง ก็ทำใส่ excel ง่ายๆค่ะ มีรายละเอียดดังนี้
1. วันที่
2. การเดินทาง เช่น รถไฟประมาณเวลาไหนบ้าง (เผื่อๆไว้ก่อนเผื่อไหลเผื่อชิวเลยดูเวลาไว้ 2-3 เที่ยวรถ/ ช่วงไหนเช่ารถขับ/ ช่วงไหนอยู่ยาวหลายวันใช้ Metro หรือ bus ไรงิ)
3. เมือง
4. กิจกรรมที่เราจะทำ
5. โรงแรมที่เราจะนอน อันไหนที่จองเป็น apartment มีซักผ้ากับทำกับข้าวได้เราก็แอบดอกจันทร์ไว้ จะได้รู้ว่านี่เป็นวันที่เราจะได้ซักผ้าค่าาาา
4. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ต้องออกเดินทางจากไทยและกลับมาไทยเท่านั้น หากมีแวะพักเที่ยวที่อื่นระหว่างทางและเป็นประเทศที่ต้องมีวีซ่า เค้าบอกว่าให้ไปขอที่อื่นก่อนมาขอเค้า แต่เราไปฝรั่งเศสอย่างเดียว ก็ตรงมาที่นี่เลยค่ะ
5. ใบจองโรงแรม - ต้องมีชื่อผู้เข้าพักทุกคน เจ้าหน้าที่จะ highlight ชื่อเวลาตรวจเอกสารเลยทีเดียว ของเราจอง booking.com ไม่มีปัญหาใส่ชื่อได้เลย
แต่มีจองปราสาทกับเว็บอื่นซึ่งระบบให้กรอกชื่อผู้เข้าพักพร้อมอีเมล์ (แต่ลุงๆป้าๆที่ไปด้วยไม่มีอีเมล์ จึงไม่สามารถ save ชื่อลงระบบได้)
จึงมีแค่อีเมล์คอนเฟิร์ม ไม่มีชื่อผู้เข้าพัก (มีแต่ชื่อเราที่เป็นคนจอง 555) ตอนเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของสามีเค้าก็เปรยนิดนึงว่าไม่มีชื่อเนอะ แต่ไม่เป็นไรส่งไปก่อน ถ้าไม่ได้อย่างไรสถานทูตเค้าจะขอเอกสารเพิ่มเติมเอง แต่ตอนเค้าตรวจเอกสารเรามีชื่อเรา เค้าก็ทำการ highlight ให้ค่ะ
6. หนังสือรับรองการทำงาน - รายละเอียด: ชื่อ-นามสกุล/ตำแหน่ง/วันที่เริ่มงาน/เงินเดือน/วันที่จะหยุด/วันที่จะกลับมาทำงาน/ประเทศที่จะไป/ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย (ทำนองว่า บริษัทออกตัวว่าเค้าไป vacation เอง ก็จ่ายเงินเองจ้า)
ตัวอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[… หัวกระดาษบริษัท …]
วันที่ XX
TO WHOM MAY CONCERN
This is to certify that XX has been employed by XX since XX as the position of XX and earns a salary of XX Baht.
Mr. XX and his spouse plan to visit France during XX to XX for his vacation. He will return to Thailand to continue his employment at XX on XX
Mr. XX will be responsible for expense of his family during the trip.
I hereby certify that the above mentioned are true and correct.
Should you require any further information please do not hesitate to me.
Yours sincerely,
______________________
[… ชื่อผู้รับรอง …]
[… ตำแหน่งผู้รับรอง …]
[…ประทับตราบริษัท …]
7. สลิปเงินเดือน - ของเราไม่มีเลยไม่ได้เอาไป ของสามีมีก็ photocopy ไปค่ะ
8. หลักฐานการเงิน - อันนี้เห็นทุ่มเถียงกันมาก ขอแยกเป็นประเด็นดังนี้
กรณีของเรา
- เราไปขอ statement ย้อนหลัง 6 เดือนจากธนาคารค่ะ จริงๆเค้าเอาแค่ 3 เดือน แต่เราอยากเปรี้ยวเอง 555+
- ลูกค้า First/ Wisdom สามารถขอเวฟค่าธรรมเนียม 100 บาทได้
- เอกสารที่ใช้ขอ statement คือ บัตรประชาชน และ bookbank เพื่อยืนยันลายเซ็น
**อันนี้ขอได้รับความสับสนนิดนึง คือตอนแรกไปขอแบงค์เขียว เค้าบอกว่าจะขอ statement เล่มไหน ต้องเอาเล่มจริงมาด้วย ซึ่งสมุดบัญชีที่เงินเราเข้าออกบ่อยๆนั้น....ได้หายไปแล้วที่ไหนสักแห่งในบ้านนี่หล่ะ 5555 (แต่ไม่เคยแคร์เพราะเราเป็นสังคมไร้เงินสดนิเนาะ)
ปรากฎเจ้าหน้าที่ไม่ออก statement ให้นะคะ อ้อนวอนหาทางพิสูจน์ตัวตนทางอื่นอย่างไรเค้าก็บอกว่าออกได้แค่อันที่เรามีเล่มจริงมา แต่เล่มนั้นไม่ค่อยมีเงินเคลื่อนไหวไง ก็เลยจ๋อยๆ เดินไปแบงค์ม่วง...
แอบเม้าท์เพิ่ม คือเราลืมถ่ายหน้าพาสปอร์ตเก่าเล่มนึง เลยถาม พนง. ว่าแถวนี้มีร้านถ่ายเอกสารไหม เค้าเลยเอาไปถ่ายให้ น่ารักที่สุดเลย ^^
ต่อๆ ก็ทำแบบเดียวกันกับแบงค์ม่วงค่ะ ขอ statement เช่นกัน ก็ใช้บัตรประชาชน+เล่มบัญชีที่จะขอ statement เหมือนกัน (แต่ไม่ได้ถามว่าขอเล่มอื่นๆได้ไหม ^^)
แอบเม้าท์เพิ่ม คือตอนแบงค์เขียวถ่ายเอกสารให้อ่ะ ก็ยังตกหล่นไปอีกหน้า ทีแรกก็จะกลับไปให้เค้าถ่ายให้อีกที แต่สามีบอกว่าเราลองทำ AB Test กันไหม ว่าถ้าเราเปรยแบบเดียวกันแล้วแบงค์ม่วงจะทำให้มั้ย
ปรากฏว่าก็ทำให้นะคะ ก็ขอขอบคุณและชื่นชมในบริการและน้ำใจที่ทำให้ค่ะ ^^
แต่! มีความแปลกใจตรงพอเรากลับมาแบงค์เขียวอีกรอบเพื่อขอ statement เพิ่ม (คือมีความนอยด์กลัวว่าการเงินจะไม่แน่นพอเพราะเงินน้อยมากกก) ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่อีกท่านถามว่าเอาบัญชีไหนบ้าง และสามารถออก statement บัญชีที่เราไม่มีเล่มจริงได้ดั๊วะ!!
ตกลงความจริงคือยังไงก็ไม่มั่นใจนะ แต่ตรรกะส่วนตัวคิดว่า ถ้าเรามีมาเล่มเดียวเพื่อพิสูจน์ลายเซ็นแล้ว และมีบัตรประชาชนแล้ว ระบบเค้าก็เห็นอยู่แล้วนิว่าเรามีบัญชีเล่มไหนบ้าง จะออกเล่มไหนก็ไม่น่ามีปัญหานะ ไม่เกี่ยวกับว่าเราถือเล่มมาหรือไม่ แต่ก็นั่นหล่ะค่ะ เราเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไม A ไม่ให้ แต่ B ให้ และอะไรคือสิ่งที่ถูกกันแน่ ^^"
กรณีอื่นๆที่อ่านมา
- เอาเล่มจริงไปอัพเดท แล้ว photocopy ของสมุดบัญชีทุกหน้าแล้วให้ธนาคารประทับตรา+เซ็นให้ อันนี้ได้ยินมาว่าฟรี แต่ปัญหาคือทุกวันนี้เราไม่อัพสมุดกันใช่ม่ะ แล้วพอย้อนหลังหลายๆเดือนเนี่ยรายการมันก็จะรวบรายการเหลือบรรทัดเดียว ซึ่งมันก็ผิดจุดประสงค์สถานทูตที่อยากเห็นเงินเราหมุนเวียนเป็นประจำ ผ่าง!
- สมุดบัญชีที่จะใช้ photocopy ได้นั้นต้องมีเลขเล่มทุกหน้า บางธนาคารไม่มีเลขเล่มนะคะ เช่น แบงค์ม่วง ดังนั้นจะใช้วิธี photocopy ไม่ได้ ผ่าง!
- ขอ statement online ผ่าน K PLUS หรือ SCB แล้วมาปริ้นท์เองแล้วไปให้ธนาคารประทับ คิดว่าใช้ไม่ได้ เพราะเลขบัญชีแสดงไม่ครบทุกตัว ผ่าง!
- หนังสือรับรองการเงิน สาขาจะออกได้เป็นทีละบัญชีเท่านั้น (เค้าว่าอย่างงี้นะ) และออกได้แค่ออมทรัพย์กับฝากประจำ ดังนั้นใครที่มีเงินในกองทุน/LTF หรือใดๆก็ตาม ต้องให้สำนักงานใหญ่ออกนะคะ เผื่อเวลาไว้ด้วย แต่เราไม่ได้ยื่นค่ะ
สรุปว่า ไทยแลนด์ 4.0 ใช้ไม่ได้กับการเตรียมเอกสารการเงินเพื่อขอวีซ่าค่ะ ^^
9. photocopy หน้าพาสปอร์ตเล่มเก่า + หน้าที่มีวีซ่าเชงเก้นและตราประทับจาก ตม. ของประเทศเชงเก้นเก่าทุกหน้า ในเว็บแจ้งอย่างนี้ แต่ดูเหมือนว่าเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร จะสนใจเฉพาะวีซ่าเชงเก้นที่ไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น แต่เค้าก็รับเอกสารเราไปหมดนะคะ
10. ทะเบียนสมรส อันนี้ถ้าแต่งงานแล้วอย่าลืมเอาไป (มโนว่า) ผู้หญิงโสดและสวยเดินทางมักจะลำบาก แบบว่าเค้ากลัวเราจะไปแข่งสวยกับผู้หญิงเค้างิ!!
11. ทะเบียนบ้าน อันนี้เค้าไม่ได้ระบุว่าต้องเอาไป แต่อยากแสดง ^^ คือเข้าใจว่าเราแสดงอะไรก็ได้ว่าเราผูกพันธ์กับประเทศไทย เราไม่หนีไปอยู่ประเทศคุณแน่นอนนนนนน (พอดีเรามีทะเบียนบ้านที่เราเป็นเจ้าบ้านหน่ะค่ะก็เลยแนบไป แต่ถ้าไม่มีก็ข้ามได้ค่ะ)
12. ใบจองรถขับ อันนี้เค้าก็ไม่ได้ขอ แต่อยากแสดง 5555 ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เกียมกัวฟิตกว่านี้เราก็แนบใบขับขี่สากลไปด้วย แต่นี่พอดีเกียมกัวน้อยไปหน่อยเลยยังไม่ได้ไปทำ
13. ประกันเดินทาง ครอบคลุมวันเดินทางตั้งแต่ไปจนกลับ วงเงินคุ้มครอง 1.5ล้านบาทขึ้นไป (อยากซื้อมากกว่านี้ก็ได้ตามสะดวกค่ะ)
ทุกอย่างปริ้นไปอย่างละชุดค่ะ ไปสองคนมีสองชุด ตอนตรวจเอกสารเสร็จเค้าใส่ซองแยกกันนะคะ
การนัดวัน
- พอเรากรอกเอกสารใบสมัครเสร็จ เค้าจะให้เราเลือกวัน + เวลาที่สะดวก
เรากรอกเอกสารเสร็จ 7 เมย. คิวเร็วสุดที่เราได้คือ 12 เมย. (ประมาณ 1 สัปดาห์) เมื่อวาน (11 เมย) เพื่อนร่วมคณะพึ่งกรอกเสร็จ กว่าจะได้ยื่นคือ 26 เมย.
ดังนั้น เผื่อเวลาไปอีก 7-14 วันนะคะกว่าจะได้คิว
- ระยะเวลาในการออกวีซ่าและรับเล่มคืน เค้าแจ้งว่า 15 วันทำการ (21 วันนับตามปฏิทิน) ก็เผื่อเวลากันด้วยจ้าาา
ถ้าเล่มเสร็จจะมี sms แจ้งจา ^^
หมายเหตุ แอบคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้ยัง 15 วันทำการมั้ย เค้าบอกว่าใช่เพราะติดวันหยุดอีกด้วยหนา เลยถามว่าถ้าเราต้องใช้พาสปอร์ตด่วนมีวิธีไหนบ้าง (แอบถามเป็นความรู้เนาะ)
ได้ความว่า ถ้าด่วนให้บอกเค้า เอาหลักฐานแนบมาด้วยนะว่าจะมีไปทริปไหนต่อ เช่นตั่วเครื่องบินทริปต่อไป แล้วเค้าจะเอาเอกสารเราใส่ซองอีกสีนึงให้ เป็นสัญญาณให้สถานทูตทราบว่า ด่วนค่ะ!
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เสียเงินเพิ่ม แต่เราไม่มั่นใจนะคะเพราะอย่างของอังกฤษคือถ้าเอาด่วนต้องจ่ายเงินเพิ่ม ลองหาข้อมูลดูนะคะ ^^
วันจริง
- เราได้คิว 10.00 ค่ะ เนื่องจากวันนี้รถไม่ติดเลยไปถึงเร็ว แบบ 9.30 ก็ถึงแล้ว ก็สามารถเข้าไปได้เลยค่ะ
- ฝากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ทุกอย่างก่อนเข้านะคะ
- พนักงานด้านหน้าจะขอใบนัด (ไม่ได้เอาไป) เค้าเลยขอเล่มพาสปอร์ตใครก็ได้ กดๆๆคอมเช็คคิวมั้งคะ แล้วให้เราไปนั่งรอเรียกชื่อ
- 9.50 เรียกเข้าช่องเพื่อตรวจเอกสาร (10 นาทีก่อนเวลานัด ^^)
- พนักงานตรวจเอกสารสามีก่อน ก็มี highlight ชื่อเราตามจุดต่างๆ (ถ้า highlight เองมาจากบ้านก็น่าจะได้ค่ะ จะได้เร็วขึ้น)
- พนักงานตรวจเอกสารเรา เร็วกว่าตอนตรวจของสามีมากกกกก 555555+ สงสัยเพราะรู้ว่าไปด้วยกัน เอกสารเหมือนกัน ก็ไม่ต้องเพ่งพิศเยอะ
- เนื่องจากมีเชงเก้นเมื่อ 3 ปีก่อน เค้าเลยถามว่าจะเก็บลายนิ้วมือมั้ย จะเก็บก็ได้หรือไม่เก็บก็ได้ เราเลยบอกว่า ไม่ค่ะ (แล้วพูดต่อเบาๆว่า จะถูกลงมั้ย 55555)
- จ่ายเงิน 6872 บาท เอาไปพอดี ไม่มีทอนค่ะ (ราคานี้สำหรับ 2 คน)
ออกมาจาก TLS แล้วพบว่า 10.10 โมงเอง เร็วมากกกกกกก น่าจะเป็นเพราะข้ามไปอีกหนึ่งขั้นตอนด้วยค่ะ
เป็นการทำวีซ่าที่เร็วค่ะ และไม่ค่อยมีคำถามมากเท่าไหร่
ไม่เหมือนตอนไปขอที่สถานทูตเยอรมัน อันนั้นสัมภาษณ์ราวกับสัมภาษณ์งาน ให้บอกเลยด้วยว่าไปเที่ยวไหนบ้าง เมืองไหน จะไปดูอะไร ฯลฯ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะสถานทูตเข้ม/ เจ้าหน้าที่เข้ม หรือเพราะตอนนั้นเราไปเที่ยวยาวแบบ 3 เดือนกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ
แต่คราวนี้แทบไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับทริปเลย
ไว้ได้เล่มเมื่อไหร่จะมาอัพเดทค่ะ
ทำวีซ่าท่องเที่ยว เชงเก้น TLS contact ฝรั่งเศส ด้วยตัวเอง อัพเดท 12 เมษายน 2561
เอกสารที่เตรียม
อันนี้เป็นอันที่เราเตรียมไปตามจริง เราไปทั้งหมด 9 คน แต่ยื่นคนละวันกัน สำหรับรอบที่เราไปยื่นวีซ่านี้เราไปยื่นกับสามี 2 คนค่ะ
แต่สำหรับคนที่มีเด็กเดินทางด้วย/เจ้าของกิจการ/คนที่เกษียณแล้ว ลองอ่านรายละเอียดจากเว็บเอานะคะ เอกสารจะต่างกันค่ะ
1. Application ใบสมัคร กรอกได้จาก https://fr.tlscontact.com/th/BKK/index.php
ขั้นตอนการกรอก
1. สมัคร log in
2. กรอกใบสมัคร (ขอไม่ลงรายละเอียดนะคะ กรอกง่ายไม่ยากเลย ^^) ไม่ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติมใดๆค่ะ กรอกอย่างเดียวก่อน เอกสารค่อยไปยื่นวันที่เราไป TLS ทีเดียว
พอดีเรามีกรณีพิพาทกับบริษัททัวร์อยู่ ทำให้เราไม่สามารถ submit application ได้เพราะว่าทัวรืได้ submitted ไปแล้ว (นัดวันอื่น) แล้วทัวร์แจ้งว่าไม่สามารถลบออกให้ได้ เราเลยลองกรอกเลขพาสปอร์ตเกินไป 1 ตัว ปรากฎว่า submit ได้ค่ะ แล้วพอ print เอกสารมาค่อยขีดฆ่าตัวที่เกินออก เล่าสู่กันฟังเผื่อใครเจอกรณีแบบเราค่ะ ^^"
2. รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป เห็นหัวโต เห็นหูชัด คอและบ่านิดหน่อย ไม่ใส่เครื่องประดับ ไม่ใส่คอนแทคสีหรือบิ๊กอาย
ถ้าจะถ่ายเองแล้วไปอัด 4P ก็ได้ ใบละ 5 บาทเอง หรือไปถ่ายที่ TLS Contact 250บาท จะได้มา 4 รูป ต้องมีเงินพอดี เป็นเครื่องอัตโนมัติไม่มีทอน
3. แผนรวมทริป อันนี้เค้าไม่ได้ขอ แต่เราทำไป คือทำไว้ใช้เองด้วยแหล่ะ แบบว่าเพื่อนร่วมทริปคนอื่นจะได้ทราบว่าเราจะไปไหนทำอะไรกันบ้าง ก็ทำใส่ excel ง่ายๆค่ะ มีรายละเอียดดังนี้
1. วันที่
2. การเดินทาง เช่น รถไฟประมาณเวลาไหนบ้าง (เผื่อๆไว้ก่อนเผื่อไหลเผื่อชิวเลยดูเวลาไว้ 2-3 เที่ยวรถ/ ช่วงไหนเช่ารถขับ/ ช่วงไหนอยู่ยาวหลายวันใช้ Metro หรือ bus ไรงิ)
3. เมือง
4. กิจกรรมที่เราจะทำ
5. โรงแรมที่เราจะนอน อันไหนที่จองเป็น apartment มีซักผ้ากับทำกับข้าวได้เราก็แอบดอกจันทร์ไว้ จะได้รู้ว่านี่เป็นวันที่เราจะได้ซักผ้าค่าาาา
4. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ต้องออกเดินทางจากไทยและกลับมาไทยเท่านั้น หากมีแวะพักเที่ยวที่อื่นระหว่างทางและเป็นประเทศที่ต้องมีวีซ่า เค้าบอกว่าให้ไปขอที่อื่นก่อนมาขอเค้า แต่เราไปฝรั่งเศสอย่างเดียว ก็ตรงมาที่นี่เลยค่ะ
5. ใบจองโรงแรม - ต้องมีชื่อผู้เข้าพักทุกคน เจ้าหน้าที่จะ highlight ชื่อเวลาตรวจเอกสารเลยทีเดียว ของเราจอง booking.com ไม่มีปัญหาใส่ชื่อได้เลย
แต่มีจองปราสาทกับเว็บอื่นซึ่งระบบให้กรอกชื่อผู้เข้าพักพร้อมอีเมล์ (แต่ลุงๆป้าๆที่ไปด้วยไม่มีอีเมล์ จึงไม่สามารถ save ชื่อลงระบบได้)
จึงมีแค่อีเมล์คอนเฟิร์ม ไม่มีชื่อผู้เข้าพัก (มีแต่ชื่อเราที่เป็นคนจอง 555) ตอนเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของสามีเค้าก็เปรยนิดนึงว่าไม่มีชื่อเนอะ แต่ไม่เป็นไรส่งไปก่อน ถ้าไม่ได้อย่างไรสถานทูตเค้าจะขอเอกสารเพิ่มเติมเอง แต่ตอนเค้าตรวจเอกสารเรามีชื่อเรา เค้าก็ทำการ highlight ให้ค่ะ
6. หนังสือรับรองการทำงาน - รายละเอียด: ชื่อ-นามสกุล/ตำแหน่ง/วันที่เริ่มงาน/เงินเดือน/วันที่จะหยุด/วันที่จะกลับมาทำงาน/ประเทศที่จะไป/ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย (ทำนองว่า บริษัทออกตัวว่าเค้าไป vacation เอง ก็จ่ายเงินเองจ้า)
ตัวอย่าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. สลิปเงินเดือน - ของเราไม่มีเลยไม่ได้เอาไป ของสามีมีก็ photocopy ไปค่ะ
8. หลักฐานการเงิน - อันนี้เห็นทุ่มเถียงกันมาก ขอแยกเป็นประเด็นดังนี้
กรณีของเรา
- เราไปขอ statement ย้อนหลัง 6 เดือนจากธนาคารค่ะ จริงๆเค้าเอาแค่ 3 เดือน แต่เราอยากเปรี้ยวเอง 555+
- ลูกค้า First/ Wisdom สามารถขอเวฟค่าธรรมเนียม 100 บาทได้
- เอกสารที่ใช้ขอ statement คือ บัตรประชาชน และ bookbank เพื่อยืนยันลายเซ็น
**อันนี้ขอได้รับความสับสนนิดนึง คือตอนแรกไปขอแบงค์เขียว เค้าบอกว่าจะขอ statement เล่มไหน ต้องเอาเล่มจริงมาด้วย ซึ่งสมุดบัญชีที่เงินเราเข้าออกบ่อยๆนั้น....ได้หายไปแล้วที่ไหนสักแห่งในบ้านนี่หล่ะ 5555 (แต่ไม่เคยแคร์เพราะเราเป็นสังคมไร้เงินสดนิเนาะ)
ปรากฎเจ้าหน้าที่ไม่ออก statement ให้นะคะ อ้อนวอนหาทางพิสูจน์ตัวตนทางอื่นอย่างไรเค้าก็บอกว่าออกได้แค่อันที่เรามีเล่มจริงมา แต่เล่มนั้นไม่ค่อยมีเงินเคลื่อนไหวไง ก็เลยจ๋อยๆ เดินไปแบงค์ม่วง...
แอบเม้าท์เพิ่ม คือเราลืมถ่ายหน้าพาสปอร์ตเก่าเล่มนึง เลยถาม พนง. ว่าแถวนี้มีร้านถ่ายเอกสารไหม เค้าเลยเอาไปถ่ายให้ น่ารักที่สุดเลย ^^
ต่อๆ ก็ทำแบบเดียวกันกับแบงค์ม่วงค่ะ ขอ statement เช่นกัน ก็ใช้บัตรประชาชน+เล่มบัญชีที่จะขอ statement เหมือนกัน (แต่ไม่ได้ถามว่าขอเล่มอื่นๆได้ไหม ^^)
แอบเม้าท์เพิ่ม คือตอนแบงค์เขียวถ่ายเอกสารให้อ่ะ ก็ยังตกหล่นไปอีกหน้า ทีแรกก็จะกลับไปให้เค้าถ่ายให้อีกที แต่สามีบอกว่าเราลองทำ AB Test กันไหม ว่าถ้าเราเปรยแบบเดียวกันแล้วแบงค์ม่วงจะทำให้มั้ย
ปรากฏว่าก็ทำให้นะคะ ก็ขอขอบคุณและชื่นชมในบริการและน้ำใจที่ทำให้ค่ะ ^^
แต่! มีความแปลกใจตรงพอเรากลับมาแบงค์เขียวอีกรอบเพื่อขอ statement เพิ่ม (คือมีความนอยด์กลัวว่าการเงินจะไม่แน่นพอเพราะเงินน้อยมากกก) ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่อีกท่านถามว่าเอาบัญชีไหนบ้าง และสามารถออก statement บัญชีที่เราไม่มีเล่มจริงได้ดั๊วะ!!
ตกลงความจริงคือยังไงก็ไม่มั่นใจนะ แต่ตรรกะส่วนตัวคิดว่า ถ้าเรามีมาเล่มเดียวเพื่อพิสูจน์ลายเซ็นแล้ว และมีบัตรประชาชนแล้ว ระบบเค้าก็เห็นอยู่แล้วนิว่าเรามีบัญชีเล่มไหนบ้าง จะออกเล่มไหนก็ไม่น่ามีปัญหานะ ไม่เกี่ยวกับว่าเราถือเล่มมาหรือไม่ แต่ก็นั่นหล่ะค่ะ เราเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไม A ไม่ให้ แต่ B ให้ และอะไรคือสิ่งที่ถูกกันแน่ ^^"
กรณีอื่นๆที่อ่านมา
- เอาเล่มจริงไปอัพเดท แล้ว photocopy ของสมุดบัญชีทุกหน้าแล้วให้ธนาคารประทับตรา+เซ็นให้ อันนี้ได้ยินมาว่าฟรี แต่ปัญหาคือทุกวันนี้เราไม่อัพสมุดกันใช่ม่ะ แล้วพอย้อนหลังหลายๆเดือนเนี่ยรายการมันก็จะรวบรายการเหลือบรรทัดเดียว ซึ่งมันก็ผิดจุดประสงค์สถานทูตที่อยากเห็นเงินเราหมุนเวียนเป็นประจำ ผ่าง!
- สมุดบัญชีที่จะใช้ photocopy ได้นั้นต้องมีเลขเล่มทุกหน้า บางธนาคารไม่มีเลขเล่มนะคะ เช่น แบงค์ม่วง ดังนั้นจะใช้วิธี photocopy ไม่ได้ ผ่าง!
- ขอ statement online ผ่าน K PLUS หรือ SCB แล้วมาปริ้นท์เองแล้วไปให้ธนาคารประทับ คิดว่าใช้ไม่ได้ เพราะเลขบัญชีแสดงไม่ครบทุกตัว ผ่าง!
- หนังสือรับรองการเงิน สาขาจะออกได้เป็นทีละบัญชีเท่านั้น (เค้าว่าอย่างงี้นะ) และออกได้แค่ออมทรัพย์กับฝากประจำ ดังนั้นใครที่มีเงินในกองทุน/LTF หรือใดๆก็ตาม ต้องให้สำนักงานใหญ่ออกนะคะ เผื่อเวลาไว้ด้วย แต่เราไม่ได้ยื่นค่ะ
สรุปว่า ไทยแลนด์ 4.0 ใช้ไม่ได้กับการเตรียมเอกสารการเงินเพื่อขอวีซ่าค่ะ ^^
9. photocopy หน้าพาสปอร์ตเล่มเก่า + หน้าที่มีวีซ่าเชงเก้นและตราประทับจาก ตม. ของประเทศเชงเก้นเก่าทุกหน้า ในเว็บแจ้งอย่างนี้ แต่ดูเหมือนว่าเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร จะสนใจเฉพาะวีซ่าเชงเก้นที่ไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น แต่เค้าก็รับเอกสารเราไปหมดนะคะ
10. ทะเบียนสมรส อันนี้ถ้าแต่งงานแล้วอย่าลืมเอาไป (มโนว่า) ผู้หญิงโสดและสวยเดินทางมักจะลำบาก แบบว่าเค้ากลัวเราจะไปแข่งสวยกับผู้หญิงเค้างิ!!
11. ทะเบียนบ้าน อันนี้เค้าไม่ได้ระบุว่าต้องเอาไป แต่อยากแสดง ^^ คือเข้าใจว่าเราแสดงอะไรก็ได้ว่าเราผูกพันธ์กับประเทศไทย เราไม่หนีไปอยู่ประเทศคุณแน่นอนนนนนน (พอดีเรามีทะเบียนบ้านที่เราเป็นเจ้าบ้านหน่ะค่ะก็เลยแนบไป แต่ถ้าไม่มีก็ข้ามได้ค่ะ)
12. ใบจองรถขับ อันนี้เค้าก็ไม่ได้ขอ แต่อยากแสดง 5555 ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เกียมกัวฟิตกว่านี้เราก็แนบใบขับขี่สากลไปด้วย แต่นี่พอดีเกียมกัวน้อยไปหน่อยเลยยังไม่ได้ไปทำ
13. ประกันเดินทาง ครอบคลุมวันเดินทางตั้งแต่ไปจนกลับ วงเงินคุ้มครอง 1.5ล้านบาทขึ้นไป (อยากซื้อมากกว่านี้ก็ได้ตามสะดวกค่ะ)
ทุกอย่างปริ้นไปอย่างละชุดค่ะ ไปสองคนมีสองชุด ตอนตรวจเอกสารเสร็จเค้าใส่ซองแยกกันนะคะ
การนัดวัน
- พอเรากรอกเอกสารใบสมัครเสร็จ เค้าจะให้เราเลือกวัน + เวลาที่สะดวก
เรากรอกเอกสารเสร็จ 7 เมย. คิวเร็วสุดที่เราได้คือ 12 เมย. (ประมาณ 1 สัปดาห์) เมื่อวาน (11 เมย) เพื่อนร่วมคณะพึ่งกรอกเสร็จ กว่าจะได้ยื่นคือ 26 เมย.
ดังนั้น เผื่อเวลาไปอีก 7-14 วันนะคะกว่าจะได้คิว
- ระยะเวลาในการออกวีซ่าและรับเล่มคืน เค้าแจ้งว่า 15 วันทำการ (21 วันนับตามปฏิทิน) ก็เผื่อเวลากันด้วยจ้าาา
ถ้าเล่มเสร็จจะมี sms แจ้งจา ^^
หมายเหตุ แอบคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้ยัง 15 วันทำการมั้ย เค้าบอกว่าใช่เพราะติดวันหยุดอีกด้วยหนา เลยถามว่าถ้าเราต้องใช้พาสปอร์ตด่วนมีวิธีไหนบ้าง (แอบถามเป็นความรู้เนาะ)
ได้ความว่า ถ้าด่วนให้บอกเค้า เอาหลักฐานแนบมาด้วยนะว่าจะมีไปทริปไหนต่อ เช่นตั่วเครื่องบินทริปต่อไป แล้วเค้าจะเอาเอกสารเราใส่ซองอีกสีนึงให้ เป็นสัญญาณให้สถานทูตทราบว่า ด่วนค่ะ!
เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เสียเงินเพิ่ม แต่เราไม่มั่นใจนะคะเพราะอย่างของอังกฤษคือถ้าเอาด่วนต้องจ่ายเงินเพิ่ม ลองหาข้อมูลดูนะคะ ^^
วันจริง
- เราได้คิว 10.00 ค่ะ เนื่องจากวันนี้รถไม่ติดเลยไปถึงเร็ว แบบ 9.30 ก็ถึงแล้ว ก็สามารถเข้าไปได้เลยค่ะ
- ฝากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ทุกอย่างก่อนเข้านะคะ
- พนักงานด้านหน้าจะขอใบนัด (ไม่ได้เอาไป) เค้าเลยขอเล่มพาสปอร์ตใครก็ได้ กดๆๆคอมเช็คคิวมั้งคะ แล้วให้เราไปนั่งรอเรียกชื่อ
- 9.50 เรียกเข้าช่องเพื่อตรวจเอกสาร (10 นาทีก่อนเวลานัด ^^)
- พนักงานตรวจเอกสารสามีก่อน ก็มี highlight ชื่อเราตามจุดต่างๆ (ถ้า highlight เองมาจากบ้านก็น่าจะได้ค่ะ จะได้เร็วขึ้น)
- พนักงานตรวจเอกสารเรา เร็วกว่าตอนตรวจของสามีมากกกกก 555555+ สงสัยเพราะรู้ว่าไปด้วยกัน เอกสารเหมือนกัน ก็ไม่ต้องเพ่งพิศเยอะ
- เนื่องจากมีเชงเก้นเมื่อ 3 ปีก่อน เค้าเลยถามว่าจะเก็บลายนิ้วมือมั้ย จะเก็บก็ได้หรือไม่เก็บก็ได้ เราเลยบอกว่า ไม่ค่ะ (แล้วพูดต่อเบาๆว่า จะถูกลงมั้ย 55555)
- จ่ายเงิน 6872 บาท เอาไปพอดี ไม่มีทอนค่ะ (ราคานี้สำหรับ 2 คน)
ออกมาจาก TLS แล้วพบว่า 10.10 โมงเอง เร็วมากกกกกกก น่าจะเป็นเพราะข้ามไปอีกหนึ่งขั้นตอนด้วยค่ะ
เป็นการทำวีซ่าที่เร็วค่ะ และไม่ค่อยมีคำถามมากเท่าไหร่
ไม่เหมือนตอนไปขอที่สถานทูตเยอรมัน อันนั้นสัมภาษณ์ราวกับสัมภาษณ์งาน ให้บอกเลยด้วยว่าไปเที่ยวไหนบ้าง เมืองไหน จะไปดูอะไร ฯลฯ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะสถานทูตเข้ม/ เจ้าหน้าที่เข้ม หรือเพราะตอนนั้นเราไปเที่ยวยาวแบบ 3 เดือนกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ
แต่คราวนี้แทบไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับทริปเลย
ไว้ได้เล่มเมื่อไหร่จะมาอัพเดทค่ะ