ประสบการณ์ทำงานแถวถนน ณ ระนอง อย่าได้หลงเชื่อคำพูดนาง

เล่าประสบการณ์ทำงานที่แห่งหนึ่งย่าน ถนน ณ ระนอง ก่อนมาทำงานที่คนโทรไปแจ้งว่าต้องการเจ้าหน้าที่การเงินมาช่วยทำเอกสารการจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้ ตอนประมาณ 19:00 น. ตกลงเงินเดือนกันที่ 2 หมื่นกว่า วันทำงานหยุดเสาร์อาทิตย์ ทำงานเริ่ม 8:30-17:30 น. สวัสดิการพักร้อน นำเที่ยว เลี้ยงสังสรรค์เงินกองทุน เบี้ยขยัน โบนัส เงินพิเศษ เท่าที่จำได้ ต้องการให้เริ่มงานให้เร็วที่สุด ถ้าไม่มีเงินก็สามารถยืมกับทางบริษัทได้ (เพราะเราบอกว่ากับไปอยู่ต่างจังหวัดต้องเก็บเงินเพราะคิดว่าจะลงมาหางานหลังสงกรานต์ตอนนี้ยังไม่มี) เราก็บอกขอปรึกษาแม่ก่อน เดียวให้คำตอบพรุ่งนี้ได้ไหมคนที่โทรนัดก็บอกว่าเค้าต้องการคำตอบภายในวันนี้  เราก็โอเคว่าจะให้คำตอบในวันนั้น ผ่านไป 20-30 นาทีก็โทรแจ้งว่าสามารถเริ่มงานได้วันที่ 21/1/2561 พอเริ่มงานวันแรกจร้า ไม่มีการทำสัญญาจ้างงานมีเพียงแค่กรอกใบสมัครงาน ไม่มีระเบียบข้อบังขับการทำงานให้อ่าน ไม่มีการสอนงาน มีแต่คำบอกเล่าปากต่อปากว่า ทำงานที่นี่ไม่มีจ่ายค่าล่วงเวลา มีวันพักร้อนเยอะขนาดนั้นจริงหรอ เราก็เอ๋อ-ไปสิ วันแรกอยู่ห้องกับเพื่อนเลยเลิกงาน 17:30 น. ได้ และให้เราทำงานของปีที่แล้วเก็บเอกสารของปีที่แล้ว พอทำไป 2 วันเรียกเค้าไปคุยว่าให้มาเรียนรู้งานคีย์งานช่วยสำนักงานบัญชีข้างนอกตกลงจะให้วันละ 800 ทั้งที่จริงเราควรได้มากกว่านั้นแต่เราก็โอเคมาได้ พอถึงวันศุกร์จร้า ไม่สบายจ้าบอกไม่มาได้ไหม วันเสาร์อาทิตย์ขอพักผ่อน แต่คำตอบที่ได้คือ ถ้ามาไม่ได้ก็ออกไป  (คำนี้คือคำที่ก้องอยู่ในหูมาถึงทุกวันนี้) โอเคงั้นขอมาวันเดียวได้ไหม ขอหยุดวันอาทิตย์ก็แล้วกัน พอทำไปได้สักพักโอแม่เจ้ามีอะไรให้เรียนรู้ได้เผือกกันหลายเรื่องมาก เช่น
- เปิดมา 6 ปี คนเข้าออกมากกว่า 100 คน เอาแค่ปีนี้ออกแล้ว 8 คนยังไม่รวมเรานะ
- บริษัทมีทุนจดทะเบียน น้อยกว่าขาดทุนสะสมเป็น 2 เท่า
- มียอดขายปีๆหนึ่งแค่ 30 กว่าล้านแต่หนี้สิน 20 กว่าล้าน
- ทุกคนใช้งานระบบไม่คล่อง ทั้งที่ระบบโอเคมากเลย
- ทำงานไม่เป็นระบบ ทำตามคำสั่งเจ้าของกิจการมากไป
- ซื้อใบกำกับภาษี (มาตั้งแต่ปีไหนก็ไม่รู้)
- มีบัญชีธนาคารมากกว่า 10 บัญชี และเงินกู้ประมาณ 6-9 สัญญา
- และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ก็ทนอยู่เพื่อเก็บเงินตั้งตัวเพื่อหางานใหม่ ที่สำคัญพนักโดนหักเงินเป็นว่าเล่นนะคะ หักสายนาทีละ 5 บาท (แต่ทำเกินไม่จ่ายค่าล่วงเวลานะ) ทำงานพลาดบางคนโดนหักหลายหมื่น (บางคนเฉลี่ยรับเงินต่อเดือน 7,000บาททั้งที่เงินเดือน 12,000-14,000 ) ลาออกไม่แจ้งล่วงหน้าไม่จ่ายเงินให้พนักงาน (แต่บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทเงินบางคนโอนเข้าบัญชีเจ้าของ) เงินประกันการทำงาน เงินประกันตัดวิก เงินประกัน 5 วัน เงินกองทุน 3%จนกว่าจะครบ 25,000฿ ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่รู้ว่าหักอะไรบ้าง และเจ้าของขึ้นศาลแรงงานบ่อยมากกกกก ไปสน. ก็เช่นกัน จะว่าไปข้อดีก็มีนะเช่น ที่ทำงานสะอาด บรรยากาศน่าทำงาน เพื่อนรวมงานช่วยกันรักกันดี จ่ายเป็นค่าจ้างแรงงานไม่หักประกันสังคม
ส่วนข้อเยอะมากไม่ขอพูดดีกว่าเพราะที่พูดมาข้างบนก็น่าจะพอเดาออกนะ
การปรับปรุงแก้ไข
- หาพนักงานบัญชีและการเงินที่มีความรู้ความสามารถที่จะพอรับมือกับ กรมสรรพากร ผู้สอบบัญชี ปปง. ปปส. ตอบคำถามได้
- งดเรียกถามเรื่องอะไรก็ไม่รู้ทั้งที่ตัวเองก็หาได้จากโปรแกรม
- ต้นทุนบัญชีไม่ได้สูงอย่างที่คิดไม่ถึง 4% ด้วยซ้ำ(ต่อให้รับคนมา3-4 คน) เพราะต้นทุนสูงที่สุดตอนนี้คือ ต้นทุนขาย และต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชี)
- ปล่อยให้พนักงานทำงานเอง ตามขั้นตอนการทำงานของเขา
- ปิดงบรายเดือนให้ได้จะได้รู้ความจริงว่าที่พูดมาเป็นความจริงรึป่าว
- งดใช้อารมณ์ในการพูดคนเราด่าได้ถ้ามันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงจริงๆ แต่พนักงานโตๆกันแล้วสามารถพูดหรืออธิบายก็คงเข้าใจ
- ควรยืดหยุ่นเวลาการทำงาน
- เป็นพนักงานขายที่ดีและเก่ง แต่มันไม่ได้แปลว่าจะเป็นผู้บริหารที่เก่งได้นะ (ควรหาความรู้เพิ่มเติมจากการอบรมหลักสูตรผู้บริหาร ,หัวหน้างาน, ทำงานอย่างไรให้พนักงานรัก หรือจ้างผู้จัดการเพิ่ม) หรือถ้ามือพื้นฐานครอบครัวที่ดีก็จะจะเอามาใช้กับงานได้

สุดท้ายนี้ขอให้กิจการผ่านไปด้วยดีนะ รับมือกับข้อแก้ไขที่ 1 ให้ได้ เพราะไม่ยอมทำงานฟรีๆหรอกทำงานเลิก 3-4 ทุ่มโดยไม่ได้อะไร #กรมสรรพากร #กรมคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการ #สำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ #สำนักงานการฟอกเงิน #ศาลแรงงาน #หนี้ภาษี #ภาษี #เงินกู้ยืม #ขายสินค้า #ส่งออกสินค้า #นำเข้าสินค้า #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
#แชร์ให้โลกรู้ #อย่าได้หลงผิดมาทำ #เปิดได้ก็ปิดได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่