สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
มีกฏพื้นฐาน ที่อยากให้คุณจำเอาไว้ ไม่ว่าวันนั้นจะเศร้ามากขนาดไหนก็ตาม
๑. คุณไม่ใช่ขยะ / ไม่ใช่หลุมดำ / ไม่ใช่เสนียดที่เข้าไปใกล้ใครแล้วเขาจะต้องทุกข์ต้องจม แม้เขาจะบอกอย่างนั้น
เหตุผล คือ
๑.๑ ความเป็นมนุษย์มีค่าค่ะ ถ้าคิดอยากตายง่ายๆ ให้คุณลองอ่านข่าวคนที่เขาลำบากกว่าคุณ พวกเขาดิ้นรนขนาดไหนที่จะมีชีวิตอยู่
และ อ่านข่าวคนที่เขาทำประโยชน์ต่อโลก ... พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดไหน เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน
วิธีง่ายที่สุด สบายใจเร็วที่สุด .. ลองซื้ออาหารไปให้คนจรจัด หรือ เลี้ยงสัตว์ที่กำลังหิวโซ
คุณจะเห็นคุณค่าในตัวเองขึ้นมาอย่างเร็วที่สุดเลยล่ะค่ะ
วิธีที่ยั่งยืนที่สุด เสริมพลังให้ใจคุณเข้มแข็งต่อเนื่องที่สุด .. ลองตั้งเป้าหมายให้ตัวเองทำ สักวันละสามอย่าง
ถ้าวันไหนเศร้าสุดๆ ท้อแท้อยากตาย ก็ให้ลุกขึ้นมา ทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์
จะได้เป็นเสบียง เวลาตายไปแล้ว จะไม่ต้องมาวนเวียนเกิดมาพบกับความรู้สึกเช่นนี้อีก
เป้าหมาย หรืองาน ที่จะทำให้หายเวทนาตัวเองเร็ว ในเบื้องต้นที่จิตใจยังไม่เข้มแข็งมากนัก ควรเป็นงาน ที่ใช้แรงกายค่ะ
เหงื่อออก / งานเสร็จ / หายเหนื่อย / หายเศร้าไปตั้งแต่ตอนไหนแทบไม่ทันได้สังเกต
จิตใจที่อ่อนแอ ถ้าไม่ฝึกฝืน ฝึกฝน มันจะไม่มีแรงต้านความอ่อนแอหรอกค่ะ
จะจมลงเรื่อย ๆ คุณต้องตัดสินใจสู้นะคะ และทำใจไว้เลยค่ะว่า ในการสู้แต่ละครั้งช่วงแรกๆ จะแพ้มากกว่าชนะเสมอ
แพ้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ยิ้มให้ตัวเอง เพราะอย่างน้อย พัฒนาการที่คุณได้ คือ คุณสะสมความเข้มแข็งให้ใจเพิ่มขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ
๑.๒ นักให้คำปรึกษา ที่ไม่ใช่มืออาชีพ มักจะมีอารมณ์มาปน เวลาฟังเรื่องเศร้าของใครๆทั้งนั้นแหละค่ะ
ไม่ใช่ความผิดคุณ ไม่ใช่เพราะคุณ แต่เป็นเพราะพวกเขา วางอุเบกขาไม่เป็น วางใจเป็นกลางระหว่างให้เขาปรึกษาไม่เป็น
ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาด้วย ... มันแค่เป็นเรื่องธรรมดา
ที่คนทุกคน ต้องการฟังเรื่องราวดีๆ ต้องการอยู่ใกล้คนมีจิตใจดีๆ ต้องการรับพลังใจจากผู้อื่น
ฉะนั้น หากต้องการคำปรึกษาที่ช่วยได้จริง ต้องเลือกผู้ที่จะมารับฟังด้วยค่ะ
ลองพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านรับฟังโดยตรง เช่น จิตแพทย์
หรือ จากผู้ที่ผ่านปัญหามาเองและแก้ไขได้เองจากประสบการณ์ตรง
หรือ จากผู้ที่รับฟังปัญหาผู้อื่นเป็นนิตย์ เช่น นักบวช นักสังคมสงเคราะห์
นอกจากนี้แล้ว แม้พวกเขาจะสนใจใคร่รู้อยากให้คุณเล่าให้ฟัง.. คุณก็ต้องทำใจยอมรับความจริงไว้ก่อนว่า
ผลที่ได้ อาจจะไม่ทำให้ทั้งคุณ และ พวกเขา มีความสุขมากขึ้น หรือแก้ปัญหาใดได้เลย
๒. ถ้ารู้สึกว่า อยากจะมีใครสักคนที่รัก และ เข้าใจคุณ
จงเริ่มจาก มอบความรัก และ ความเข้าใจให้ตัวเองเสมอนะคะ
ถ้าเริ่มจากความอยากตาย แม้ตัวเองยังไม่รักตัวเอง แล้วจะเอาพลังที่ไหน มาดึงดูดความรักดีๆให้เข้าหาตัวล่ะคะ ?
๓. ความตาย ไม่ใช่ การจบปัญหา เป็นแค่การหนีปัญหาชั่วคราวเท่านั้นเองค่ะ
และโทษทัณฑ์ของการหนีปัญหา คือ จะต้องเจอปัญหาที่หนักกว่าเดิมเสมอ
๑. คุณไม่ใช่ขยะ / ไม่ใช่หลุมดำ / ไม่ใช่เสนียดที่เข้าไปใกล้ใครแล้วเขาจะต้องทุกข์ต้องจม แม้เขาจะบอกอย่างนั้น
เหตุผล คือ
๑.๑ ความเป็นมนุษย์มีค่าค่ะ ถ้าคิดอยากตายง่ายๆ ให้คุณลองอ่านข่าวคนที่เขาลำบากกว่าคุณ พวกเขาดิ้นรนขนาดไหนที่จะมีชีวิตอยู่
และ อ่านข่าวคนที่เขาทำประโยชน์ต่อโลก ... พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดไหน เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน
วิธีง่ายที่สุด สบายใจเร็วที่สุด .. ลองซื้ออาหารไปให้คนจรจัด หรือ เลี้ยงสัตว์ที่กำลังหิวโซ
คุณจะเห็นคุณค่าในตัวเองขึ้นมาอย่างเร็วที่สุดเลยล่ะค่ะ
วิธีที่ยั่งยืนที่สุด เสริมพลังให้ใจคุณเข้มแข็งต่อเนื่องที่สุด .. ลองตั้งเป้าหมายให้ตัวเองทำ สักวันละสามอย่าง
ถ้าวันไหนเศร้าสุดๆ ท้อแท้อยากตาย ก็ให้ลุกขึ้นมา ทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์
จะได้เป็นเสบียง เวลาตายไปแล้ว จะไม่ต้องมาวนเวียนเกิดมาพบกับความรู้สึกเช่นนี้อีก
เป้าหมาย หรืองาน ที่จะทำให้หายเวทนาตัวเองเร็ว ในเบื้องต้นที่จิตใจยังไม่เข้มแข็งมากนัก ควรเป็นงาน ที่ใช้แรงกายค่ะ
เหงื่อออก / งานเสร็จ / หายเหนื่อย / หายเศร้าไปตั้งแต่ตอนไหนแทบไม่ทันได้สังเกต
จิตใจที่อ่อนแอ ถ้าไม่ฝึกฝืน ฝึกฝน มันจะไม่มีแรงต้านความอ่อนแอหรอกค่ะ
จะจมลงเรื่อย ๆ คุณต้องตัดสินใจสู้นะคะ และทำใจไว้เลยค่ะว่า ในการสู้แต่ละครั้งช่วงแรกๆ จะแพ้มากกว่าชนะเสมอ
แพ้ก็ไม่เป็นไรนะคะ ยิ้มให้ตัวเอง เพราะอย่างน้อย พัฒนาการที่คุณได้ คือ คุณสะสมความเข้มแข็งให้ใจเพิ่มขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ
๑.๒ นักให้คำปรึกษา ที่ไม่ใช่มืออาชีพ มักจะมีอารมณ์มาปน เวลาฟังเรื่องเศร้าของใครๆทั้งนั้นแหละค่ะ
ไม่ใช่ความผิดคุณ ไม่ใช่เพราะคุณ แต่เป็นเพราะพวกเขา วางอุเบกขาไม่เป็น วางใจเป็นกลางระหว่างให้เขาปรึกษาไม่เป็น
ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาด้วย ... มันแค่เป็นเรื่องธรรมดา
ที่คนทุกคน ต้องการฟังเรื่องราวดีๆ ต้องการอยู่ใกล้คนมีจิตใจดีๆ ต้องการรับพลังใจจากผู้อื่น
ฉะนั้น หากต้องการคำปรึกษาที่ช่วยได้จริง ต้องเลือกผู้ที่จะมารับฟังด้วยค่ะ
ลองพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านรับฟังโดยตรง เช่น จิตแพทย์
หรือ จากผู้ที่ผ่านปัญหามาเองและแก้ไขได้เองจากประสบการณ์ตรง
หรือ จากผู้ที่รับฟังปัญหาผู้อื่นเป็นนิตย์ เช่น นักบวช นักสังคมสงเคราะห์
นอกจากนี้แล้ว แม้พวกเขาจะสนใจใคร่รู้อยากให้คุณเล่าให้ฟัง.. คุณก็ต้องทำใจยอมรับความจริงไว้ก่อนว่า
ผลที่ได้ อาจจะไม่ทำให้ทั้งคุณ และ พวกเขา มีความสุขมากขึ้น หรือแก้ปัญหาใดได้เลย
๒. ถ้ารู้สึกว่า อยากจะมีใครสักคนที่รัก และ เข้าใจคุณ
จงเริ่มจาก มอบความรัก และ ความเข้าใจให้ตัวเองเสมอนะคะ
ถ้าเริ่มจากความอยากตาย แม้ตัวเองยังไม่รักตัวเอง แล้วจะเอาพลังที่ไหน มาดึงดูดความรักดีๆให้เข้าหาตัวล่ะคะ ?
๓. ความตาย ไม่ใช่ การจบปัญหา เป็นแค่การหนีปัญหาชั่วคราวเท่านั้นเองค่ะ
และโทษทัณฑ์ของการหนีปัญหา คือ จะต้องเจอปัญหาที่หนักกว่าเดิมเสมอ

แสดงความคิดเห็น
รู้สึกผิดที่มีชีวิตอยู่แล้วทำให้คนอื่นเศร้าตามจนอยากตาย ทำอย่างไรดีค่ะ รู้สึกผิดจนไม่กล้ามีความสัมพันธ์เลยค่ะ