คือข้างห้อง น้องนักศึกษา โล้สำเภากันดังมาก รบกวนการนอนเรามากๆ

เราทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งทุกกรุงเทพ มีคำสั่งจากต้นสังกัดให้ไปควบคุมดูแลงานเขตภาคเหนือที่เชียงใหม่ ตลอดเดือนเมษายน 2561
บริษัทจัดกาที่พักให้พนักงานจากส่วนกลางสี่คนที่ไปด้วยกัน เป็นหอพักแห่งหนึ่งหลัง มช ในซอยวัดอุโมงค์ กลางๆซอย ให้พักคนละห้อง ที่พักก็โอเค อยู่ได้สบายๆส่วนตัวคนเดียว ไปถึงเย็นวันที่ 1 เมษา จัของเข้าห้องเรียบร้อยๆ พอค่ำๆออกมานัดพี่ๆที่มาทำงานด้วยกันไปทานข้าวในเมือง เจอน้องนักศึกษาข้างๆห้องเปิดประตูออกมาเจอกันพอดี น้องออกมาพร้อมแฟนสาว น้องอัธยาศัยดี เข้ามาทักเราก่อน “พี่เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอครับ” เรายิ้มแล้วตอบ “ใช่ครับ พี่มาจาก กรุงเทพ มาทำงาน” ด้วยความอยากผูกมิตรกับเพื่อนบ้านข้างห้อง เผื่อเจอปัญหาอะไรจะขอความช่วยเหลือ ก็ชวนน้องเขาและแฟนเขาคุย ระกว่างเดินลงบันไดหอพัก ก็ได้ความว่า น้องเขาเรียนวิศะ มหาลัยแถวนั้นแหละ อยู่ปี3นี่แหละ ส่วนแฟนสาวเรียนคนละคณะ แล้วก็แยกย้ายไปทำธุระ พอทานข้าวสังสรรค์กับพี่ที่มาทำงานด้วยกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ทำธุระส่วนตัว เตรียมเอกสารต่างๆเพื่อพร้อมทำงานเช้าวันจันทร์ที่เชียงใหม่ กว่าจะนอนก็เที่ยงคืนนิดๆ นินไปซักพัก กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็ต้องสะดุ้งขึ้น เหมือนมีเสียงกระเทือนเป็นจังหวะที่หัวเตียง เอานาฬิกามากดดูยังไม่ตีหนึ่งเลย แล้วเสียงก็ดังเอี๊ยดอ๊าดๆสะเทือนมาผนังห้องที่ติดกับหัวเตียง พร้อมกับเสียงครางของชายหนุ่มหญิงสาว เรานี่ตาตื่นเลย ในใจคิดว่า ทำมันมีไรกันเสียงดังจัง แล้ว หอนี่มันไม่เก็บเสียงเลยรึไง การโล้สำเภากว่าจะจบลงก็เกือบตีสอง นานมากในความรู้สึก เด็กวิศวะข้างห้องโล้สำเภากันอึดมาก ก่อนที่เสียงจะเงียบไปมีกระกระตุกสะเทือนชุดใหญ่ หัวเตียงเราสั่นเลยอะ แล้วเราเป็นคนที่ถ้ามีใครหรืออะไรมาปลุกแล้วจะหลับต่อยากมากๆๆๆ พยายามจะข่มตาให้หลับต่อกว่าจะหลับเกือบๆตีสี่ ในใจคิดว่าขอนอนต่ออีกสามชั่วโมงก็ยังดี เข้างานแปดโมงครึ่งน่าจะทัน พอหลับไปซักพัก เสียงนั้นมาอีกแล้ว การโล้สำเภาของน้องข้างห้องยกที่สอง เราตื่นพร้อมกดมือถือดูนาฬิกา เพิ่งตีห้า โอ้ยยยย ไม่นงไม่นอนมันแล้ว เช้าวันนั้นเลยไปทำงานด้วยสภาพอ่อนเพลียนอนน้อย พอถึงคืนที่สองก็คิดว่า คงไม่อึดขนาดโล้สำเภากันทุกวันหรอกนะ คืนนี้เราแก้เกมส์ด้วยการเข้านอนเร็วขึ้น ดูละครจบห้าทุ่มกว่านอนเลย หลับไปซักพักใหญ่ เสียงการโล้สำเภาจากน้องวิศวะข้างห้องทำเราตื่นตาแข็งอีกแล้ว กดดูนาฬิกาเพิ่งตีสามนิดๆเอง กว่าการโล้สำเภาจะจบก็เกือบตีสี่ เราง่วงนะแต่มันไม่หลับแล้วอะ และก็พยายามหลับกว่าจะหลับก็เกือบตีห้ามั้ง พอเจ็ดโมงต้องตื่นแล้วเพราะเสียงนาฬิกาปลุก  ⏰

   และวันที่สองของการทำงานที่เชียงใหม่ก็ไปสภาพอดหลับอดนอนเหมือนเดิม วันนี้ทนไม่ไหวจึงปรึกษาพี่ๆที่ทำงานด้วยกัน พี่ๆเขาแนะนำเอากระดาษไปสอด ต้ประตูห้องข้าง เขียนบอกดีๆอย่าส่งเสียงดังเวลาดึกๆ เราก็ทำตามกลังจากเลิกงานกลับมาที่ห้อง แต่ก่อนจะขึ้นตึกก็แอบดูระเบียงห้องข้างๆไฟไม่เปิดแสดงว่าไม่มีคนอยู่ เราถึงกล้าเอากระดาษโน๊ตไปสอดใต้ประตู ได้ผลเหมือนคืนนั้นเขาคงได้อ่านโน๊ตแล้วปรับปรุงตัว คืนนั้นเรานอนหลับยาวสบายมาก คือนอนเดิน 6 ชั่วโมงตามปกติ ไปทำงานด้วยไปหน้าสดใส เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น คือที่สี่ห้องข้างๆก็เงียบสงบดี พอถึงคืนที่ห้า มาอีกแล้วเหมือนเงียบให้เราตายใจ จัดหนักกว่าเดิมอีก สงสัยดูบุพเพสันนิวาสตอนล่าสุดมารึป่าว มาเต็มเสียงเตียงเสียดสี เสียงครวญคราง เสียงเนื้อกระทบกัน โนสนโนแคร์กันเลยทีเดียว ก็พยายามใส่หูฟังแล้วนะ แต่มันไม่ได้จริงๆถูกปลุกแล้วมันจะหลับยากมากๆๆๆ และคืนต่อๆมาจนถึงล่าสุด เมื่อคืนวันเสาร์น้องข้างห้องโล้สำเภากันทุกวัน แรงอึดแรงดีกันจริงๆ เด็กแถวนี้ คืนนี้หลังตั้งกระทู้นี้เสร็จจะรีบนอนดูซิจะมีการโล้สำเภาไหม ถ้ามีอีกคือต้องขอย้ายที่พักแล้วหละไม่ไหวแล้ว ถ้าต้องนอนน้อยมากๆเกือบทุกวันนี้แย่แน่ๆเจ้าค่ะ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงเรื่อยๆ ตามมาด้วยปัญหาสุขภาพ

***ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงดีเจ้าคะ กับกรณีที่อิฉันประสบมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่