เรื่องสั้นเรื่องนี้ ชื่อก็สั้นคำเดียว เรื่องก็สั้นหน้าเดียวจบ ตัวละครเป็นฝรั่งทั้งนั้น...แหวกแนวมาอีกเรื่องหนึ่ง
ชื่อเรื่อง
"หลง" ถ้าใช้ภาษาอังกฤษก็ LOST ละครับนึกขึ้นมาคำแรก
ใคร หลงอะไร ที่ไหน ทำไมถึงได้หลง ฯลฯ
มาอ่านกัน ให้เกรด A B C D ตามด้วยบวกหรือลบตามอัธยาศัย แล้วหาผู้แต่งดูครับ........
ลูอิส นั่งทานสเต๊กเนื้อวัวเป็นมื้อเที่ยงอยู่ในร้านอาหารใกล้กับสำนักงานนายอำเภอของเขา
นายอำเภอหนุ่มใหญ่เคี้ยวช้า ๆ ซึมซับกับรสชาตินุ่มหวานของมัน พลางนึกขอบคุณ
ไลลา เจ้าของร้านอาหาร
เมดีส์ ที่เก็บเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยมจากฟาร์มปศุสัตว์ของแมนนิงไว้ให้ วันนี้เขามาที่นี่โดยไม่ได้ชวน
เอ็ดดี้ ผู้ช่วยของเขามาด้วย เพราะมีนัดกับใครบางคนเอาไว้
ดวงตาสีฟ้าอมเขียวสอดส่ายสังเกตสังกาไปรอบร้านอย่างเคยชินในหน้าที่ ทั้งร้านดูเงียบเหงาเมื่อเหลือโต๊ะเขาเพียงโต๊ะเดียว หลังจากสองโต๊ะด้านหลังลุกออกจากร้านไปก่อนหน้านั้นแล้ว
คงเนื่องมาจากพยากรณ์อากาศเช้านี้ที่เตือนว่าพายุฤดูร้อนกำลังจะพัดเข้ามาถึง
สต็อตต์ ครีก ภายในวันสองวันนี้ ผู้คนจึงพากันอยู่แต่ภายในอาคารที่มีหลุมหลบภัย ซึ่งจะปลอดภัยกว่าออกมาเตร็ตเตร่อยู่ข้างนอก อีกอย่างคงเป็นเพราะเพิ่งเกิดเหตุร้ายขึ้นในเมืองเล็ก ๆ อย่างสต็อตต์ ครีก ติด ๆ กันถึงสองคดีซ้อน มันคือเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งจนป่านนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐก็ยังไม่สามารถควานหาตัวฆาตกรมาลงโทษได้ ปล่อยให้ชาวเมืองตกอยู่ในอาการอกสั่นขวัญผวาจากฆาตกรที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และเหตุใดจึงลงมือเอากับผู้หญิงแก่ ๆ อย่างเหี้ยมโหด
เช่นเดียวกับคดีปล้นบ้านคหบดีของเมืองนี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าคดีฆาตกรรมเพียงสามวัน โดยเจ้าหัวขโมยก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ตำรวจได้สืบสวนหาตัวคนร้าย ไม่ว่าจะเป็นรอยนิ้วมือหรือรอยเท้า ไม่มีแม้แต่ภาพในกล้องวงจรปิดให้มองหาเงื่อนงำ เพราะมันได้ถูกจัดการด้วยมืออาชีพไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งสองคดีนี้ เห็นพวกตำรวจบอกว่า ดูเหมือนมันไม่มีความเกี่ยวข้องต่อกัน
ใช่...มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันหรอก ลูอิสคิดแล้วอยากหัวเราะใส่หน้าไอ้งั่งในเครื่องแบบพวกนั้น เขาอาจทำอะไรบางอย่างให้มันง่ายเข้า ถ้าคดีนี้ตำรวจจากส่วนกลางไม่ลงมาจุ้นจ้าน รอจนพวกนั้นสืบสวนจนถึงทางตันเสียก่อน เขาถึงค่อยยอมเข้าไปอยู่ในคอกพยาน เพื่อพูดประโยคอมตะว่าเป็นฝีมือของไอ้โรคจิต
ถูกต้องที่สุด...มันต้องจบลงที่เป็นฝีมือของคนโรคจิต ซึ่งมาและไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับพวกนินจา เพราะมีแต่ฆาตกรโรคจิตเท่านั้นจึงจะสับร่างหญิงไร้ญาติจนเละเทะจำแทบไม่ได้ โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินของเธอเลยสักชิ้นเดียว แถมยังไม่เจอสาเหตุและแรงจูงใจอะไรให้ฆาตกรต้องลงมือฆ่า
ส่วนเจ้าหัวขโมยก็ต้องป่วยทางจิตด้วยเหมือนกัน ที่พอปล้นเสร็จมันถึงได้เที่ยวซุกเงินไว้ให้ตามบ้านคนจนหลายต่อหลายหลัง จนพวกชาวเมืองพากันโจษขานกันอื้ออึง ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เพราะคนในบ้านหลังที่โดนเล่าลือต่างก็พากันปิดปากเงียบ ไม่มีใครยอมให้ความร่วมมือบอกเบาะแสโจรใจดีกับตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการทำงานอันยากลำบากก็น่าจะเป็นความท้าทายที่ตำรวจสมควรภาคภูมิใจ ลูอิสเข้าใจดีเพราะตัวเองก็เคยเป็นตำรวจมาก่อน และคดีนี้มันจะต้องถูกปิดลงในแบบที่มันควรเป็นด้วยความราบรื่น เขามั่นใจ!!!
แต่แล้วเขาก็เผลอถอนใจยาวเมื่อทอดสายตามองออกไปนอกกระจกหน้าต่างร้าน...ทุกอย่างย่อมมีปัญหา
และตัวปัญหาของเขาก็มาโน่นแล้ว!!!
ภายใต้ท้องฟ้ามืดครึ้มในสัปดาห์แรกของฤดูร้อน บิ๊กไบค์คันใหญ่แล่นมาตามถนนสายที่ตัดผ่านไร่ข้าวโพดเหลืองอร่ามทอดยาวสุดลูกหูลูกตา มันจอดลงหน้าร้านอาหารเมดีส์
นายอำเภอยกมือขึ้นลูบเคราทรงสมอของตัวเองขณะมองชายในชุดหนังสีดำลงจากรถ ก้าวเข้ามาในร้าน ชายผู้มาใหม่ชะงักเท้าหยุดอยู่หน้าประตูกระจกร้านครู่หนึ่ง ก่อนสาวเท้ามาทางนายอำเภอเครางามทันทีที่ดวงตาสีเทาซีดของเขามองมาเห็น
“ไงเพื่อน” ชายในชุดหนังยื่นมือมาหา เขาหดมือกลับเมื่อนายอำเภอพยักหน้าไปที่เก้าอี้ตรงกันข้ามอย่างไม่สนใจมารยาท ร่างผอมเพรียวจึงนั่งลงด้วยท่วงท่าผ่าเผย
“ไม่ได้พบกันนาน นายคงสบายดี” คนมาใหม่เอ่ยทักทาย
“นายไม่จำเป็นต้องมาห่วงฉันหรอก พับผ่าเถอะ เห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งเก่าของเรา นายไม่น่ามาที่นี่เลยนะ
วิลล์”
“ช่วยไม่ได้ ก็มันจำเป็นนี่ เพื่อน” ชายซึ่งนายอำเภอเรียกชื่อว่าวิลล์กระตุกยิ้มมุมปาก ขณะดวงตาจ้องมองมาที่เขาอย่างเฉยชา
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมืองนี้มีพวกเศรษฐีเยอะ” วิลล์พูด เขาขยับตัวนั่งไขว้ห้าง หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อหนังก่อนพูดต่อ
“เศรษฐีพวกนี้ไม่รู้จักพอเสียด้วย รวยแล้วก็ยังอยากรวยมากขึ้นไปอีก เสวยสุขอย่างไม่ยอมแบ่งปันคนอื่น ฉันว่านายต้องเคยเห็น อย่างน้อยก็คนสองคนในเมืองนี้”
“นายตั้งใจจะมาสร้างปัญหาให้กับฉัน ใช่ไหม? นายมันพวกขี้อิจฉา” ลูอิสพูดน้ำเสียงหงุดหงิด
“จะพูดแบบนั้นก็ได้ ฉันอิจฉานายจริงอย่างที่ว่า ในเมื่อรู้ตัวว่าด้อยกว่า ฉันจึงมาขอความช่วยเหลือจากนายไงล่ะ และฉันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับนายเลย...ก็แค่นายจับฉันให้ได้เท่านั้น” วิลล์ท้าทายยียวน เปิดซองบุหรี่ออกด้วยท่าทีสบาย ๆ เขย่าเอามาคาบมุมปากหนึ่งมวนก่อนจุดไฟ
“แน่นอน ฉันต้องจับนายแน่ วิลล์ ถ้านายยังไม่ยอมหยุดทำเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่” ลูอิสแทบคำราม มองวิลล์อัดบุหรี่เข้าปอด แล้วพ่นควันเป็นรูปวงกลมอย่างหมั่นไส้
“ได้อยู่แล้วเพื่อน ฉันยอมให้นายจับถ้ามีหลักฐานพอ ฮะ ฮะ” วิลล์พูดกลั้วหัวเราะ
“นายแค่อยากก่อกวนฉัน นายไม่น่าทำแบบนี้”
“ทำอะไร อ๋อ เอาเงินไอ้พวกผีสูบเลือดพวกนั้นมาแบ่งชาวบ้านบ้างน่ะเหรอ นายจะเดือดร้อนทำไม พวกนั้นรวยจะตาย แค่แบ่งมานิดหน่อย ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก”
“แต่ฉันเป็นผู้รักษากฎหมายที่นี่ นายกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่นะ”
“โว้วว!!! เยี่ยมไปเลย พูดดีมาก นายได้คะแนนเต็มอีกตามเคย” วิลล์ทำเสียงประชด อัดควันเข้าปอดก่อนพ่นมันใส่หน้าอีกฝ่าย
“นึกถึงสมัยเป็นตำรวจด้วยกัน นายมักทำงานเอาหน้าจนได้เลื่อนขั้นเสมอ วาสนาดีจนได้เป็นนายอำเภอ โทษทีว่ะ ไอ้ฉันมันแค่อดีตตำรวจนอกคอกนี่หว่า จริงไหมไอ้เกลอ” เขาชะโงกหน้าเข้ามาพูดใกล้ ๆ ก่อนหันไปขยิบตาให้ไลลาที่เกร่เข้ามา
“สวัสดีวิลล์ ไม่ได้เห็นเธอนานเลยนะ ยังหล่อเหมือนเดิมนี่” หล่อนทักอย่างจำได้
“สวัสดีไลลา ขอกาแฟจ้ะทูนหัว”
“เอาขนมปังด้วยไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ฉันเรียบร้อยมาแล้ว แค่จะมาคุยธุระกับเกลอเก่านิดหน่อยเท่านั้น”
“โอเค ฉันพร้อมบริการ ดีใจที่เห็นเธออีก ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนพวกเธอสนิทกันแค่ไหน” ไลลาพูดพลางหัวเราะก่อนหันกลับเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์
“มีอะไรก็รีบว่ามา” ลูอิสแค่นเสียงถามลอดไรฟันเมื่อไลลาห่างไปแล้ว เขาประสานสายตากับอดีตสหายรักที่กลับกลายมาเป็นทรชน ทำตัวเป็นโรบินฮู้ด ปล้นเงินคนรวยเอามาแบ่งคนจน
“ฉันจะจัดการกับเงินของแมนนิงคืนนี้ นายต้องช่วยฉันเหมือนครั้งก่อน ทำลายหลักฐานที่ฉันอาจเผลอทิ้งไว้ให้หมดจดเกลี้ยงเกลา
อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ไม่งั้นพวกนายจะซวยไปด้วย นายทำได้อยู่แล้วใช่ไหมเพื่อน?”
“นายกำลังขู่ฉันเหรอวิลล์”
“ไม่ได้ขู่
ฉันแค่มาให้สัญญาว่าจะไม่ปากโป้งเรื่องที่นายกับแมนนิงทำอะไรกับคุณนายแคทเธอรีน วิลสัน ส่วนเรื่องของฉัน นายก็แค่อยู่เฉย ๆ ทีนี้ สต็อตต์ ครีก ก็จะยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ตามความประสงค์ของแมนนิง
เพียงแต่เขาต้องแบ่งเงินกับเพชรพลอยในตู้เซฟมาให้ฉันใช้บ้าง...ก็เท่านั้น เข้าใจใช่ไหมพรรคพวก”
“ฉันจะช่วยนายอีกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” ลูอิสขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด
“ชัวร์ ได้เงินแมนนิงแล้วฉันจะไปจากที่นี่ทันที สัญญาว่าจะไม่กลับมาอีก อ้อ แต่ฉันจะแบ่งเงินให้ไลลาเอาไปขยับขยายร้านบ้าง ในฐานะหุ้นส่วน ร้านเธอดูโทรมเต็มที แล้วก็คิดว่าจะเลิกอิจฉานายแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ” วิลล์พยักพเยิดไปทางไลลาที่ยกกาแฟมาให้พลางหัวเราะร่า เขาสอดแขนโอบรอบสะเอวหล่อนที่ยิ้มหวานให้
************************************************************************
ร่างในชุดหนังสีดำออกจากร้านไปนานแล้ว ทิ้งลูอิสให้นั่งครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะ เขาเลื่อนจานสเต๊กออกห่างเมื่อรู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมา ขณะนึกไปถึงกองชิ้นเนื้อซึ่งเคยเป็นร่างผอมบางของคุณนายวิลสัน หญิงหม้ายผู้อยู่ในบ้านหลังเปล่าเปลี่ยวชานเมืองสต็อตต์ ครีก คนนั้น หล่อนนิสัยดี เป็นคนมีจิตใจเอื้อเฟื้อ คุยสนุกและชอบหัวเราะเสียงดัง ซึ่งก็ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หล่อนชะตาถึงฆาตต่อคนแปลกหน้าที่หล่อนเปิดประตูรับกลางดึก...น่าเสียดายที่ต้องเป็นหล่อน
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ลูอิสเข้ามารับตำแหน่งนายอำเภอเมืองนี้ ซึ่งแม้ว่าต้องเสียภรรยาไปและต้องทนกับผู้ช่วยนายอำเภองี่เง่าอย่างเอ็ดดี้ แต่เขาก็ไม่ยอมย้ายไปไหน ไม่ใช่เพราะเขาชอบเมืองนี้ขนาดหนัก แต่เป็นเพราะเขาอยู่มานานจนรู้จักทุกซอกทุกมุมของเมืองดี จึงคร้านจะไปเริ่มต้นที่ไหนใหม่อีก เขาปลื้มกับเครื่องแบบนายอำเภอและชอบที่มีคนเรียกหาแต่เขาต่างหาก
ลูอิสคิดเหมือนกับแมนนิงที่ว่า มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะดูแลสต็อตต์ ครีก ให้สงบสุขร่มเย็นอยู่ได้ พวกเขามีความสำคัญกับที่นี่ สต็อตต์ ครีก ต้องการเขา เช่นเดียวกับที่เขาต้องการมัน คนทั้งคู่ไม่อยากให้ความเจริญใด ๆ เข้ามาทำให้วิถีชีวิตดั้งเดิมเปลี่ยนไป
จวบจนกระทั่งมีพวกโครงการเคมีอินทรีย์และชีววิทยาของพืชในมหาวิทยาลัย อยากมาทดลองทำอะไรบางอย่างกับไร่ข้าวโพดในสต็อตต์ ครีก บางอย่างซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของเมืองอันแสนสงบสุข
ดร.จอห์น แมคไฮน์ เป็นหัวหน้าคณะพามันเข้ามาในเมืองนี้ ผู้ชายคนนั้นพูดจาโน้มน้าวถึงความเจริญเติบโตของเมืองที่กำลังจะตาย จนเจ้าของไร่ข้าวโพดส่วนใหญ่เห็นด้วย เว้นก็แต่เจ้าของไร่ข้าวโพดรายใหญ่สุด ทั้งยังเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองกว่าสามร้อยชีวิตมาอย่างยาวนานอีกด้วย แต่เมื่อเกิดคดีร้ายแรงนี้ขึ้นและตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ คนพวกนั้นก็กำลังคิดจะถอนตัวออกไปหาเมืองอื่นทำโครงการแทน
ลูอิสผู้ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองคือสต็อตต์ ครีก วางเงินไว้บนโต๊ะ ก่อนสาวเท้าออกจากร้านอาหารเมดีส์กลับไปสำนักงานนายอำเภอ สิ่งที่เขาจะต้องทำในคืนนี้เขาถือว่ามันคือหน้าที่ เขาคิดว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง ใช่...มันถูกต้องแล้ว
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. ladylongleg
7. Lady Star 919
8. Luckard
9. Na(นะ)
10. peiNing
11. psycho_factory
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. พิมเสนยาใจ
22. นลินมณี
23. น้องลิงน้อย
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. ลายลิขิต
27. สวนดอก
28. อิสิ
***
รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 8 เมษายน 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม
อย่าลืมนะครับ อ่านจบ ให้เกรดทันที ใส่เครื่องหมาย บวก หรือ ลบ เช่น A+ B- ได้ เพื่อความละเอียดยิ่งขึ้น แล้วค่อยทายทีหลังครับ 
⚡️🌨🌨⚡️ THE WEEKLY GLOVES ปลายวีคที่ 14 เรื่องสั้น#27 "หลง" โดย ถุงมือ "Mirror" ⚡️🌨🌨⚡️
เรื่องสั้นเรื่องนี้ ชื่อก็สั้นคำเดียว เรื่องก็สั้นหน้าเดียวจบ ตัวละครเป็นฝรั่งทั้งนั้น...แหวกแนวมาอีกเรื่องหนึ่ง
ชื่อเรื่อง "หลง" ถ้าใช้ภาษาอังกฤษก็ LOST ละครับนึกขึ้นมาคำแรก
ใคร หลงอะไร ที่ไหน ทำไมถึงได้หลง ฯลฯ
มาอ่านกัน ให้เกรด A B C D ตามด้วยบวกหรือลบตามอัธยาศัย แล้วหาผู้แต่งดูครับ........
ลูอิส นั่งทานสเต๊กเนื้อวัวเป็นมื้อเที่ยงอยู่ในร้านอาหารใกล้กับสำนักงานนายอำเภอของเขา
นายอำเภอหนุ่มใหญ่เคี้ยวช้า ๆ ซึมซับกับรสชาตินุ่มหวานของมัน พลางนึกขอบคุณ ไลลา เจ้าของร้านอาหาร เมดีส์ ที่เก็บเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยมจากฟาร์มปศุสัตว์ของแมนนิงไว้ให้ วันนี้เขามาที่นี่โดยไม่ได้ชวน เอ็ดดี้ ผู้ช่วยของเขามาด้วย เพราะมีนัดกับใครบางคนเอาไว้
ดวงตาสีฟ้าอมเขียวสอดส่ายสังเกตสังกาไปรอบร้านอย่างเคยชินในหน้าที่ ทั้งร้านดูเงียบเหงาเมื่อเหลือโต๊ะเขาเพียงโต๊ะเดียว หลังจากสองโต๊ะด้านหลังลุกออกจากร้านไปก่อนหน้านั้นแล้ว
คงเนื่องมาจากพยากรณ์อากาศเช้านี้ที่เตือนว่าพายุฤดูร้อนกำลังจะพัดเข้ามาถึง สต็อตต์ ครีก ภายในวันสองวันนี้ ผู้คนจึงพากันอยู่แต่ภายในอาคารที่มีหลุมหลบภัย ซึ่งจะปลอดภัยกว่าออกมาเตร็ตเตร่อยู่ข้างนอก อีกอย่างคงเป็นเพราะเพิ่งเกิดเหตุร้ายขึ้นในเมืองเล็ก ๆ อย่างสต็อตต์ ครีก ติด ๆ กันถึงสองคดีซ้อน มันคือเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งจนป่านนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐก็ยังไม่สามารถควานหาตัวฆาตกรมาลงโทษได้ ปล่อยให้ชาวเมืองตกอยู่ในอาการอกสั่นขวัญผวาจากฆาตกรที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และเหตุใดจึงลงมือเอากับผู้หญิงแก่ ๆ อย่างเหี้ยมโหด
เช่นเดียวกับคดีปล้นบ้านคหบดีของเมืองนี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าคดีฆาตกรรมเพียงสามวัน โดยเจ้าหัวขโมยก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ตำรวจได้สืบสวนหาตัวคนร้าย ไม่ว่าจะเป็นรอยนิ้วมือหรือรอยเท้า ไม่มีแม้แต่ภาพในกล้องวงจรปิดให้มองหาเงื่อนงำ เพราะมันได้ถูกจัดการด้วยมืออาชีพไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งสองคดีนี้ เห็นพวกตำรวจบอกว่า ดูเหมือนมันไม่มีความเกี่ยวข้องต่อกัน
ใช่...มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันหรอก ลูอิสคิดแล้วอยากหัวเราะใส่หน้าไอ้งั่งในเครื่องแบบพวกนั้น เขาอาจทำอะไรบางอย่างให้มันง่ายเข้า ถ้าคดีนี้ตำรวจจากส่วนกลางไม่ลงมาจุ้นจ้าน รอจนพวกนั้นสืบสวนจนถึงทางตันเสียก่อน เขาถึงค่อยยอมเข้าไปอยู่ในคอกพยาน เพื่อพูดประโยคอมตะว่าเป็นฝีมือของไอ้โรคจิต
ถูกต้องที่สุด...มันต้องจบลงที่เป็นฝีมือของคนโรคจิต ซึ่งมาและไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับพวกนินจา เพราะมีแต่ฆาตกรโรคจิตเท่านั้นจึงจะสับร่างหญิงไร้ญาติจนเละเทะจำแทบไม่ได้ โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินของเธอเลยสักชิ้นเดียว แถมยังไม่เจอสาเหตุและแรงจูงใจอะไรให้ฆาตกรต้องลงมือฆ่า
ส่วนเจ้าหัวขโมยก็ต้องป่วยทางจิตด้วยเหมือนกัน ที่พอปล้นเสร็จมันถึงได้เที่ยวซุกเงินไว้ให้ตามบ้านคนจนหลายต่อหลายหลัง จนพวกชาวเมืองพากันโจษขานกันอื้ออึง ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เพราะคนในบ้านหลังที่โดนเล่าลือต่างก็พากันปิดปากเงียบ ไม่มีใครยอมให้ความร่วมมือบอกเบาะแสโจรใจดีกับตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการทำงานอันยากลำบากก็น่าจะเป็นความท้าทายที่ตำรวจสมควรภาคภูมิใจ ลูอิสเข้าใจดีเพราะตัวเองก็เคยเป็นตำรวจมาก่อน และคดีนี้มันจะต้องถูกปิดลงในแบบที่มันควรเป็นด้วยความราบรื่น เขามั่นใจ!!!
แต่แล้วเขาก็เผลอถอนใจยาวเมื่อทอดสายตามองออกไปนอกกระจกหน้าต่างร้าน...ทุกอย่างย่อมมีปัญหา และตัวปัญหาของเขาก็มาโน่นแล้ว!!!
ภายใต้ท้องฟ้ามืดครึ้มในสัปดาห์แรกของฤดูร้อน บิ๊กไบค์คันใหญ่แล่นมาตามถนนสายที่ตัดผ่านไร่ข้าวโพดเหลืองอร่ามทอดยาวสุดลูกหูลูกตา มันจอดลงหน้าร้านอาหารเมดีส์
นายอำเภอยกมือขึ้นลูบเคราทรงสมอของตัวเองขณะมองชายในชุดหนังสีดำลงจากรถ ก้าวเข้ามาในร้าน ชายผู้มาใหม่ชะงักเท้าหยุดอยู่หน้าประตูกระจกร้านครู่หนึ่ง ก่อนสาวเท้ามาทางนายอำเภอเครางามทันทีที่ดวงตาสีเทาซีดของเขามองมาเห็น
“ไงเพื่อน” ชายในชุดหนังยื่นมือมาหา เขาหดมือกลับเมื่อนายอำเภอพยักหน้าไปที่เก้าอี้ตรงกันข้ามอย่างไม่สนใจมารยาท ร่างผอมเพรียวจึงนั่งลงด้วยท่วงท่าผ่าเผย
“ไม่ได้พบกันนาน นายคงสบายดี” คนมาใหม่เอ่ยทักทาย
“นายไม่จำเป็นต้องมาห่วงฉันหรอก พับผ่าเถอะ เห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งเก่าของเรา นายไม่น่ามาที่นี่เลยนะ วิลล์”
“ช่วยไม่ได้ ก็มันจำเป็นนี่ เพื่อน” ชายซึ่งนายอำเภอเรียกชื่อว่าวิลล์กระตุกยิ้มมุมปาก ขณะดวงตาจ้องมองมาที่เขาอย่างเฉยชา
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมืองนี้มีพวกเศรษฐีเยอะ” วิลล์พูด เขาขยับตัวนั่งไขว้ห้าง หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อหนังก่อนพูดต่อ
“เศรษฐีพวกนี้ไม่รู้จักพอเสียด้วย รวยแล้วก็ยังอยากรวยมากขึ้นไปอีก เสวยสุขอย่างไม่ยอมแบ่งปันคนอื่น ฉันว่านายต้องเคยเห็น อย่างน้อยก็คนสองคนในเมืองนี้”
“นายตั้งใจจะมาสร้างปัญหาให้กับฉัน ใช่ไหม? นายมันพวกขี้อิจฉา” ลูอิสพูดน้ำเสียงหงุดหงิด
“จะพูดแบบนั้นก็ได้ ฉันอิจฉานายจริงอย่างที่ว่า ในเมื่อรู้ตัวว่าด้อยกว่า ฉันจึงมาขอความช่วยเหลือจากนายไงล่ะ และฉันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับนายเลย...ก็แค่นายจับฉันให้ได้เท่านั้น” วิลล์ท้าทายยียวน เปิดซองบุหรี่ออกด้วยท่าทีสบาย ๆ เขย่าเอามาคาบมุมปากหนึ่งมวนก่อนจุดไฟ
“แน่นอน ฉันต้องจับนายแน่ วิลล์ ถ้านายยังไม่ยอมหยุดทำเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่” ลูอิสแทบคำราม มองวิลล์อัดบุหรี่เข้าปอด แล้วพ่นควันเป็นรูปวงกลมอย่างหมั่นไส้
“ได้อยู่แล้วเพื่อน ฉันยอมให้นายจับถ้ามีหลักฐานพอ ฮะ ฮะ” วิลล์พูดกลั้วหัวเราะ
“นายแค่อยากก่อกวนฉัน นายไม่น่าทำแบบนี้”
“ทำอะไร อ๋อ เอาเงินไอ้พวกผีสูบเลือดพวกนั้นมาแบ่งชาวบ้านบ้างน่ะเหรอ นายจะเดือดร้อนทำไม พวกนั้นรวยจะตาย แค่แบ่งมานิดหน่อย ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก”
“แต่ฉันเป็นผู้รักษากฎหมายที่นี่ นายกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่นะ”
“โว้วว!!! เยี่ยมไปเลย พูดดีมาก นายได้คะแนนเต็มอีกตามเคย” วิลล์ทำเสียงประชด อัดควันเข้าปอดก่อนพ่นมันใส่หน้าอีกฝ่าย
“นึกถึงสมัยเป็นตำรวจด้วยกัน นายมักทำงานเอาหน้าจนได้เลื่อนขั้นเสมอ วาสนาดีจนได้เป็นนายอำเภอ โทษทีว่ะ ไอ้ฉันมันแค่อดีตตำรวจนอกคอกนี่หว่า จริงไหมไอ้เกลอ” เขาชะโงกหน้าเข้ามาพูดใกล้ ๆ ก่อนหันไปขยิบตาให้ไลลาที่เกร่เข้ามา
“สวัสดีวิลล์ ไม่ได้เห็นเธอนานเลยนะ ยังหล่อเหมือนเดิมนี่” หล่อนทักอย่างจำได้
“สวัสดีไลลา ขอกาแฟจ้ะทูนหัว”
“เอาขนมปังด้วยไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ฉันเรียบร้อยมาแล้ว แค่จะมาคุยธุระกับเกลอเก่านิดหน่อยเท่านั้น”
“โอเค ฉันพร้อมบริการ ดีใจที่เห็นเธออีก ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนพวกเธอสนิทกันแค่ไหน” ไลลาพูดพลางหัวเราะก่อนหันกลับเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์
“มีอะไรก็รีบว่ามา” ลูอิสแค่นเสียงถามลอดไรฟันเมื่อไลลาห่างไปแล้ว เขาประสานสายตากับอดีตสหายรักที่กลับกลายมาเป็นทรชน ทำตัวเป็นโรบินฮู้ด ปล้นเงินคนรวยเอามาแบ่งคนจน
“ฉันจะจัดการกับเงินของแมนนิงคืนนี้ นายต้องช่วยฉันเหมือนครั้งก่อน ทำลายหลักฐานที่ฉันอาจเผลอทิ้งไว้ให้หมดจดเกลี้ยงเกลา อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ไม่งั้นพวกนายจะซวยไปด้วย นายทำได้อยู่แล้วใช่ไหมเพื่อน?”
“นายกำลังขู่ฉันเหรอวิลล์”
“ไม่ได้ขู่ ฉันแค่มาให้สัญญาว่าจะไม่ปากโป้งเรื่องที่นายกับแมนนิงทำอะไรกับคุณนายแคทเธอรีน วิลสัน ส่วนเรื่องของฉัน นายก็แค่อยู่เฉย ๆ ทีนี้ สต็อตต์ ครีก ก็จะยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ตามความประสงค์ของแมนนิง เพียงแต่เขาต้องแบ่งเงินกับเพชรพลอยในตู้เซฟมาให้ฉันใช้บ้าง...ก็เท่านั้น เข้าใจใช่ไหมพรรคพวก”
“ฉันจะช่วยนายอีกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” ลูอิสขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด
“ชัวร์ ได้เงินแมนนิงแล้วฉันจะไปจากที่นี่ทันที สัญญาว่าจะไม่กลับมาอีก อ้อ แต่ฉันจะแบ่งเงินให้ไลลาเอาไปขยับขยายร้านบ้าง ในฐานะหุ้นส่วน ร้านเธอดูโทรมเต็มที แล้วก็คิดว่าจะเลิกอิจฉานายแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ” วิลล์พยักพเยิดไปทางไลลาที่ยกกาแฟมาให้พลางหัวเราะร่า เขาสอดแขนโอบรอบสะเอวหล่อนที่ยิ้มหวานให้
ร่างในชุดหนังสีดำออกจากร้านไปนานแล้ว ทิ้งลูอิสให้นั่งครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะ เขาเลื่อนจานสเต๊กออกห่างเมื่อรู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมา ขณะนึกไปถึงกองชิ้นเนื้อซึ่งเคยเป็นร่างผอมบางของคุณนายวิลสัน หญิงหม้ายผู้อยู่ในบ้านหลังเปล่าเปลี่ยวชานเมืองสต็อตต์ ครีก คนนั้น หล่อนนิสัยดี เป็นคนมีจิตใจเอื้อเฟื้อ คุยสนุกและชอบหัวเราะเสียงดัง ซึ่งก็ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หล่อนชะตาถึงฆาตต่อคนแปลกหน้าที่หล่อนเปิดประตูรับกลางดึก...น่าเสียดายที่ต้องเป็นหล่อน
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ลูอิสเข้ามารับตำแหน่งนายอำเภอเมืองนี้ ซึ่งแม้ว่าต้องเสียภรรยาไปและต้องทนกับผู้ช่วยนายอำเภองี่เง่าอย่างเอ็ดดี้ แต่เขาก็ไม่ยอมย้ายไปไหน ไม่ใช่เพราะเขาชอบเมืองนี้ขนาดหนัก แต่เป็นเพราะเขาอยู่มานานจนรู้จักทุกซอกทุกมุมของเมืองดี จึงคร้านจะไปเริ่มต้นที่ไหนใหม่อีก เขาปลื้มกับเครื่องแบบนายอำเภอและชอบที่มีคนเรียกหาแต่เขาต่างหาก
ลูอิสคิดเหมือนกับแมนนิงที่ว่า มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะดูแลสต็อตต์ ครีก ให้สงบสุขร่มเย็นอยู่ได้ พวกเขามีความสำคัญกับที่นี่ สต็อตต์ ครีก ต้องการเขา เช่นเดียวกับที่เขาต้องการมัน คนทั้งคู่ไม่อยากให้ความเจริญใด ๆ เข้ามาทำให้วิถีชีวิตดั้งเดิมเปลี่ยนไป
จวบจนกระทั่งมีพวกโครงการเคมีอินทรีย์และชีววิทยาของพืชในมหาวิทยาลัย อยากมาทดลองทำอะไรบางอย่างกับไร่ข้าวโพดในสต็อตต์ ครีก บางอย่างซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของเมืองอันแสนสงบสุข
ดร.จอห์น แมคไฮน์ เป็นหัวหน้าคณะพามันเข้ามาในเมืองนี้ ผู้ชายคนนั้นพูดจาโน้มน้าวถึงความเจริญเติบโตของเมืองที่กำลังจะตาย จนเจ้าของไร่ข้าวโพดส่วนใหญ่เห็นด้วย เว้นก็แต่เจ้าของไร่ข้าวโพดรายใหญ่สุด ทั้งยังเป็นเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองกว่าสามร้อยชีวิตมาอย่างยาวนานอีกด้วย แต่เมื่อเกิดคดีร้ายแรงนี้ขึ้นและตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้ คนพวกนั้นก็กำลังคิดจะถอนตัวออกไปหาเมืองอื่นทำโครงการแทน
ลูอิสผู้ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองคือสต็อตต์ ครีก วางเงินไว้บนโต๊ะ ก่อนสาวเท้าออกจากร้านอาหารเมดีส์กลับไปสำนักงานนายอำเภอ สิ่งที่เขาจะต้องทำในคืนนี้เขาถือว่ามันคือหน้าที่ เขาคิดว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง ใช่...มันถูกต้องแล้ว
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. ladylongleg
7. Lady Star 919
8. Luckard
9. Na(นะ)
10. peiNing
11. psycho_factory
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. พิมเสนยาใจ
22. นลินมณี
23. น้องลิงน้อย
24. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
25. รัชต์สารินท์
26. ลายลิขิต
27. สวนดอก
28. อิสิ
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 8 เมษายน 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะเข้ารอบ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม
อย่าลืมนะครับ อ่านจบ ให้เกรดทันที ใส่เครื่องหมาย บวก หรือ ลบ เช่น A+ B- ได้ เพื่อความละเอียดยิ่งขึ้น แล้วค่อยทายทีหลังครับ