แผลในใจที่ไม่เคยหายไป ของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน แห่ง Linkin Park

เป็นเรื่องตลกร้ายที่คงไม่มีใครขำออก ถ้าได้รู้ว่า พ่อของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน
เป็นนักสืบของกรมตำรวจ ที่ทำคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กโดยเฉพาะ

แต่ความที่เขาต้องทำงาน "ควบกะ" อยู่เสมอ ทำให้เขาไม่มีเวลาให้กับครอบครัว


และจึงไม่ได้รู้เลย ว่าลูกชายของเขานั่นเอง
คือเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ที่ยาวนานหลายปี
กินระยะเวลาช่วงที่เบนนิงตัน อายุ 7 ปี ไปจนกระทั่งอายุ 13 ปี

โดยเบนนิงตัน ได้ให้สัมถาษณ์ถึงเรื่องนี้
ในปี 2008 ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมด
ที่เป็นฝีมือเพื่อนบ้าน ที่อายุมากกว่าเขาว่า

"มันเริ่มจากการสัมผัสเนื้อต้องตัว แล้วมันก็ลามบานปลายออกไป"

"ตอนนั้นผมถูกทุบตี และถูกบังคับให้ทำ ในสิ่งที่ผมไม่อยากทำเลย
แล้วมันก็ทำลายสภาพจิตใจผมให้ย่อยับไม่มีชิ้นดี"

เบนนิงตันตกอยู่ในสภาพนี้ถึง 6 ปี
6 ปีที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับความกลัว ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา
หากเขาปริปากพูดขึ้นมา เขาจึงเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวตลอดเวลา


"ก็เหมือนกับคนส่วนใหญ่(ที่เจอเรื่องแบบนี้)
ผมกลัวเกินกว่าที่จะพูดมันออกไป"

"ผมไม่อยากให้คนคิดว่าผมเป็นเกย์
และก็ไม่อยากให้คนคิดว่าผมสร้างเรื่องขึ้นมา
มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก"

และหลังจากนั้น เขาก็ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ในปี 2010 ว่า
แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหนักหนา แต่มันก็ยังคงหลอกหลอนจิตใจเขาตลอดมา




"เมื่อผมนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ผมยังเด็กมากๆ
เมื่อผมนึกไปยังช่วงเวลาที่ผมถูกขืนใจ
นึกถึงช่วงเวลาที่เรื่องชั่วร้ายนั่น มันวนเวียนอยู่รอบตัวผม
มันทำให้ผมถึงกับตัวสั่น"

เหตุการณ์นี้นำพาเขาเข้าสู่โลกของยาเสพติดและแอลกอฮอล
เพื่อใช้มันรักษาสภาพจิตใจแม้ว่าท้ายที่สุด เขาจะ "ใฝ่ดี"
พอที่จะสลัดสิ่งพวกนั้นออกไปได้


และเข้มแข็งพอที่จะบอกความจริงกับโลก และยังเป็นผู้สนับสนุน
แคมเปญ ที่ต่อต้านการกระทำรุนแรงในเด็ก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





แต่แผลนั้นก็ยังคงอยู่ และมันไม่เคยหายไป.......

เป็นแผลที่บากลงไปในผืนแผ่นดินหัวใจของเขา
เและป็นกระแสน้ำลึกมืดดำเชี่ยวกราก ที่กัดเซาะรอยบากนั้นจนลึกเป็นหุบเหว

และเจ้าตัวก็เหมือนได้บอกเล่าความรู้สึก ที่ยังกัดกินอยู่ในหัวใจของเขาตลอดมา
ผ่านออกมาเป็นบทเพลงที่ชื่อว่า Easier To Run

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
มันง่ายกว่า ที่จะวิ่งหนีไปให้ไกล
แทนที่ความเจ็บปวดด้วยความมึนเมา
มันง่ายกว่า ที่จะหนีหน้าไป
กว่าการเผชิญหน้าความเจ็บปวดนี้เพียงลำพัง

บางสิ่งบางอย่างถูกพรากไป จากห้วงลึกสุดในใจของฉัน
ความลับที่ฉันเก็บซ่อนไว้ภายใน ไม่เคยมีผู้ใดได้เห็น
บาดแผลที่ลึกอยู่ข้างใน ไม่เคยมีใครได้เห็น แต่มันไม่เคยหายไป
เหมือนภาพยนต์ที่ฉายซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่าในหัวของฉัน
ในทุกโมงยามขวบปีที่ผ่านพ้นไป

หากฉันเปลี่ยนแปลงอดีตได้ ฉันขอส่งความเจ็บปวดนี้คืนไป
ฉันจจะเปลี่ยนแปลงทุกบทบาท ทุกเส้นทางที่ฉันเลือกแล้วผิดไป

หากฉันสามารถยืนหยัด และยอมรับคำว่าร้ายได้ ฉันจะทำ
หากฉันสามารถแบกเอาความอับอายนี้ลงไปสุ่สุสานพร้อมตัวฉันได้ ฉันจะทำ

บางครั้งฉันยังจดจำ เงามืดจากอดีตของฉัน
ปลุกความทรงจำที่ฉันได้แต่หวัง ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นจริง
บางครั้ง ฉันคิดอยากปล่อยมันไป และไม่มองย้อนกลับ
แต่มันไม่เคยหายไปไหน และมันไม่เคยแม้จะกลายเป็นอดีตเลย

ชำระล้างได้แต่เพียงภายนอก
ภาวะไร้กำลังทั้งหมดนั้นยังอยู่ภายใน
แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร
มันง่ายกว่าจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง.............








เราได้เรียนรู้อะไร จากการจากไปของเขา นอกจากเรื่องโรคซึมเศร้า
ซึ่งต้นเหตุส่วนหนึ่งของมัน ก็คงจะมาจากเรื่องนี้นี่เอง

เราก็ยังได้ตระหนักว่า เรื่องเลวร้ายแบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นกับเด็กคนไหน

เป็นหูเป็นตาให้กับลูกหลานของเรา และเด็กๆในสังคม
ให้ความปลอดภัยกับพวกเขา อย่าให้เรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเด็กคนไหนอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่