ก่อนจะเข้าเรื่องเราขอบอกก่อนว่าวิธีนี้คือ เราทำด้วยตัวเองและทำตามทางที่มันโอเคกับเราที่สุดนะเจ้าคะ ไม่ได้ไปสายเฮลตี้ ออกกำลังกาย 100% นะคะ  เพราะเราไปดูดไขมันหน้าท้องมาก่อนหน้านี้ (ประมาณว่าอยากมีซิกแพคแบบเร่งด่วน เอาไว้อวดผู้ก่อนสงกรานต์ 555) ก่อนดูดเราก็มีพุงน้อยๆเอวหนานิสนึง พอดูดออกแล้วมาปั้นซิกแพคก็ง่ายกว่าเดิมค่ะ (ก่อนหน้าดูดไขมันเคยลองแล้วแต่ไม่ขึ้น น้ำตามา 55 ) เราขอไม่ลงลึกเรื่องนี้เท่าไหร่แต่สำหรับใครที่อยากดูดก็ลองดูข้อมูลดีๆก่อนตัดสินใจทำเน้ออ



ออเจ้านี่มันไขมันกำเริบ กินไม่รู้จักกาลเทศะ ตัวเลยหนาเบอร์นี้ สำหรับใครที่อยากจะปั้นซิกแพคก็ต้องไปเอาไขมันออกก่อน ถ้าจะไปทางออกกำลังกายก็ต้องมีวินัยทั้งเรื่องการกินและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมากๆๆๆ แต่สำหรับเรามีความขี้เกียจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยเลือกที่จะไปดูดไขมันออกก่อน จะได้ปั้นง่ายๆไวๆจ้า



ก่อนดูด-หลังดูดจ้าเป็นเช่นนี้แลท่านทั้งหลาย หลังพักฟื้นให้แผลหายดีได้ประมาณ 20 วันเราก็มุ่งหน้าเข้าฟิตเนสอย่างเต็มรูปแบบ เราก็ออกหมดค่ะที่เทรนเนอร์บอกว่าดีแล้วช่วยให้ซิกแพคขึ้นได้ แต่อันนี้ต้องทำควบคู่ไปกับเรื่องการกินของเราด้วยนะ ถ้าออเจ้ายังมิหยุดกิน กินมิรู้ความ ออกไปก็เท่านั้นจ้า



สำคัญที่สุดคือต้องมีวินัยกับตัวเองค่ะ ถ้าไม่ทำอย่างต่อเนื่อง หยุดไปสักพักมันจะไม่มีอารมณ์ฮึดเหมือนตอนแรก เราเลยต้องพยายามมากๆไม่ให้ขี้เกียจและไม่ให้เบื่อเหมือนก่อน เลยลองเล่นท้ากับเพื่อนแข่งกันปั้นซิกแพคดูค่ะ 555 งานนี้ยอมเพื่อนไม่ได้อยู่แล้วจ้า เลยออกกำลังกายวนไปไม่หยุด แล้วก็นั่งดูรูปซิกแพคน้อยๆของแม่การะเกดเพื่อสร้างแรงใจ เราว่าวิธีนี้ก็เวิร์คมากๆนะคะ ลองหารูปต้นแบบหุ่นที่อยากได้มาเป็นไอดอลของเราดูจ้า



ตอนนี้เราก็ออกกำลังกายมาได้เดือนกว่า รู้สึกว่าหุ่นดี สุขภาพดี สวยได้เสี้ยวนึงของแม่นายแล้วเจ้าค่ะ (มั่นสุด555) ส่วนเรื่องซิกแพคนี่ก็ต้องใช้เวลาเนอะ (ข้าจะเข้าฟิตเนสต่อไปเป็นกำลังใจให้ข้าด้วยย) ปัจจุบันก็ได้ประมาณนี้เจ้าค่ะ



อนาคตจะเป็นยังไงถ้าว่างเดี๋ยวมาเล่าสู่กันฟังให้ดูเน้ออ ขอบใจที่อ่านจนถึงบัดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคะ
สุดท้ายขอฝากตัวและหัวใจซักนิ๊ดดด..