------------------------ Thailand Landslides and Japan ---------------------------

รู้สึก มีความสุข ที่ญี่ปุ่่น กับข่าว 2 พี่น้องนายกของเรา  บ้านเมืองเค้า ก้าวหน้าเจริญมีอารยะ  เคารพสิทธิ์เคารพเสียงของประชาชน

       ขนาดโดนระเปิดปรมณูจนสาหัสสากรรจ์ โดนภัยพิบัติธรรมชาติใหญ่ๆ ก็หลายต่อหลายครั้ง  

               แต่บ้านเมืองเค้าก็ผ่านมาได้ ก้าวหน้ากว่า เมืองคนดีที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร  แต่ไม่รู้จักคำว่าเคารพเสียงส่วนใหญ่ กัน


ต้นปีหน้าจะถล่มทลายกันหรือไม่  ไม่ต้องเถียงกันค่ะ   รอกันอีกไม่กี่อึดใจ    เราจะได้รู้ว่าที่แท้จริงแล้ว  ประชาชนต้องการใคร  กัน น้อ น้อ




                                                 วันนี้มีเรื่องจะเล่าอยู่ 2 เรื่อง  เรื่องระบบราชการ กับ  เรื่องของชนชั้น

1..   เกี่ยวกับสายงานที่ทำอยู่  เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เข้าไปทำธุระที่ รพ.ที่เคยทำงานอยู่  เรื่องการส่งต่อคนไข้เรื้อรัง

               ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานความดัน  คนไข้ไปที่รพ.ครั้งแรกเค้าไม่ยอมตรวจให้  เลยมาตรวจที่คลินิคเอกชน

                      พอเรา detect ได้ รักษาเบื้องต้นให้ไปก่อนแล้ว เราจะส่งต่อไป รพ. เพื่อให้คนไข้ได้ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ

                                 เพราะโรคเรื้อรัง ต้องรักษากันยาวนาน  เราไม่อยากให้คนไข้เสียเงินมาก เลยส่งต่อ รพ. ค่ะ


     พอดีวันที่เราเข้าไป  มีจนท.ระดับบิกๆจากส่วนกลาง มานิเทศน์งาน ติดตามตรวจสอบและแนะแนวทางให้รพ.ชุมชน

         พอดี รพ. นี้มีปัญหาบุคคลากรได้ฆ่าตัวตายไป 2 ท่าน  เนื่องจากมีปัญหาเครียดเรื่องการทำงานที่หนักและมากขึ้น

              2-3 ปีมานี้  สายงานของเรา นอกจากจะต้องรับบริการจากประชาชนที่เจ็บป่วยแล้ว ยังมีภาระเพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง

                   นอกจากตั้งรับแล้ว  ต้องเชิงรุกด้วย เข้าไปหาพี่น้องประชาชน ประสานงานของบประมาณจากส่วนท้องถิ่น

                       ส่วนตัวเราก็ว่าดี ถ้าไม่มากจนเกินกำลังจนท. แต่ที่ผ่านๆมา  ข้างบนบริหารงานบนห้องแอร์

                           คิดไอเดียบรรเจิดเลิศล้ำ อะไรต่อมิอะไรได้แก่แล้วแต่  ก็จะสั่งงานลงเบื้องล่างทันที

                                  โดยไม่คำนึงถึง จำนวนบุคลากรว่าจะพอเพียงต่องานที่เพิ่มเข้ามาแบบไม่ขาดสายได้ไหม ไหวไหม


จนท. 2  ท่าน ที่ได้เสียไปแล้วนั้น ก็ขออโหสิกรรมให้ค่ะ ถึงแม้พวกท่านเหล่านั้น เป็นหนึ่งในเสียงนกหวีดที่ขับไล่นายกปูไป

            ก็ตามทันละค่ะ คงนึกว่าจะอยู่สุขสบาย แต่ผลที่ได้รับกลับตรงกันข้าม  ไม่ต้องโทษใครต่อใครค่ะ  


   ตอนท่านผู้นิเทศน์งานเข้ามา ที่รพ.  มีจนท.ที่เกียวข้องไปต้อนรับอยู่ 5-6 คน พร้อมผอ.รพ.  

         ดาบ 1  ที่โดน  ท่านต่อว่า  ทำไม มีจนท.มารับน้อยไป  ไม่รู้หรอกหรอว่า จะมีส่วนกลางมานิเทศน์งาน มาอะไรกันแค่หยุมหยิม

                พอดีเรา ไม่ได้อยู่ตรงงั้นด้วย  แต่แหม ๆๆ  แค่มานิเทศน์งานนี่ต้องเอาคนมารับเป็นสิบเป็นร้อยเลยหรอค่ะ

                         จนท.คนอื่นๆ  เค้าก็มีงานทำ ไม่ได้ว่างงานต้องมาต้อนรับขับสู้หรอก ใหญ่โตกันจริงๆ

                                ระบบทาสระบบไพร่เลิกมาเป็นร้อยๆปีแล้ว  แต่ยังมีบางคนยังมีแนวคิดแบบนี้อยู่อีก

                                          ไม่แปลกหรอกที่ระบบราชการบ้านเราไม่ได้พัฒนาไปไหน ล้าหลัง


          ดาบที่ 2  พอดีเราอยู่ใกล้พอดี  ท่านได้มาตรวจแถว OPD  ห้องตรวจผู้ป่วยนอก  วันนี้นมีคนไข้อยู่ราวๆ 200  คนค่ะ แน่นอยู่

                   ท่านผู้นิเทศน์งาน ก็ได้บ่นออกมาดังๆว่าทำไมคนไข้เยอะจัง  ทำไมไม่แบ่งไปให้รักษาที่อนามัยบ้าง

                        ถามทั้งคณะจนท.ที่ต้อนรับ  ถามทั้งคนไข้ทำไม ไม่ไปรักษาที่อนามัยกัน  ........ ก็ไม่มีใครกล้าตอบนะ เข้าใจ


                             เราอยู่ตรงนั้นพอดี เลยช่วยตอบไปว่า ถ้าญาติท่านนิเทศน์เองป่วย(แรกจะถามว่าคุณแม่ท่าน)

                                ( แต่เกรงจายๆๆๆๆๆ    ท่านค่ะ  เลยแค่ญาติท่านแทน )     ถึงแม้บ้านอยู่ติดกับอนามัย

                                      ถามว่า  ท่านจะพาญาติท่านไปรักษาที่อนามัย เพื่อรักษากับหมออนามัย

                                                 หรือจะไปไกลว่านิดนึง เพื่อพบแพทย์โดยตรง  กันค่ะ

                                                         ท่านยังไม่ตอบเรานะ  เราเดินหนีไปก่อน 55555

                    ทำงานใหญ่โต  แต่ไม่ใจเค้าใจเรา   คิดแต่ตัวเองฝ่ายเดียว  สงสารคนไข้ยากไร้น้อ  ไม่มีทางลือกอื่นๆ

                               ดีนะ  ที่ยังมีระบบ  30   บ.  คอยช่วยเหลือไว้บ้าง  ถ้าไม่มีจะขนาดไหน  ไม่อยากคิด


                                                             ฝากเพื่อนๆคิดกันต่อนะคะ   ต่อยอดกัน




2..ใกล้ฤดูคัดเลือกทหารแล้ว  เป็นหน้าที่ของชายไทยที่ครบเกณฑ์ ไม่ว่าชายแท้ชายเทียมไม่มียกเว้นค่ะ

        ขนาดเราเองก็ไปเกณฑ์ ไม่กลัวไม่หนีค่ะ    แถมได้ใบแดง  ด้วย  ทบ.1  ต่างหาก


แต่อยากจะบอกว่า  เป็นหน้าที่ชายไทยทุกคนไว้มียกเว้น ส่วนใหญ่ไปโดยมืได้สมัครใจ  ที่สมัครก็ส่วนน้อย

      น้องๆเค้าบางคนจากบ้าน บางคนจากลูกจากเมียมา  อยากให้ดูแลเค้าดีๆหน่อยเถอะ

           2 เดือนแรกแค่ฝึกก็หนักแล้ว บางทีก็มีซ่อมกันอีก  เบาๆเพลาๆมือกันบ้างนะคะ

                คิดว่าน้องๆเค้าเป็นลูกเป็นหลาน กันบ้าง  จะลงโทษเอาตามวินัย จะวิดพื้นจะวิ่งรอบสนามก็ว่ากันไป


แต่แบบถึงเนื้อถึงตัวกัน ลงโทษหนักเกินขอบเขต   ไม่ควรมีให้เห็นแล้ว  นะคะ   ไหนๆ     ก็จะยุค 4.0  และ

      บางคนเรียนจบปริญญาโท เอกมา  มาโดนแบบนี้เนี่ย  คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มา  

             บางคนเลี้ยงลูกมาจนจบเอก ได้ดีมา  ไม่เคยต้องทำโทษลูกเลย ..... แล้วพวกท่านเป็นใครกัน  ถึงทำแบบนี้ได้


อีกอย่างทหารรับใช้ก็น่าสงสารนะ เจอคุณนายดีๆ ก็รอดตัวไป  ไปเจอคุณนายร้ายๆ ลงโทษแบบไม่มีเหตุอันควรก็มีให้เยอะ

             จะบอกให้นะ พวกคุณนายนี่ตัวดี  ชอบโชว์  พาวเว่อร์ แบบ เว่อร์ๆๆ  ไปเดินตลาดก็ต้องเอาพลรับใช้ตามไปถือของ

                            คงกลัวแม่ค้าไม่รู้มั้ง  ว่า  คุณสารมี   ทำงานอะไร     เพลีย  เพลีย  น้อ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





อ้าวๆๆๆๆๆๆ  ใครคิดถึงนายกปู นายกแม้ว  ยกมือขึ้นค่ะ   และที่ลืมไม่ได้  ใครคิดถึงตงฟาง  เข้ามาด่วนเลยนะ  ออเจ้า


     ปล.แก้ไขคำผิดนะคะ   พอดีไม่ได้ใช้แป้นพิมพ์มานานๆ  เลยฝืดๆ  กดค้างๆบ้างค่ะ  เลยเข้ามาแก้