ดูบุพเพสันนิวาส แล้วมีความสงสัยอะไรบางอย่างครับ

ดูบุพเพสันนิวาส สงสัยถึงการมีอยู่จริงของการข้ามภพข้ามชาติ ทั้งในแนวศาสนาและวิทยาศาสตร์ ครับ


    มีความรู้สึกเหมือนขณะที่วิทยาศาสตร์พยายามพิสูจน์การเดินทางข้ามเวลา ทั้งไอสไตร์ / ฮอว์กิ้ง ฯลฯ ที่พูดถึงหลุมดำ พลังงานแรงโน้มถ่วง ซิงกูลาริตี้ ฯลฯ ซึ่งเป็นพลังงานนอกโลก ในจักรวาล เป็นการเดินทางโดยพากายหยาบไปด้วย แต่ในทางศาสนาไม่ว่าศาสนาใด เหมือนจะทำได้มานานแล้ว แต่เป็นในรูปพลังงาน แต่ยังไม่มีใครสามารถอธิบายออกมาเป็นทฤษฎีทางวิทยาสตร์ได้แต่จะเป็นแนวคำสอนแต่ละศาสนา ซึ่งไม่น่าใช้พลังงานนอกโลกแต่อย่างใด แต่เหมือนสสารที่เปลี่ยนสถานะและพลังงานภายในภาชนะที่เรียกว่าโลก โดยใช้คำว่าเวียน ว่าย ตาย เกิด


พอคิดมุมนี้ก็มีหลายอย่างที่วิทย์ยังอธิบายไม่ได้ หลายคำที่มีทั่วโลก และมีมานานแล้ว การระลึกชาติ หยั่งรู้อนาคต จะนอสตราดามุสหรือใครก็ตาม หรือการถอดจิต การทำนายทายทัก ผี วิญญาณ ซึ่งบางอย่างก็พิสูจน์ได้บ้างเช่น การจับพลังงานของวิญญาณได้ ซึ่งถ้าในทางศาสนาการเวียนว่ายตายเกิดนอกจากเปลี่ยนสถานะของพลังงานแล้วยังมีตัวแปรเรื่องเวลาที่จะย้ายสถานะนั้นๆอีกด้วยใช่หรือไม่ ถึงมีคำว่า ไม่ไปผุดไปเกิด ระลึกชาติ รู้อนาคต ซึ่งภพภูมิหรือแดนสวรรค์ของพระเจ้าหรือนรกแต่ละศาสนา ก็ซ้อนทับกันอยู่ภายในภาชนะโลกทั้งสิ้น


ซึ่งถ้าคิดดังนี้ ทางศาสนาการฝึกจิตด้วยสมาธิหรืออื่นๆเพื่อ "เห็น" การซ้อนทับของเวลา ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์หมอดูซึ่งมีทั่วโลก ทั้งดูดาว ดูไพ่ ดูวันเกิดของการเวียนว่ายตายเกิดของผู้นั้นๆ ทั้งแม่นจริง ทั้งเดาเพื่อเป็นอาชีพ แต่ถ้าจะ "ไป" คงต้องเป็นอีกขั้นคือทำให้จิตบริสุทธิ์ ด้วยความดีหรืออื่นๆตามแต่ละศาสนาจะสอน ซึ่งหลังจากตายแล้ว เพื่อให้พลังงานที่เปลี่ยนไปจะได้ "ไป" ในที่ๆจิตได้ฝึกพร่ำคิดคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นการไปสู่พระเจ้า หรือการนิพพาน แต่ถ้าจิตสับสนไม่เคยฝึกอะไรเลย อาจจะเกิดเป็นมดเป็นพืชผักที่ไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ว่ากันไป (เออน่าคิดแฮะ) ส่วนกายเนื้อก็สูญสลายเป็นปุ๋ย ทุกอย่างวนเวียนอยู่ในโลกมาเป็นพันล้านปีแล้ว ซึ่งถ้าคิดในมุมนี้ก็เข้าใจได้ที่ศาสนาจะสอนให้เป็นคนดี เพื่อให้จิตไปสู่ภพภูมิที่ดี


แต่ถ้ารอวิทยาศาสตร์ซึ่งจะเอากายเนื้อไปด้วยให้ได้ ก็คงต้องรอการสร้างไทม์แมชชีนออกไปนอกโลก วาร์ปไปมาอย่างสตาร์เทรคหรือสตาร์วอร์ ซึ่งต่างประเทศก็น่าจะคิดอย่างนี้จริงๆ ทุกอย่างวิจัยเพื่อการออกไปนอกโลกทั้งสิ้นเพราะคิดแค่กายหยาบ แต่ศาสนาไม่เคยคิดออกไปไหน วนเวียนอยู่ภายในโลกด้วยจิต แต่สอนให้บริสุทธิ์เพื่อไปเกิดในแต่ละชั้นต่างกันไป กายหยาบจะฝังเป็นปุ๋ยหรือเผาไปในอากาศก็สูญสลายภายในโลกไม่จบสิ้น


มาถึงตรงนี้ มนุษย์ช่างโง่เขลาจริง โลกมีเป็นพันล้านปีอยู่มาได้ พอมนุษย์เกิดมาไม่กี่หมื่นปีโลกกำลังจะสูญสลาย ทำลายวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด เพราะคิดว่าตัวเองฉลาดยึดติด ไม่ยอมแก่ไม่ยอมตาย จะเอากายหยาบไปด้วยทุกที่ ทั้งที่เกิดชาติเดียวไม่เกินร้อยปีเดี๋ยวจิตก็ไปเกิดชาติต่อไปแล้ว (ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเดินหน้า-ถอยหลังเหมือนในละครได้หรือไม่) แล้วถ้าไปตายนอกอวกาศจิตจะไปอยู่ในภาชนะอันใดได้คิดกันหรือยังฤ


สรุป ดูบุพเพฯ แล้วเกิดความคิดนี้แวบขึ้นมาแล้วเอามาแชร์ความคิดเห็นกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่