(ขอคำแนะนำ) รู้สึกเหนื่อย เคว้งไม่มีเป้าหมายในชีวิต

สวัสดีค่ะ เราอายุ 24 เรียนจบมาได้ปีกว่าแล้วค่ะ (ยังคงว่างงานขอเงินที่บ้านใช้อยู่ค่ะ) เรียนสายกฎหมาย
แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่อยากไปต่อไม่อยากทำงานสายกฎหมายแล้วค่ะ
ไม่ว่าจะนิติกร ทนาย อัยการ ผู้พิพากษา จากที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเดินทางนี้ ตอนเรียนก็สนุกมีความสุขกับการเรียน
ตอนจบใหม่ก็ลงเรียนเนติบัณฑิตกับหาสถานที่ฝึกงานเพื่อไปสอบใบอนุญาตว่าความไว้ มีความสุขดีค่ะ รู้สึกสนุก
แต่พอได้สัมผัสกับอาชีพที่เราใฝ่ฝันแล้วก็พบว่ามันไม่เป็นเหมือนที่เราคิด
เราเหนื่อยกับการอ่านหนังสือ เหนื่อยกับการต้องไปเทียวสอบ ชีวิตวนลูปอยู่ที่อ่านหนังสือ-ไปสอบ-อ่านหนังสือ-ไปสอบ อยู่อย่างนี้
ทั้งๆที่เป้าหมายนั้นเราไม่อยากเดินไปถึงแล้ว แต่ก็ต้องทำเพราะที่บ้านและคนรอบตัวหวังในตัวเราอยู่ และเรายังไม่มีเป้าหมายอื่นที่ชัดเจนหรือมั่นคงพอที่จะเลือกเดินไปทางนั้น

ช่วงหนึ่งปีหลังจากเรียนจบเจอมรสุมชีวิตหลายลูกมากค่ะ ทั้งเรื่องของครอบครัว เรื่องของตัวเอง
จากที่เราสนิทกับแม่คุยกับแม่ได้ทุกเรื่อง กลายเป็นว่าเราหลีกเลี่ยงที่จะคุยกับท่าน
กลายเป็นเก็บกดเพราะปัญหาที่เราเจอก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไประบายหรือปรึกษาเพื่อนได้ หาทางออกด้วยตัวเองก็ไม่เจอ
ได้แต่เก็บๆๆมันไว้รอให้เวลาผ่านไปจนปัญหามันแก้ตัวของมันเอง ร้องไห้กับตัวเองบ่อยมากจนรำคาญตัวเอง

ตอนนี้เรารู้สึกว่าอยากทำงานอะไรสักอย่าง หาเงินเลี้ยงตัวเองเลี้ยงพ่อแม่ได้พอ ไม่ต้องมีหน้ามีตาอะไรในสังคม
อยากหยุดจากวงจร "อ่านหนังสือ-ไปสอบ" อยากหนีจากกองหนังสือและเอกสารสูงท่วมหัว
ช่วงนี้ใกล้จะสอบเนฯด้วยค่ะ เมื่อคืนอ่านหนังสืออยู่ๆก็มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวว่ามันไม่สนุกเหมือนตอนเรียนหรือตอนจบใหม่ไม่อยากทำแล้วไม่อยากฝืนไปทางนี้แล้วแล้ว แล้วเราก็ร้องไห้โฮออกมา พอแม่ได้ยินก็เข้ามาปลอบเราก็เดินหนีออกไปจากห้อง เราไม่อยากได้ยินคำพูดปลอบจากใครโดยเฉพาะแม่ แม่เข้าใจว่าเราเครียดเรื่องจะสอบ แต่ไม่ใช่เราไม่อยากเดินทางนี้แล้ว

เมื่อเช้าแม่ก็เกริ่นแซวๆว่าจะสอบกี่ทีก็ร้องไห้ตลอด เราก็บอกว่าเราไม่ได้เครียดเรื่องสอบ แต่เราไม่อยากเดินทางสายกฎหมายแล้ว ไม่สนุกไม่มีความสุข
เรื่องของตัวเองก็เยอะจะแย่อยู่แล้ว แก้ปัญหาล้านแปดของตัวเองยังไม่ได้เลย จะเอาแรงที่ไหนไปช่วยคนอื่นอย่างที่เคยคิด
แม่ก็ทำหน้าเครียดพูดเสียงสั่นว่า "แม่ขอเถอะอย่าเพิ่งยอมแพ้ ลองไปให้ถึงเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก่อน ลองไปทำดูก่อนๆที่จะตัดสินใจว่ามันไม่ใช่
แค่ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือเดี๋ยวก็ผ่าน งานก็ไม่ต้องทำ แม่ส่งได้อยู่ (ที่ผ่านมาเคยไปสอบเข้าทำงานแต่ที่บ้านก็ไม่ให้ไปทำงานค่ะ กลัวว่าถ้าเราทำงานแล้วจะไม่ยอมเรียน ซึ่งก็จริงค่ะ ถ้าเราได้งานเราชิ่งทางนี้แน่) แม่ไม่อยากให้เราเป็นคนที่ทำอะไรครึ่งๆกลางๆเจออุปสรรคแล้วก็ถอย"
เราว่าเราไม่ได้จะถอยเพราะเจออุปสรรค แต่มันไม่มีแรงบันดาลใจที่จะให้เราทำแล้ว หมดกำลังใจแล้วต่างหาก
มีอีกประโยคที่แม่พูดมาคือ "ไม่เห็นจะต้องสนุก ไม่เห็นจะต้องมีความสุขตลอดเวลา ไม่มีใครได้ดั่งใจทั้งหมดหรอก"
เราก็ได้แต่เงียบ เราคิดว่าการที่จะต้องมาทำงานอะไรสักอย่างที่ต้องแบกรับความเครียด อย่างน้อยเราควรที่จะชอบมันสนุกที่ได้ทำมัน
แต่นี่เราไม่สนุกกับมันแถมจะต้องมาเจอแต่เรื่องเครียดๆด้วย เราว่าเราคงจะได้กลายเป็นบ้าในเร็ววันแน่

เป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก็ไม่ใช่ เป้าหมายใหม่ก็ไม่มี อะไรที่เคยทำแล้วสนุก ก็ไม่สนุก งานอดิเรกทั้งหลายที่เคยทำก็ทิ้งมันไปไม่เหลือสักอย่าง ความภาคภูมิในตัวเองก็หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ รู้สึกตัวเองอ่อนแอไร้ค่า ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วตอนนี้ยังจะถอดใจไม่เดินทางนี้ต่ออีก ความคิดเหมือนเด็กไม่รู้จักโตสักที
ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมารู้สึกตัวเองคิดลบเยอะมาก แถมเก็บกดด้วย กลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะเป็นซึมเศร้าแล้วจะแย่กว่านี้

ควรจะปรับความคิดยังไงให้มีกำลังใจฝืนเดินต่อไปในทางนี้ต่อดีคะ รู้สึกทุกอย่างในชีวิตตอนนี้มันขมขื่นไปหมดเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่