ดูละคร แล้วย้อนดูตัว(ของเรา)

กระทู้คำถาม
กระแสละครกำลังดัง เลยถือโอกาสเป็นทาร์ซานโหนกระแสกับเขาบ้าง

ผมเองไม่ค่อยจะมีเวลามานั่งดูละครเป็นชั่วโมงๆ แบบนี้
เดินผ่านๆ เห็นเขาดูกัน ก็ชำเลืองมองบ้าง
ก็หวังว่าจะได้เห็นฉากสำคัญๆ อาทิ ฉากตบตีกันจนผ้าผ่อนหลุดบ้าง อะไรทำนองนี้

ละคร มักจะเป็นเรื่องที่สมมติขึ้น
แต่คนที่ติดงอมแงม ก็มักจะหลงเข้าไปอยู่ในเรื่องสมมตินั้นโดยไม่รู้ตัว
แล้วก็คิดเกลี่ยดตัวละครนั้น ชอบตัวละครนี้ สงสารตัวละครโน้น จนสาระวนเอามาเป็นเรื่องจริง
ที่เรามักเห็นแม่ค้าด่ากราดนักแสดงที่สวมบทนางร้ายในละคร เมื่อพบหน้ากัน

ละครมักจะสมมติให้ใครดีเลิศ หรือใครชั่วช้าสามานย์อย่างไรก็ได้ตามที่คนเขียนต้องการ
ก็คงคล้ายๆ กับการเขียนประวัติศาสตร์
แต่ละคร ที่ได้ชื่อว่าอิงประวัติศาสตร์ ในส่วนที่ไม่มีและไม่จริง ก็ควรแจ้งไว้ในบทนำสักหน่อยก็ดี
เรื่องบางเรื่องในประวัติศาสตร์ อาจไม่ใช่อย่างที่เห็นในละคร

มาที่ฉากหนึ่งในละคร ที่ถูกยิงคำถามเข้ามา และไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร
นอกจาก... "ไปถามผู้กำกับเอาเองโว้ย"

ฉากแต่งงานของฟอลคอน หรือ กองสต็อง หรือ กัสตัน
เป็นฉากที่หลุดลุ่ยมากที่สุดเท่าที่เห็น
การแต่งงานประเภทที่พ่อเจ้าสาวจูงลูกสาวมาหาเจ้าบ่าว
และ เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาว
เขาบอกว่าเพิ่งมีขึ้นในศตวรรษที่ยี่สิบนี่เอง
บาทหลวงที่ทำพิธีสวมเสื้อคลุมสีม่วง เป็นสีที่ใช้ในพิธีศพ
ไม้เท้ารูปกางเขน มีเฉพาะพระสันตปาปาเท่านั้นที่ถือ และถือข้างซ้าย

รายละเอียดพวกนี้ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นพิธีการทางศาสนาที่ควรศึกษาให้ดี
และละครนี้ มีคนเข้าดูทั่วโลก จึงน่าจะละเอียดมากกว่านี้
ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ช่างเถอะ เพราะละครก็คือละคร

ดังนั้น ผมจึงอยากจะสื่อว่า
อย่าเชื่อ แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อ
อย่าเชื่อ แม้คนที่บอกจะเป็นเพื่อนรักของเรา
อย่าเชื่อ จนกว่าทุกสิ่งจะปรากฎชัดเจน
และอย่าเชื่อ เพราะเราอยากจะเชื่อ

การมีตัวตนในโซเชียล เอาแค่พอดี แค่เป็นละครก็พอ
อย่าถลำตัวเอาชีวิตจริงเข้าไปพัวพันจนแยกไม่ออก
เพราะยามที่เราถูกนินทาว่าร้าย นั่นก็แค่ตัวตนสมมติในโซเชียลเท่านั้น

"กระนั้นแล้ว ออเจ้าจะมิลองกรองดูฤา"
ขุนอ่ำ ว่าไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่