☆ บาลีวันละคำ : สีลัพพตปรามาส ☆

ขอกราบไหว้พระรัตนตรัยด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

------------------




สีลัพพตปรามาส


อ่านว่า สี-ลับ-พะ-ตะ-ปะ-รา-มาด

แยกศัพท์เป็น สีล + พต + ปรามาส

(๑) “สีล” บาลีอ่านว่า สี-ละ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

“สีล” หมายถึง :

(1) ข้อปฏิบัติทางศีลธรรม, นิสัยที่ดี, จริยธรรมในพุทธศาสนา, หลักศีลธรรม (moral practice, good character, Buddhist ethics, code of morality)
(2) ธรรมชาติ, นิสัย, ความเคยชิน, ความประพฤติ (nature, character, habit, behavior)

“สีล” ในบาลี เป็น “ศีล” ในสันสกฤต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(๒) “พต”

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

“วต” หรือ “วตฺต” ใช้ในภาษาไทยเป็น “วัตร” หมายถึงกิจที่ควรถือประพฤติ, กิจพึงกระทำ, ข้อปฏิบัติ, ความประพฤติ, ธรรมเนียม, ประเพณี, สิ่งที่ทำ, หน้าที่, การบริการ, ประเพณี, งาน (observance, vow, virtue, that which is done, which goes on or is customary, duty, service, custom, function)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า -

“วัตร, วัตร- : (คำนาม) กิจพึงกระทำ เช่น ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น, หน้าที่ เช่น ข้อวัตรปฏิบัติ, ธรรมเนียม เช่น ศีลาจารวัตร; ความประพฤติ เช่น พระราชจริยวัตร, การปฏิบัติ เช่น ธุดงควัตร อุปัชฌายวัตร, การจำศีล. (ป. วตฺต; ส. วฺฤตฺต).”

ในภาษาไทย คำที่ไปจาก “วต” หรือ “วตฺต” อีกคำหนึ่งคือ “พรต”

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(๓) “ปรามาส”

บาลี อ่านว่า ปะ-รา-มา-สะ รากศัพท์มาจาก ปร (อื่น, สิ่งอื่น, อย่างอื่น) + อา (คำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง) + มสฺ (ธาตุ = จับต้อง) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, “ทีฆะต้นธาตุ” คือ อะ ที่ ม-(สฺ) เป็น อา (มสฺ > มาส)

: ปร + อา + มสฺ = ปรามสฺ + ณ = ปรามสณ > ปรามส > ปรามาส แปลตามศัพท์ว่า “การละเลยภาวะที่เป็นจริงเสียแล้วยึดถือโดยประการอื่น”

“ปรามาส” (ปุงลิงค์) ในบาลีหมายถึง การจับต้อง, การติดต่อ, ความรักชอบ, การเกาะติด, การอยู่ในอิทธิพลของ-, การติดต่อโดยทางสัมผัส (touching, contact, being attached to, hanging on, being under the influence of, contagion)

ในภาษาไทยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ปรามาส” ไว้ 2 คำ บอกไว้ดังนี้ -

(1) ปรามาส ๑ [ปฺรา-มาด] : (คำกริยา) ดูถูก.

(2) ปรามาส ๒ [ปะ-รา-มาด] : (คำนาม) การจับต้อง, การลูบคลํา. (ป.).

ในที่นี้ “ปรามาส” ใช้ในความหมายตาม ปรามาส ๒

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สีลพฺพตปรามาส” ว่า the contagion of mere rule and ritual, the infatuation of good works, the delusion that they suffice (การเกี่ยวข้องอยู่เฉพาะในกฎและพิธี, การลุ่มหลงการกระทำที่ดี, ความเข้าใจผิดว่าพอเพียงแล้ว)

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปล “สีลัพพตปรามาส” เป็นอังกฤษดังนี้ -

Sīlabbataparāmāsa : adherence to mere rules and rituals; clinging to rules and vows; overestimation regarding the efficacy of rules and observances.

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ไขความไว้ดังนี้ -

สีลัพพตปรามาส : ความยึดถือว่าบุคคลจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ด้วยศีลและวัตร (คือถือว่าเพียงประพฤติศีลและวัตรให้เคร่งครัดก็พอที่จะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ ไม่ต้องอาศัยสมาธิและปัญญาก็ตาม ถือศีลและวัตรที่งมงายหรืออย่างงมงายก็ตาม), ความถือศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย หรือโดยนิยมว่าขลังว่าศักดิ์สิทธิ์ ไม่เข้าใจความหมายและความมุ่งหมายที่แท้จริง, ความเชื่อถือศักดิ์สิทธิ์ด้วยเข้าใจว่าจะมีได้ด้วยศีลหรือพรตอย่างนี้ล่วงธรรมดาวิสัย (ข้อ 3 ในสังโยชน์ 10, ข้อ 6 ในสังโยชน์ 10 ตามนัยพระอภิธรรม).

.............

“สีลัพพตปรามาส” เป็น 1 ในกิเลส 3 ตัวที่พระอริยบุคคลชั้นต้นคือพระโสดาบันจะต้องละได้เด็ดขาด คือ -

(1) สักกายทิฏฐิ “ความเห็นว่าเป็นตัวของตน” = เห็นว่ามีตัวตนที่จะอยู่เสพสุขถาวรในภพภูมินั้นๆ แม้แต่ในพระนิพพาน

(2) วิจิกิจฉา “ความลังเลสงสัย” = สงสัยในกรรมดีกรรมชั่ว, ไม่แน่ใจในหนทางปฏิบัติว่าอะไรถูกอะไรผิด

(3) สีลัพพตปรามาส “ความถือมั่นศีลพรต” = ถือความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะต่างๆ รวมทั้งถือว่าเพียงรักษาศีลปฏิบัติกิจวัตรก็อาจบรรลุธรรมได้

คำว่า “สีลัพพตปรามาส” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554

..............

อภิปราย :

“สีลัพพตปรามาส” ที่อาจพบเห็นได้ง่ายในหมู่คนไทยคือ “การถือ” บางอย่าง เช่น -

ห้ามเผาผีวันศุกร์-โกนจุกวันเสาร์ ห้ามตัดผมวันพุธ

เห็นผีพุ่งไต้ (ดาวตก) ห้ามทัก (ถ้าทัก วิญญาณในดาวนั้นจะไปเกิดในท้องหมา)

ยาต้มหรือน้ำมันที่ใช้ทารักษาโรค เมื่อรักษาหายแล้วให้ทิ้งเสีย ห้ามเก็บไว้ (ถ้าเก็บไว้จะมีคนป่วยอีก)

อายุลงท้ายด้วยเลข ๙ เช่น ๔๙ ๕๙ ๖๙ ให้ระวังเคราะห์ร้าย ถ้าเจ็บป่วยอาจเสียชีวิตได้ง่าย

เมื่อไปเผาศพ ห้ามหยิบดอกไม้จันทน์ให้กัน ต้องหยิบเองเฉพาะของตัว (หยิบให้ใคร เท่ากับยื่นความตายให้เขา)

ห้ามชมการจัดดอกไม้ประดับหีบศพว่าสวย

ห้ามชมพระเมรุมาศว่างาม

เมรุลอย (เมรุชั่วคราว) เมื่อเสร็จงานแล้วต้องรื้อ ห้ามตั้งไว้ต่อ

ฯลฯ
ฯลฯ

ถ้ารวบรวม “การถือ” ของคนไทยมาให้หมด น่าจะเป็นหนังสือเล่มโตๆ ได้หลายเล่ม

ที่มา : บาลีวันละคำ
นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่