รักที่เหลืออยู่ ๒๓ ม.ค.๖๑

กระทู้สนทนา
เรื่องสั้น

รักที่เหลืออยู่

ท่ามกลางความอีกทุกครึกโครม จากบรรยากาศรอย ๆ ตัว ทั้งเสียงยานยนต์ชนิดต่าง ๆ บนท้องถนน เสียงจ้อกแจ้กจอแจ ของผู้คนที่เดินสวนกันไปมาอย่างไม่ขาดสาย บนทางเท้า ริมถนนสายสำคัญชองกรุงเทพ อันเป็นย่านที่พำนักอาศัยของคนต่างด้าว ที่เดินทางมาจากแผ่นดินใหญ่ ในอดีต ซึ่งบัดนี้ได้เป็นเจ้าของกิจการร้านค้าเกือบทั้งหมดใน ถนนสายนั้น ในนามของคนไทยเชื้อสายจีน

คงมีแต่เขาผู้เดียว ที่ยืนแนบแอบข้างเสาไฟฟ้าใกล้ป้ายรถเมล์ แห่งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกะกีดขวางการสัญจรไปมาของผู้คน ที่หลบหลีกกันไม่ให้ล้ำเข้าไปเหยียบ ผู้ค้าขายที่ตั้งโต๊ะเตี้ย ๆ หรือปูผ้า วางสินค้าจิปาถะขายอยู่ทางด้านหน้าห้องแถว หรือด้านขอบถนนก็ตาม

เขาเฝ้ามองดูฝูงชนรอบ ๆ กาย อย่างตื่น ๆ และงุนงงราวกับว่า ไม่เคยได้ประสบพบเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนเลย หรือไม่ได้พบเห็นมานานแสนนาน ในวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า เป็นเวลาเท่าไรแล้วก็จำไม่ได้

ในกลุ่มคนเหล่านั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุคงยังไม่ถึง ๑๐ ขวบ ในเครื่องแต่งกายขะมุกขะมอมทั้งเสื้อผ้า หน้าตา และเผ้าผม เดินจากทางขวามือของเขา ผ่านเข้ามาใกล้ โดยตลอดระยะทางนั้น เธอก็แบมือขอเงินมาตลอด ผู้ที่สวนทางกับเธอบางคนก็ควักเศษเหรียญให้ อย่างเสียไม่ได้ หรือเพราะซื้อความรำคาญ แต่ส่วนมากของผู้ที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ที่แต่งกายสวยงามตามสมัย มักจะเดินหนีอย่างรังเกียจ

เด็กน้อยเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตากลมดำที่ดูแสนซื่อนั้น มีแวววิงวอนขอความเห็นใจ ที่กระทบความรู้สึกของเขาอย่างจัง เขาควานมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเหรียญห้าบาทอันหนึ่ง ออกมาส่งให้อย่างไม่สนใจใยดี ว่าจะมีคำขอบคุณหรืออวยชัยให้พร เหมือนสมัยก่อนหรือไม่

แล้วเด็กหญิงผู้นั้นก็ผละจากเขาไป เมื่อมีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ในขณะที่ยกมือขึ้นพนมตามความเคยชิน เหรียญอันหนึ่งในจำนวนหลายอัน ก็หล่นจากอุ้งมือลงบนทางเท้า แล้วก็กลิ้งหลุน ๆ ไปตามพื้นกระเบื้องที่ปูเรียงไว้เป็นร่องสี่เหลี่ยม ในขณะที่หญิงสาวกลุ่มนั้นรีบสาวเท้าก้าวเดินต่อไปอย่างโล่งอก

หนูน้อยลงนั่งยอง ๆ กวาดสายตา มองหาเหรียญอันนั้นด้วยความเสียดาย ท่ามกลางรองเท้าหลายสิบคู่ที่ย่ำสวนกันไปมา ระหว่างเงามืดจากร่างของคนเหล่านั้น สลับสับสนไปทั่วบริเวณ

อาจจะเป็นเหรียญ บาทสองบาทที่กำรวม ๆ กันอยู่ในมือ หรือเหรียญห้าบาทที่เขาให้ไปเมื่อกี้ก็ได้ เขานึกอย่างสมเพท มันอาจไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง แต่สำหรับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ ใครจะรู้ มันอาจหมายถึงส่วนหนึ่งที่จะเป็นอาหารมื้อเช้า สำหรับเธอ หรือแม่ของเธอที่อยู่ทางบ้านก็ได้ เขาอยากจะช่วยเหลือหรือชดใช้ให้ใหม่ ซึ่งเธอคงจะดีใจมาก แต่เขาคงจะทำได้แค่คิดเท่านั้น สำหรับเดี๋ยวนี้ แม้เขาจะสงสารเด็กน้อยนั้น และอยากจะช่วยเหลือสัก
เพียงใด เขาก็ได้แต่ภาวนาให้เธอหาเหรียญอันนั้น พบเสียโดยเร็ว เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเขา ก็มีเพียงเหรียญอันที่ให้เธอไปแล้วเท่านั้นเอง

เด็กน้อยยังไม่ละความพยายาม เธอขยับตัวลงคลาน สอดส่ายตาไปทั่วบริเวณอย่างไม่มีความรังเกียจ ต่อความสกปรก เปรอะเปื้อนของทางเท้า ที่มีอยู่รอบตัวนั้น

เขาขยับตัวเมื่อนึกว่าได้ยืนตรงนั้นมานานเกินไปแล้ว โดยยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน เมื่อเขาก้าวเท้าจะออกเดิน ก็แลเห็นแสงแวววับของโลหะบนพื้นผิวจรจรข้างตัว มันเป็นเหรียญสิบบาทใหม่เอี่ยม เขารีบร้องบอกเด็กน้อยด้วยเสียอ่อนโยนว่า นี่ไงเหรียญของหนูอยู่นี่เอง เด็กหญิงตัวน้อยรีบหันขวับมาคว้าเหรียญนั้นจากพื้นถนน ด้วยความยินดีทั้งแววตาและกิริยาอาการ เหมือนเด็กบางคนที่ได้รับรางวัลทางโทรทัศน์

เขาเดินทอดน่องอยู่บนทางเท้า ในระหว่างความมืดครึ้มของต้นไม้ริมทางเท้า ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปจนแสงไปจากเสาไฟฟ้าส่องลงมาไม่ถึง เขานึกถึงคำพูดของพ้สดีเรือนจำ เมื่อเช้านี้

“......ลื้อยังไม่แก่ ร่างกายยังแข็งแรง จงตั้งต้นชีวิตเสียใหม่ เมืองไทยยังมีที่ทำมาหากินได้อีกเยอะ และผู้คนก็ยังมี เมตตากรุณาต่อกันอีกไม่ใช่น้อย............”

เขาไม่ได้ใส่ใจจำมาทั้งหมด แต่ก็ทำให้เขามีความหวัง ขึ้นกว่าเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนนั้น เขาคงไม่อดตาย ตราบใดที่เขายังมีกำลังกาย และกำลังใจที่เต็มไปด้วยความรักเพื่อนมนุษย์ อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน

เหมือนขณะนี้.

############
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่