ก่อนอื่นเลย นี่เป็นการรีวิวครั้งแรก ผิดพลาดประการใดๆก็ขออภัย และขออนุญาตสำหรับเจ้าของคนในรูปด้วยครับ

บางคนอาจจะมี Lifestyle แบบผม คือชอบไปเที่ยวต่างจังหวัด ชอบไปคนเดียว ไม่ชวนใครไป คนเยอะเรื่องแยะ 55555  อีกทั้งบ้านอยู่ในกรุงเทพหรือปริมณฑลนี่แหละ พอเทศกาลทีก็ไม่มีบ้านที่ต่างจังหวัดให้กลับ  หยุดยาวก็ต้องหาเรื่องเสียตังค์เที่ยว จริงมั๊ย?  แล้วแม่ฮ่องสอน ก็เป็นจังหวัดเดียวของภาคเหนือที่ยังไม่เคยไปเยือน ได้แต่ฝัน  ฟินเวลาอ่านรีวิว 5555   เอาหล่ะ ตั้งใจละ  GO GO GO

ขาไปจากกรุงเทพ - สนามบินเชียงใหม่   27 DEC 2017
ด้วยความที่ค่าเครื่องบินช่วงนเทศกาลนี้แพงมากกกกกกกก จึงประหยัดงบด้วยการนั่งรถทัวร์  จากหมอชิต 20.00 ถึงอาเขตตอน 6 โมงเช้า แล้วต่อด้วยแท๊กซี่ไปสนามบินเชียงใหม่  แล้วเช็คอินขึ้นเครื่องด้วยสายการบิน Bangkok Airways  คือต้องบอกก่อนว่า ทริปนี้รีบไปรีบกลับ เพราะต้องไป CountDown กับแฟนที่พัทยาในคืนวันที่ 31  ดังนั้นเลยเลือกที่จะบินในราคา 1900 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ผมยอมรับได้ ถ้าแลกกับการประหยัดเวลา ไม่ต้องเสี่ยงเมารถ เข้าไปใช้เลาจน์ของสายการบินได้ด้วย  รวมทั้งวิวบนท้องฟ้าเหนือจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่มีให้เลือกสายการบินเดียวนะคับ เพราะกานต์แอร์เหมือนจะปิดไปแล้ว


ยังเช้าอยู่คนน้อย แทบไม่มีเลย แต่ของก็น้อย แอบผิดหวังนิดๆ 55555   แต่ซักพักฝรั่งเดินเข้ามาเป็นกลุ่มๆ หนึ่งในนั้นหล่อมากกกก หูยยยย หิวเด็กขึ้นมาทันที

ในใจก็หวังให้เค้าไปที่เดียวกับเรา แต่ก็ผิดหวังเพราะนางไปสมุย อด 5555555
พอใกล้ถึงเวลาบอร์ดดิ้ง ก็ไปรอที่เกท แต่เป็น Bus gate ลงไปชั้นล่าง


ภายในบนเครื่องไม่ได้ถ่ายรูปมากนัก เป็นเครื่องบินแบบใบพัด     ATR-72  ที่นั่งแบบ 2-2  อาหารที่เสิร์ฟมีแค่พายไส้ไก่กับน้ำส้ม  เพราะไฟล์ทนี้สั้นมาก 40-50 นาทีก็ถึง

วิวบนท้องฟ้าเหนือน่านฟ้าแม่ฮ่องสอน ถ่ายได้ไม่เยอะ เพราะเกรงใจแอร์ แอร์เดินบอกทั้งลำ ให้ปิดอุปกรณ์ งดถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ  5555

Landing นิ่มพอใช้ได้ กับเครื่องรุ่นนี้  เย้ ถึงแล้วววววว แม่ฮ่องสอนของหนู  น้องแว่นคนนี้น่าร๊ากกกกกกกกก

จากนั้นมารอรับกระเป๋า แล้วต่อด้วยตุ๊กๆที่จอดรออยู่หน้าสนามบิน ไปที่พักในราคา 60 บาท เราเลือกพักที่นี่ บุญดีเฮ้าส์
เจ้าของเป็นคุณลุงใจดีมากกกกก ให้แผนที่ แนะนำเส้นทางละเอียด

ผมไปถึงเช้าไปหน่อย ยังเช็คอินเข้าที่พักไม่ได้เพราะห้องยังไม่เรียบร้อย แต่ถ้าเรียบร้อยก่อนเวลาคุณลุงบอกว่าสามารถเช็คอินเข้าได้เลย ไม่ต้องรอเด้อ
จากนั้นเลยฝากสัมภาระไว้ก่อน สอบถามเรื่องเช่ามอเตอร์ไซค์เอาไว้แว๊นเที่ยว คุณลุงจึงโทรตามให้ร้านเช่ารถ มารับเราที่นี่
ร้านเช่ารถคิดราคาวันละ 250 บาท มัดจำ  1500 พร้อมยึดบัตรประชาชนไว้ เราจึงทำสัญญาเช่าไว้ 2 วัน คืนรถเย็นวันที่ 30

พอเสร็จปุ๊บ แว๊นไปที่แรกสุด ใกล้สุด คือพระธาตุดอยกองมู  พอดีว่าตอนไปก็เกือบเที่ยง ไม่มีหมอก แต่อากาศยังเย็นๆไม่ร้อน

ไหว้พระธาตุเสร็จ ก็หาไรกินง่ายๆในวัดนี่แหละ  จากนั้นแว๊นไปต่อด้วย สะพานซูตองเป้  ขอพูดจากใจเลยนะ ผมว่า ถ้าเป็นช่วงที่เค้าเกี่ยวข้าวไปแล้ว ไม่แนะนำให้ไป  มันดูแห้งแล้งยังไงไม่รู้  ไม่สีเขียวสวยๆแบบที่เค้าถ่ายมา  ผมไปผิดช่วงเองแหละ 555  แต่ท้องฟ้าสวยมากๆ

อากาศเริ่มร้อน เลยกลับเข้าที่พัก อาบน้ำ นอนหลับพักผ่อน ตื่นมาอีกทีทุ่มกว่าๆ หิวสิ  เลยไปหาไรกินที่ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน ซึ่งห่างจากที่พักนิดเดียว เดินไปแปบๆก็ถึง บรรยากาศดีมากกกกกกกก ของกินเยอะ คนไม่พลุกพลาน เบียดแน่นกันเหมือนที่เชียงใหม่ ทำให้เดินสบายๆ ไม่ร้อน
ระหว่างเดินหาไรกิน ผ่านไปเจอผู้ชายอีกแล้วจ้า น้องขายไส้กรอกกับขนมจีบช่วยแม่อยู่มั้ง อินี่รีบเข้าไปต่อคิวซื้อ ทั้งๆที่ปกติไม่กินไส้กรอก แหนม อะไรพวกนี้ 5555555555

ต่อด้วยอาหารอะไรซักอย่างของไทยใหญ่ ผัดหมี่เหลืองๆ แม่ค้าว่างั้น แต่อร่อยมากกกกก

กินเสร็จก็กลับเข้าที่พัก ไว้เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ