"Travel Without a Plan | 2 วัน 1 คืน ที่เกาะล้าน" ก็บอกแล้วนะคะว่าเที่ยวแบบไม่มีแผน คือแบบไม่ได้จองที่พักล่วงหน้าเลยด้วย แต่ก็แอบหวั่นใจนิดๆ แต่ก็โอเคถ้าเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ได้รับผลกระทบคนเดียว เพราะรอบนี้รวมแก๊งเพื่อนสมัยมัธยมมาได้ 4 คนค่ะ(รวมเราแล้ว) แต่เราเป็นผู้หญิงคนเดียวนะ ฮ่าๆ ก็จะเฟี้ยวหน่อยๆ อ้อ! ลืมบอกอีกอย่างว่าเรายังไม่เคยไปเกาะล้านนะ นี่ครั้งแรกเลย เกาะใน จ.ชลบุรี หรือพัทยา นอกจากเกาะที่ชังในกระทู้ "ใครไม่ชัง แต่ 'สีชัง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชื่อกระทู้ : ใครไม่ชัง แต่ 'สีชัง
Link : https://pantip.com/topic/37016673
แล้วเราก็เคยเที่ยวแค่บนฝั่งแต่นั่นก็นานหลายปีมาแล้วจำไม่ค่อยได้เท่าไรแล้ว โดยความรู้สึกแบบ เฮ้ย!! เราไม่เคยไปเกาะล้านจะมีใครว่าเราแปลกป่าว ฮ่าๆ แต่ไม่เป็นไรได้ไปก็ครั้งนี้แหละ ^^"
โม้ยาวไปแล้ว .. เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ
Day 1 - 14 Jan 2018
สำหรับการเดินทางเราเริ่มต้นเดินทางวันอาทิตย์ 14 มกราคม 2561 ตอนสายๆ ถึงแม้ว่าเวลานี้จะสายแล้วแต่อากาศช่วงนี้หนะสิเย็นๆ อยู่นะ(ช่วงนี้ กทม. มีอากาศหนาววว ) เวลา 10 โมงโดยประมาณออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ด้วยรถตู้ ค่ารถอยู่ที่ 150 บาท วิ่งยาวถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย (Bali Hai Pier) เลยใช้เวลาน่าจะ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้โดยระหว่างทางมีแวะเติมแก๊ซ 1 ครั้ง ออกเดินทางต่อจนถึงท่าเรือแต่เมื่อไปถึงท่าเรือคนขับบอก "เข้าท่าเรือไม่ได้(ท่าเรือมีการตั้งด่านจัดระเบียบท่าเรือ อันนี้ก็ต้องทำตามกฎระเบียบกันไปค่ะ) แต่จะจอดใกล้มากที่สุดแล้วเดินต่อนะครับ" พอรถจอดก็ลงรถอย่างไวและเดินต่อไปที่ท่าเรือ ระหว่างทางก็ไม่วายที่จะถ่ายรูปกับวิวภูเขาทะเลค่ะ
เวลาเดินเรือ
สำหรับอากาศก็มีลม แล้วก็อากาศเย็นสบายและมีแดดอ่อนๆ กำลังดี ทีนี้เราก็ไปต่อด้วยการนั่งเรือไปยังเกาะล้าน เวลา 14.00 น. พอดี ค่าเรือก็คนละ 30 บาทค่ะ(จริงๆ มี speed boat นะ แต่คนละหลายบาท ไปเรือธรรมดาที่หละ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศด้วย) เรือก็เป็นเรือ 2 ชั้นไม่ใหญ่มากแต่ถือว่าขนาดกำลังดี ไม่เล็กไปจนแออัด มีเสื้อชูชีพให้ แต่อากาศวันนี้ท่าทางลมจะแรงเป็นพิเศษเรือโยกไปมาตลอดทางงานนี้ก็มีวิงเวียนกันไปหลายรอบกว่าจะถึงเกาะ
แต่ยังดีเรามีผลไม้ดองกินแก้วิงเวียน(มันเปรี้ยวปากมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวว่าแก้อะไรเล้ยยย)
ในที่สุดก็มาถึงเกาะล้านนนนน..ใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง(ลืมบอกไปว่าค่าโดยสารเรือจ่ายแล้วขึ้นเรือได้เลย ไม่มีออกตั๋วน๊าา)
เมื่อมาถึงเกาะล้าน "ท่าเรือหน้าบ้านเกาะล้านบ้านเรา" ก็จะมีพี่ๆวินบนเกาะมาถามว่าเราจะไปไหน มีที่พัก จองที่พักมาหรือยังเราก็เลยฟังพี่ๆเค้าแนะนำแล้วให้พาไปดูที่พักและคิดค่าวินคนละ 20 บาท ซึ่งที่พักแรกเราก็เลือกเลยเหตุผลไม่มีอะไรมาก แค่ประหยัดเรื่องเวลาแค่นั้น เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปแว้นนน เอ้ย! ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ บนเกาะ ตกลงเรื่องราคาที่พักสรุปได้ว่าเช่า 2 ห้องๆ ละ 1200 บาทมีรถมอเตอร์ไซค์ให้ห้องละ 1 คัน โดยเราคือผู้หญิงคนเดียวในทริปเรามีสิทธิ์เต็มที่ในการนอนคือได้ไปคนเดียวเลย 1 ห้องนอนพร้อมเตียงใหญ่ๆ นี่คือคุ้มที่ 1 ของเรา สำหรับห้องพักเราไม่ได้ต้องการหรูหรามากนัก ก็ตามภาพเลยค่ะห้องพักธรรมดาๆ
ส่วนอีก 3 คนไปนอนรวมกันในอีกห้องหนึ่ง พร้อมเตียงใหญ่+เตียงเสริม
เมื่อเก็บของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะออกไปแว้นแล้ว มันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะนี่เป็นทริปแรกบนเกาะล้าน แล้วก็เป็นทริปแรกที่มาทะเลกับเพื่อนสมัยมัธยม(ตอนทัศนศึกษาตอนเรียนไม่นับน๊าา อิอิ )
ที่แรกเริ่มที่ 'หาดนวล' หรือ 'Nual Beach' ก็เป็นหาดที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาอาบแดด เล่นน้ำ แล้วก็ถ่ายรูปกัน เราก็ไม่รอช้าที่จะหามุมสวยๆ ถ่ายรูปกัน พร้อมชุดเต็มยศ(มาในสไตล์ฮาวาย + กางเกงยีนส์) ฮ่าาๆ มันไม่ค่อยจะเข้ากับสถานที่เท่าไหร่ ไม่เป็นไรเราสะดวกแบบนี้
สถานที่ต่อไป 'หาดตาแหวน' หรือ 'Tawaen Beach' เป็นหาดที่ไปเกาะล้านแล้วไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงเกาะล้านนะค๊า เพราะว่าหาดนี้เรียกได้ว่าเป็นหาดขึ้นชื่อของเกาะล้านเลยและเป็นหาดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีกิจกรรมให้เลือกเล่นมากมายจำนวนนักท่องเที่ยวก็มีเยอะ สำหรับพื้นที่ชายหาดก็มีที่นั่งตลอดแนวให้บริการ(หากต้องการใช้บริการ ก็สามารถสอบถามผู้ดูแลและให้บริการได้เลย) แต่! เราไม่ยอมจ่ายเราจะนั่งพื้นไหนๆ ก็จะเปียกอยู่แล้วก็นั่งบนพื้นทรายก็ได้มั่ง ส่วนตอนเล่นน้ำก็ตกลงกันว่าจะผลัดกันเฝ้า แต่พอเอาเข้าจริงก็วางกองๆ ไว้แล้วมองไปเล่นไป ฮ่าๆ (อันนี้จริงๆ ควรให้ความสำคัญกับการจัดเก็บทรัพท์สินนะคะ เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ ระวังไว้ดีที่สุด)
ไม่นานเวลาก็เดินทางไปถึงราวๆ 5 โมงเย็นคนก็เริ่มไม่มีละ พวกเราเลยคิดกันว่าจะไปซื้ออาหารเย็นกลับไปกินที่รีสอร์ท พร้อมกลับไปอาบน้ำเตรียมกินข้าวเย็น แต่ก็ตัดสินใจแว้บไปอีกสถานที่หนึ่งก่อนนั่นก็คือ 'หาดแสม หรือ Samea Beach' หาดนี้คนไม่ค่อยมีหรือเพราะเรามาช้าไปก็ไม่รู้ แต่ถือว่าบรรยากาศดีคนไม่ค่อยพรุกพล่าน
(จากภาพแล้วกำลังคิดว่ากลับไปเซลฟี่ที่บ้านก็ได้ไหม? ฮ่าๆ )
ใช้เวลาอยู่ที่ 'หาดแสม' ไม่นานเราก็เดินทางไปจับจ่ายอาหารเบาๆสำหรับค่ำคืนนี้ ก็นิดๆหน่อยๆ อ่ะนะโดยประกอบไปด้วย หอยแคลงลวก กุ้งเผา หมึกย่าง พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ ทั้งหมดนี้ก็ 1100 บาท มีเครื่องดื่มอีกนิดหน่อยประมาณ 200 บาท สำหรับชาวแก๊งทั้ง 4 คนแล้วก็เยอะอยู่นะคะ ><"
เมื่อซื้อเสร็จก็กลับไปยังที่พักแยกย้ายกันอาบน้ำ เราในฐานะสตรีผู้เป็นหนึ่งเดียวก็ต้องรีบทำภาระกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนคนอื่นๆ เพื่อทำการเตียมอาหารใส่จานรอชาวแก๊งแต่แค่รสชาติอาหารดีอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งสำคัญที่พึงมีต่ออาหารมื้อพิเศษคือบรรยากาศ ณ โต๊ะอาหาร แต่ก็ไม่เป็นที่น่ากังวลเพราะที่พักเรามีระเบียงติดทะเลแบบกินไปคุยไปฟังเสียงคลื่นไปชิวๆ คือดีมากๆ แล้วลมทะเลก็ไม่เหนียวเลยเย็นสบาย ตกดึกมาอากาศเย็นๆ บ้างนิดหน่อย แต่บอกได้คำเดียวค่ะว่าฟินมากค่ะ เมื่อตั้งโต๊ะอาหารเสร็จชาวแก๊งก็มารวมตัวกันได้พอดี หลังจากนี้ก็กินไปคุยไปอัปเดตชีวิตกันไปถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มก็แยกย้ายก็นอน
Day 2 - 15 Jan 2018
เช้าวันจันทร์เป็นวันที่ 2 ของทริปและวันสุดท้าย อากาศกำลังสบายตื่นมารับอาหารเช้า(ทางที่พักมีบริการ) เป็นอาหารเช้าทั่วไปๆ ที่เราเจอตามที่พักทั่วๆ ไป เช่น ข้าวต้ม กาแฟ โอวัลติน ขนมปังปิ้ง ประมาณนี้
กินมื้อเช้าเสร็จ จากเมื่อวานที่ไปไม่กี่สถานที่ก็ชวนกันไปแว้นสักพักก่อนกลับ
เริ่มต้นด้วยจุดชมวิวบนวัดป่า จุดชมวิวตรงที่เมื่อมองลงไปจะเห็นพื้นที่ตรงหาดตาแหวนทั้งหมด
ต่อกันด้วย 'หาดเทียน' ตรงนี้เราเดินไปแค่ตรงสะพาน(สะพานค่อนข้างเก่า ไม่มีที่กันในบางช่วง เดินก็ระวังๆ กันด้วยน๊า ) ในส่วนของตรงนี้ก็มีรถขายของไม่กี่ร้าน เพราะคนมาไม่ค่อยเยอะส่วนมากมาถ่ายรูป มาเดินเล่นแปปๆ
ที่สุดท้ายทุ่งดอกหญ้าระหว่างทางไปหาดนวลค่ะ พื้นที่กว้างมากทั้ง 2 ข้างถนนจนอยากจะวิ่งไปทั่วๆเลยหละ แต่จะว่าไปเราจะถ่ายรูปยังไงให้รู้ว่าเป็นทุ่งดอกหญ้าที่เกาะล้านคงไม่มีใครรู้แน่ๆ เลย ฮ่าๆ อันนี้เราคิดขำๆ นะ
สนุกกับการเดินเข้าป่า(ทุ่งดอกหญ้า) สักพักหนึ่งเหลือบไปดูเวลา 11.00 น. ก็ต้องบอกว่าหมดเวลาสนุกแล้วสิ กลับที่พักเก็บข้าวของ Check out และคือกุญแจรถเรียบร้อย จากนั้นก็จะมีพนักงานของที่พักขับรถไปส่งที่ท่าเรือ แวะกินข้าวสักนิดหน่อยกับร้านอาหารตามสั่งแถวๆท่าเรือ เราสั่งข้าวทะเลผัดฉ่า+ไข่ดาว ราคา 90.- หน้าตาก็จะประมาณนี้
อิ่มเป็นที่เรียบร้อย เราได้ไปเรือรอบ 12.00 น. พอดี ราคาตั๋ว 30 บาทเท่าเดิมใช้เวลา 30 - 40 นาทีโดยประมาณก็ถึงฝั่ง โชคดีวันนี้ลมไม่แรงมากทำให้เรือไม่โยกมาก สบายยย...
เมื่อถึงฝั่ง 12.40 น. ก็โทรให้รถตู้มารับ อันนี้ก็โชคดีข้ามถนนก็เดินขึ้นรถตู้เลย แต่! ก็มีโชคไม่ดีตรง ไปจอดรอเวลาที่คิวรถตู้กว่าจะออกก็นานเลย แอร์ไม่เย็นด้วย แล้วยังมีกลิ่นบุหรี่อยู่ทั่วรถ นี่คือประสบการณ์ TT และมีแวะเติมแก๊ส 1 ครั้ง กว่าจะถึงกรุงเทพฯ รู้สึกใช้เวลานานกว่าตอนมาตอนเราลง BTS หมอชิตถึงประมาณ 16.00 น. ก็เล่นเอาเกือบแย่บนรถแทบหายใจไม่ออก(เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว พังตอนกลับ ฮ่าๆ ) แต่ถ้าในภาพรวมเราก็ Happy อยู่เด้อค่าเด้อ
ค่าใช้จ่ายหลักๆ
ค่ารถไป-กลับ 150*2 = 300 บาท
ค่าเรือไปกลับ 30*2 = 60 บาท
ค่าอาการ 1100 + 200 =1300/4 = 325 บาท
ค่าที่พัก (1200*2)/4 = 600 บาท
รวม 1285 บาท/คน
จบทริปแยกย้ายกันกลับบ้าน สวัสดีค่ะ ^^
ปล. ไปชื่นชมความงามของทะเลแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาด และทิ้งขยะให้ถูกทางกันด้วยนะคะ ความสวยงามของทะเลจะได้อยู่กับเราไปนานๆ แสนนาน
Travel Without a Plan | 2 วัน 1 คืน ที่เกาะล้าน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเราก็เคยเที่ยวแค่บนฝั่งแต่นั่นก็นานหลายปีมาแล้วจำไม่ค่อยได้เท่าไรแล้ว โดยความรู้สึกแบบ เฮ้ย!! เราไม่เคยไปเกาะล้านจะมีใครว่าเราแปลกป่าว ฮ่าๆ แต่ไม่เป็นไรได้ไปก็ครั้งนี้แหละ ^^"
โม้ยาวไปแล้ว .. เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ
Day 1 - 14 Jan 2018
สำหรับการเดินทางเราเริ่มต้นเดินทางวันอาทิตย์ 14 มกราคม 2561 ตอนสายๆ ถึงแม้ว่าเวลานี้จะสายแล้วแต่อากาศช่วงนี้หนะสิเย็นๆ อยู่นะ(ช่วงนี้ กทม. มีอากาศหนาววว ) เวลา 10 โมงโดยประมาณออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ด้วยรถตู้ ค่ารถอยู่ที่ 150 บาท วิ่งยาวถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย (Bali Hai Pier) เลยใช้เวลาน่าจะ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้โดยระหว่างทางมีแวะเติมแก๊ซ 1 ครั้ง ออกเดินทางต่อจนถึงท่าเรือแต่เมื่อไปถึงท่าเรือคนขับบอก "เข้าท่าเรือไม่ได้(ท่าเรือมีการตั้งด่านจัดระเบียบท่าเรือ อันนี้ก็ต้องทำตามกฎระเบียบกันไปค่ะ) แต่จะจอดใกล้มากที่สุดแล้วเดินต่อนะครับ" พอรถจอดก็ลงรถอย่างไวและเดินต่อไปที่ท่าเรือ ระหว่างทางก็ไม่วายที่จะถ่ายรูปกับวิวภูเขาทะเลค่ะ
เวลาเดินเรือ
สำหรับอากาศก็มีลม แล้วก็อากาศเย็นสบายและมีแดดอ่อนๆ กำลังดี ทีนี้เราก็ไปต่อด้วยการนั่งเรือไปยังเกาะล้าน เวลา 14.00 น. พอดี ค่าเรือก็คนละ 30 บาทค่ะ(จริงๆ มี speed boat นะ แต่คนละหลายบาท ไปเรือธรรมดาที่หละ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศด้วย) เรือก็เป็นเรือ 2 ชั้นไม่ใหญ่มากแต่ถือว่าขนาดกำลังดี ไม่เล็กไปจนแออัด มีเสื้อชูชีพให้ แต่อากาศวันนี้ท่าทางลมจะแรงเป็นพิเศษเรือโยกไปมาตลอดทางงานนี้ก็มีวิงเวียนกันไปหลายรอบกว่าจะถึงเกาะ
แต่ยังดีเรามีผลไม้ดองกินแก้วิงเวียน(มันเปรี้ยวปากมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวว่าแก้อะไรเล้ยยย)
ในที่สุดก็มาถึงเกาะล้านนนนน..ใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง(ลืมบอกไปว่าค่าโดยสารเรือจ่ายแล้วขึ้นเรือได้เลย ไม่มีออกตั๋วน๊าา)
เมื่อมาถึงเกาะล้าน "ท่าเรือหน้าบ้านเกาะล้านบ้านเรา" ก็จะมีพี่ๆวินบนเกาะมาถามว่าเราจะไปไหน มีที่พัก จองที่พักมาหรือยังเราก็เลยฟังพี่ๆเค้าแนะนำแล้วให้พาไปดูที่พักและคิดค่าวินคนละ 20 บาท ซึ่งที่พักแรกเราก็เลือกเลยเหตุผลไม่มีอะไรมาก แค่ประหยัดเรื่องเวลาแค่นั้น เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปแว้นนน เอ้ย! ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ บนเกาะ ตกลงเรื่องราคาที่พักสรุปได้ว่าเช่า 2 ห้องๆ ละ 1200 บาทมีรถมอเตอร์ไซค์ให้ห้องละ 1 คัน โดยเราคือผู้หญิงคนเดียวในทริปเรามีสิทธิ์เต็มที่ในการนอนคือได้ไปคนเดียวเลย 1 ห้องนอนพร้อมเตียงใหญ่ๆ นี่คือคุ้มที่ 1 ของเรา สำหรับห้องพักเราไม่ได้ต้องการหรูหรามากนัก ก็ตามภาพเลยค่ะห้องพักธรรมดาๆ
ส่วนอีก 3 คนไปนอนรวมกันในอีกห้องหนึ่ง พร้อมเตียงใหญ่+เตียงเสริม
เมื่อเก็บของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะออกไปแว้นแล้ว มันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะนี่เป็นทริปแรกบนเกาะล้าน แล้วก็เป็นทริปแรกที่มาทะเลกับเพื่อนสมัยมัธยม(ตอนทัศนศึกษาตอนเรียนไม่นับน๊าา อิอิ )
ที่แรกเริ่มที่ 'หาดนวล' หรือ 'Nual Beach' ก็เป็นหาดที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาอาบแดด เล่นน้ำ แล้วก็ถ่ายรูปกัน เราก็ไม่รอช้าที่จะหามุมสวยๆ ถ่ายรูปกัน พร้อมชุดเต็มยศ(มาในสไตล์ฮาวาย + กางเกงยีนส์) ฮ่าาๆ มันไม่ค่อยจะเข้ากับสถานที่เท่าไหร่ ไม่เป็นไรเราสะดวกแบบนี้
สถานที่ต่อไป 'หาดตาแหวน' หรือ 'Tawaen Beach' เป็นหาดที่ไปเกาะล้านแล้วไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงเกาะล้านนะค๊า เพราะว่าหาดนี้เรียกได้ว่าเป็นหาดขึ้นชื่อของเกาะล้านเลยและเป็นหาดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีกิจกรรมให้เลือกเล่นมากมายจำนวนนักท่องเที่ยวก็มีเยอะ สำหรับพื้นที่ชายหาดก็มีที่นั่งตลอดแนวให้บริการ(หากต้องการใช้บริการ ก็สามารถสอบถามผู้ดูแลและให้บริการได้เลย) แต่! เราไม่ยอมจ่ายเราจะนั่งพื้นไหนๆ ก็จะเปียกอยู่แล้วก็นั่งบนพื้นทรายก็ได้มั่ง ส่วนตอนเล่นน้ำก็ตกลงกันว่าจะผลัดกันเฝ้า แต่พอเอาเข้าจริงก็วางกองๆ ไว้แล้วมองไปเล่นไป ฮ่าๆ (อันนี้จริงๆ ควรให้ความสำคัญกับการจัดเก็บทรัพท์สินนะคะ เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ ระวังไว้ดีที่สุด)
ไม่นานเวลาก็เดินทางไปถึงราวๆ 5 โมงเย็นคนก็เริ่มไม่มีละ พวกเราเลยคิดกันว่าจะไปซื้ออาหารเย็นกลับไปกินที่รีสอร์ท พร้อมกลับไปอาบน้ำเตรียมกินข้าวเย็น แต่ก็ตัดสินใจแว้บไปอีกสถานที่หนึ่งก่อนนั่นก็คือ 'หาดแสม หรือ Samea Beach' หาดนี้คนไม่ค่อยมีหรือเพราะเรามาช้าไปก็ไม่รู้ แต่ถือว่าบรรยากาศดีคนไม่ค่อยพรุกพล่าน
(จากภาพแล้วกำลังคิดว่ากลับไปเซลฟี่ที่บ้านก็ได้ไหม? ฮ่าๆ )
ใช้เวลาอยู่ที่ 'หาดแสม' ไม่นานเราก็เดินทางไปจับจ่ายอาหารเบาๆสำหรับค่ำคืนนี้ ก็นิดๆหน่อยๆ อ่ะนะโดยประกอบไปด้วย หอยแคลงลวก กุ้งเผา หมึกย่าง พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ ทั้งหมดนี้ก็ 1100 บาท มีเครื่องดื่มอีกนิดหน่อยประมาณ 200 บาท สำหรับชาวแก๊งทั้ง 4 คนแล้วก็เยอะอยู่นะคะ ><"
เมื่อซื้อเสร็จก็กลับไปยังที่พักแยกย้ายกันอาบน้ำ เราในฐานะสตรีผู้เป็นหนึ่งเดียวก็ต้องรีบทำภาระกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนคนอื่นๆ เพื่อทำการเตียมอาหารใส่จานรอชาวแก๊งแต่แค่รสชาติอาหารดีอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งสำคัญที่พึงมีต่ออาหารมื้อพิเศษคือบรรยากาศ ณ โต๊ะอาหาร แต่ก็ไม่เป็นที่น่ากังวลเพราะที่พักเรามีระเบียงติดทะเลแบบกินไปคุยไปฟังเสียงคลื่นไปชิวๆ คือดีมากๆ แล้วลมทะเลก็ไม่เหนียวเลยเย็นสบาย ตกดึกมาอากาศเย็นๆ บ้างนิดหน่อย แต่บอกได้คำเดียวค่ะว่าฟินมากค่ะ เมื่อตั้งโต๊ะอาหารเสร็จชาวแก๊งก็มารวมตัวกันได้พอดี หลังจากนี้ก็กินไปคุยไปอัปเดตชีวิตกันไปถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มก็แยกย้ายก็นอน
Day 2 - 15 Jan 2018
เช้าวันจันทร์เป็นวันที่ 2 ของทริปและวันสุดท้าย อากาศกำลังสบายตื่นมารับอาหารเช้า(ทางที่พักมีบริการ) เป็นอาหารเช้าทั่วไปๆ ที่เราเจอตามที่พักทั่วๆ ไป เช่น ข้าวต้ม กาแฟ โอวัลติน ขนมปังปิ้ง ประมาณนี้
กินมื้อเช้าเสร็จ จากเมื่อวานที่ไปไม่กี่สถานที่ก็ชวนกันไปแว้นสักพักก่อนกลับ
เริ่มต้นด้วยจุดชมวิวบนวัดป่า จุดชมวิวตรงที่เมื่อมองลงไปจะเห็นพื้นที่ตรงหาดตาแหวนทั้งหมด
ต่อกันด้วย 'หาดเทียน' ตรงนี้เราเดินไปแค่ตรงสะพาน(สะพานค่อนข้างเก่า ไม่มีที่กันในบางช่วง เดินก็ระวังๆ กันด้วยน๊า ) ในส่วนของตรงนี้ก็มีรถขายของไม่กี่ร้าน เพราะคนมาไม่ค่อยเยอะส่วนมากมาถ่ายรูป มาเดินเล่นแปปๆ
ที่สุดท้ายทุ่งดอกหญ้าระหว่างทางไปหาดนวลค่ะ พื้นที่กว้างมากทั้ง 2 ข้างถนนจนอยากจะวิ่งไปทั่วๆเลยหละ แต่จะว่าไปเราจะถ่ายรูปยังไงให้รู้ว่าเป็นทุ่งดอกหญ้าที่เกาะล้านคงไม่มีใครรู้แน่ๆ เลย ฮ่าๆ อันนี้เราคิดขำๆ นะ
สนุกกับการเดินเข้าป่า(ทุ่งดอกหญ้า) สักพักหนึ่งเหลือบไปดูเวลา 11.00 น. ก็ต้องบอกว่าหมดเวลาสนุกแล้วสิ กลับที่พักเก็บข้าวของ Check out และคือกุญแจรถเรียบร้อย จากนั้นก็จะมีพนักงานของที่พักขับรถไปส่งที่ท่าเรือ แวะกินข้าวสักนิดหน่อยกับร้านอาหารตามสั่งแถวๆท่าเรือ เราสั่งข้าวทะเลผัดฉ่า+ไข่ดาว ราคา 90.- หน้าตาก็จะประมาณนี้
อิ่มเป็นที่เรียบร้อย เราได้ไปเรือรอบ 12.00 น. พอดี ราคาตั๋ว 30 บาทเท่าเดิมใช้เวลา 30 - 40 นาทีโดยประมาณก็ถึงฝั่ง โชคดีวันนี้ลมไม่แรงมากทำให้เรือไม่โยกมาก สบายยย...
เมื่อถึงฝั่ง 12.40 น. ก็โทรให้รถตู้มารับ อันนี้ก็โชคดีข้ามถนนก็เดินขึ้นรถตู้เลย แต่! ก็มีโชคไม่ดีตรง ไปจอดรอเวลาที่คิวรถตู้กว่าจะออกก็นานเลย แอร์ไม่เย็นด้วย แล้วยังมีกลิ่นบุหรี่อยู่ทั่วรถ นี่คือประสบการณ์ TT และมีแวะเติมแก๊ส 1 ครั้ง กว่าจะถึงกรุงเทพฯ รู้สึกใช้เวลานานกว่าตอนมาตอนเราลง BTS หมอชิตถึงประมาณ 16.00 น. ก็เล่นเอาเกือบแย่บนรถแทบหายใจไม่ออก(เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว พังตอนกลับ ฮ่าๆ ) แต่ถ้าในภาพรวมเราก็ Happy อยู่เด้อค่าเด้อ
ค่าใช้จ่ายหลักๆ
ค่ารถไป-กลับ 150*2 = 300 บาท
ค่าเรือไปกลับ 30*2 = 60 บาท
ค่าอาการ 1100 + 200 =1300/4 = 325 บาท
ค่าที่พัก (1200*2)/4 = 600 บาท
รวม 1285 บาท/คน
จบทริปแยกย้ายกันกลับบ้าน สวัสดีค่ะ ^^
ปล. ไปชื่นชมความงามของทะเลแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาด และทิ้งขยะให้ถูกทางกันด้วยนะคะ ความสวยงามของทะเลจะได้อยู่กับเราไปนานๆ แสนนาน