ว่าด้วยเรื่องเลียนแบบหรือตามรอยรีวิว(อีกแล้ว) งานนี้อินมากๆ เมื่อเสพรีวิวจากการเดินทางของเพื่อนๆ ที่เดินทางไปยังเกาะสีชัง จ.ชลบุรี จึงอยากจะไปสัมผัสธรรมชาติบนเกาะ เรียกได้ว่าไปสำรวจก็ว่าได้ไปช่วงวันหยุดยาว ย๊าว ยาวววว ทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืนถือว่าเยอะมากๆสำหรับ 'เกาะสีชัง'
Day 1 - 21 Oct 2017
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ นั่งรถทัวร์จากเอกมัยไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ราคาตั๋วก็คนละ 100 บาท เราได้นั่งรถมินิบัสก็นั่งไป
นอนไป ราวๆ 2 ชม. เห็นจะได้ เมื่อถึงศรีราชาแล้วให้ลงหน้า 'โรบินสันศรีราชา' จากนั้นต่อรถตุ๊กๆ รับจ้างราคา 80 บาทไปยังท่าเรือเพื่อนั่งเรือต่อไปยัง 'เกาะสีชัง' ราคาตั๋วเรือก็จะอยู่ที่คนละ 50 บาท
สำหรับเรือโดยสารไปยังเกาะสีชังต้องบอกก่อนว่าเป็นเรือ 2 ชั้นขนาดไม่ใหญ่มาก เราเลือกนั่งชั้นล่างก่อน ผลที่ออกมาคือก็โอเคอยู่นะลมไม่ถูกเราโดยตรงเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการชมวิวทิวทัศน์จะไม่ค่อยเต็มที่สักเท่าไหร่ อารมณ์จะแบบนั่งรถทัวร์(มั๊ย??) แต่ยังไงก็เลือกฝั่งที่จะนั่งดีๆนะคะ เพราะว่าจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั้นมีแดด
นั่งเรือไปก็ชมวิวทะเลเอย เรือประมง เรือน้ำมัน เรือสินค้าไปเรื่อยๆ สำหรับเราก็ถือว่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เพราะยังไม่เคยเห็นเรือลำใหญ่และเยอะขนาดนี้55 เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงกันเลยเชียว กว่าจะถึง 'เกาะสีชัง' ก็ประมาณเกือบๆ 1 ชม. ได้ ก็จะผ่านเกาะเล็กๆ ชื่ออะไรบ้างเราก็จำไม่ได้ แต่จะมีแวะเทียบท่าที่เกาะขามใหญ่ก่อนที่จะไปเทียบท่าที่ 'เกาะสีชัง'
ในที่สุดก็มาถึงเกาะสีชัง.. แล้วค้าาา ที่ๆโหยหามาแสนนาน ว่าอยากจะมาสักครั้ง ที่พูดๆมาอาจจะดูเว่อร์ไปสักหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะ อิอิ
เมื่อมาถึงแล้วจะเจอกับป้าๆ ที่คอยให้บริการเรื่องรถเช่า โดยเราสามารถเช่ารถได้จากจุดบริการที่ท่าเรือได้เลย หรือยังไม่มีที่พักก็ตรงนี้เช่นกัน แต่เราได้จัดการจองที่พักไว้แล้ว แต่มาเช่ารถที่จุดนี้ โดยคิดค่าบริการ 250 บาท/วัน รวมเป็น 500 บาท แต่เรื่องงงๆก็เกิดขึ้น เมื่อเราจ่ายเงินค่าเช่ารถแล้วสามารถเอารถไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องมัดจำ หรือทำเอกสารอะไรเลย หรือที่อื่นก็เป็นนะ อันนี้เราก็ไม่รู้ซึ่งปกติทั่วไปที่เคยเจอมาจะแบบมัดจำก่อนขอบัตรประจำตัวประชาชนไว้ ทำเอกสารนู่นี่นั่น แต่ที่นี่ไม่ต้อง เราก็งงๆเป็นไก่เลย
จากนั้นเราก็ได้รถมาและมีบริการขับไปส่งถึงที่พัก พร้อมบอกไม่ต้องล็อคคอรถนะคะ งงอีกรอบค่ะ ปกติจะบอกอย่าลืมล็อคคอรถ/ล็อคล้อ บลาๆๆ
Check in ที่พักคืนแรก สำหรับที่พักเราก็สุ่มๆค่ะ ไม่ได้ตามรีวิว ฮ่าๆๆ เผื่อจะมีคนบอกว่าตามรีวิวอื่นไหมป่าวเลยค่ะ สุ่มเอา เสี่ยงดวงด้วยคืนแรกพักที่รักบ้านเกิด คิดว่าน่าจะทำห้องพักเมื่อไม่นานมานร้มั้ง ยังใหม่ๆอยู่เลย ห้องน่ารัก เราได้ห้องสีชมพูแหละ ฮ่าๆ เตียงนอนผ้าปูก็สีชมพู ที่สำคัญกาน้ำร้อนก็สีชมพู (สายอวด)
สำหรับคำถามที่ค้างคาใจในเรื่องรถ ที่ว่าไม่ต้องล็อคคอ เลยถามป้าที่บ้านพักซะเลยคำตอบที่ได้คือ.. ที่นี่ไม่มีอะไร เสียบกุญแจไว้ก็ไม่หาย(พร้อมชี้ไปที่รถของป้าเอง กุญแจเสียบอยู่ทุกคันเบยยย ฮ่าๆๆ) ถอดแค่กุญแจก็พอเผื่อคนขโมยน้ำมัน กระจ่างเลยค่ะ
เมื่อถึงที่พักก็พักผ่อนเก็แรงก่อนที่จะออกไปตามหาแรงบันดาลใจ อิอิ
แดดร่มลมตกเราก็เลยออกไปสำรวจเกาะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ ชิวๆ รับลมไปเรื่อยๆ
ดอกหญ้า ณ 'พระจุฑาธุชราชฐาน'
ผู้คนเล่นน้ำที่หาดถ้ำเขาพัง
วิวสวยๆ ที่ปารีฮัท รีสอร์ท (เราสามารถเข้าไปชมได้บางส่วนนะคะ)
ปิดท้ายของวัน ที่ ร้านป้าปั่นลุงวิศ
..ไว้มาต่อนะคะ..
ใครไม่ชัง แต่ 'สีชัง'
Day 1 - 21 Oct 2017
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ นั่งรถทัวร์จากเอกมัยไปยัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ราคาตั๋วก็คนละ 100 บาท เราได้นั่งรถมินิบัสก็นั่งไป
นอนไป ราวๆ 2 ชม. เห็นจะได้ เมื่อถึงศรีราชาแล้วให้ลงหน้า 'โรบินสันศรีราชา' จากนั้นต่อรถตุ๊กๆ รับจ้างราคา 80 บาทไปยังท่าเรือเพื่อนั่งเรือต่อไปยัง 'เกาะสีชัง' ราคาตั๋วเรือก็จะอยู่ที่คนละ 50 บาท
สำหรับเรือโดยสารไปยังเกาะสีชังต้องบอกก่อนว่าเป็นเรือ 2 ชั้นขนาดไม่ใหญ่มาก เราเลือกนั่งชั้นล่างก่อน ผลที่ออกมาคือก็โอเคอยู่นะลมไม่ถูกเราโดยตรงเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการชมวิวทิวทัศน์จะไม่ค่อยเต็มที่สักเท่าไหร่ อารมณ์จะแบบนั่งรถทัวร์(มั๊ย??) แต่ยังไงก็เลือกฝั่งที่จะนั่งดีๆนะคะ เพราะว่าจะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั้นมีแดด
นั่งเรือไปก็ชมวิวทะเลเอย เรือประมง เรือน้ำมัน เรือสินค้าไปเรื่อยๆ สำหรับเราก็ถือว่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เพราะยังไม่เคยเห็นเรือลำใหญ่และเยอะขนาดนี้55 เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงกันเลยเชียว กว่าจะถึง 'เกาะสีชัง' ก็ประมาณเกือบๆ 1 ชม. ได้ ก็จะผ่านเกาะเล็กๆ ชื่ออะไรบ้างเราก็จำไม่ได้ แต่จะมีแวะเทียบท่าที่เกาะขามใหญ่ก่อนที่จะไปเทียบท่าที่ 'เกาะสีชัง'
ในที่สุดก็มาถึงเกาะสีชัง.. แล้วค้าาา ที่ๆโหยหามาแสนนาน ว่าอยากจะมาสักครั้ง ที่พูดๆมาอาจจะดูเว่อร์ไปสักหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะ อิอิ
เมื่อมาถึงแล้วจะเจอกับป้าๆ ที่คอยให้บริการเรื่องรถเช่า โดยเราสามารถเช่ารถได้จากจุดบริการที่ท่าเรือได้เลย หรือยังไม่มีที่พักก็ตรงนี้เช่นกัน แต่เราได้จัดการจองที่พักไว้แล้ว แต่มาเช่ารถที่จุดนี้ โดยคิดค่าบริการ 250 บาท/วัน รวมเป็น 500 บาท แต่เรื่องงงๆก็เกิดขึ้น เมื่อเราจ่ายเงินค่าเช่ารถแล้วสามารถเอารถไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องมัดจำ หรือทำเอกสารอะไรเลย หรือที่อื่นก็เป็นนะ อันนี้เราก็ไม่รู้ซึ่งปกติทั่วไปที่เคยเจอมาจะแบบมัดจำก่อนขอบัตรประจำตัวประชาชนไว้ ทำเอกสารนู่นี่นั่น แต่ที่นี่ไม่ต้อง เราก็งงๆเป็นไก่เลย
จากนั้นเราก็ได้รถมาและมีบริการขับไปส่งถึงที่พัก พร้อมบอกไม่ต้องล็อคคอรถนะคะ งงอีกรอบค่ะ ปกติจะบอกอย่าลืมล็อคคอรถ/ล็อคล้อ บลาๆๆ
Check in ที่พักคืนแรก สำหรับที่พักเราก็สุ่มๆค่ะ ไม่ได้ตามรีวิว ฮ่าๆๆ เผื่อจะมีคนบอกว่าตามรีวิวอื่นไหมป่าวเลยค่ะ สุ่มเอา เสี่ยงดวงด้วยคืนแรกพักที่รักบ้านเกิด คิดว่าน่าจะทำห้องพักเมื่อไม่นานมานร้มั้ง ยังใหม่ๆอยู่เลย ห้องน่ารัก เราได้ห้องสีชมพูแหละ ฮ่าๆ เตียงนอนผ้าปูก็สีชมพู ที่สำคัญกาน้ำร้อนก็สีชมพู (สายอวด)
สำหรับคำถามที่ค้างคาใจในเรื่องรถ ที่ว่าไม่ต้องล็อคคอ เลยถามป้าที่บ้านพักซะเลยคำตอบที่ได้คือ.. ที่นี่ไม่มีอะไร เสียบกุญแจไว้ก็ไม่หาย(พร้อมชี้ไปที่รถของป้าเอง กุญแจเสียบอยู่ทุกคันเบยยย ฮ่าๆๆ) ถอดแค่กุญแจก็พอเผื่อคนขโมยน้ำมัน กระจ่างเลยค่ะ
เมื่อถึงที่พักก็พักผ่อนเก็แรงก่อนที่จะออกไปตามหาแรงบันดาลใจ อิอิ
แดดร่มลมตกเราก็เลยออกไปสำรวจเกาะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ ชิวๆ รับลมไปเรื่อยๆ
ดอกหญ้า ณ 'พระจุฑาธุชราชฐาน'
ผู้คนเล่นน้ำที่หาดถ้ำเขาพัง
วิวสวยๆ ที่ปารีฮัท รีสอร์ท (เราสามารถเข้าไปชมได้บางส่วนนะคะ)
ปิดท้ายของวัน ที่ ร้านป้าปั่นลุงวิศ
..ไว้มาต่อนะคะ..