แม่ผมเป็นคนที่ต่อต้านการมีแฟนในวัยเรียนมาก แม้แต่แค่คุยก็ยังไม่ได้ แม่ให้เหตุผลว่าให้มีการมีงานทำก่อนค่อยมีได้
พี่ชายผมพ้นวัยเรียนแล้ว มีงานมีการทำที่มั่นคง พูดง่ายๆอยู่ในสถานะที่พรัอมจะมีแฟนแต่แม่บอกว่าห้ามมีเพราะยังไม่ถึงเวลา ทั้งๆที่พี่ชายผมอายุ 25 ปีแล้ว พอมีงานทำก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่พี่ผมก็แอบมีแฟนโดยห้ามแม่รู้เด็ดขาด พี่ชายผมเคยถามกับแม่เลยว่าทำไมถึงยังมีไม่ได้ แม่ผมก็รีบบอกปัดๆยังไม่ถึงเวลา เท่านั้นแหละพี่ผมรู้เลยว่าไม่ควรถามแม่ต่อแล้ว
ส่วนตัวผมเองก็คุยๆกับผู้หญิงคนนึงอยู่ ผมอยู่ในวัยเรียน ก็อย่างว่าจะห้ามแค่ไหนก็ตามความรู้สึกคงห้ามกันไม่ได้แต่ผมก็สอนพิเศษหารายได้เพิ่มไม่ได้ไปเบียดเบียนเงินครอบครัวเพิ่ม
แต่สิ่งที่ผมกับพี่ชายรู้สึกผิด คือ การไม่ให้เกียรติคนที่เราคิดจริงจังด้วยนั่นคือการมาหาพ่อแม่ของตัวเอง ซึ่งถ้าทำแบบนั้นมีสิทธิ์ที่แม่ผมปรี๊ดแตกแน่
พ่อผมเข้าใจไม่ได้ว่าอะไร แม้แต่พ่อผมเองที่เป็นสามีแม่ยังทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่พ่อกับแม่ผมจีบกันตอนสมัยเรียนด้วยซ้ำ แต่แม่กลับหัามเด็ดขาดในเรื่องนี้เลย
อยากจะถามว่าจะเริ่มปรับทัศนคติของแม่ยังไงดีอ่ะครับ
จะปรับทัศนคติแม่เกี่ยวกับการมีแฟนได้ยังไงอ่ะครับ
พี่ชายผมพ้นวัยเรียนแล้ว มีงานมีการทำที่มั่นคง พูดง่ายๆอยู่ในสถานะที่พรัอมจะมีแฟนแต่แม่บอกว่าห้ามมีเพราะยังไม่ถึงเวลา ทั้งๆที่พี่ชายผมอายุ 25 ปีแล้ว พอมีงานทำก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่พี่ผมก็แอบมีแฟนโดยห้ามแม่รู้เด็ดขาด พี่ชายผมเคยถามกับแม่เลยว่าทำไมถึงยังมีไม่ได้ แม่ผมก็รีบบอกปัดๆยังไม่ถึงเวลา เท่านั้นแหละพี่ผมรู้เลยว่าไม่ควรถามแม่ต่อแล้ว
ส่วนตัวผมเองก็คุยๆกับผู้หญิงคนนึงอยู่ ผมอยู่ในวัยเรียน ก็อย่างว่าจะห้ามแค่ไหนก็ตามความรู้สึกคงห้ามกันไม่ได้แต่ผมก็สอนพิเศษหารายได้เพิ่มไม่ได้ไปเบียดเบียนเงินครอบครัวเพิ่ม
แต่สิ่งที่ผมกับพี่ชายรู้สึกผิด คือ การไม่ให้เกียรติคนที่เราคิดจริงจังด้วยนั่นคือการมาหาพ่อแม่ของตัวเอง ซึ่งถ้าทำแบบนั้นมีสิทธิ์ที่แม่ผมปรี๊ดแตกแน่
พ่อผมเข้าใจไม่ได้ว่าอะไร แม้แต่พ่อผมเองที่เป็นสามีแม่ยังทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่พ่อกับแม่ผมจีบกันตอนสมัยเรียนด้วยซ้ำ แต่แม่กลับหัามเด็ดขาดในเรื่องนี้เลย
อยากจะถามว่าจะเริ่มปรับทัศนคติของแม่ยังไงดีอ่ะครับ