ผมกำลังพยายามเขียนนิยายรักหวานใส ตามคำแนะนำของมิตรสหาย
ผมทำได้เท่านั้จริงๆ กับเรื่องรักหวาน ผิดพลาดขัดใจอย่างไร ขออภัยนะครับ
................
มีคนบอกผมว่า ถ้าเห็นเธอทิ้งตัวลงมาจากชั้นบน ทางกันสาด มองเห็นชัดเจนเด่นชัดทางหน้าต่าง อย่าสติแตก ให้นั่งตัวตรง มองผ่านเลยไปไม่ต้องสนใจร่างของผู้หญิงที่ใช้เชือกผูกคอตายอย่างสยดสยอง อย่าสนใจนัยน์ตาเหลือกค้างลิ้นจุกปาก มือทั้งสองไขว่คว้าไปยังเชือกรัดแน่นลำคอ ทรมานราวกับจะพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด แต่เธอจงใจฆ่าตัวเองไม่ใช่เหรอ....ทำไมต้องดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราช พวกผู้หญิงช่างทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย นี่นะผู้หญิง!
จะตายก็ตายไป....จะลงนรกขุมไหนก็ลงไป ถึงก้นอเวจี ทำไมต้องมาแสดงปาฏิหาริย์ให้คนอื่นดูด้วย
ครั้งแรกเมื่อผมเห็น สารภาพเลยว่าผมตกใจแทบสิ้นสติ มีอย่างที่ไหน คนกำลังนั่งทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง แล้วก็มีคนผูกคอตายทิ้งตัวลงมาจากชั้นบนดิ้นรนไขว่คว้า ไม่สติแตกตายก็น่าแปลกแล้ว
อย่ามองตรงๆ...แม่บ้านประจำตึกบอกผมหลายครั้ง
ใช่แล้ว....ทำไมผมต้องสนใจกับคนฆ่าตัวตาย ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยสักนิด ใครจะตายจะเป็นมันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ผมเริ่มแปลกใจว่าเธอคนนั้นทำไมไม่ยอมตายง่ายๆ คนผูกคอตายควรจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ใช่มาหมุนคว้างโชว์ความตายให้คนอื่นเห็น ตาที่เหลือกลานจนเห็นแต่ตาขาว ปากอ้ากว้างลิ้นจุกปากจนเกินความจริง สุดท้ายเปลี่ยนเป็นร่างหมุนไปมา โดยสายตายังจับจ้องมองอย่างอาฆาต สองมือขาวซีดเคลื่อนไหวไปมาเหมือนมีชีวิต ไม่ว่าเธอจะต้องการอะไร ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น
คืนนี้เอาอีกแล้ว
ขณะที่ผมกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่ม เป็นเวลาของเธอ
แล้วเธอก็มาจริงๆ
ร่างหล่นลงมาต่อหน้าต่อตา ในสภาพเชือกมัดคอห้อยร่องแร่ง หมุนคว้างนัยน์ตาเหลือกค้าง แต่เหมือนกำลังจ้องมองมาอย่างหยั่งเชิง เรือนผมยาวสยายพลิ้วไหว ผมคิดว่าเธอพยายามเลียนแบบจูออน หรือไม่ก็ เดอะ ริง เพียงแต่เธอเลือกหน้าต่างเป็นการแสดงความตาย มากกว่าจะใช้ทีวีหรือบ่อน้ำ ร่างของเธอแกว่งไกวไหวเอนไปมาเหมือนโดนแรงลม กระแทกบานหน้าต่างกึงกัง ราวเสียงเรียกจากยมโลก
มือขาวของเธอเคลื่อนไหวไปมา ไม่เหมือนคนผูกคอตายเลยสักนิด แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะพยายามเคาะกระจกหน้าต่าง ใบหน้าซีดขาวบางครั้งแนบกระจกหน้าต่างพร้อมกับสายตาชำเลืองมองมาอย่างจงใจ ก่อนกระตุกร่างกายไปมาแบบผิดรูป ผมส่ายหน้าอย่างเอือมละอา ทำไมต้องพยายามไปเลียนแบบการหลอกของผีญี่ปุ่นด้วย
แน่จริงเข้ามาในห้องเลย... แหวกอก.. ควักเครื่องในตับไตไส้พุง แลบลิ้นยาวเฟื้อย.. และกลิ่นเน่าเหม็น.. ไม่ได้หรือ จะแถมด้วยการร้องเพลงกล่อมลูกโหยหวนเยือกเย็นวังเวงก็ไม่ว่า
ร่างนอกหน้าต่างดิ้นรนไปมา ร่างกายหลุดร่วงลงไปเหลือแต่ศีรษะติดกับเชือก บิดเบี้ยวไปมาราวกับเชิญชวน ดีว่าไม่มีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยให้เป็นที่สยองจิต
ผมถอนลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย ปิดคอมพิวเตอร์ ต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว หยิบหวีราคาถูกๆ มาหวีผมให้เข้าทรง ก่อนผิวปากหวือ เดินออกห้อง เดินยังชั้นบน
ห้องที่อยู่เหนือหัวผมนั่นล่ะ จะมีห้องไหน เคาะประตูแรงๆ อย่างมีอารมณ์
สักครู่หนึ่งประตูห้องเปิดออกเหมือนไม่เต็มใจ แต่ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว อยากหลอกกันไปถึงไหน ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง มากเกินไปแล้ว
“รักผมมากใช่ไหม...ผมหลอกได้หลอกดีขนาดนี้” ผมกระชากเสียงกร้าว ใสร่างหญิงสาวผู้กำลังเอาเชือกคล้องคอ ทำท่าจะจะกระโดดออกจากหน้าต่าง ได้ผล...เธอชะงัก หันมามองอย่างคาดไม่ถึง
“ไม่ต้องลีลาเยอะ รักก็บอกกันดีๆ ไม่ต้องหลอกกัน บอกมาเลย ผมรับได้ ผมเองก็ตายอยู่ข้างล่างนานแล้ว ไม่ต้องมาหลอกกันบ้าๆบอๆ รักก็รัก หลอกก็หลอก ไม่ต้องเรื่องมาก จะเอาไงว่ามา ไม่ต้องลีลา”
หญิงสาวค่อยปลดเชือกออกจากลำคอ ก่อนลงมายืนอยู่เบื้องหน้าของผม ให้ตายเถอะ....ไม่สิ ผมตายไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเจอรอยยิ้มน่ารักจากผีสาวเลย ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ใครทำร้ายเธอ ผมไม่สนใจอีกต่อไป และมันไม่สำคัญอะไรเลยกับเรื่องราวในอดีต ผมรู้เพียงว่าผมรักเธอ เมื่อเธอผวาเข้ามาผมจึงไม่รีรอจะโอบกอดเธอทั้งจิตและวิญญาณ ผมว่าเรารู้ใจกันมานาน เพียงแต่วิธีการแสดงออก ไม่ใช่แบบที่เรายังไม่ตาย
ที่รัก...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป คุณไม่ต้องตายซ้ำซากวนเวียน เราก็จะไม่เหงาอีกต่อไป เรารักกันนะ ที่รักของผม.....

จบแล้วจ้า..
ทีรัก....
ผมทำได้เท่านั้จริงๆ กับเรื่องรักหวาน ผิดพลาดขัดใจอย่างไร ขออภัยนะครับ
................
มีคนบอกผมว่า ถ้าเห็นเธอทิ้งตัวลงมาจากชั้นบน ทางกันสาด มองเห็นชัดเจนเด่นชัดทางหน้าต่าง อย่าสติแตก ให้นั่งตัวตรง มองผ่านเลยไปไม่ต้องสนใจร่างของผู้หญิงที่ใช้เชือกผูกคอตายอย่างสยดสยอง อย่าสนใจนัยน์ตาเหลือกค้างลิ้นจุกปาก มือทั้งสองไขว่คว้าไปยังเชือกรัดแน่นลำคอ ทรมานราวกับจะพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด แต่เธอจงใจฆ่าตัวเองไม่ใช่เหรอ....ทำไมต้องดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราช พวกผู้หญิงช่างทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย นี่นะผู้หญิง!
จะตายก็ตายไป....จะลงนรกขุมไหนก็ลงไป ถึงก้นอเวจี ทำไมต้องมาแสดงปาฏิหาริย์ให้คนอื่นดูด้วย
ครั้งแรกเมื่อผมเห็น สารภาพเลยว่าผมตกใจแทบสิ้นสติ มีอย่างที่ไหน คนกำลังนั่งทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง แล้วก็มีคนผูกคอตายทิ้งตัวลงมาจากชั้นบนดิ้นรนไขว่คว้า ไม่สติแตกตายก็น่าแปลกแล้ว
อย่ามองตรงๆ...แม่บ้านประจำตึกบอกผมหลายครั้ง
ใช่แล้ว....ทำไมผมต้องสนใจกับคนฆ่าตัวตาย ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยสักนิด ใครจะตายจะเป็นมันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ผมเริ่มแปลกใจว่าเธอคนนั้นทำไมไม่ยอมตายง่ายๆ คนผูกคอตายควรจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ใช่มาหมุนคว้างโชว์ความตายให้คนอื่นเห็น ตาที่เหลือกลานจนเห็นแต่ตาขาว ปากอ้ากว้างลิ้นจุกปากจนเกินความจริง สุดท้ายเปลี่ยนเป็นร่างหมุนไปมา โดยสายตายังจับจ้องมองอย่างอาฆาต สองมือขาวซีดเคลื่อนไหวไปมาเหมือนมีชีวิต ไม่ว่าเธอจะต้องการอะไร ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น
คืนนี้เอาอีกแล้ว
ขณะที่ผมกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่ม เป็นเวลาของเธอ
แล้วเธอก็มาจริงๆ
ร่างหล่นลงมาต่อหน้าต่อตา ในสภาพเชือกมัดคอห้อยร่องแร่ง หมุนคว้างนัยน์ตาเหลือกค้าง แต่เหมือนกำลังจ้องมองมาอย่างหยั่งเชิง เรือนผมยาวสยายพลิ้วไหว ผมคิดว่าเธอพยายามเลียนแบบจูออน หรือไม่ก็ เดอะ ริง เพียงแต่เธอเลือกหน้าต่างเป็นการแสดงความตาย มากกว่าจะใช้ทีวีหรือบ่อน้ำ ร่างของเธอแกว่งไกวไหวเอนไปมาเหมือนโดนแรงลม กระแทกบานหน้าต่างกึงกัง ราวเสียงเรียกจากยมโลก
มือขาวของเธอเคลื่อนไหวไปมา ไม่เหมือนคนผูกคอตายเลยสักนิด แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะพยายามเคาะกระจกหน้าต่าง ใบหน้าซีดขาวบางครั้งแนบกระจกหน้าต่างพร้อมกับสายตาชำเลืองมองมาอย่างจงใจ ก่อนกระตุกร่างกายไปมาแบบผิดรูป ผมส่ายหน้าอย่างเอือมละอา ทำไมต้องพยายามไปเลียนแบบการหลอกของผีญี่ปุ่นด้วย
แน่จริงเข้ามาในห้องเลย... แหวกอก.. ควักเครื่องในตับไตไส้พุง แลบลิ้นยาวเฟื้อย.. และกลิ่นเน่าเหม็น.. ไม่ได้หรือ จะแถมด้วยการร้องเพลงกล่อมลูกโหยหวนเยือกเย็นวังเวงก็ไม่ว่า
ร่างนอกหน้าต่างดิ้นรนไปมา ร่างกายหลุดร่วงลงไปเหลือแต่ศีรษะติดกับเชือก บิดเบี้ยวไปมาราวกับเชิญชวน ดีว่าไม่มีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยให้เป็นที่สยองจิต
ผมถอนลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย ปิดคอมพิวเตอร์ ต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว หยิบหวีราคาถูกๆ มาหวีผมให้เข้าทรง ก่อนผิวปากหวือ เดินออกห้อง เดินยังชั้นบน
ห้องที่อยู่เหนือหัวผมนั่นล่ะ จะมีห้องไหน เคาะประตูแรงๆ อย่างมีอารมณ์
สักครู่หนึ่งประตูห้องเปิดออกเหมือนไม่เต็มใจ แต่ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว อยากหลอกกันไปถึงไหน ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง มากเกินไปแล้ว
“รักผมมากใช่ไหม...ผมหลอกได้หลอกดีขนาดนี้” ผมกระชากเสียงกร้าว ใสร่างหญิงสาวผู้กำลังเอาเชือกคล้องคอ ทำท่าจะจะกระโดดออกจากหน้าต่าง ได้ผล...เธอชะงัก หันมามองอย่างคาดไม่ถึง
“ไม่ต้องลีลาเยอะ รักก็บอกกันดีๆ ไม่ต้องหลอกกัน บอกมาเลย ผมรับได้ ผมเองก็ตายอยู่ข้างล่างนานแล้ว ไม่ต้องมาหลอกกันบ้าๆบอๆ รักก็รัก หลอกก็หลอก ไม่ต้องเรื่องมาก จะเอาไงว่ามา ไม่ต้องลีลา”
หญิงสาวค่อยปลดเชือกออกจากลำคอ ก่อนลงมายืนอยู่เบื้องหน้าของผม ให้ตายเถอะ....ไม่สิ ผมตายไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเจอรอยยิ้มน่ารักจากผีสาวเลย ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ใครทำร้ายเธอ ผมไม่สนใจอีกต่อไป และมันไม่สำคัญอะไรเลยกับเรื่องราวในอดีต ผมรู้เพียงว่าผมรักเธอ เมื่อเธอผวาเข้ามาผมจึงไม่รีรอจะโอบกอดเธอทั้งจิตและวิญญาณ ผมว่าเรารู้ใจกันมานาน เพียงแต่วิธีการแสดงออก ไม่ใช่แบบที่เรายังไม่ตาย
ที่รัก...เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป คุณไม่ต้องตายซ้ำซากวนเวียน เราก็จะไม่เหงาอีกต่อไป เรารักกันนะ ที่รักของผม.....
จบแล้วจ้า..