สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
สกอร์ในการให้คะแนนขึ้นอยู่กับตำแหน่ง
บางตำแหน่ง(บริหาร)ผลงานและความรับผิดชอบเป็นหลัก
แต่บางตำแหน่ง(officer) ระดับล่างจริง ๆ แหละถึงจะสนใจขาดลามาสายเป็นหลัก
เคยฟังนิทานเรื่องนายแดงกับนายดำมั้ย
นายดำ เป็นคนเก่าแก่ทำงานมานานด้วยความขยันหมั่นเพียง ไม่ขาดไม่ลา แต่สงสัยทำไมเจ้านายไม่รักเหมือนกับนายแดงที่เพิ่งมาทำงาน ได้แต่อิจฉามานานจนทนไม่ไหว เลยเข้าไปหาถามนาย ทำไมลำเอียง เค้าทำงานมาตั้งนานไม่ขาดไม่ลามาเช้า แต่ทำไปถึงโปรดปรานนายแดงมากกว่า
ปรากฏว่ามีเสียงดังหน้าบริษัท
นาย ไปดูซิเสียงอะไร
ดำ วิ่งไปดู แล้วกลับมารายงาน อ๋อหมามันกัดกันครับ
นาย ทำไมมันมากัดกันหน้าบริษัท หนวกหูรบกวน
ดำ วิ่งไปดู แล้วกลับมารายงาน อ๋อ มันแย่งเศษกระดูกกันครับ
นาย ไปดูซิ ยามจัดการรึยัง
ดำ เริ่มเคือง ทำไมไม่บอกก่อน ให้วิ่งไปวิ่งมาอยู่ได้ พอกลับมาจะรายงาน
ปรากฏว่า นายเรียกแดงไปดูอีกคน แดงก็รายงานนายว่า
"เอ่อมีหมา มาแย่งเศษอาหารกันหน้าบริษัท ผมเห็นมันเสียงดังรบกวนลูกค้า ผมเลยให้ยามไล่ไปเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้กำลังให้แม่บ้าน
เคลียร์เศษ อาหารที่มันสกปรกอยู่ เดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้วครับ นายมีเรื่องอะไรเพิ่มเติมมั้ยครับ"
ดำ อึ้งกิมกี่ ยังแอบโง่ เรียกเราไปดูแล้ว ทำไมต้องเรียกนายแดงไปดูอีกคน
หี
สรุป คุณภาพงานต่างกัน แต่จะให้การประเมินขึ้นอยู่กับขาดลามาสายหรือ
บางตำแหน่ง(บริหาร)ผลงานและความรับผิดชอบเป็นหลัก
แต่บางตำแหน่ง(officer) ระดับล่างจริง ๆ แหละถึงจะสนใจขาดลามาสายเป็นหลัก
เคยฟังนิทานเรื่องนายแดงกับนายดำมั้ย
นายดำ เป็นคนเก่าแก่ทำงานมานานด้วยความขยันหมั่นเพียง ไม่ขาดไม่ลา แต่สงสัยทำไมเจ้านายไม่รักเหมือนกับนายแดงที่เพิ่งมาทำงาน ได้แต่อิจฉามานานจนทนไม่ไหว เลยเข้าไปหาถามนาย ทำไมลำเอียง เค้าทำงานมาตั้งนานไม่ขาดไม่ลามาเช้า แต่ทำไปถึงโปรดปรานนายแดงมากกว่า
ปรากฏว่ามีเสียงดังหน้าบริษัท
นาย ไปดูซิเสียงอะไร
ดำ วิ่งไปดู แล้วกลับมารายงาน อ๋อหมามันกัดกันครับ
นาย ทำไมมันมากัดกันหน้าบริษัท หนวกหูรบกวน
ดำ วิ่งไปดู แล้วกลับมารายงาน อ๋อ มันแย่งเศษกระดูกกันครับ
นาย ไปดูซิ ยามจัดการรึยัง
ดำ เริ่มเคือง ทำไมไม่บอกก่อน ให้วิ่งไปวิ่งมาอยู่ได้ พอกลับมาจะรายงาน
ปรากฏว่า นายเรียกแดงไปดูอีกคน แดงก็รายงานนายว่า
"เอ่อมีหมา มาแย่งเศษอาหารกันหน้าบริษัท ผมเห็นมันเสียงดังรบกวนลูกค้า ผมเลยให้ยามไล่ไปเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้กำลังให้แม่บ้าน
เคลียร์เศษ อาหารที่มันสกปรกอยู่ เดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้วครับ นายมีเรื่องอะไรเพิ่มเติมมั้ยครับ"
ดำ อึ้งกิมกี่ ยังแอบโง่ เรียกเราไปดูแล้ว ทำไมต้องเรียกนายแดงไปดูอีกคน


สรุป คุณภาพงานต่างกัน แต่จะให้การประเมินขึ้นอยู่กับขาดลามาสายหรือ
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงถึงจะให้แม่ซึ่งเป็นผู้บริหารใหญ่เข้าใจว่าไม่ควรประเมินผลงานด้วยการมาทำงานของพนักงานเป็นหลักครับ
ประเด็นคือ การประเมินผลงานพนักงานประจำปี มีการตั้งหัวข้อไว้สำหรับการประเมิน ซึ่งใช้ระบบหัวหน้าประเมินลูกน้อยเป็นส่วนใหญ่ และมีบางแผนกและบางตำแหน่งที่ประเมินตนเองแล้วส่งมาให้ผู้จัดการ ผู้จัดการจะตรวจทานและปรับนิดหน่อย แล้วค่อยส่งมาที่ฝ่ายบริหารที่จะนำมาคำนวนโบนัสร่วมกับผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่นั้นมันเป็นเป็นแค่70%ของคะแนนทั้งหมด อีก30%มาจากการคิดจำนวนนาทีขาดลามาสายเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยจะแบ้งสัดส่วนจากเกณฑ์สูงที่ถ้าถึงเกณฑ์นี้ คะแนนจะเป็น 0
แต่ปัญหาที่ผมยังคงเถียงกับแม่ก็คือ การที่แม่นำสัดส่วนนาทีขาดลามาสายไปตัดเพดานโบนัสอีกทอดนึง ทำให้สัดส่วนนี้ทำงาน2เด้ง และการไม่มาทำงานและการมาทำงานสายมีส่วนส่งผลต่อโบนัส กว่า65%(คิดง่ายๆที่ 100% +30%แล้วหาร2ให้ได้100)
ซึ่งจากทุกหลักสูตรที่ผมเคยเข้าอบรมก็ดี หรือจากคลาสเรียนก็ดี ทุกที่บอกเหมือนกันว่าเราไม่ควรเอาเวลาขาดลามาสายมาเป็นเกณฑ์หลักในการประเมินการทำงานของคน ซึ่งผมพยายามคุยกับแม่เรื่องนี้มาหลายทีแล้ว แต่แม่ก็ไม่ยอมให้เปลี่ยนไปจากสัดส่วนนี้ โดยอ้างว่าถ้ามาสายหรือไม่มาก้เท่ากับว่าได้รับเงินเดือนไปแล้วแต่ไม่ทำงาน ซึ่งผมตอบกลับไปว่าแต่ความสามารถคนเราก้ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมาทำงานในวันหยุดของตน(ที่อาจจะเปนวันหยุดพิเสาตามตำแหน่ง)หรืออยุ่เลยเวลาเลิกงานเพื่อทำให้ชิ้นงานนั้นเสรจไป(แต่จากที่อยู่กับบริษัทมา เดี่ยวนี้จะไม่ค่อยมีเพราะคนคิดว่าอยู่เกินเวลาไปก้ดดนตัดอยุ่ดี ในเมื่อสายแล้วก้สายเลย ต่างจากสมัยก่อนที่ไม่ได้ใช้เกณฑ์นี้และพ่อเป็นคนทำ) แต่แม่ก้ยังคงเถียงว่าเพราะนั่นเป็นความรับผิดชอบของเขาที่ต้องมาทำ แล้วก้จะเริ่มพุดออกไปเรื่องอื่นหรือไม่ก้เดินหนี ซึ่งทุกครั้งที่คุยกันพอขัดกับความคิดของแม่ แม่จะเสียงแข็ง เริ่มมีอารมณ์ เริ่มต่อว่าผมและตัดพ้อในเชิงที่ว่าเขาทำอะไรก้ผิด ทำมา30ปีไม่เคยเห็นมีปัญหา ประสบการณ์ของเขาไม่มีค่าใช่ไหม หรือทำนองว่าไปเรียนมาก็ร้อนวิชาโดยไม่ดูว่ามันเอามาใช้กับบริษัทเราไม่ได้
แต่ข้อหลังสุดนี้ ผมเคยคุยกับผู้จัดการหลายคนเรื่องนี้แล้ว ในเรื่องนี้ทุกคนเห็นด้วยและเห็นว่ามันเอามาใช้ได้
เลยอยากจะขอวิธีหรือข้อมูลซัพพอร์ตที่พอจะเอาไปใช้เพื่อเจรจากับแม่ ว่าจะเปลี่ยนเกณฑ์การประเมินให้ลงน้ำหนักที่นาทีขาดลามาสายเหลือแค่30%จริงๆ เพื่อต่อไปผมจะปรับการประเมินทั้งหมดให้มีการประเมินกลุ่มหรือการประเมินคู่หรือแบบสะท้อน(ประเมินตนเองและหัวหน้าประเมินลงมา) เพื่อลด bias ระหว่างตัวบุคคล และประเมินจากผลงานของพนักงานที่ทำจริง
ถ้าใครพอจะมีวิธีหรือความคิดเห็นยังไง รบกวนด้วยนะครับ พยายามคุย(เถียงจนหลายครั้งเหมือนจะทะเลาะกัน)มาเป็นปีแล้ว อันที่จริงพ่อเองก็เคยคุยกับแม่เรื่องนี้เหมือนกัน แต่แม่ก็ไม่ฟังและพ่อก็ยอมให้แม่มาตลอด พอแม่มาคุมเองเลยจัดเต็มกว่าเก่า ตอนนี้แม่เองก็ไม่ค่อยยอมฟังใครแล้วครับ