[CR] JP Trip D5-D6 <Osaka> กินจุ๊บจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ Shinsaibashi Dotonbori Namba

JP Trip D1 < Nagoya > ข้าวหน้าปลาไหลสูตรพิเศษที่ Atsuta Houraiken กับงานแสดงไฟ Nabana no Sato Winter Illumination : https://pantip.com/topic/37192573
JP Trip D2 < Takayama > หมู่บ้านอารยธรรม Hida Folk Village และ Hida Beef อร่อย นุ่ม ชุ่มลิ้น : https://pantip.com/topic/37195818
JP Trip D3 < Takayama > Shirakawago ดินแดนมรดกโลกสีขาวในหน้าหนาว กับ Hida Beef อีกครั้ง : https://pantip.com/topic/37203155
JP Trip D4 < Takayama > Shin-Hotaka Ropeway และอาหารร้อนๆ ท่ามกลางพายุหิมะ : https://pantip.com/topic/37212842
JP Trip D7 < Osaka > Endo Sushi ซูชิเจ้าดังแห่ง Osaka (มีสาขาในกรุงเทพด้วยนะเออ = w =) : https://pantip.com/topic/37229134


JP Trip Day5-6 : Shinsaibashi - Dotonbori - Namba ตระเวนกินจุกจิกรอบย่านการค้า


เช้านี้เตรียมตัว Check out เดินทางออกจากทาคายาม่าเพื่อกลับ Osaka พอมาถึงสถานี Nagoya ปรากฏว่ารถไฟขบวน Hida Wide View ที่นั่งมา Delay ไปเกือบ 15 นาที เลยทำให้บึ่งไปขึ้น Shinkansen ที่จองไว้ไม่ทัน เลยต้องรอขบวนถัดไป แล้วไปนั่งตู้ Non-Reserved Seat แทน แต่ไม่ซีเรียสเพราะแผนเที่ยวเรา Flex แบบสุดๆ = w ='' ไม่รู้เป็นข้อดีหรือข้อเสียนะเนี่ยยยย


มาถึงโอซาก้าแบบมึนๆ ตอนเที่ยง ฝากกระเป๋าที่โรงแรมเรียบร้อย (พักโรงแรมที่อยู่ติดกับสถานี Subway แบบขึ้นมาเจอเลยครับ สะดวกมากๆ) เสร็จแล้วก็ออกมาหาอาหารทานแก้กลุ้ม เริ่มด้วยราเมงใกล้ๆ นี่พักนี่แหละ กับร้าน Kibouken

ชื่อร้าน : Kibouken Shinsaibashinagahoriten (ชื่อยาวจังวุ้ย เรียกคิโบวเค็นนี่แหละ)
เวลาทำการ : 11.00 - 05.00 (เปิดยันหว่างเลยจ้า ดึกๆ มาหม่ำได้)
เมนูแนะนำ : เป็นความเบลอของกระผมที่ลืมถ่ายเมนูมาด้วย แต่เมนูหลากหลายมากครับ แต่ผมติดใจชามในภาพเพราะหมูเยอะดี แผ่มาให้เห็นจะๆ จริงๆ มีต้นหอมโรยมาให้ด้วยนะครับ แต่ผมไม่ชอบเลยไม่ให้เค้าใส่มา เมนูนี้ถ้าจำไม่ผิดชื่อ เป็นหมูชาชูปริมาณเยอะพิเศษกับ ทงคตสึราเมง (チャーシュー大盛りのトンコツラーメン) เป็นเมนูติดภาพโชว์หน้าร้านเลย
พิกัด : https://www.google.co.th/maps/place/Kibouken+Shinsaibashinagahoriten/@34.6749526,135.5047795,18.75z/data=!4m5!3m4!1s0x6000e717add8a64f:0x6df5e9a04d6caaa5!8m2!3d34.6748369!4d135.5044772
(ทางเดินริมถนนระหว่าง Shisaibashi Station กับ Nagohoribashi Station ครับ)
ราคา : ประมาณ 1,000 เยน (อันนี้คือหมูชาชูเยอะ ถ้าปกติไม่น่าเกิน 1,000 เยน)
Tabelog Link : https://tabelog.com/tw/osaka/A2701/A270201/27014425/


อีกจุดเด่นของร้านนี้คือกระเทียมเป็นหัวๆ กับสาหร่ายโนริเติมไม่อั้นครับ คือวางไว้หน้าโต๊ะเลย ใส่เท่าไหร่ใส่ไป

รสชาติน้ำซุปทงคตสึ หวานมันกระดูกหมูสุดๆ ถ้าใครไม่ชอบรสเข้มข้นหรือความมันอาจเลี่ยนได้ เส้นราเมงเป็นไปตามมาตรฐานคือเหนียวนุ่มแน่น เข้ากับซุปมากๆ ส่วนตัวหมูตอนแรกดูแล้วแห้งๆ แต่พอทานคู่กับซุปและเส้นก็เข้ากันดี กินรัวๆ ไม่หยุดจนหมดชามเบย แต่ไม่ได้ซดซุปจนหมด กลัวโซเดียมกับไขมันเกิน 555+ รวมๆ รสชาติโอเคมากครับ แต่ถ้ากลัวเลี่ยนก็สั่งพวกชิโอะราเมงเนอะ รสจะได้ซอฟท์ๆ ลงมาหน่อย


เดินลงห้างใต้ดินชื่อ Crysta เชื่อมระหว่างสถานี Subway ของ Shinsaibashi St. และ Nagahoribashi St.


ขึ้นมาก็ Shinsaibashi แล้วววว เจอ Uniqlo กับ H&M ถ้าเข้าไปในอุโมงก์นี้ตรง Shinsaibashi แล้ว หนีออกมายากพอสมควร ร้านล่อตาล่อใจเยอะมากจริงๆ ทั้งของกิน ของใช้ ยา ของฝาก อาหาร ครบครันมากๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้า เยอะแบบไม่ไหวแล้ว

Disney Store คนเยอะมากกกกกกกก ของข้างในกระจุกกระจิก น่ารักมากๆ ถ้าคุณผู้หญิง หรือแม้แต่คุณผู้ชายท่านใดที่โตมากับการ์ตูนดิสนีย์และคลั่งตัวการ์ตูนพวกนี้ รับรองว่ายาวครับ ถึงจะไม่เท่าที่ Tokyo Disney Sea // Tokyo Disney Land แต่บอกเลยว่าสินค้ามาเกือบครบทุกหมวด


เดินผ่าน Apple Store แล้วถึงกับช็อค นี่คือคนมารอคิวซื้อ iPhone X นั่นเอง คนต่อคิวยาวประหนึ่งแจกเครื่องฟรีกันเลยทีเดียว แถมลองแอบเดินเข้าไปดูข้างใน ได้ยินพนักงานแจ้งว่า Sold Out แล้วสำหรับวันนี้ด้วย OMG ยอมจ้า


เดินเพลินๆ แปปเดียว ฟ้าก็มืดซะแล้ว ผมว่าผมช็อปเก่งแล้ว ผู้ใหญ่ที่มาด้วยกัน ช๊อปหนักกว่าผมอีกครับ โดนละลายทรัพย์กันไปถ้วนทั่ว


เลือกไม่ถูกเลย จะกินอะไรดี ร้านปูก็อยากลอง แต่ก็กลัวแพง เลยหนีไปร้านเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยและมั่นใจ ใบ้ให้ว่าเปิด 24 ชั่วโมง

ใช่แล้ว ...


Isomaru Suisan นั่นเอง คือผู้ใหญ่ที่มาด้วยกันชอบร้านนี้มาก ทริปนี้รวมแล้วโดนไป 4 รอบครับ การันตีให้เลยว่าอาหารคุณภาพดีทุกสาขา

คงไม่ต้องบอกกล่าวกันเยอะ เปิด 24 ชั่วโมง สาขาเยอะมากๆ เมนูหลักๆ ก็ยังคงหนีไม่พ้น Theme Sashimi และปิ้งย่าง แต่งวดนี้นอกจาก Kani Miso แล้วเรามีโฮตาเตะมาย่างเพิ่มด้วยยย (ครั้งแรกที่นาโกย่าสั่งเป็นซาชิมิเนอะ สดเหมือนกัน มาลองแบบย่างๆ ดู)


โอ้ย เห็นมันปู (Kani Miso) แล้วอยากย้อนเวลากลับไปกิน ราคาในเมนูยังไม่รวม Vat 8% แต่ก็ไม่ได้ราคาสูงเกินไปนะ อย่างโฮตาเตะ 2 ตัว ขนาดใหญ่มากๆ ก็ราวๆ 700 YEN ถ้าจำไม่ผิด แซลมอน 499 YEN Kani Miso เมนูขึ้นชื่อก็ 499 YEN แอบไปแพงหน่อยตรงข้าวสวยเนี่ยแหละ เซ็ตละ 300 YEN มาพร้อมซุป เพื่อนๆ ไปกินก็ลองสั่งมาลองน้า เอารสชาติของที่สั่งมา อาจจะซ้ำๆ กับกระทู้ก่อน แต่ก็ขอบรรยายหน่อยเนอะ

- Salmon Sashimi เนื้อแน่น ชิ้นหนา มาตรฐาน Isomaru Suisan ไม่แพ้ใครแน่นอน
- Kani Miso กลิ่นตอนย่างหอมมาก รอให้มันปูเริ่มเดือดและคายน้ำมัน คอยคนๆ ให้ไม่ไหม้ รสชาติมัน เค็ม หวานกลมกล่อม กินกับข้าวร้อนๆ โคตรฟิน
- Hotate ย่าง ตัวโตมาก เนื้อดูหนา ย่างแล้วจะมีน้ำซุปออกมา รสค่อนข้างเค็ม ไม่ต้องซดก้ได้ถ้าไม่ชอบเค็ม พอกัดแล้วนุ่มเหนียมเคี้ยวมันมาก
- จริงๆ ยังมีซาชิมิจานเล็กจานน้อยอีกนิดหน่อย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ความสดใช้ได้ทุกจานเลย

เบ็ดเสร็จสบายใจ อิ่มหนำสำราญแล้วก็กลับไปพักที่โรงแรม อาบน้ำเคลียร์ของ แต่เนื่องจากพรุ่งนี้ผมก็ยังอยู่โอซาก้าทั้งวันเนื่องจากมีลิสต์ภารกิจของฝาก และเดินเที่ยวในเมือง เลยขอรวบไว้กระทู้นี้อันเดียว นับรวมสองวันเลยละกันนะครับ

อ้อผมลืมแนะนำบัตรขึ้นรถไฟ Subway สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบตระเวนเที่ยวในเมืองหลายๆ ที่
1 Day ECO Card ก็สะดวกและประยหัดดีนะครับ ราคาวันธรรมดา จ-ศ 800 YEN ถ้าวัน ส-อ 600 YEN เดินทางด้วย Subway ได้ทั้งวัน

Reference : https://www.talonjapan.com/osaka-one-day-pass/

ซื้อได้ที่ตู้กดตั๋วสถานี Subway ทุกที่ครับ


ตื่นมา 7.00 น. เพราะตอนเช้ามีบุฟเฟต์อาหารเช้าฟรี ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังมาก แต่เอาจริงๆ มันดีเลยแหละ



อาจจะไม่ได้หลากหลายมาก แต่มีครบทั้ง ไข่คน ไส้กรอก แฮม แฮชบราวน์ ตามสไตล์ยุโรปแล้วก็พวกซาบะย่าง แซลมอนย่าง มิโสะซุป ออกแนวญี่ปุ่นๆ หน่อย แถมขนมปังก็ไม่ได้ขนมปัง plain อย่างเดียว มีขนมปังใส่ไส้ ขนมปังชาเขียว ชาก็มีหลายแบบทั้งมะลิ เอิร์ลเกรย์ ซีลอน แอปเปิ้ล โรสฮิปป์ ชาเขียว กาแฟ แถมน้ำก็มีทั้งน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล นมสด น้ำเปล่า เรียกได้ครบเครื่องเกินคาดหวังสุดๆ กินแบบอิ่มหมีพลีมันเลยแหละครับ อยู่อีกสองวัน สบายแฮละมื้อเช้า


เอาล่ะพร้อมลุยแล้วก็ออกเดินทางไปชอป ไปชิมต่อได้


เนื่องจากยังเช้าอยู่ แล้วเมื่อคืนพยายามเข้าไปช็อปดองกี้แล้วคนเยอะมาก เลยหนีมาช็อปตอนเช้าแทน และด้วยความที่ผมเป็นแฟนพันธุ์ปากกาลบได้ของ Pilot มาก คือปีที่แล้วซื้อไปหลายแบบมาก และแน่นอนว่ายังใช้ไม่หมด ถึงหมึกจะหมดไปหลายด้าม แต่ยางตรงก้นปากกาเพิ่งทู่ไปแค่สองด้าม ยามซื้อไส้มาเปลี่ยนจาก Isetan ก็แสนชีช้ำเพราะแพงเหลือเกินเมื่อเทียบกับที่นี่ มางวดนี้เลยถอยไส้พร้อมปากกามาอีกระลอก โดนอานิสงค์ Tax Free 8% ล่อซื้อทะลุ 5,000 YEN ไปอีกตามเคย T^T


พอสายหน่อย คนก็เริ่มเยอะอีกแล้ว วันนี้วันอาทิตย์ด้วยแหละนะ


เดินผ่านร้านขนม ร้านอาหารก็แอบเหล่มองเป็นพักๆ แม้ท้องจะอิ่มอยู่ ตามประสาคนตะกละครับ


และพอใกล้เที่ยง ความอดทนก็เริ่มหมดลง พร้อมอาหารเช้าที่ละลายหายไป ที่ร้านทาโกยากิตรงนี้นี่เอง
ชื่อสินค้า:   Nagahoribashi Shinsaibashi Dotonbori Namba Osaka
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่