ขอเท้าความนิดนะครับ
คือรุ่นน้องเป็นผู้หญิงมาปรึกษาว่าถูก DHR ของบริษัทนึงพูดทำนองข่มขู่ว่า ถ้ามาขอลาออก โดยออกก่อนกำหนด 1 เดือน (แต่ตามนโยบายต้องแจ้งขอลาออกก่อนล่วงหน้า 1 เดือน และรุ่นน้องยังไม่ผ่านโปร ทำได้ 2 เดือน) เขาจะส่งอีเมล์แจ้งทุกๆบริษัทที่เขารู้จัก (ที่มี connection) และในระแวกนั้นว่าไม่ให้รับรุ่นน้องคนนี้เข้าทำงาน และจะเอาขึ้น blacklist แถมยังปรามาศรุ่นน้องด้วยว่า ถ้าเธอทำตัวแบบนี้ ไม่ว่าจะจบมาจากไหน จบสูงแค่ไหน เธอไม่มีวันเป็นหัวหน้าคนได้หรอก รุ่นน้องผมอึ้งไปเลยที่ได้ยิน DHR พูดแบบนี้ เพราะเหตุผลที่เขาลาออกคือ ต้องไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทุกอย่างมีแพลนวางไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วรุ่นน้องต้องเดินทางไปเพื่อเตรียมตัวและปรับตัวหลายๆอย่างในเดือนถัดไป รุ่นน้องยอมรับว่า เขาอาจจะผิดที่ต้องขอ last day ก่อนกำหนดเกือบ 1 เดือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่คิดว่า DHR จะพูดแบบนี้ แต่รุ่นน้องไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่า DHR ได้พูดจริง แต่คงไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องสร้างเรื่อง เพราะรู้จักนิสัยใจคอกันดี และผมก็แอบถามไถ่พนักงานที่ทำงานบริษัทนั้นว่า DHR ที่นั่นเป็นอย่างไร ก็ได้ข้อมูลมาทำนองเดียวกับน้องว่าเขาพูดจาไม่ดีเอามากๆกับพนักงานตัวเอง ผมในฐานะที่ทำงานอยู่แผนก HR เช่นกัน รับฟังแล้วยังรู้สึกโมโหแทน ว่าเป็นถึง Director แต่ทำไมสติหลุดได้ขนาดนั้น ผมได้ถามรุ่นน้องแล้วว่าเคยมีปัญหาในที่ทำงานรึเปล่า รุ่นน้องผมตอบกลับด้วยซ้ำว่า เขาโอเคกับเพื่อนร่วมงานและองค์กรนี้มาก อยากทำต่อไปเรื่อยๆ แต่เมื่อโอกาสที่ดีกว่ามาก็ต้องคว้า เขาไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิด ผมยอมรับและตอบน้องไปตรงๆว่าโอกาสจะเอาผิดเขานี่แทบมองไม่เห็น เพราะไม่มีหลักฐาน จริงๆรุ่นน้องแค่อยากจะระบาย ไม่ได้อยากเอาผิด เพราะตอนนี้ก็ออกมาแล้ว แต่ผมรู้สึกไม่โอเคว่าถ้าคนอื่นเจอคนระดับสูงในแผนกพูดจาแบบนี้ เราจะรับมือ หรือสร้างบทเรียนให้เขาอย่างไรดี หรือต่อไปเราจะต้องแอบอัดเสียงทุกครั้งที่เข้าห้องเย็น
รุ่นน้องโดน HR Director ข่มขู่ มีสิทธิ์เอาผิดได้ไหมครับ
คือรุ่นน้องเป็นผู้หญิงมาปรึกษาว่าถูก DHR ของบริษัทนึงพูดทำนองข่มขู่ว่า ถ้ามาขอลาออก โดยออกก่อนกำหนด 1 เดือน (แต่ตามนโยบายต้องแจ้งขอลาออกก่อนล่วงหน้า 1 เดือน และรุ่นน้องยังไม่ผ่านโปร ทำได้ 2 เดือน) เขาจะส่งอีเมล์แจ้งทุกๆบริษัทที่เขารู้จัก (ที่มี connection) และในระแวกนั้นว่าไม่ให้รับรุ่นน้องคนนี้เข้าทำงาน และจะเอาขึ้น blacklist แถมยังปรามาศรุ่นน้องด้วยว่า ถ้าเธอทำตัวแบบนี้ ไม่ว่าจะจบมาจากไหน จบสูงแค่ไหน เธอไม่มีวันเป็นหัวหน้าคนได้หรอก รุ่นน้องผมอึ้งไปเลยที่ได้ยิน DHR พูดแบบนี้ เพราะเหตุผลที่เขาลาออกคือ ต้องไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทุกอย่างมีแพลนวางไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วรุ่นน้องต้องเดินทางไปเพื่อเตรียมตัวและปรับตัวหลายๆอย่างในเดือนถัดไป รุ่นน้องยอมรับว่า เขาอาจจะผิดที่ต้องขอ last day ก่อนกำหนดเกือบ 1 เดือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่คิดว่า DHR จะพูดแบบนี้ แต่รุ่นน้องไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่า DHR ได้พูดจริง แต่คงไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องสร้างเรื่อง เพราะรู้จักนิสัยใจคอกันดี และผมก็แอบถามไถ่พนักงานที่ทำงานบริษัทนั้นว่า DHR ที่นั่นเป็นอย่างไร ก็ได้ข้อมูลมาทำนองเดียวกับน้องว่าเขาพูดจาไม่ดีเอามากๆกับพนักงานตัวเอง ผมในฐานะที่ทำงานอยู่แผนก HR เช่นกัน รับฟังแล้วยังรู้สึกโมโหแทน ว่าเป็นถึง Director แต่ทำไมสติหลุดได้ขนาดนั้น ผมได้ถามรุ่นน้องแล้วว่าเคยมีปัญหาในที่ทำงานรึเปล่า รุ่นน้องผมตอบกลับด้วยซ้ำว่า เขาโอเคกับเพื่อนร่วมงานและองค์กรนี้มาก อยากทำต่อไปเรื่อยๆ แต่เมื่อโอกาสที่ดีกว่ามาก็ต้องคว้า เขาไม่คิดว่าเขาทำอะไรผิด ผมยอมรับและตอบน้องไปตรงๆว่าโอกาสจะเอาผิดเขานี่แทบมองไม่เห็น เพราะไม่มีหลักฐาน จริงๆรุ่นน้องแค่อยากจะระบาย ไม่ได้อยากเอาผิด เพราะตอนนี้ก็ออกมาแล้ว แต่ผมรู้สึกไม่โอเคว่าถ้าคนอื่นเจอคนระดับสูงในแผนกพูดจาแบบนี้ เราจะรับมือ หรือสร้างบทเรียนให้เขาอย่างไรดี หรือต่อไปเราจะต้องแอบอัดเสียงทุกครั้งที่เข้าห้องเย็น