สวัสดีค่ะ ในช่วงเวลานี้เมื่อปีที่แล้วเราตั้งเป้าไว้ว่าจะลดความอ้วนผ่านมา 1 ปี มาแชร์ประสบการณ์ของเราค่ะ
เราโตตามวัย เป็นคนอ้วนๆ มาตลอด อ้วนมาก อ้วนน้อย และอ้วนเรื่อยๆ มาตามวัยค่ะ จนล่วงเลยมาในวัย 33 ปี เป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ แต่กินเก่งมากเช่นกัน คาโบนาร่าสามารถกินได้ทุกวันและทุกมื้อ ก็แฮปปี้ดีนะ เสื้อผ้าบิ๊กไซส์ประตูน้ำกรุงทอง เสาวรีย์หาได้ ชีวิตไม่ลำบาก อ้วนแต่ก็คล่องแคล่ว
น้ำหนักก่อนชก 90 กก
2 ปีที่แล้วเคยลงแข่งขันลดน้ำหนักกับเพื่อนครั้งที่ 1 เริ่ม 90 กก ระยะเวลา 1 เดือน เราแทบไม่กินแป้งเลยค่ะ ทานแต่กับข้าวเน้นผักเยอะๆ ผลการแข่งขันเราชนะ น้ำหนักลงมา 10 กก พร้อมเงินรางวัล 1000 บาท และน้ำหนักก้อเด้งขึ้นมา 9 กก ในระยะเวลา 1 เดือนเช่นกันค่ะ ขำๆ แต่ยังแข่งอีก นักล่ารางวัลค่ะ หลังจากนั้นอีกซัก 5-6 เดือน แข่งครั้งที่ 2 จาก 89 กก ลดลงมาเหลือ 84 กก ครั้งนี้เราแพ้ค่ะ เสียเงิน 1000 บาท เจ็บใจ !!!!!!!!
ตั้งใจลดต่อ ลงมาอีก 2 กก น้ำหนักก้อมาค้างที่ 82 กก เช่นเดิม อ่านมาอ่านไป เค้าว่าให้ออกกำลังกายหนักขึ้น กินครบสามมื้อ ไม่อยากนับแคล คิดว่าสิ่งที่กินนั้นโอเคละ ดีละ แต่มีพี่คนนึงเตือนเราเสมอเรากินน้อย เราก็จะเถียงเค้าเสมอ ว่าไม่น้อยนะ อิ่มทุกมื้อ แต่จริงๆก็ คือ กินกับข้าวเยอะ (แกงส้ม/ปลาลวก/ ผักลวก/ต้มจืด/ใบเหลียงผัดไข่) วนๆไป แต่ข้าววันละ 1 ทัพพี
ก็ยังกินเหมือนเดิมแต่ออกกำลังกายหนักขึ้น เราเวทเองใช้เวลา 1 ชม แล้วปั่นจักรยานวงรี ต่ออีก 45 นาที แล้วไปว่ายน้ำต่ออีก 1 ชั่วโมง กลับบ้านสามทุ่มเป็นอย่างนี้ทุกวัน ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักไม่ลงซักขีด แต่มีเอวขึ้นนิดนึง ช่วงนั้นเริ่มมีอาการแปลก จอดับ สายตามืดไป 1 วิ เริ่มสังเกตตัวเองไปพบหมอตรวจสุขภาพ พบว่าขาดสารอาหาร กลับมาคิดก็คงไม่แปลก เพราะเรากินอาหารชนิดเดียวกันทุกวันซ้ำทั้ง 3 มื้อบางครั้งยาวนานเป็นเดือน ก็เลยเลิกคุมอาหารกินทั่วไป แต่ออกกำลังกายสม่ำเสมอนะคะ ชอบออกกำลังกายค่ะ อีกอย่างคือเรามีภาวะหัวใจเต้นเร็ว (ทานยาตลอด)
หนัก 82 กก
จุดปลี่ยน
เราสูญเสียพ่อไปช่วงกลางเดือนตุลา 59 ในการหาเสื้อผ้าชุดดำไซส์ใหญ่ ในจังหวัดเล็กๆอย่างชุมพร มันค่อนข้างหายากมาก และจบลงที่เสื้อยืดสีดำ สีขาว เสื้อโปโล สีดำ ใส่กับกางเกงยีนส์ มันทำให้เราดูไม่มีในสายตาผู้ใหญ่ เนื่องจากแขกผู้มาร่วมงานนั้นส่วนใหญ่เป็นคุณครู เป็น ผู้ทำงานในวงการการศึกษา ซึ่งทุกท่านดูดีมาก เราเลยดูกะโปโลมากๆในวัย 33 เลยตั้งใจว่าจะลดความอ้วนให้ได้ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องกี่โล ขอให้ใส่เสื้อผ้าร้านทั่วไปได้เป็นพอถึงจะไซส์ Xl ก็ตาม จัดการงานพ่อเสร็จน้ำหนักเราลงไป 5 กก เหลือ 77 กก หน้าโทรมดูชำรุดมาก ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติทุกคนบอกโทรมๆๆ ก็ฟาดหมูกะทะเกือบทุกวัน ทำน้ำหนักได้ดีมากมาจบที่ 82 กก เท่าเดิมเป๊ะ
ซูบลงมาหน่อย กางเกงหลวมนิดๆ ที่ 77 กก ค่ะ
ลดความอ้วนครั้งสุดท้าย
ตั้งเป้าใหม่เอาใหม่ลดใหม่ หาตัวช่วยดีกว่าเห็นน้องคนนึงเข้าโปรแกรมขายตรงของกุญแจๆ ถามซิๆ คืออะไร โอ้วว! อาหารซอง ไม่เอาค่ะ พี่อยากกินแกงส้ม
เทรนเนอร์ออนไลน์น่าจะดี คนที่ 1 ไม่พูดมาก 3 เดือน .... บาท แต่ ต้องมี ดัมเบล เสื่อโยคะ รองเท้าชั้นดี เชือกกระโดด ถุงทราย เครื่องชั่งอาหาร เวอเนียร์คีบชั้นพุง โอนเงินมาก่อนจะออกตารางให้ เอ่อ ลดยังไงทำยังไงไม่บอก ปัญหาเราฟังก่อนมั๊ยค่ะ? ไม่เอาค่ะ ผ่านไป
เทรนเนอร์ออนไลน์คนที่ 2 คนนี้ลิสมาเป็นข้อๆ ขอรายละเอียดส่วนตัว อายุ สัดส่วน รูปถ่าย หน้า ข้าง หลัง ชีวิตประจำวัน การกิน การออกกำลังกาย พฤติกรรม ชอบกินขนม การทำงาน ปัญหาสุขภาพถามหมดค่ะ เราก็ส่งข้อมูลให้ และรอตอบกลับ มาพร้อมคำอธิบาย ว่าลดกับเค้าทำยังไง อัพเดทรูปถ่ายทุกๆ 2 สัปดาห์ จะมีตารางการออกกำลังกาย เรียกว่า work out ทำวันละ 8-10 ท่า ท่าละ 4 Set ท่าไหนทำไม่ได้พูดคุยกันได้เปลี่ยนได้ แต่ต้องทำอย่างตั้งใจในทุกๆท่า ควบคุมลมหายใจ การวางมือ แขน ขา ออกสัปดาห์ละ 5 วัน หลังเลิกงาน พัก 2 วัน เปลี่ยนตารางทุก 2 สัปดาห์เช่นกัน และตารางอาหารทำตามที่แนะนำ หรือ ทำเองแต่ต้องตรวจสอบได้เสมอ ว่าทานอะไรปริมาณแค่ไหน เค้าจะบอกเราได้ว่ามากน้อย เพิ่มนั้น เพิ่มนี่ อันนี้ดี กินแกงส้มได้!!!
โอเคเทรนกับคนนี้ตัดสินใจแล้วค่ะ แต่ๆ เทรนเนอร์บอกยังไม่ต้องรีบตัดสินใจค่ะกลับไปคิดก่อน 3 เดือน .... บาท ไหวมั๊ย อุปกรณ์ที่ต้องมี ดัมเบล 1 คู่ กับเสื่อโยคะ ปีใหม่แล้วค่อยว่ากัน ให้ไปกินให้เต็มที่ เปิดศักราชหน้าเริ่มต้นยังไม่สาย
ตัดสินใจ
1 มกรา 60 โทรหาเทรนเนอร์ โอเคค่ะตัดสินใจเทรน ยินดีปรีดา รอยามเย็นตารางมาทั้งอาหารและท่าท่างออกกำลังกาย อาหารเทรนเนอจะคำนวณมาแล้วและกะสัดส่วนให้เรา เช่น ข้าว เช้า 1 ถ้วยตวง / เที่ยง ¾ ถ้วย /เย็นงดแป้ง เน้นผักและโปรตีน , โปรตีนแล้วแต่จะเลือก เช่น ถ้ากินไข่ขาว มื้อละ3-4 ฟอง, ปลา อกไก่ วันละ 400 กรัม แบ่งย่อยตามมื้อเอาเอง เราก็กะง่ายๆ ไก่ 1 แพ็ค 400 กรัม กะๆ แบ่งเป็น 3 มื้อ ผักไม่อั้นในแต่ละมื้อ เอามาประกอบอาหาร ปรุงรสได้ น้ำปลาได้ น้ำตาลได้ แต่ไม่จัดจ้านเกินไป ส่วนมื้อเย็น ก็โปรตีนให้ครบ ตามแนะนำ กับผักไม่อั้น กลางวันหิวอยากให้กินแอปเปิ้ลเขียว หรือนมถั่วหลือง อาหารที่กินในช่วงแรกรู้สึกเยอะมาก อิ่มมาก คิดว่านี่เยอะไปรึป่าว ส่วนออกกำลังกายในช่วงแรกๆก็จะง่ายๆ เช่น ยืนเตะขาตรง วิดพื้นลงเข่า สควอท กระโดดตบ ปีนเขา สะพาน ซิทอัพ
เริ่ม!!!!
2 มกรา อาหารผ่าน ทำได้ง่ายๆ ไม่ค่อยตามตารางเท่าไหร่คิดเองทำเองค่ะ อาหารเช้าเราซื้อค่ะกินข้าวราดแกงทั่วไป ชอบแกงส้มมากค่ะ ไข่ต้ม ผัดผัก สะดวกดีค่ะ อาหารเที่ยงทำมากินเองค่ะ
ตัวอย่างอาหาร
ออกกำลังกาย สบายๆ ทำได้ ไหวๆ ก็ทำมาเรื่อยๆ หลังเลิกงาน จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน ท่าท่างการออกกำลังกายก็ยากขึ้น ระยะหลังๆ ออกเสร็จแทบคลานไปเปิดตู้เย็น เมนูเย็นทานง่ายๆ ขอไก่สุก ปลาสุก กับผักสด ทานๆไปก่อน ผ่านไป 3 เดือน ไวมาก น้ำหนักเราลงไป 6 กก
น้ำหนักลงไป 6 กก ค่ะ
เมษาวัดใจ
จบเทรนแล้วเอาไงยังอ้วนๆ ซูบลงไปแล้ว ทำเองก็ได้เนอะ ไม่ยาก รู้แนวแล้ว คิดๆๆวนมาวนไป โอเค ทำต่อไป เราทำได้ ทำได้ 5 วัน ว๊า!!! รู้สึกเบื่อไม่มีคนถามไถ่ วันนี้กินอะไร เที่ยงนี้กินอะไรค่ะ ออกกำลังกายเรียบร้อยดีมั๊ยค่ะ ไม่รู้จะแชร์กับใคร ตอนมีพ่อๆ จะถามวันนี้ผอมยัง วันนี้ไปว่ายน้ำป่าววว เลยตัดสินใจเอานะ เทรนต่อ
ก้าวต่อรอบ 2
เข้าสู่การลดเดือนที่ 4 ก้อเหมือนเดิม ออกกำลังกายคุมอาหาร เทรนเนอร์จะคอยถามอยากกินขนมมั๊ย อยากกินให้กิน บิงซูอยากกินมั๊ย อยากกินให้กิน จะได้เช็คด้วยว่ากินมื้อ สองมื้อมันไม่ทำให้เราอ้วนหรอก อยากกินต้องกินแต่ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ กินให้พอหายอยากไม่ใช่กินเอาอิ่มเอาแน่น
หมูกะทะอยากกินมั๊ย อยากกินไปกิน มันดีมากเลยเรารู้สึกดีมาก ก็ก้าวต่อเนื่องจบเดือน 6 น้ำหนักเราลดลงมาอยู่ที่ 69 กก ลงมาถึงนี่ เดินไปไหนคนทักผอมลงชัดเจน เสื้อเผ้าเริ่มหลวม เข็มขัดต้องมี ยังไม่อยากชอปปิ้งค่ะ
หลวมหลุดทุกตัว
ตัวเบาขึ้นเยอะ เปรียบเทียบก่อนลด กับหลังลด 6 เดือน
เวทเเขนวันละ 200 ครั้ง
ก้าวต่อรอบ 3 มันไม่เป็นอย่างที่คิด
เข้าสู้เดือนที่ 7 ก็มีความเข้มข้นของท่าทางการออกกำลังกายมากขึ้น ทำทุกท่าต้องพยายาม จำนวนครั้งมากขึ้น กัดฟันมากขึ้น เหนื่อยและเมื่อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ถอย ปรับอาหารนิดหน่อย มีกินอัลมอลล์เพิ่ม วันละ ซองช๊อบ ชอบ จบไป 1 เดือน สัดส่วนเปลี่ยนแปลงน้อยมาก นน แทบไม่ขยับ เทรนเนอร์ปรับใหม่ ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เพิ่มวิ่งในตอนเช้าทุกวัน วันละ 35 นาที แต่ระยะทางต้องได้ 3 กม ทุกเช้าเทรนเนอร์จะ Line มาทุกวันช่วงตี 5-5.30 น. เช่น Morning ค่ะ / วันนี้เต็มที่นะคะ / วันนี้ฝนตกมั๊ยค่ะ/ เช้านี้วิ่งมั๊ยค่ะ เป็นการกระตุ้นเราไปในตัว และปรับอาหารยกชุด งดแป้ง 2 อาทิตย์
ตอนนั้นเรานึกไม่ออกจะใช้ชีวิตอย่างไร วันๆวนๆกับผักใบเขียวสุก/สด ไข่สุก ไก่สุก ปลาสุก กินนม กินชีส กินน้ำมันมะกอก ปรุงได้แต่เกลือ นิดหน่อยกับพริกไทยดำ มันเรียกว่าอะไร คลีนหรอก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่ทุกข์ทรมานมาก ไม่มีความสุขเลย ไม่อยากกิน (ขาดสีแดงๆของมะเขือเทศแล้วกินอะไรไม่ลงค่ะ) ไม่อยากออกกำลังกาย แต่ก็ทำค่ะ อดทน เทรนเนอร์ให้กำลังใจทุกวัน มันคือช่วงพิชิตใจ อดทนผ่านมาได้ น้ำหนักลงไป เหลือ 67 แต่สัดส่วนลงเยอะมาก หน้าเรียวลงเยอะมาก (ฟันเหยินด้วยค่ะ เหยินหน่อยๆ) แขนเล็กลงอย่างมาก มีดั้งนิดๆ จบสองสัปดาห์พิชิตใจ และก็ค่อยๆกลับมากินแป้งเพิ่มทีละนิดๆ แต่ยังคงวิ่งตอนเช้าอยู่เช่นเดิม ตามคำแนะนำเทรนเนอร์ และกลับมาทานอาหารต้ม ผัด แกง ได้ปกติ จนจบที่เดือน 9 นนลงมาที่ 64.5 ค่ะ
เมนูกล้ำกลืนค่ะ เขียวๆทั้งนั้น
ณ ตอนนั้นพอใจประมาณนึงแล้วค่ะ ใส่เสื้อไซส์ M ได้แล้วค่ะ อกกับสะโพกลดลงมา อย่างละ 10 นิ้ว เอวลดลงมา 7 นิ้วค่ะ ตลอด 9 เดือนที่เราเทรนกับเทรนเนอร์ เค้าไม่เคยถามน้ำหนักเราเลยค่ะ จะขอรูปถ่ายและถามสัดส่วนเท่านั้น อก เอว สะโพกกี่นิ้ว ซึ่งจะอัพเดทกันทุกๆ 2 สัปดาห์ เทรนเนอร์ใจดี แถมฟรีตารางอีก 1 เดือน ตั้งใจกระชับ พุงกับขาที่ยังใหญ่อยู่ เวทจนเดินแทบไม่ไหว ไอ จาม หัวเราะ น้ำตาแทบไหล โอดโอย เพราะกระเทือนถึงท้องตลอด เพราะตอนนี้พุงยังใหญ่ อก พุง เท่าๆกันเลย ถ้าพุงซัก 30 ก็จะซื้อกางเกงใส่ง่ายขึ้น
จบการเทรน
26 ตุลา 60 เราตื่นมาตี 3 เพราะกลิ้งลงมานอนที่พื้นและเจ็บเท้ามากๆๆ เกิดอะไร คืออะไร ตกเตียงหรอ ละเมอล้ม ละเมอแล้วเตะ อะไร ไม่รู้ตัว ไม่รู้อะไรเลยค่ะ นอนเจ็บน้ำตานอง ก็ยังเจ็บมาก หักมั๊ยนะ ไม่มั้ง คิดวนมาวนไปรอจนเช้า ตามเพื่อนพาไปหาหมอ คุณหมอ บอกหักนะคะ งืมๆๆๆ ไปทำอะไรมา ตอบหมอไม่ถูกเลยค่ะ เลยต้องจบโปรแกรมลดความอ้วนไปก่อน
ใช้ชีวิตลำบากมาก กินๆ นั่งๆ นอน ๆ ต้องเน้นโปรตีนกับแคลเซียมให้มาก กินข้าวครบ 3 มื้อ นมวันละ 4 กล่อง ผ่านมา 2 เดือน น้ำหนักขึ้นมา 1-2 กก ไม่เป็นไรไม่ซีเรียส แต่ก้อพยายามไม่ทานจุกจิก ควบคุมไว้ค่ะ ไว้หายดีค่อยว่ากันใหม่
ประสบการณ์การลดความอ้วนของเรา ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตั้งใจจะลดจริงๆก็น่าจะทำได้ เห็นหลายคนที่ลดด้วยตัวเองขอชื่นชมว่าเก่งมากๆ แต่สำหรับเราแต่พอทำไปซักพัก มันจะรู้สึกเบื่อหน่าย หรือท้อ เราไม่สงสัยเลยทำไมถึงมีคนมาตั้งกระทู้ สร้างกรุ๊ป Line เพื่อแชร์เรื่องราวข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเองและแชร์เมนูอาหาร จะได้ดูเมนูสร้างสรรค์ของคนอื่นเพื่อไปลองทำดูจะได้ไม่จำเจ จะได้มีแรงบันดาลใจ มีเพื่อนไปด้วยกัน แต่เราผ่านการเทรนออนไลน์ และเดินหน้าลดต่อโดยมีเทรนเนอร์พร้อมคุยกับเราเสมอ ให้กำลังใจกับเราเสมอ ส่งขนมมาให้เราด้วย กลัวเราจะตึงเกินไปค่ะ แชร์เมนูจากของเทรนเนอร์เอง จากลูกศิษย์ท่านอื่น ทำให้เรามีกำลังใจ มีเพื่อน และลดความอ้วนได้อย่างยั่งยืนค่ะ
จบแล้วค่ะ เรื่องราวของเรา ตอนนี้ยังไม่ผอมค่ะ ยังไม่พอใจจากเป้าที่เคยตั้งไว้ยังซื้อกางเกงร้านทั่วไปไม่ได้ รอกระดูกติดดีค่อยว่ากันใหม่ สู้ต่อไปในปีหน้า เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังตั้งใจลดอยู่และคิดจะลดในปีหน้าค่ะ
ประสบการณ์ลดความอ้วนและการเทรนออนไลน์
เราโตตามวัย เป็นคนอ้วนๆ มาตลอด อ้วนมาก อ้วนน้อย และอ้วนเรื่อยๆ มาตามวัยค่ะ จนล่วงเลยมาในวัย 33 ปี เป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ แต่กินเก่งมากเช่นกัน คาโบนาร่าสามารถกินได้ทุกวันและทุกมื้อ ก็แฮปปี้ดีนะ เสื้อผ้าบิ๊กไซส์ประตูน้ำกรุงทอง เสาวรีย์หาได้ ชีวิตไม่ลำบาก อ้วนแต่ก็คล่องแคล่ว
น้ำหนักก่อนชก 90 กก
2 ปีที่แล้วเคยลงแข่งขันลดน้ำหนักกับเพื่อนครั้งที่ 1 เริ่ม 90 กก ระยะเวลา 1 เดือน เราแทบไม่กินแป้งเลยค่ะ ทานแต่กับข้าวเน้นผักเยอะๆ ผลการแข่งขันเราชนะ น้ำหนักลงมา 10 กก พร้อมเงินรางวัล 1000 บาท และน้ำหนักก้อเด้งขึ้นมา 9 กก ในระยะเวลา 1 เดือนเช่นกันค่ะ ขำๆ แต่ยังแข่งอีก นักล่ารางวัลค่ะ หลังจากนั้นอีกซัก 5-6 เดือน แข่งครั้งที่ 2 จาก 89 กก ลดลงมาเหลือ 84 กก ครั้งนี้เราแพ้ค่ะ เสียเงิน 1000 บาท เจ็บใจ !!!!!!!!
ตั้งใจลดต่อ ลงมาอีก 2 กก น้ำหนักก้อมาค้างที่ 82 กก เช่นเดิม อ่านมาอ่านไป เค้าว่าให้ออกกำลังกายหนักขึ้น กินครบสามมื้อ ไม่อยากนับแคล คิดว่าสิ่งที่กินนั้นโอเคละ ดีละ แต่มีพี่คนนึงเตือนเราเสมอเรากินน้อย เราก็จะเถียงเค้าเสมอ ว่าไม่น้อยนะ อิ่มทุกมื้อ แต่จริงๆก็ คือ กินกับข้าวเยอะ (แกงส้ม/ปลาลวก/ ผักลวก/ต้มจืด/ใบเหลียงผัดไข่) วนๆไป แต่ข้าววันละ 1 ทัพพี
ก็ยังกินเหมือนเดิมแต่ออกกำลังกายหนักขึ้น เราเวทเองใช้เวลา 1 ชม แล้วปั่นจักรยานวงรี ต่ออีก 45 นาที แล้วไปว่ายน้ำต่ออีก 1 ชั่วโมง กลับบ้านสามทุ่มเป็นอย่างนี้ทุกวัน ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักไม่ลงซักขีด แต่มีเอวขึ้นนิดนึง ช่วงนั้นเริ่มมีอาการแปลก จอดับ สายตามืดไป 1 วิ เริ่มสังเกตตัวเองไปพบหมอตรวจสุขภาพ พบว่าขาดสารอาหาร กลับมาคิดก็คงไม่แปลก เพราะเรากินอาหารชนิดเดียวกันทุกวันซ้ำทั้ง 3 มื้อบางครั้งยาวนานเป็นเดือน ก็เลยเลิกคุมอาหารกินทั่วไป แต่ออกกำลังกายสม่ำเสมอนะคะ ชอบออกกำลังกายค่ะ อีกอย่างคือเรามีภาวะหัวใจเต้นเร็ว (ทานยาตลอด)
จุดปลี่ยน
เราสูญเสียพ่อไปช่วงกลางเดือนตุลา 59 ในการหาเสื้อผ้าชุดดำไซส์ใหญ่ ในจังหวัดเล็กๆอย่างชุมพร มันค่อนข้างหายากมาก และจบลงที่เสื้อยืดสีดำ สีขาว เสื้อโปโล สีดำ ใส่กับกางเกงยีนส์ มันทำให้เราดูไม่มีในสายตาผู้ใหญ่ เนื่องจากแขกผู้มาร่วมงานนั้นส่วนใหญ่เป็นคุณครู เป็น ผู้ทำงานในวงการการศึกษา ซึ่งทุกท่านดูดีมาก เราเลยดูกะโปโลมากๆในวัย 33 เลยตั้งใจว่าจะลดความอ้วนให้ได้ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องกี่โล ขอให้ใส่เสื้อผ้าร้านทั่วไปได้เป็นพอถึงจะไซส์ Xl ก็ตาม จัดการงานพ่อเสร็จน้ำหนักเราลงไป 5 กก เหลือ 77 กก หน้าโทรมดูชำรุดมาก ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติทุกคนบอกโทรมๆๆ ก็ฟาดหมูกะทะเกือบทุกวัน ทำน้ำหนักได้ดีมากมาจบที่ 82 กก เท่าเดิมเป๊ะ
ลดความอ้วนครั้งสุดท้าย
ตั้งเป้าใหม่เอาใหม่ลดใหม่ หาตัวช่วยดีกว่าเห็นน้องคนนึงเข้าโปรแกรมขายตรงของกุญแจๆ ถามซิๆ คืออะไร โอ้วว! อาหารซอง ไม่เอาค่ะ พี่อยากกินแกงส้ม
เทรนเนอร์ออนไลน์น่าจะดี คนที่ 1 ไม่พูดมาก 3 เดือน .... บาท แต่ ต้องมี ดัมเบล เสื่อโยคะ รองเท้าชั้นดี เชือกกระโดด ถุงทราย เครื่องชั่งอาหาร เวอเนียร์คีบชั้นพุง โอนเงินมาก่อนจะออกตารางให้ เอ่อ ลดยังไงทำยังไงไม่บอก ปัญหาเราฟังก่อนมั๊ยค่ะ? ไม่เอาค่ะ ผ่านไป
เทรนเนอร์ออนไลน์คนที่ 2 คนนี้ลิสมาเป็นข้อๆ ขอรายละเอียดส่วนตัว อายุ สัดส่วน รูปถ่าย หน้า ข้าง หลัง ชีวิตประจำวัน การกิน การออกกำลังกาย พฤติกรรม ชอบกินขนม การทำงาน ปัญหาสุขภาพถามหมดค่ะ เราก็ส่งข้อมูลให้ และรอตอบกลับ มาพร้อมคำอธิบาย ว่าลดกับเค้าทำยังไง อัพเดทรูปถ่ายทุกๆ 2 สัปดาห์ จะมีตารางการออกกำลังกาย เรียกว่า work out ทำวันละ 8-10 ท่า ท่าละ 4 Set ท่าไหนทำไม่ได้พูดคุยกันได้เปลี่ยนได้ แต่ต้องทำอย่างตั้งใจในทุกๆท่า ควบคุมลมหายใจ การวางมือ แขน ขา ออกสัปดาห์ละ 5 วัน หลังเลิกงาน พัก 2 วัน เปลี่ยนตารางทุก 2 สัปดาห์เช่นกัน และตารางอาหารทำตามที่แนะนำ หรือ ทำเองแต่ต้องตรวจสอบได้เสมอ ว่าทานอะไรปริมาณแค่ไหน เค้าจะบอกเราได้ว่ามากน้อย เพิ่มนั้น เพิ่มนี่ อันนี้ดี กินแกงส้มได้!!!
โอเคเทรนกับคนนี้ตัดสินใจแล้วค่ะ แต่ๆ เทรนเนอร์บอกยังไม่ต้องรีบตัดสินใจค่ะกลับไปคิดก่อน 3 เดือน .... บาท ไหวมั๊ย อุปกรณ์ที่ต้องมี ดัมเบล 1 คู่ กับเสื่อโยคะ ปีใหม่แล้วค่อยว่ากัน ให้ไปกินให้เต็มที่ เปิดศักราชหน้าเริ่มต้นยังไม่สาย
ตัดสินใจ
1 มกรา 60 โทรหาเทรนเนอร์ โอเคค่ะตัดสินใจเทรน ยินดีปรีดา รอยามเย็นตารางมาทั้งอาหารและท่าท่างออกกำลังกาย อาหารเทรนเนอจะคำนวณมาแล้วและกะสัดส่วนให้เรา เช่น ข้าว เช้า 1 ถ้วยตวง / เที่ยง ¾ ถ้วย /เย็นงดแป้ง เน้นผักและโปรตีน , โปรตีนแล้วแต่จะเลือก เช่น ถ้ากินไข่ขาว มื้อละ3-4 ฟอง, ปลา อกไก่ วันละ 400 กรัม แบ่งย่อยตามมื้อเอาเอง เราก็กะง่ายๆ ไก่ 1 แพ็ค 400 กรัม กะๆ แบ่งเป็น 3 มื้อ ผักไม่อั้นในแต่ละมื้อ เอามาประกอบอาหาร ปรุงรสได้ น้ำปลาได้ น้ำตาลได้ แต่ไม่จัดจ้านเกินไป ส่วนมื้อเย็น ก็โปรตีนให้ครบ ตามแนะนำ กับผักไม่อั้น กลางวันหิวอยากให้กินแอปเปิ้ลเขียว หรือนมถั่วหลือง อาหารที่กินในช่วงแรกรู้สึกเยอะมาก อิ่มมาก คิดว่านี่เยอะไปรึป่าว ส่วนออกกำลังกายในช่วงแรกๆก็จะง่ายๆ เช่น ยืนเตะขาตรง วิดพื้นลงเข่า สควอท กระโดดตบ ปีนเขา สะพาน ซิทอัพ
เริ่ม!!!!
2 มกรา อาหารผ่าน ทำได้ง่ายๆ ไม่ค่อยตามตารางเท่าไหร่คิดเองทำเองค่ะ อาหารเช้าเราซื้อค่ะกินข้าวราดแกงทั่วไป ชอบแกงส้มมากค่ะ ไข่ต้ม ผัดผัก สะดวกดีค่ะ อาหารเที่ยงทำมากินเองค่ะ
ออกกำลังกาย สบายๆ ทำได้ ไหวๆ ก็ทำมาเรื่อยๆ หลังเลิกงาน จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน ท่าท่างการออกกำลังกายก็ยากขึ้น ระยะหลังๆ ออกเสร็จแทบคลานไปเปิดตู้เย็น เมนูเย็นทานง่ายๆ ขอไก่สุก ปลาสุก กับผักสด ทานๆไปก่อน ผ่านไป 3 เดือน ไวมาก น้ำหนักเราลงไป 6 กก
เมษาวัดใจ
จบเทรนแล้วเอาไงยังอ้วนๆ ซูบลงไปแล้ว ทำเองก็ได้เนอะ ไม่ยาก รู้แนวแล้ว คิดๆๆวนมาวนไป โอเค ทำต่อไป เราทำได้ ทำได้ 5 วัน ว๊า!!! รู้สึกเบื่อไม่มีคนถามไถ่ วันนี้กินอะไร เที่ยงนี้กินอะไรค่ะ ออกกำลังกายเรียบร้อยดีมั๊ยค่ะ ไม่รู้จะแชร์กับใคร ตอนมีพ่อๆ จะถามวันนี้ผอมยัง วันนี้ไปว่ายน้ำป่าววว เลยตัดสินใจเอานะ เทรนต่อ
ก้าวต่อรอบ 2
เข้าสู่การลดเดือนที่ 4 ก้อเหมือนเดิม ออกกำลังกายคุมอาหาร เทรนเนอร์จะคอยถามอยากกินขนมมั๊ย อยากกินให้กิน บิงซูอยากกินมั๊ย อยากกินให้กิน จะได้เช็คด้วยว่ากินมื้อ สองมื้อมันไม่ทำให้เราอ้วนหรอก อยากกินต้องกินแต่ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ กินให้พอหายอยากไม่ใช่กินเอาอิ่มเอาแน่น
หมูกะทะอยากกินมั๊ย อยากกินไปกิน มันดีมากเลยเรารู้สึกดีมาก ก็ก้าวต่อเนื่องจบเดือน 6 น้ำหนักเราลดลงมาอยู่ที่ 69 กก ลงมาถึงนี่ เดินไปไหนคนทักผอมลงชัดเจน เสื้อเผ้าเริ่มหลวม เข็มขัดต้องมี ยังไม่อยากชอปปิ้งค่ะ
ก้าวต่อรอบ 3 มันไม่เป็นอย่างที่คิด
เข้าสู้เดือนที่ 7 ก็มีความเข้มข้นของท่าทางการออกกำลังกายมากขึ้น ทำทุกท่าต้องพยายาม จำนวนครั้งมากขึ้น กัดฟันมากขึ้น เหนื่อยและเมื่อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ถอย ปรับอาหารนิดหน่อย มีกินอัลมอลล์เพิ่ม วันละ ซองช๊อบ ชอบ จบไป 1 เดือน สัดส่วนเปลี่ยนแปลงน้อยมาก นน แทบไม่ขยับ เทรนเนอร์ปรับใหม่ ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เพิ่มวิ่งในตอนเช้าทุกวัน วันละ 35 นาที แต่ระยะทางต้องได้ 3 กม ทุกเช้าเทรนเนอร์จะ Line มาทุกวันช่วงตี 5-5.30 น. เช่น Morning ค่ะ / วันนี้เต็มที่นะคะ / วันนี้ฝนตกมั๊ยค่ะ/ เช้านี้วิ่งมั๊ยค่ะ เป็นการกระตุ้นเราไปในตัว และปรับอาหารยกชุด งดแป้ง 2 อาทิตย์
ตอนนั้นเรานึกไม่ออกจะใช้ชีวิตอย่างไร วันๆวนๆกับผักใบเขียวสุก/สด ไข่สุก ไก่สุก ปลาสุก กินนม กินชีส กินน้ำมันมะกอก ปรุงได้แต่เกลือ นิดหน่อยกับพริกไทยดำ มันเรียกว่าอะไร คลีนหรอก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่ทุกข์ทรมานมาก ไม่มีความสุขเลย ไม่อยากกิน (ขาดสีแดงๆของมะเขือเทศแล้วกินอะไรไม่ลงค่ะ) ไม่อยากออกกำลังกาย แต่ก็ทำค่ะ อดทน เทรนเนอร์ให้กำลังใจทุกวัน มันคือช่วงพิชิตใจ อดทนผ่านมาได้ น้ำหนักลงไป เหลือ 67 แต่สัดส่วนลงเยอะมาก หน้าเรียวลงเยอะมาก (ฟันเหยินด้วยค่ะ เหยินหน่อยๆ) แขนเล็กลงอย่างมาก มีดั้งนิดๆ จบสองสัปดาห์พิชิตใจ และก็ค่อยๆกลับมากินแป้งเพิ่มทีละนิดๆ แต่ยังคงวิ่งตอนเช้าอยู่เช่นเดิม ตามคำแนะนำเทรนเนอร์ และกลับมาทานอาหารต้ม ผัด แกง ได้ปกติ จนจบที่เดือน 9 นนลงมาที่ 64.5 ค่ะ
ณ ตอนนั้นพอใจประมาณนึงแล้วค่ะ ใส่เสื้อไซส์ M ได้แล้วค่ะ อกกับสะโพกลดลงมา อย่างละ 10 นิ้ว เอวลดลงมา 7 นิ้วค่ะ ตลอด 9 เดือนที่เราเทรนกับเทรนเนอร์ เค้าไม่เคยถามน้ำหนักเราเลยค่ะ จะขอรูปถ่ายและถามสัดส่วนเท่านั้น อก เอว สะโพกกี่นิ้ว ซึ่งจะอัพเดทกันทุกๆ 2 สัปดาห์ เทรนเนอร์ใจดี แถมฟรีตารางอีก 1 เดือน ตั้งใจกระชับ พุงกับขาที่ยังใหญ่อยู่ เวทจนเดินแทบไม่ไหว ไอ จาม หัวเราะ น้ำตาแทบไหล โอดโอย เพราะกระเทือนถึงท้องตลอด เพราะตอนนี้พุงยังใหญ่ อก พุง เท่าๆกันเลย ถ้าพุงซัก 30 ก็จะซื้อกางเกงใส่ง่ายขึ้น
จบการเทรน
26 ตุลา 60 เราตื่นมาตี 3 เพราะกลิ้งลงมานอนที่พื้นและเจ็บเท้ามากๆๆ เกิดอะไร คืออะไร ตกเตียงหรอ ละเมอล้ม ละเมอแล้วเตะ อะไร ไม่รู้ตัว ไม่รู้อะไรเลยค่ะ นอนเจ็บน้ำตานอง ก็ยังเจ็บมาก หักมั๊ยนะ ไม่มั้ง คิดวนมาวนไปรอจนเช้า ตามเพื่อนพาไปหาหมอ คุณหมอ บอกหักนะคะ งืมๆๆๆ ไปทำอะไรมา ตอบหมอไม่ถูกเลยค่ะ เลยต้องจบโปรแกรมลดความอ้วนไปก่อน
ใช้ชีวิตลำบากมาก กินๆ นั่งๆ นอน ๆ ต้องเน้นโปรตีนกับแคลเซียมให้มาก กินข้าวครบ 3 มื้อ นมวันละ 4 กล่อง ผ่านมา 2 เดือน น้ำหนักขึ้นมา 1-2 กก ไม่เป็นไรไม่ซีเรียส แต่ก้อพยายามไม่ทานจุกจิก ควบคุมไว้ค่ะ ไว้หายดีค่อยว่ากันใหม่
ประสบการณ์การลดความอ้วนของเรา ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตั้งใจจะลดจริงๆก็น่าจะทำได้ เห็นหลายคนที่ลดด้วยตัวเองขอชื่นชมว่าเก่งมากๆ แต่สำหรับเราแต่พอทำไปซักพัก มันจะรู้สึกเบื่อหน่าย หรือท้อ เราไม่สงสัยเลยทำไมถึงมีคนมาตั้งกระทู้ สร้างกรุ๊ป Line เพื่อแชร์เรื่องราวข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเองและแชร์เมนูอาหาร จะได้ดูเมนูสร้างสรรค์ของคนอื่นเพื่อไปลองทำดูจะได้ไม่จำเจ จะได้มีแรงบันดาลใจ มีเพื่อนไปด้วยกัน แต่เราผ่านการเทรนออนไลน์ และเดินหน้าลดต่อโดยมีเทรนเนอร์พร้อมคุยกับเราเสมอ ให้กำลังใจกับเราเสมอ ส่งขนมมาให้เราด้วย กลัวเราจะตึงเกินไปค่ะ แชร์เมนูจากของเทรนเนอร์เอง จากลูกศิษย์ท่านอื่น ทำให้เรามีกำลังใจ มีเพื่อน และลดความอ้วนได้อย่างยั่งยืนค่ะ
จบแล้วค่ะ เรื่องราวของเรา ตอนนี้ยังไม่ผอมค่ะ ยังไม่พอใจจากเป้าที่เคยตั้งไว้ยังซื้อกางเกงร้านทั่วไปไม่ได้ รอกระดูกติดดีค่อยว่ากันใหม่ สู้ต่อไปในปีหน้า เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังตั้งใจลดอยู่และคิดจะลดในปีหน้าค่ะ