บ้านคือที่ที่มีความสุขที่สุด จริงๆหรอ?

ยิ้ม อยากให้ทุกๆคนเข้ามาอ่านเข้ามาตอบเราหน่อยค่ะ

บ้านคือที่ที่มีความสุขหรอ? ทำไมเราสัมผัสความสุขนั้นไม่ได้เลย เราอายุ19ย่าง20 แล้ว ยิ้ม ทำไมเราถึงมีความคิดเป็นของตัวเองไม่ได้? วันนี้เราจะมาเล่าปัญหาชีวิตที่เด็กอายุแค่19อย่างเราต้องพบเจอ (พิมพ์ในโทรสับอาจจะอ่านยากนิดนึงนะคะ)

(เหมือนเราพิมพ์วกไปวนมานะยังไงก็อยากให้ช่วยกันเข้ามาอ่านเข้ามาตอบกันหน่อย อยากฟังจากหลายๆความคิด)
เข้าเรื่องเลยเนอะ เราอยู่บ้านแทบไม่มีความสุขเลย ในทุกๆวันต้องโดนบ่น โดนด่า ด่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาใคร เราเป็นพี่คนโต มีน้องชาย1คนอายุ8ขวบ.ค่ะ เชื่อมั้ยว่าเราอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำอะไรเลย ยิ้ม บางคนบอกว่า เกิดเป็นเราสบายเนอะ แต่เราว่าไม่นะ  เราอยากเรียนต่อ อยากหาความรู้ใส่ตัวเอง เพื่อที่บางทีจะได้เอาวุฒิไปสมัครงาน แต่ก็ไม่ได้เรียนค่ะ ครอบครัวไม่สนับสนุน เนื่องจากว่าฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี (พ่อแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราอยู่ม.4นะ เหตุผลเพราะพ่อติดเพื่อนติดเหล้าการงานไม่รู้จักทำ)
ต่อนะ ตอนนั้นจบม.6เราเริ่มหางานทำเพื่อที่จะเอามาเป็นค่าเทอม เราก็สมัครและสอบได้เอกอังกฤษค่ะ แล้วก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เราทำงานร้านหมูกะทะค่ะ ตอนนั้นได้วันละ200บาทด้วยความที่ว่าอยากได้เงินมาเป็นทุนการศึกษาได้เท่าไหร่ก็ทำค่ะ เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่ท้อ เข้างาน15.30-00.00 น. แต่ก็ไม่ได้เลิกเที่ยงคืนตามความเป็นจริงหรอกค่ะ บางวันก็ตี2ครึ่งรอลูกค้านั่งกินจนเสดถึงกลับได้ พอถึงวันเปิดเทอม เราก็ขอทางร้านเข้างานเวลา 16.30 บางวันเลิกเรียน5โมงเย็น เราก็ขอเข้า5โมงเย็นเฉพาะวันนั้นค่ะ ทำงานไปเรียนไปได้สักพัก เหมือนร่างกายจะไม่ไหว เหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองเบลอไปหมด เพราะกว่าจะเลิกร้าน(บางวันเกือบตี3 บางวันตี2ครึ่ง เป็นปกติของร้านค่ะ พี่พนักงานในร้านเค้าบอกมางี้ แต่เราก็ทนทำไปค่ะ เพราะว่าตอนช่วงเย็นทางร้านเค้าก็ให้กินข้าวฟรี ประหยัดเงินอีกค่ะ) แต่ก็กว่าจะเลิกร้านเก็บของเสดก็ดึก กลับถึงห้องกว่าจะซักผ้าทำการบ้านก็ปาไปตี3กว่าๆ กว่าจะได้นอน แล้วเปิดเทอมช่วงแรกรุ่นพี่ให้นัดรวมกันใต้ถุนอาคารเรียนไม่เกิน6.00น. ใครเกินนี้โดนทำโทษ ยิ้ม เราก็ต้องตั้งปลุกตอนตี5 เพื่อที่จะให้ทันเวลาที่พี่นัด บอกตรงๆว่าจะน็อคค่ะ นอนตี3ครึ่งตื่นตี5 แบบนี้เกือบยี่สิบวัน หน้าตาเรานี่ดูไม่ได้เลย ขอบตาดำ ช้ำ ซีดไปหมด ไม่มีราศีสักนิด ตอนนั้นอะไรที่ทำให้หายง่วงได้ซัดมันเข้าไปค่ะ กาแฟร้อน กาแฟเย็น บางวันกาแฟเย็นวันละ2-3แก้วค่ะ จะช็อค ดีที่บางวันมีเรียนเช้าเรียนบ่ายเลิกเร็วก็กลับมาห้อง เคลียร์การบ้านซักผ้าให้เสร็จ ก็นอนค่ะ ตั้งนาฬิปลุกให้ลุกไปทำงาน ได้ไม่นานค่ะ ผลสุดท้ายคือดรอป!!!! ร่างกายมันไม่ไหว. แทบจะลมทั้งยืนค่ะบางวัน เหนื่อยจนแบบพูดไม่ออก แล้วบางทีเราทำงานไปเรียนไป ยิ้ม เราก็ส่งให้ทางบ้านใช้ด้วย อาทิตย์ละ1,000 บางทีก็500ค่ะ ตามที่เรามีเราเก็บแยกเป็นส่วนๆ ที่บ้านไม่มีใครทำงานค่ะ หัวโบราณกันทั้งบ้าน เค้าก็ได้แต่บอกเราว่าให้ออกๆบอกแล้วว่าไม่ต้องเรียน สบายคนเดียวนั่นแหละ ยิ้ม เราก็ไม่เถียงนะ เฉยๆดีกว่า ถ้ายิ่งตอบโต้ยิ่งมีปากมีเสียง พอเราออกจากการเรียนมาทำงาน ก็ทำได้ไม่ถึงเดือนค่ะ โทรมาขอเงินเราทุกวันๆ เราไปทำงานกับป้าค่ะ ดีขึ้นมาหน่อยได้วันละ300 แต่ก็เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ไหนจะเสิร์ฟ เก็บโต๊ะ ล้างถ้วยล้างจานกว่าจะเสร็จก็ตี3ครึ่งเป็นแบบนี้ทุกๆวัน แล้วทางบ้านก็โทรมาขอเงินทุกๆวัน อาทิตย์แรกเราก็โอนให้ใช้ค่ะ1,000 บางครั้งพึ่งโอนไปได้ไม่กี่วันก็โทรมาขอค่ะ เราก็โอนให้แต่ให้แค่500 บางครั้งซื้อหวยหมดเยอะไม่ถูกเราก็โอนเงินให้ไปจ่ายค่ะ ยิ้ม บางทีไม่โอนให้ก็โดนด่าว่าอกตัญญู สมน้ำหน้าทีใครทีมันแต่ก่อนก็ขอกู กูให้เยอะกว่าให้กูอีก เราก็เข้าใจค่ะว่าเค้าเป็นคนเลี้ยงดูเรามา เราคิดอยู่เสมอว่าเราจะต้องตอบแทนบุญคุณเค้า เพราะกว่าเค้าจะเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กจนโตก็ลำบากเหนื่อยเหมือนกัน
**ขออนุญาตต่อข้างล่างนะคะ เผื่อจะได้อ่านง่ายๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
มาต่อค่ะ พึ่งฟื้นจากการไม่สบายไปหลายวัน
** อยากให้ทุกคนฟังเรื่องของเราให้จบแล้วพิจารณาหรือว่าวิจารณ์ในตัวเราทีนะคะ เราก็ไม่ใช่เด็กดี หรือเด็กเรียนหรอกนะคะ แต่เราทำตามหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ค่ะ คำว่า เราไม่ใช่เด็กดีหรือคนดี หมายความว่า เราไม่ได้ดีไปซะทุกอย่าง การเรียนเราอยู่ในระดับพอใช้หรือดี (ม.1-6 แม่ไปรับไปส่งตลอด)  แล้วเราก็คิดว่า เราก็คงมีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง เหมือนคนทั่วๆไป แต่เราก็คิดว่าเรารู้จักกาละเทศะ ว่าคำพูดนั้นๆควรใช้กับใคร เมื่อไหร่ ตอนไหน เชื่อไหมคะ เราไม่เคยให้เพื่อนมาเล่นบ้านเราเลย เพราะคนในบ้านเราหน้าตาเหมือนจะไม่รับแขก เวลาเราเข้าบ้านปุ๊ป หลัง6โมงเย็นห้ามออกจากบ้านค่ะ เป็นจนถึงตอนนี้ค่ะ อายุจะ20แล้วโดนห้ามทุกๆอย่าง แปลกไหมคะ ที่เราเลือกที่จะเงียบ ไม่ว่าคนในบ้านจะดุหรือด่า เราได้แต่รับฟังแล้วอยู่เงียบๆของเราไม่ตอบโต้กลับ หน้าที่ของเรา เรามีหน้าที่ทำอะไร เราก็ทำตามนั้นค่ะ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนเป็นคนที่อารมณ์ดีมาก หัวเราะเฮฮา ชอบปล่อยมุกกับเพื่อน แต่แตกจากที่บ้านค่ะ เวลาอยู่บ้านเราจะเงียบเหมือนคนเป็นใบ้ เวลาแม่เห็นหน้าเรา จะชอบเหล่ตามองแล้วแล้วสะกิดน้องเบ้ปากใส่เรา เราก็ไม่อะไรนะ เฉยๆไปไม่อยากทะเลาะ แต่เราก็มีปรึกษาเพื่อนบ้างนะ เพื่อนก็บอกว่า ด่ากลับสิ เราก็บอกว่าเราไม่อยากมีปากมีเสียงกับใคร เดี๋ยวก็บอกว่าเราลืมบุญคุณ เถียงผู้ใหญ่ นิสัยไม่ดี ทำตัวเก่งในบ้าน เราโดนคนในบ้านด่าสารพัด จนเราคิดว่า นี่ที่เราทำยังไม่ดีพออีกหรอ งานบ้านทุกอย่าง เราก็ทำให้ทุกๆอาทิตย์ หาเงินเข้าบ้านเราก็พยามทำ ขายของออนไลน์ ทำขนมขาย เดินขายตามบ้าน ขายที่ตลาด พอเห็นเราทำแบบนี้ก็ขอเงินเรา เราตอบไปว่าไม่มี เค้าก็บอกว่าที่ขายขนมได้ไง ไม่มีตรงไหน ตอนเด็กขอ กูยังให้ นี่จะเก็บไว้ใช้คนเดียวหรอ แปลกนะ เราพยามหาในกูเกิ้ลเผื่อใครปัญหาแบบเรา เรายังคิดเลยนี่ชีวิตเราหรือว่านิยายน้ำเน่า เครียดนะ เบื่อด้วยที่เป็นแบบนี้ บางทีเราก็กลัวตัวเองเป็นคนคิดมาก ร้องไห้คนเดียว บางทีก็เหม่อลอย คิดแต่เรื่องเดิมอยู่ซ้ำๆ เหมือนตอนนี้จะเป็นคนที่ขี้หลงขี้ลืม เราพยามหาอะไรทำที่ทำให้เราไม่เครียด ไม่คิดมาก เราเคยคิดฆ่าตัวตายนะ อยู่ไปก็ทรมาน เราก็ไม่อยากอยู่ " ฆ่าตัวตายประชดชีวิตหรือคนในครอบครัวหรอ"? แต่เราไม่ได้คิดว่าประชดใครนะ เพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา เราอยากตายแบบสงบๆ เงียบๆ ไม่ทรมาน เราก็เลยเล่าอาการของเราให้เพื่อนฟัง พอดีมันมีพี่เป็นนักจิตวิทยาเราก็เลยปรึกษาแต่ก็เหมือนไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายความเครียดหรือความคิดอะไร เค้าก็แค่บอกว่า คนแก่ก็แบบนี้แหละ อดทนหน่อยนะ ... อดทน ..? อดทน ? อดทน..? เราจะต้องอดทนอีกนานแค่ไหน ถึงเมื่อไหร่ แล้วเราก็เลยไปปรึกษาพี่อีกคนที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน พี่เค้าให้คำปรึกษาดีมาก พี่เค้าเรียนแพทย์แผนไทยใกล้จะจบแล้ว พี่เค้าแนะนำเราให้ไปพบจิตแพทย์ เค้าบอกว่าการไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเลย ไม่ใช่ว่าคนบ้าเท่านั้นที่จะต้องไปพบจิตแพทย์ ลองไปปรึกษาเค้าดู พี่เค้ากลัวเราจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือเครียด พี่เค้าให้กำลังใจเรา บอกรักเราเหมือนเราเป็นน้องสาวแท้ๆของเค้า แล้วเพื่อนก็พยามชวนออกไปเดินเล่น ไปพบปะผู้คน แต่เรารู้สึกเบื่อที่เจอคนเยอะๆ อยากอยู่เงียบๆคนเดียวมากกว่า(เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาเราไม่สบายเราขอไปหาเพื่อน อ้างว่าจะเอาเสื้อผ้าไปขายให้มัน) เพื่อที่จะให้มันพาไปหาหมอ เพราะถ้าอยู่บ้านก็คงนอนโทรมอยู่ห้อง เพื่อนเราก็พาเราออกไปเจอเพื่อนที่เคยเรียนสาขาเดียวกัน เราก็มีแต่บอกว่าเราอยากกลับ ไม่อยากมา มันก็บอกว่า จะปล่อยให้อยู่แต่ห้องก็ไม่ได้หรอกนะ ออกมาเจอผู้คนภายนอกบ้าง เพื่อนเค้าเป็นห่วง เพื่อนเราก็พยามพาเราไปเที่ยวสูดอากาศ พาไปนั่งรับลม ให้ผ่อนคลาย .. หัวเราะ เราก็คิดว่ามีเพื่อนดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ให้คำปรึกษาเรา พาเราไปหาหมอ ตอนนี้สภาพจิตใจเราก็ยังเบื่อๆอยู่ ถึงจะยิ้ม หัวเราะ แต่ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม น่าเบื่อไปหมด ตอนนี้ก็กลับมาอยู่บ้าน มันก็เหมือนเดิม เบื่อ เซง เหนื่อยใจไปหมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่