ค่าจ้างขั้นต่ำควรปรับหรือไม่ ถ้าปรับควรปรับอย่างไร ปรับเท่าไหร่

ค่าจ้างเป็นตัวแปรสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนงาน  การปรับค่าจ้างหากมองด้านเดียว มองแบบแยกส่วน มองแบบตัดแปะ ก็จะเจอคำถามแบเดิมๆ นักลงทุนย้ายการลงทุน ปรับค่าจ้างเข้าของก็จะแพง หรือจะทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมตกต่ำ แต่หากมองอย่างเป็นระบบ การปรับค่าจ้างทำให้คนมีรายได้สูงขึ้น เมื่อรายได้สูงขึ้นคนก็ซื้อของบริโภค ซื้อบ้าน ซื้อรถ และอื่นๆ เมื่อมีกำลังซื้อก็เกิดการผลิตสินค้า จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เมื่อคนมีรายได้ก็สามารถเก็บภาษีได้ทั้งที่เป็นคนงานเองและผู้ประกอบการ ทั้งบุคคลและนิติบุคคล รัฐบาลก็ได้เงินไปพัฒนาประเทศ ประกันสังคมก็มีเงินเพิ่มขึ้น คือได้ทั้งหมด แต่บ้านเรามายาคติ ความบิดเบือนทำให้ไม่เห็นความจริงและคนก็เชื่อตามนั้น ดูอย่างประเทศจีนทำไมคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มาท่องเที่ยวบ้านเราแบบถล่มทลาย เพราะรัฐบาลจีนได้มการปรับค่าจ้างให้สูงขึ้นทำคนก็มีรายได้ มีกำลังซื้อ และหาความสุขใส่ตัวเองและครอบครัวได้ ละอื่นๆ เมื่อมีกำลังซื้อก็เกิดการผลิตสินค้า มีเงินส่งลูกเรียน ประชาชน ประเทศชาติก็มีอนาคต มีโอกาสพัฒนาตนเอง ดูการศึกษาบ้านเราสิ ดูความยากจน ดูความเหลื่อมล้ำบ้านเราสิเป็นลำดับสามของโลกไปแล้วทั้งๆที่เราเป็นประเทศขนาดกลาไม่รวยมาก แต่ความเหลื่อมล้ำสูง รวยกระจุกจนกระจาย พัฒนาประเทศก็ยาก

มีการกล่าวว่าค่าแรงขึ้น สินค้าแพง ก็เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม คนที่ได้รับผลกระทบเช่นธุรกิจขนาดกลาง sme รัฐบาลสามารถใช้มาตรการทางนโยบายทางการเงินและภาษีได้ และจริงๆแล้วต้นทุนค่าจ้างแรงงานในสินค้าหรือผลผลิตแต่ละชิ้นมีสัดส่วนน้อยมาก ดังนั้นการปรับค่าจ้างจะเป็นข้ออ้างเสมอว่าสินค้าจะแพง....ลองคิดดูส่วนการปรับค่าจ้างจะปรับเท่าไหร่นั้นเป็นเรื่องที่ต้องดูบริบทหลายด้านครับ ดัชนีค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งสวัสดิการจากรัฐ....ตามหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO)ค่าจ้างขั้นต่ำรายวันต้องเลี้ยงคนในครอบครัวได้อีก ๒ คน รวมเป็น ๓ คน แต่บ้านเรานิยามค่าจ้างขั้นต่ำเลี้ยงคนทำงานเพียงคนเดียว บ้านเราคนถึงจนดักดานนิรันดร ถาวรสืบต่อไป  คนรวยก็รวยขึ้นมีทรัพย์สินมากขึ้น...