คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ต้องหวานครับวันนี้พี่ๆ.....และแรงบันดาลใจจากโคลงก็ "เธอ" ครับ
ครบรอบวันแต่งงานวันนี้ครับ แต่งที่อุดรฯ ตามประเพณีอีสาน แขกเหรื่อจากฝั่งเจ้าสาวบินมาร่วมกลุ่มหนึ่ง
และที่พวกเขายังพูดกันไม่ขาดก็คือ วันนั้นเจ้าสาวใส่ชุดวิวาห์สวยหรูพร้อมญาติและเพื่อนทมารอ "รถ" ไปรับที่หน้าโรงแรม ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า "เอารถไปรับ" แบบบ้านนอกๆ (ไม่เคยแต่งงานมาก่อนทำไงได้) เลยนัดหมายคุณอาผู้ชายที่มีรถกะบะเก่าๆ ไปรับที่โรงแรมเจริญโฮเต็ลแล้วเดินทางไปยังหมู่บ้านของผม ฝ่ายกลุ่มญาติๆ และเจ้าสาวก็ชะเง้อหา "ลีมูซีน" สีขาวยาวหรูไปจอดเทียบหน้าโรงแรม ชะเง้อหาอยู่นานโข...เจ้าสาวนึกว่าจะม่ายขันหมากไปนู่น ที่ไหนได้...ระกะบะไปจอดรอตั้งแต่เช้า เจ้าสาวได้รับเกียรติอันสูงสุดให้นั่งหน้า ส่วนญาติๆ และเพื่อนๆ ที่ใส่สูทและชุดสวยนั่งเบียดเสียดกันที่ท้ายกะบะ เพื่อนๆ และญาติฝ่ายเจ้าสาวไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน...อึ้งสิครับ และประทับใจกันไม่รู้ลืม เวลาที่ฉลองวันครบรอบแต่งงานหรือไปแต่งงานคนอื่นทีไร ก็จะพูดเรื่องนี้กันแล้วหัวเราะ
วันก่อนแต่งงาน พาเจ้าสาวไปดูบ้านที่จะทำพิธีแต่งงาน ก้อ บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนเก่าๆ หลังหนึ่งในชนบททั่วๆ ไป ว่าที่เจ้าสาวอยากจะประดับประดาบ้านให้มีสีสันขึ้นมาบ้าง ผมเอาสามล้อของพี่ชายปั่นพาเข้าตลาดใกล้ๆ หมู่บ้าน (ตลาดบ้านเหล่า) เจอแม่ค้าที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอรับดอกกล้วยไม้มาขาย โดยแยกมัดเป็นช่อเล็กๆ ขายช่อละห้าบาท ช่อละสิบบาทตามไซส์วางเรียงรายขายบนโต๊ะไม้บนริมถนน ว่าที่เจ้าสาวของผมก็เลยขอ "เหมาหมดทั้งร้าน" ผมยังจำสีหน้าของแม่ค้าวันนั้นได้ดี เธอไม่เชื่อ...ถามย้ำอีกว่าจะเหมาหมดเลยหรือ? ราคาก็ตกอยู่ที่ 450 บาทเธอบอกว่าอย่างนี้ แต่ถ้าจะเอาจริงหมดจริงๆ ก็จะลดให้...ว่าที่เจ้าสาวผมก็ตกใจ....ตกใจที่ราคาแค่นั้น ที่บ้านเมืองเธอ...แค่ดอกกล้วยไม้ช่อเดียวก็แพงกว่าร้านของเธอทั้งหมด เธอยื่นแบงค์500 บอกไม่ต้องทอน แต่แม่ค้าบอกว่ายังไงๆ ก็ต้องทอน สุดท้ายปฏิเสธไม่ได้ก็ต้องรับตังค์ทอนของเธอ เมื่อเธอบอกว่าขอเป็นเงินใส่ซองร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งของผมก็แล้วกัน พอผมแปลให้ว่าที่เจ้าสาวได้ฟังเสร็จ...เธอถึงกับยืนปาดน้ำตาโผเข้ากอดแม่ค้าบอกว่าขอบคุณๆ
ครบรอบวันแต่งงานวันนี้ครับ แต่งที่อุดรฯ ตามประเพณีอีสาน แขกเหรื่อจากฝั่งเจ้าสาวบินมาร่วมกลุ่มหนึ่ง
และที่พวกเขายังพูดกันไม่ขาดก็คือ วันนั้นเจ้าสาวใส่ชุดวิวาห์สวยหรูพร้อมญาติและเพื่อนทมารอ "รถ" ไปรับที่หน้าโรงแรม ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า "เอารถไปรับ" แบบบ้านนอกๆ (ไม่เคยแต่งงานมาก่อนทำไงได้) เลยนัดหมายคุณอาผู้ชายที่มีรถกะบะเก่าๆ ไปรับที่โรงแรมเจริญโฮเต็ลแล้วเดินทางไปยังหมู่บ้านของผม ฝ่ายกลุ่มญาติๆ และเจ้าสาวก็ชะเง้อหา "ลีมูซีน" สีขาวยาวหรูไปจอดเทียบหน้าโรงแรม ชะเง้อหาอยู่นานโข...เจ้าสาวนึกว่าจะม่ายขันหมากไปนู่น ที่ไหนได้...ระกะบะไปจอดรอตั้งแต่เช้า เจ้าสาวได้รับเกียรติอันสูงสุดให้นั่งหน้า ส่วนญาติๆ และเพื่อนๆ ที่ใส่สูทและชุดสวยนั่งเบียดเสียดกันที่ท้ายกะบะ เพื่อนๆ และญาติฝ่ายเจ้าสาวไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน...อึ้งสิครับ และประทับใจกันไม่รู้ลืม เวลาที่ฉลองวันครบรอบแต่งงานหรือไปแต่งงานคนอื่นทีไร ก็จะพูดเรื่องนี้กันแล้วหัวเราะ
วันก่อนแต่งงาน พาเจ้าสาวไปดูบ้านที่จะทำพิธีแต่งงาน ก้อ บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนเก่าๆ หลังหนึ่งในชนบททั่วๆ ไป ว่าที่เจ้าสาวอยากจะประดับประดาบ้านให้มีสีสันขึ้นมาบ้าง ผมเอาสามล้อของพี่ชายปั่นพาเข้าตลาดใกล้ๆ หมู่บ้าน (ตลาดบ้านเหล่า) เจอแม่ค้าที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอรับดอกกล้วยไม้มาขาย โดยแยกมัดเป็นช่อเล็กๆ ขายช่อละห้าบาท ช่อละสิบบาทตามไซส์วางเรียงรายขายบนโต๊ะไม้บนริมถนน ว่าที่เจ้าสาวของผมก็เลยขอ "เหมาหมดทั้งร้าน" ผมยังจำสีหน้าของแม่ค้าวันนั้นได้ดี เธอไม่เชื่อ...ถามย้ำอีกว่าจะเหมาหมดเลยหรือ? ราคาก็ตกอยู่ที่ 450 บาทเธอบอกว่าอย่างนี้ แต่ถ้าจะเอาจริงหมดจริงๆ ก็จะลดให้...ว่าที่เจ้าสาวผมก็ตกใจ....ตกใจที่ราคาแค่นั้น ที่บ้านเมืองเธอ...แค่ดอกกล้วยไม้ช่อเดียวก็แพงกว่าร้านของเธอทั้งหมด เธอยื่นแบงค์500 บอกไม่ต้องทอน แต่แม่ค้าบอกว่ายังไงๆ ก็ต้องทอน สุดท้ายปฏิเสธไม่ได้ก็ต้องรับตังค์ทอนของเธอ เมื่อเธอบอกว่าขอเป็นเงินใส่ซองร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งของผมก็แล้วกัน พอผมแปลให้ว่าที่เจ้าสาวได้ฟังเสร็จ...เธอถึงกับยืนปาดน้ำตาโผเข้ากอดแม่ค้าบอกว่าขอบคุณๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ความรู้สึกดีๆ มีคุณค่า
ผ่านคืนวันผ่านเวลา ไม่สับสน
เพราะรู้ใจว่าลึกซึ้ง เพียงหนึ่งคน
ถึงร้อยแปดเหตุผล... ก็เป็นเธอ
...........
ข้าพเจ้า มิได้ชื่นชอบรสชาดของสุรา
หากแต่ข้าพเจ้า ชื่นชอบบรรยากาศ ยามสนทนา กับ "สาวชงสุรา "
ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน วัชรานนท์ ที่นับถือเสมอมา ท่ามกลางกาลเวลา 10 กว่าปีมานี้ บนเส้นทางสายนี้
เส้นทางสายที่มีชื่อว่า ประชาธิปไตย ครับ
ถนอมสุขภาพด้วยครับ
อาร์ต โฟล์คสวาเกน
ผ่านคืนวันผ่านเวลา ไม่สับสน
เพราะรู้ใจว่าลึกซึ้ง เพียงหนึ่งคน
ถึงร้อยแปดเหตุผล... ก็เป็นเธอ
...........
ข้าพเจ้า มิได้ชื่นชอบรสชาดของสุรา
หากแต่ข้าพเจ้า ชื่นชอบบรรยากาศ ยามสนทนา กับ "สาวชงสุรา "
ขอน้อมคารวะครับพี่ท่าน วัชรานนท์ ที่นับถือเสมอมา ท่ามกลางกาลเวลา 10 กว่าปีมานี้ บนเส้นทางสายนี้
เส้นทางสายที่มีชื่อว่า ประชาธิปไตย ครับ
ถนอมสุขภาพด้วยครับ
อาร์ต โฟล์คสวาเกน

ความคิดเห็นที่ 3
คิดอะไรไม่ออก ยังไม่สร่าง
ขอสวนด้วยบทกวีของอังคาร กัลยาณพงศ์ แล้วกันครับ
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
แล้วก็บรรทมต่อ
ขอสวนด้วยบทกวีของอังคาร กัลยาณพงศ์ แล้วกันครับ
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤๅรอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
หากเจ้าอุบัติบนสรวงสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกาลปาวสาน
แม้นชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
แล้วก็บรรทมต่อ

แสดงความคิดเห็น
กวีในห้วงรัก: เช้าวันใหม่ที่พิเศษ
ปางก่อนสองเคยเชย...........ชิดใกล้
บัดนี้แม่เมินเฉย.................เคืองขุ่น เรื่องใด
จึ่งปล่อยเรียมร่ำไห้.............เอ่อล้นชลนัยน์ฯ
....................
ฟ้าร่ำครวญคร่ำร้อง..............ครืนครืน
เหมือนดั่งเสียงพี่ยืน...........ร่ำไห้
อันวิโยคโศกอื่น................ฝืนข่ม เรียมทน
แต่ห่างนุชอนงค์ไซร้.........เทวษไท้เกินทนฯ
....................
เบือนเนตรหนีดุจเจ้า...........จงใจ
ซุกซ่อนแอบความนัย..........เนตรนั้น
ขุ่นเคืองพี่เรื่องใด...............วานบอก เฉลยนา
ใจจักตรอมหักสะบั้น..........ขาดแล้วด้วยนัยน์ฯ
....................
หอมจรุงกรุ่นกลิ่นเจ้า............ฤาจาง
หอมทั่วทั้งสรรพางค์.............ตลบฟุ้ง
หอมอื่นหมื่นแสนนาง...........หอมห่อน เทียมแม่
หอมกลิ่นเจ้าขจายฟุ้ง...........ตลบฟ้าเมืองสรวงฯ
....................
ผิพระพายแผ่วเนื้อ................ผิวนาง
โชยโบกเพียงเบาบาง...........พี่ช้ำ
คนึงขนิษฐ์น้องคัคนางค์.........ถวิลพี่
หวั่นพระพายลอบกล้ำ.........แนบเนื้อโลมนางฯ
....................
ตราบสุรีย์สุดสิ้น..............แสงฉาย
ตราบพสุธาถล่มทลาย......หมดสิ้น
ตราบนทีเหือดหาย.........แห้งโลก ไปฤา
รักบ่หายห่อนสิ้น............ตราบไว้ชั่วกัลป์ฯ
....................
ถึงต้องหอกพิษร้าย................กุมภัณฑ์
อีกโตมรทศกัณฑ์..................เสียบไซร้
จักกลั้นอดอาสัญ..................ถนอมชีพ เรียมไว้
มาซบกายตายใกล้.............นุชน้องตักนางฯ
....................
ผูกเกลียวเกี่ยวรักไว้.................เคียงกัน
สองจิตเราผูกพัน....................ชั่วฟ้า
เกิดดับกี่กัปป์กัลป์.................ขอร่วม ชีวาตม์
ปราถนาเจอทุกแหล่งหล้า........ตราบฟ้าดินมลายฯ
....................
สาปใจไว้รักนี้.......................นิจนิรันดร์
ตราบหมื่นตราบแสนกัลป์........สาปไว้
ขอสองจิตเราผูกพัน..............เคียงคู่ เสมอชาติ
อย่าราดร้างแลหม่นไหม้........ไป่รู้โรยราฯ
.....................วัชรานนท์.............