ก่อนอื่น เนื่องจากเห็นว่ามีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นพอสมควรครับ
ผมจึงขอใช้ความหล่อเป็นประกันในเรื่อง ๆ หนึ่ง ดังนี้
ผมขอยืนยัน กล้ายืนยันครับ ว่า "น้ำมิตร" นั้น ไม่ใช่พวกใคร
(แต่จะมีการพยายามดึงไปเป็นพวกไหม ผมเชื่อเกินพันเปอร์เซนต์ว่ามีการพยายามแน่
พวกไหนพยายามดึง คงไม่ต้องสาธยาย แต่ไม่สำเร็จหรอก)
"น้ำมิตร" จะแสดงความเห็นตามสิ่งที่เห็น และตามสิ่งที่คิด
และไม่เคยบอกว่า สิ่งที่เห็น สิ่งที่คิด และแสดงความเห็นออกมานั้นถูกต้องไปหมด ไม่มีผิด
ผิด น้ำมิตรก็ยอมรับครับ ไม่ตะแบงแน่นอน
สิ่งที่น้ำมิตรแสดงความเห็นออกมา เป็นเรื่องราวในบอร์ดที่น้ำมิตรเห็น อ่าน คิด พิจารณา แล้วแสดงความเห็น
ไม่ใช่การโพสต์ด้วยการอิงพวก เข้าข้างเพื่อน เลือกข้าง
ผมรับประกันครับ อย่าไปเข้าใจผิดคิดว่าน้ำมิตรเป็นพวกใคร ฝ่ายไหน
โดยเฉพาะนายเกียน
แม้ผมจะไม่เคยเจอน้ำมิตร แต่ด้วยการที่ได้รู้จักกันทางบอร์ดแห่งนี้มานาน นานหลายปี ตั้งแต่ปี 52
รู้นิสัยใจคอผ่านตัวอักษรมานาน คุยหลังไมค์กันบ้างมานาน น้ำมิตรเป็นเพื่อนที่ให้เกียรติเพื่อนเสมอ ไม่เลือกคน
เป็นคนไม่เชื่อใครง่าย ๆ อย่างไร้เหตุผล ขาดหลักฐาน เป็นคนใช้เหตุผลในการแสดงความเห็น
ขอรับประกันครับ วา่ไม่ใช่พวกใคร
(ผู้หญิงแบบนี้ น่าจะสวยนะ แต่โบราณว่า ผู้หญิงสวยมักไม่ฉลาด ฉลาด ๆ แบบน้ำมิตรนี่ จึงน่าสงสัย ว่าจะสวยไหม

)
เข้าเรื่อง
2 ประเด็นนะครับ
ประเด็นแรก เรื่องโม้ สมราคาคุยหรือไม่
น้ำมิตรครับ คนอย่างผมไม่เคยคุยอะไรเกินเลย จะโม้ก็เรื่องเดียว คือเรื่องความหล่อ
ซึ่งเรื่องนี้ สมราคาคุยแน่ครับ
จากทู้
https://pantip.com/topic/37121762
ผมพาดพิงถึงพี่โบกกรัก โม้ว่าผมหล่อ
พี่โบกกรักยืนยันทันที
หลักฐานชัดนะครับ ว่า สมราคาคุย
ประเด็น 2 เรื่องอยู่ในเหตุการณ์หรือไม่
น้ำมิตรครับ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์สงครามเก้าทัพครับ
แต่ผมก็รู้เหตุการณ์
ผมไม่ได้เกิดในยุคสุโขทัยครับ
ผมไม่ได้ร่วมรบกับพระเจ้าตากครับ
นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ในทางสังคมศาสตร์นั้น จะมีหลักยืนยันเรื่องราวและเหตุการณ์อยู่ 2 หลักครับ
คือ หลักฐานหลัก และ หลักฐานรอง
ผมไม่เชื่อใครง่าย ๆ หรอกครับ ต่อให้พูดกันต่อหน้าก็ตาม
ทุกเรื่อง ผมจะ recheck (คนละความหมายกับ เชคเด้งนะครับ

)
ค้นหา ถามหาหลักฐาน หากเข้ากันได้กับคำพูด คำบอกเล่า
ผมจึงจะเชื่อ
เช่น
หากเป็นเรื่องเงิน ก็ว่ามีหลักฐานการโอนไหม
หากเป็นเรื่องคำพูด ก็สังเกตจากปฏิกิริยา สังเกตผลสะท้อน
สังเกตคำพูดในเรื่องนั้น ๆ ว่า เมื่อพูดซ้ำ หรือซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หลายสถานการณ์
จะตรงกันหรือไม่ ฯลฯ
เมื่อนั้นแหละครับ จึงให้ "น้ำหนัก"
ผมไม่เชื่อใครง่าย่ ๆ หรอกครับ ป้าสาวเหลือน้อยเป็นผู้อาวุโสที่ผมเคารพ ผมยังไม่เชื่อ
มาบอกว่าผมไม่หล่อ เชื่อได้ไง
ยืนยันครับ ผมไม่เชื่อใครง่าย ๆ
ยกเว้น เมีย เพราะหากไม่เชื่อ โดนตบ
โอเคนะครับ
พักหล่อ เย็น ๆ ค่ำ ๆ อีกที
กระทู้พิเศษถึงคุณ "น้ำมิตร" ครับ
ผมจึงขอใช้ความหล่อเป็นประกันในเรื่อง ๆ หนึ่ง ดังนี้
ผมขอยืนยัน กล้ายืนยันครับ ว่า "น้ำมิตร" นั้น ไม่ใช่พวกใคร
(แต่จะมีการพยายามดึงไปเป็นพวกไหม ผมเชื่อเกินพันเปอร์เซนต์ว่ามีการพยายามแน่
พวกไหนพยายามดึง คงไม่ต้องสาธยาย แต่ไม่สำเร็จหรอก)
"น้ำมิตร" จะแสดงความเห็นตามสิ่งที่เห็น และตามสิ่งที่คิด
และไม่เคยบอกว่า สิ่งที่เห็น สิ่งที่คิด และแสดงความเห็นออกมานั้นถูกต้องไปหมด ไม่มีผิด
ผิด น้ำมิตรก็ยอมรับครับ ไม่ตะแบงแน่นอน
สิ่งที่น้ำมิตรแสดงความเห็นออกมา เป็นเรื่องราวในบอร์ดที่น้ำมิตรเห็น อ่าน คิด พิจารณา แล้วแสดงความเห็น
ไม่ใช่การโพสต์ด้วยการอิงพวก เข้าข้างเพื่อน เลือกข้าง
ผมรับประกันครับ อย่าไปเข้าใจผิดคิดว่าน้ำมิตรเป็นพวกใคร ฝ่ายไหน
โดยเฉพาะนายเกียน
แม้ผมจะไม่เคยเจอน้ำมิตร แต่ด้วยการที่ได้รู้จักกันทางบอร์ดแห่งนี้มานาน นานหลายปี ตั้งแต่ปี 52
รู้นิสัยใจคอผ่านตัวอักษรมานาน คุยหลังไมค์กันบ้างมานาน น้ำมิตรเป็นเพื่อนที่ให้เกียรติเพื่อนเสมอ ไม่เลือกคน
เป็นคนไม่เชื่อใครง่าย ๆ อย่างไร้เหตุผล ขาดหลักฐาน เป็นคนใช้เหตุผลในการแสดงความเห็น
ขอรับประกันครับ วา่ไม่ใช่พวกใคร
(ผู้หญิงแบบนี้ น่าจะสวยนะ แต่โบราณว่า ผู้หญิงสวยมักไม่ฉลาด ฉลาด ๆ แบบน้ำมิตรนี่ จึงน่าสงสัย ว่าจะสวยไหม
เข้าเรื่อง
2 ประเด็นนะครับ
ประเด็นแรก เรื่องโม้ สมราคาคุยหรือไม่
น้ำมิตรครับ คนอย่างผมไม่เคยคุยอะไรเกินเลย จะโม้ก็เรื่องเดียว คือเรื่องความหล่อ
ซึ่งเรื่องนี้ สมราคาคุยแน่ครับ
จากทู้ https://pantip.com/topic/37121762
ผมพาดพิงถึงพี่โบกกรัก โม้ว่าผมหล่อ
พี่โบกกรักยืนยันทันที
หลักฐานชัดนะครับ ว่า สมราคาคุย
ประเด็น 2 เรื่องอยู่ในเหตุการณ์หรือไม่
น้ำมิตรครับ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์สงครามเก้าทัพครับ
แต่ผมก็รู้เหตุการณ์
ผมไม่ได้เกิดในยุคสุโขทัยครับ
ผมไม่ได้ร่วมรบกับพระเจ้าตากครับ
นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ในทางสังคมศาสตร์นั้น จะมีหลักยืนยันเรื่องราวและเหตุการณ์อยู่ 2 หลักครับ
คือ หลักฐานหลัก และ หลักฐานรอง
ผมไม่เชื่อใครง่าย ๆ หรอกครับ ต่อให้พูดกันต่อหน้าก็ตาม
ทุกเรื่อง ผมจะ recheck (คนละความหมายกับ เชคเด้งนะครับ
ค้นหา ถามหาหลักฐาน หากเข้ากันได้กับคำพูด คำบอกเล่า
ผมจึงจะเชื่อ
เช่น
หากเป็นเรื่องเงิน ก็ว่ามีหลักฐานการโอนไหม
หากเป็นเรื่องคำพูด ก็สังเกตจากปฏิกิริยา สังเกตผลสะท้อน
สังเกตคำพูดในเรื่องนั้น ๆ ว่า เมื่อพูดซ้ำ หรือซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หลายสถานการณ์
จะตรงกันหรือไม่ ฯลฯ
เมื่อนั้นแหละครับ จึงให้ "น้ำหนัก"
ผมไม่เชื่อใครง่าย่ ๆ หรอกครับ ป้าสาวเหลือน้อยเป็นผู้อาวุโสที่ผมเคารพ ผมยังไม่เชื่อ
มาบอกว่าผมไม่หล่อ เชื่อได้ไง
ยืนยันครับ ผมไม่เชื่อใครง่าย ๆ
ยกเว้น เมีย เพราะหากไม่เชื่อ โดนตบ
โอเคนะครับ
พักหล่อ เย็น ๆ ค่ำ ๆ อีกที