เรื่องแรก  เรื่อง 
"คุณตัว"
ระยะนี้มีคำพูดเขรอะบอร์ดบ่อย ๆ ว่า  ถ้ามีใครโดนเรียกว่า "
คุณตัว" จะรู้สึกอย่างไร ?
เพื่อโยงถึงกรณี คุณโบกกรัก  เรียก  ตัวแก้มป่อง  ว่า "
คุณตัว"
เพื่อบอกว่า  ตัวกลมแก้มป่องโดนหยามหมิ่นขนาดนี้  จะว่ายังไง  เห็นไหมว่า เธอถูกกระทำแค่ไหน
ก็เลยอยากย้อนความหลังเรื่องนี้สักนิดครับ
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อสองสามปีมาแล้วมั้ง   ช่วงนั้นมีวิวาทะกันระหว่างคุณโบกกรัก กับ ตัวกลมแก้มป่อง
เถียงกันไปถกกันมา   ตัวกลมแก้มป่องก็เรียกคุณโบกกรัก สั้น ๆ ว่า  
นายโบก
คุณโบกกรักก็เลยเกิดอาการของขึ้น   อัดกลับมั่งว่า  ถ้าเรียกผมว่าโบก  งั้นผมเรียกคุณกลับบ้างว่า 
คุณตัว
เลยกลายมาเป็นเหตุให้นำมาอ้างกันในขณะนี้แหละครับว่า  คุณโบกกรักดูหมิ่นตัวกลม   ตัวกลมถูกกระทำ
ความจริงโดนตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ ตอนเรียกกันว่า  โบก   เรียกกันว่า  คุณตัว
แต่คงเพราะคุณโบกกรักเถียงไม่เก่ง  พอโดนบอกว่าใช้คำหยามหมิ่น  เลยเถียงไม่คล่อง
ถ้าเป็นผมล่ะก็   ไม่มีทางครับ  สนุก
เพราะหากใครมาเรียกผมก่อนว่านายโบก  แบบทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับการให้เกียรติตามที่ควรเป็น
ผมก็จะเรียกคน ๆ นั้นคืนด้วยชื่อต้นเหมือนกัน   ส่วนมันจะสื่อไปถึงอะไร  ช่วยไม่ได้ว่ะ
ก็เอ็งหาเรื่องเองนี่หว่า
ประเด็นที่อยากสื่อก็คือ   จริงหรือที่คุณโบกกรัก  มีเจตนาจะหยามหมิ่นตัวกลมแก้มป่อง ?
หรือแค่บังเอิญว่า  ก็ตัวกลมแก้มป่องเรียกคุณโบกกรักสั้น ๆ  แบบไม่ให้เกียรติ  
คุณโบกกรักก็เรียกตัวกลมแก้มป่องสั้น ๆ คืน  แล้วมันดันไปพ้องคำ
อันทำให้ตัวกลมแก้มป่องเห็นว่า  การเรียกกันอย่างไม่ให้เกียรตินั้น  มันไม่เหมาะไม่ควรอย่างไร
เรียกคนอื่นแบบไม่ให้เกียรติ  พอโดนบ้าง (และพ้องคำเสียหาย)  คนอื่นจะทำไม่ได้ยังงั้นเหรอ ?
ตัวกลมแก้มป่องถูกกระทำ  หรือต้ัวกลมแก้มป่องกระทำตัวเอง ?
แต่อย่างผมนี่   ฉายา "
หล่อขวัญ"   ใครจะเรียกผมให้ตายว่า  "
หล่อ"   ผมก็ไม่ถือครับ
อีกเรื่อง   คือเรื่องประเพณีหยุดยาวห้าวัน  อันมีผลพวงมาจากการเมืองเรื่องใส่ร้าย
อย่างที่ทราบกันครับ  ว่า ครม.ประยุทธ์มีมติให้วันศุกร์ที่ 2 มกราคา 2558  เป็นวันหยุด
ทำให้คนไทยเรามีวันหยุดยาวห้าวัน   คือนับตั้งแต่พุธที่ 31 ธันวาคม - อาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2558
ไม่แค่ปีนี้หรอกครับ  ปี 2551 ต่อ 2552   เราก็ได้หยุดยาวห้าวันแบบนี้มาแล้ว
ไม่ใช่แค่ช่วงปีใหม่หรอกครับ  ช่วงอื่น ๆ ไม่ว่าสงกรานต์ หรือช่วงวันนักขัตฤกษ์ที่มีวันทำการคั่นหนึ่งวันนี่
เราก็ได้หยุดยาวต่อเนื่องกันไป   ด้วยเหตุผลให้ประชาชนได้ท่องเที่ยว  กระตุ้นเศรษฐกิจ
มันคือผลพวงจากการเมืองเรื่องใส่ร้ายกันครับ
ปี 2546  ครม.ทักษิณ  มีมติให้พุธ 31 ธันวาคม  เป็นวันทำการ  แล้วให้วันศุกร์ที่ 2 มกราคม 2547  เป็นวันหยุดแทน
ด้วยเหตุว่า  ตอนนั้นประเทศไทยเราเห็นว่า  การหยุดยาวเกินไป  ทำให้บ้านเมืองหยุดชะงัก
ึจึงมักไม่ให้หยุดยาวเกินสี่วัน
หากให้ 2 มกราคม 2547  เป็นวันทำการปกติ  มันก็ขัด ๆ     หากจะให้หยุดต่อเนื่องห้าวัน  ก็ขัด ๆ
เลยออกมาในแนว  ให้ 31 ธ.ค. 46  ทำการ   หยุด 2 ม.ค. 47  แทน
เรื่องมันเท่านี้
แต่เพราะตอนนั้น (2549)  ม็อบในดวงใจของห่านป่า  เอ๊ย ไม่ใช่สิ  ตอนนี้ม็อบในดวงใจของห่านป่าอยู่ที่ฮ่องกงโน่น
ตอนนั้น  ม็อบพันธมิตรกำลังฮิต  แป๊ะลิ้มกำลังดัง  พูดอะไรสาวกก็เชื่อหมด
พอแป๊ะลิ้มบอกว่า  ทักษิณให้ 31 ธ.ค. หยุด  เพื่อจะได้โอนที่ดินรัชดาได้ทันก่อนสิ้นปี 46
ก่อนที่ภาษีการโอนที่ดินในปี 47  จะปรับอัตรา   สาวกลิ้มก็เชื่อกัน  และเชื่อจนถึงวันนี้
เชื่อกันตั้งแต่ระดับกาก ๆ   จนถึงระดับด๊อกเตอร์ที่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
ไม่น่าเชื่อครับ  ว่าเวลาผ่านหลายปี   คดีที่ดินรัชดาก็สิ้นสุดไปแล้ว
แต่สาวกแป๊ะกลุ่มนี้ก็ยังฝังใจเชื่อกันอยู่แบบไม่ลืมหูลืมตา  ไม่สืบค้นข้อมูล  ไม่รับฟังข้อเท็จจริงใด ๆ
นี่แหละครับ   จึงเป็นที่มาว่า  ประเทศไทยต้องมีหยุดยาวต่อเนื่องห้าวันตลอดมา
เพราะหากทำอย่างทักษิณทำ  ทักษิณก็จะเป็นฝ่ายถูก   
คิด ๆ แล้วก็สนุกดีครับ   นี่แหละการเมืองแบบไทย ๆ   ใครทำอะไรดี ๆ ไว้ก่อน  หากทำตามกันก็ไม่อยากทำ
ยิ่งหากทำแล้วทำให้คนเก่าได้หน้า  ได้บอกข้อเท็จจริงอันเคยทำร้ายกัน  ยิ่งไม่ทำ
เมื่อย  จบ
แก้ไขนิดครับ   หัวทู้ผิด
ที่ถูกคือ  
วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2546
																																	  
							 
						
ย้อนมองอดีตสองเรื่อง เรื่องคำว่า "คุณตัว" กับเรื่องมติ ครม.ทักษิณ ให้วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2546 เป็นวันทำการ
ระยะนี้มีคำพูดเขรอะบอร์ดบ่อย ๆ ว่า ถ้ามีใครโดนเรียกว่า "คุณตัว" จะรู้สึกอย่างไร ?
เพื่อโยงถึงกรณี คุณโบกกรัก เรียก ตัวแก้มป่อง ว่า "คุณตัว"
เพื่อบอกว่า ตัวกลมแก้มป่องโดนหยามหมิ่นขนาดนี้ จะว่ายังไง เห็นไหมว่า เธอถูกกระทำแค่ไหน
ก็เลยอยากย้อนความหลังเรื่องนี้สักนิดครับ
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อสองสามปีมาแล้วมั้ง ช่วงนั้นมีวิวาทะกันระหว่างคุณโบกกรัก กับ ตัวกลมแก้มป่อง
เถียงกันไปถกกันมา ตัวกลมแก้มป่องก็เรียกคุณโบกกรัก สั้น ๆ ว่า นายโบก
คุณโบกกรักก็เลยเกิดอาการของขึ้น อัดกลับมั่งว่า ถ้าเรียกผมว่าโบก งั้นผมเรียกคุณกลับบ้างว่า คุณตัว
เลยกลายมาเป็นเหตุให้นำมาอ้างกันในขณะนี้แหละครับว่า คุณโบกกรักดูหมิ่นตัวกลม ตัวกลมถูกกระทำ
ความจริงโดนตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ ตอนเรียกกันว่า โบก เรียกกันว่า คุณตัว
แต่คงเพราะคุณโบกกรักเถียงไม่เก่ง พอโดนบอกว่าใช้คำหยามหมิ่น เลยเถียงไม่คล่อง
ถ้าเป็นผมล่ะก็ ไม่มีทางครับ สนุก
เพราะหากใครมาเรียกผมก่อนว่านายโบก แบบทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ได้รับการให้เกียรติตามที่ควรเป็น
ผมก็จะเรียกคน ๆ นั้นคืนด้วยชื่อต้นเหมือนกัน ส่วนมันจะสื่อไปถึงอะไร ช่วยไม่ได้ว่ะ
ก็เอ็งหาเรื่องเองนี่หว่า
ประเด็นที่อยากสื่อก็คือ จริงหรือที่คุณโบกกรัก มีเจตนาจะหยามหมิ่นตัวกลมแก้มป่อง ?
หรือแค่บังเอิญว่า ก็ตัวกลมแก้มป่องเรียกคุณโบกกรักสั้น ๆ แบบไม่ให้เกียรติ
คุณโบกกรักก็เรียกตัวกลมแก้มป่องสั้น ๆ คืน แล้วมันดันไปพ้องคำ
อันทำให้ตัวกลมแก้มป่องเห็นว่า การเรียกกันอย่างไม่ให้เกียรตินั้น มันไม่เหมาะไม่ควรอย่างไร
เรียกคนอื่นแบบไม่ให้เกียรติ พอโดนบ้าง (และพ้องคำเสียหาย) คนอื่นจะทำไม่ได้ยังงั้นเหรอ ?
ตัวกลมแก้มป่องถูกกระทำ หรือต้ัวกลมแก้มป่องกระทำตัวเอง ?
แต่อย่างผมนี่ ฉายา "หล่อขวัญ" ใครจะเรียกผมให้ตายว่า "หล่อ" ผมก็ไม่ถือครับ
อีกเรื่อง คือเรื่องประเพณีหยุดยาวห้าวัน อันมีผลพวงมาจากการเมืองเรื่องใส่ร้าย
อย่างที่ทราบกันครับ ว่า ครม.ประยุทธ์มีมติให้วันศุกร์ที่ 2 มกราคา 2558 เป็นวันหยุด
ทำให้คนไทยเรามีวันหยุดยาวห้าวัน คือนับตั้งแต่พุธที่ 31 ธันวาคม - อาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2558
ไม่แค่ปีนี้หรอกครับ ปี 2551 ต่อ 2552 เราก็ได้หยุดยาวห้าวันแบบนี้มาแล้ว
ไม่ใช่แค่ช่วงปีใหม่หรอกครับ ช่วงอื่น ๆ ไม่ว่าสงกรานต์ หรือช่วงวันนักขัตฤกษ์ที่มีวันทำการคั่นหนึ่งวันนี่
เราก็ได้หยุดยาวต่อเนื่องกันไป ด้วยเหตุผลให้ประชาชนได้ท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
มันคือผลพวงจากการเมืองเรื่องใส่ร้ายกันครับ
ปี 2546 ครม.ทักษิณ มีมติให้พุธ 31 ธันวาคม เป็นวันทำการ แล้วให้วันศุกร์ที่ 2 มกราคม 2547 เป็นวันหยุดแทน
ด้วยเหตุว่า ตอนนั้นประเทศไทยเราเห็นว่า การหยุดยาวเกินไป ทำให้บ้านเมืองหยุดชะงัก
ึจึงมักไม่ให้หยุดยาวเกินสี่วัน
หากให้ 2 มกราคม 2547 เป็นวันทำการปกติ มันก็ขัด ๆ หากจะให้หยุดต่อเนื่องห้าวัน ก็ขัด ๆ
เลยออกมาในแนว ให้ 31 ธ.ค. 46 ทำการ หยุด 2 ม.ค. 47 แทน
เรื่องมันเท่านี้
แต่เพราะตอนนั้น (2549) ม็อบในดวงใจของห่านป่า เอ๊ย ไม่ใช่สิ ตอนนี้ม็อบในดวงใจของห่านป่าอยู่ที่ฮ่องกงโน่น
ตอนนั้น ม็อบพันธมิตรกำลังฮิต แป๊ะลิ้มกำลังดัง พูดอะไรสาวกก็เชื่อหมด
พอแป๊ะลิ้มบอกว่า ทักษิณให้ 31 ธ.ค. หยุด เพื่อจะได้โอนที่ดินรัชดาได้ทันก่อนสิ้นปี 46
ก่อนที่ภาษีการโอนที่ดินในปี 47 จะปรับอัตรา สาวกลิ้มก็เชื่อกัน และเชื่อจนถึงวันนี้
เชื่อกันตั้งแต่ระดับกาก ๆ จนถึงระดับด๊อกเตอร์ที่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
ไม่น่าเชื่อครับ ว่าเวลาผ่านหลายปี คดีที่ดินรัชดาก็สิ้นสุดไปแล้ว
แต่สาวกแป๊ะกลุ่มนี้ก็ยังฝังใจเชื่อกันอยู่แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่สืบค้นข้อมูล ไม่รับฟังข้อเท็จจริงใด ๆ
นี่แหละครับ จึงเป็นที่มาว่า ประเทศไทยต้องมีหยุดยาวต่อเนื่องห้าวันตลอดมา
เพราะหากทำอย่างทักษิณทำ ทักษิณก็จะเป็นฝ่ายถูก
คิด ๆ แล้วก็สนุกดีครับ นี่แหละการเมืองแบบไทย ๆ ใครทำอะไรดี ๆ ไว้ก่อน หากทำตามกันก็ไม่อยากทำ
ยิ่งหากทำแล้วทำให้คนเก่าได้หน้า ได้บอกข้อเท็จจริงอันเคยทำร้ายกัน ยิ่งไม่ทำ
เมื่อย จบ
แก้ไขนิดครับ หัวทู้ผิด
ที่ถูกคือ วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2546