ขี่แล้วมาเล่า EP-2 กับ Honda CB150R ABS
ไม่ให้เสียเวลาเรามาดูภาพรวมกันก่อนนะครับ Honda CB150R คันที่ผมได้มาขี่นี้ผมเลือกสีเทา ครับจากสีทั้งหมด 4สี คือ สีดำเงา, สีแดงเงา, สีเขียวด้าน และสีเทาเงา เพราะส่วนตัวคิดว่ามันเข้ากับตัวรถที่ถูกออกแบบมาแนวๆ คลาสสิคร่วมสมัย ไฟหน้าทรงกลม, ไฟท้าย คล้ายๆ รถรุ่นเก่าบางรุ่นในอดีต, ไฟเลี้ยวเล่นเหลี่ยมมุม ทุกหลอดเป็นหลอด LED สว่างมาก ช่วยเรื่องเพิ่มความปลอดภัยได้ดีครับ, เบาะนั่งออกแบบเป็นสองตอนแยกชิ้น ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตนิดๆ, ชุดพลาสติกต่างๆรอบคันนั้นออกแบบให้มีมุมเหลี่ยมผสมมุมโค้งได้ลงตัว

โดดเด่นสุดคงไม่พ้นโช้คหน้าขนาดใหญ่สีทอง ของ Showa ที่ใหญ่ถึง 41มิลลิเมตร สวยมากดูแพง ทำให้ช่วงหน้าของรถดูเต็มดูแน่นขึ้นเป็นกอง, ชุดปั้มเบรคล่างด้านหน้าแบบรถขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า เรเดียลเมาท์ ของ Nissin 4ลูกสูบ เฟี้ยวสุดจริงๆสำหรับรถพิกัดนี้ประสิทธิภาพไม่ต้องถามครับมันดีแน่นอนอยู่แล้ว, ล้อแม็กซ์ลายสวยรัดด้วยยาง Dunlop Sport Max GPR-300 ขนาด 110/70 R17 ในล้อหน้า และ 150/60 R17 ในล้อหลัง ลายดอกยางก็สวยครับ
สวิงอาร์มหลังก็เด่นไม่แพ้กันเป็นเหล็กน้ำหนักเบาขึ้นรูปทรงสามเหลี่ยม แบบรถขนาดใหญ่ดูดี, บังโคลนหลังย้าวยาวจนหลายๆคนงงว่าทำไมยาวขนาดนี้มันคือการออกแบบแนวสปอร์ตหรือรถรุ่นใหม่ๆในปัจจุบัน, กระจกมองหลังรูปทรงสวยดีมองเห็นชัดเจน และก้านไม่สูงเหมือนรถหลายๆรุ่น, พักเท้าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นแบบไม่มียางหุ้มแกะร่องทรงสปอร์ตมาเลย จะโดนจับไหม 5555
เฟรมหลักของตัวรถเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเพราะเป็นโครงสร้างน้ำหนักเบาที่เราๆเรียกกันว่า เฟรมถัก หรือ ทูปเฟรม ก็ได้ครับคือใช้ท่อเหล็กทรงกลมหรือทรงรี มาเชื่อมต่อกันเป็นโครงตัวถังหลักของรถ เราจะเห็นได้จากรถทางฝั่งตะวันตกมาก่อน แต่ในระยะหลังมานี้รถทางฝั่งตะวันออกก็เริ่มทำออกมาแล้วครับ ได้ประโยชน์ในเรื่องขนาดที่กะทัดรัดกว่า น้ำหนักเบากว่า แข็งแรงเพียงพอในการจะอุ้มหรือแบกรับเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆของตัวรถไว้ได้ครับ
เรือนไมล์ที่ให้มาสุดล้ำสมัย แบบ Digital Full LCD แสดงการทำงาน การวัดค่า ต่างๆไว้อย่างครบครัน ที่แหวกแนวกว่าชาวบ้านเค้าคงเป็นไฟเตือนรอบการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ ที่เราเรียกกันว่า Shift Light นั่นเองครับผม อ่อเกือบลืมครับ อีกอันที่ชอบคือ แฮนด์บาร์แบบอ้วนและเตี้ย ที่เราๆเรียกกัน Fat Bar ครับ มีขนาดใหญ่ทำให้ช่วงบนนั้นดูเต็มแน่นดีครับ

คราวนี้เรามาเริ่มขี่กันครับ ก่อนอื่นต้องดูดอกกุญแจกันก่อน ซึ่งดูดีครับ ใหญ่ดูแข็งแรง แต่รถให้ของมาขนาดนี้กุญแจน่าจะให้สุดมาเลย คือกุญแจอัจฉริยะ หรือ Smart Key ที่เราจะเห็นได้ในรถรุ่นใหม่ๆอย่าง Honda PCX หรือรุ่นใหญ่อย่าง Honda X-ADV ครับรับรองคนกรี้ดแน่นอนหวังว่าในโฉมใหม่น่าจะมีมาให้เนอะ พอขึ้นคร่อมเท่านั่นแหระ เขย่งจ้า เขย่งอีกแร้วไม่คิดว่ารถขนาด 150cc.จะต้องเขย่งขนาดนี้ ทั้งที่ดูจากสเปคแล้วความสูงจากพื้นถึงเบาะไม่ถึง 800มิล.ด้วยซ้ำ ผมสูง 169เซนติเมตร โดยประมาณ ทำไมเจ้านี้ถึงเขย่งเหมือนคร่อม รถที่เบาะสูงเกินกว่า 820มิล.อีก น่าจะเพราะตัวเบาะกว้างครับเท่าที่สังเกตดูดีๆ ทำให้ต้องระวังกันหน่อย ยังดีที่รถมีน้ำหนักเบาเวลาเป๋ๆยังพอคุมกลับมาได้ง่าย
แฮนด์บาร์ที่จับแล้วรู้สึกว่ามันจะกว้างมาก แต่พอวัดจริงๆก็ไม่ต่างจากค่ายอื่นเท่าไหร่ ไม่กี่มิล.เท่านั้นครับ คงเพราะมันเป็นแฮนด์อ้วน เลยดูเต็มมากกว่า ตำแหน่งชุดพักเท้าวางในลักษณะที่คล้ายๆรถสปอร์ตนิดๆครับ ทั้งคนขี่และคนซ้อน คือขาจะงอค่อนข้างมากกว่ารถทรงคลาสสิคทั่วๆไป แต่รวมๆผมชอบตำแหน่งท่านั่งแบบนี้นะมันกระชับและพร้อมสำหรับการขับขี่มากกว่า
หลังจากที่ได้ลองขับได้นิดเดียวผมก็ต้องจัดการปรับบางอย่าง นั่นก็คือระยะของคลัชกับระยะฟรีคันเร่งครับ คลัชมันปล่อยใกล้นิ้วเกินไปปกติผมกำคลัช2นิ้ว มันติดนิ้วครับ เลยต้องปรับให้ปล่อยมากกว่าเดิมที่ตั้งมาจากโรงงาน ดีขึ้นเยอะส่วนระยะฟรีคันเร่งผมตั้งให้ตึงสุดเท่าที่จะตั้งได้ เพราะชินกับการบิดคันเร่งนิดเดียวเครื่องก็ทำงานครับ มันช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองเราได้เร็วกว่า อ่อมีอีกอย่างครับคือผม ปรับองศาของแฮนด์บาร์ใหม่โดยหมุนมันขึ้นไปทางด้านหน้าอีกเล็กน้อย เพื่อกดมุมของก้านเบรก และก้านคลัชให้เอียงต่ำลงไปในด้านหน้า มันจะรองรับกับข้อมือและแขนได้พอดิบพอดีครับ

การขับขี่แบบที่หนึ่ง คือใช้งานบนถนนทั่วๆไปในเมืองนะครับ รถมีกำลังต้นดีมากครับ รอบมาไวเปลี่ยนเกียร์บ่อยหน่อยคนชอบเล่นจะสนุกโดยเฉพาะเวลาเร่งแซง ลากรอบจนไฟ Shift Light เตือน มันให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตจริงๆ ของผมจะตั้งเตือนไว้เมื่อเครื่องยนต์ทำงานที่ 8500รอบ/นาที เกียร์ก็เปลี่ยนง่ายครับ ไม่ยากเหมือนตัวเก่าเท่าที่ได้ลองและฟังจากคนที่เค้าเคยขี่มา, ตัวรถเบาวงเลี้ยวแคบดี การจะซิกแซกเวลารถติดๆทำได้สบายมาก ให้ความคล่องตัว
ต้องระวังเรื่องกระจกมองหลังจะไปตีกับกระจกรถเพราะถึงจะเตี้ยกว่าหลายๆรุ่นแต่ก็ยังกว้างอยู่ครับกระจก มองเห็นด้านหลังได้กว้างและชัดเจนมากแม้ขณะขับขี่ เพราะตัวกระจกไม่สั่นจนเบลอมองอะไรไม่เห็นเหมือนรถหลายๆรุ่น แฮนด์บาร์ที่กว้างช่วยเรื่องการควบคุมรถได้ดี เพราะแขนจะกางออกกว้างช่วยในการสร้างแรกและส่งแรงเพื่อควบคุมได้ดีกว่าแฮนด์แบบแคบๆเหมือนเราขี่รถวิบากล่ะครับที่แฮนด์ต้องกว้าง และถ้าเปลี่ยนตุ้มปลายแฮนด์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือหนักขึ้นได้จะช่วยได้ดีขึ้นไปอีกเรื่องความนิ่ง
ระบบช่วงล่างหน้าผมว่ามันมีความหนืดดีครับตึงๆผมเทียบความรู้สึกจากคันใหญ่ของตัวเองด้วยนะครับ ให้ความรู้สึกมั่นใจเวลาขับขี่ บนถนนทั่วไป จะเห็นชัดหน่อยตอนขึ้นหรือลงสะพานที่มีความเร็ว หรือผ่านทางขรุขระจะรู้สึกได้ว่าสะเทือนมากขึ้น เพราะโช้คมีความหนืดและแข็ง ตามคุณสมบัติของตัวมันเองที่มีขนาดใหญ่ ปริมาณน้ำมันที่มากกว่า ขนาดสปริงที่ใหญ่กว่า แข็งกว่า ส่งผลทั้งหมดครับ ส่วนด้านหลังจะรู้สึกว่านิ่มไปหน่อยโดยเฉพาะตอนไปเทียบกับรถค่ายอื่นในระดับเดียวกันแบบจับกดหรือโยกรถ แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปที่กำลังเครื่องขนาดนี้จะทำได้ครับ ถ้ามันปรับระดับแข็งอ่อนของสปริงหรือความหนืดได้จะเด็ดดวงมาก

ระบบเบรกทำงานได้ดีมากครับตามที่เค้าให้มาทั้ง ABS / G-Sensor ที่ทำงานร่วมกัน ทางบริษัทแจ้งว่าช่วยไม่ให้ล้อล็อค กระจายแรงเบรก และช่วยกันไม่ให้รถยกล้อหลังเวลาเบรกหน้ากะทันหันหรือรุนแรงเกินไป ซึ่งก็ช่วยได้จริงๆจากที่ได้ลองใช้น้ำหนักเยอะๆและรวดเร็วในการเบรก หลายๆครั้ง เห็นผลจริงๆครับ แต่ถ้าสภาพแวดล้อมเลวร้ายเกินกว่าที่ระบบเหล่านี้จะช่วยได้ก็มีโอกาสที่ทั้งล้อล็อค และล้อหลังยกได้เหมือนกันครับ
ระบบไฟส่องสว่างทั้งไฟหน้า ต่ำ-สูง, ไฟท้าย, ไฟเลี้ยว สว่างดีมากๆครับ นอกจากทำให้เราเห็นเส้นทางชัดเจนแล้ว คนอื่นๆก็ยังเห็นและสังเกตเราได้ง่ายขึ้นด้วย หลายๆครั้งตอนที่ขี่มุดฝ่ารถติดๆ รถคันหน้าผม เค้าหลบทางให้อยู่หลายครั้ง อาจจะคิดว่าเราเป็นรถใหญ่ก็ได้ เพราะไฟหน้าสว่างจริงโดยเฉพาะไฟสูงแยงตาแทบบอด ที่ชอบมากคือมีปุ่มไฟขอทางมาให้ด้วย หรือ Passing Light ใช้งานได้ดีเมื่อเราต้องการขอทางคนอื่นเพื่อไปก่อนหรือแจ้งให้รู้ว่าเรามาเร็ว เสียดายที่ไม่มีไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมากมาให้ด้วย เพราะมันสำคัญช่วยเรื่องความปลอดภัยได้อีกระดับจริงๆ คาดหวังให้มีในรุ่นถัดไปครับ

สำหรับการขับขี่แบบที่สอง ที่จะทำให้เราเห็นถึงสมรรถนะของรถนั้น การขับขี่ในสถานที่ปิด หรือตามสนามฝึกขับขี่โดยเฉพาะก็เป็นอะไรที่น่าจะต้องไปลอง ผมโชคดีได้โอกาสที่ไปร่วมเรียนหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยระดับแอดวานซ์ ของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สำโรง ผมขี่เจ้า Honda CB150R ABS คันนี้แทบทั้งวันในรูปแบบการฝึกที่ต่างกัน ทั้งการใช้อัตราเร่งของเครื่องยนต์ทั้งทางตรงและทางโค้ง, การใช้เกียร์ทั้งเพิ่มและลด ทั้งสนามผมใช้แค่ 1-2-3 ในช่วงวงเลี้ยวแคบๆหรือกลับรถ ผมใช้เกียร์2 รถยังมีกำลังเหลือพอจะไปต่อได้แบบนุ่มนวลครับ, การใช้เบรกทั้งหน้าและหลัง, การใช้คลัช, การบังคับเลี้ยวในหลากหลาย เราสามารถใช้ของเหล่านี้ได้ค่อนข้างเต็มกำลังเต็มประสิทธิภาพ เพราะในสนามมีความปลอดภัยสูงกว่าถนนหรือพื้นที่สาธารณะมาก ทำให้เราได้เห็นสมรรถนะของรถได้อย่างชัดเจนมากที่สุดครับ

สิ่งที่ผมประทับใจสุดคงเป็นเรื่องระบบเบรกที่ให้มามันใช้งานได้ดีจริงๆ สามารถหยุดรถได้ในระยะที่สั้นมาก ABS / G-Sensor ทำงานร่วมกันได้ดีมากจริงๆ แต่ถ้าจังหวะในการเบรกนั้นมันแรงและเร็วมากพอก็ทำให้ล้อหลังลอยได้ครับ ตามภาพที่บอกระยะยุบของโช้คหน้าที่ผมเบรกจนล้อหลังลอยขึ้นครับ ช่วงล่างที่ให้มาโชว์ความพลิ้วให้คนที่ร่วมเรียนด้วยกันเห็นชัดเจน อยากจะบอกทุกๆคนเลยว่า การอบรมหรือการเรียนขับขี่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่จำเป็นมากและดีมากๆจริงๆครับ อยากให้เรียนกันครับผม สามารถสอบถามไปที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ใกล้บ้านได้เลยครับผม
และสุดท้ายนี้ผมเอาเจ้า Honda CB150R ABS คันนี้ไปขี่ที่ลานฝึกขับขี่ปลอดภัยชมรม RC Club ที่มีรูปแบบการฝึกต่างจากทั่วๆไป
พอเริ่มลงลานฝึกรถมันเบามากจังหวะพลิกรถสะบัดแทบปลิว เพราะผมคุ้นกับการฝึกด้วยรถคันใหญ่น้ำหนักมาก ต้องค่อยๆปรับ การเปิดปิดคันเร่ง ทำได้ลำบากในเกียร์2 เพราะรอบสูงมากในความเร็วต่ำเลยต้องลองปรับเป็นเกียร์3 กลับได้ผลดีกว่าเยอะ มันราบรื่นกว่า คุมได้ง่ายกว่า และยังมีเอ็นจิ้นเบรก ให้เพื่อชะลอความเร็วรถได้
ยางติดรถเห็นผลมากในการฝึกแบบนี้ ผมขี่วนอยู่ ซักพัก พอเริ่มคุ้นมือเริ่มเอียงรถมากขึ้นเลี้ยวได้ไวขึ้นเรื่อยๆ จนใช้ได้หมดหน้ายางเลยหรือหมดขอบนั่นเอง แม้ในความเร็วต่ำ วงเลี้ยวแคบๆ ก็สามารถผ่านไปได้สบายๆครับ ช่วงล่างต้องบอกว่ารองรับการขับขี่ได้สบายๆครับ ถึงจะใช้ความเร็วต่ำแต่ในจังหวะที่มีการเลี้ยวการแบนการสะบัดรถนั้น แรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นไม่เบานะครับ

โดยสรุปแล้ว Honda CB150R ราคาไม่ถูกแต่ไม่ใช่แพงนะ เพราะของที่ได้รับมามันคุ้มค่าตัวมากๆ แม้บางอยางจะขาดๆไปบ้าง แต่หวังว่าทางฮอนด้า จะจัดมาให้ในรุ่นถัดไป สมรรถนะที่ได้ถือว่าดี ขี่ได้ทั่วในเมือง นอกเมือง ทั้งใกล้และไกล รูปลักษณ์โดดเด่นสวยงามขี่หล่อๆ อวดไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ขี่ไปไหนต้องมีคนมองล่ะ ถ้ามีกำลังซื้อก็นับเป็นตัวเลือกแรกๆที่ห้ามมองข้ามครับ

ขอบคุณทุกๆคนที่สละเวลาอ่านเรื่องเล่านี้จนจบครับ หากบกพร่องประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ ทั้งหมดมาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆครับ และหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนที่อ่านบ้างไม่มากก็น้อยครับ ไว้มีโอกาสได้ขี่อะไรแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังกันอีกครับผม
สามารถดูข้อมูลทางเทคนิคต่างๆของ Honda CB150R ทุกรุ่นย่อยได้จากที่นี่ครับผม
https://www.aphonda.co.th/honda2017/en/products/sport/56
ขอบคุณรถจักรยานยนต์ Honda CB150R ABS :
https://www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/
ขอบคุณหมวกนิรภัยจาก Vemar Thailand :
https://www.facebook.com/Vemarthailand/
ขอบคุณร้าน Koala Riders :
https://www.facebook.com/koalarider/
ขอบคุณชมรมฝึกขับขี่ปลอดภัย RC Club :
https://www.facebook.com/RC-Club-287004661469743/
#Honda
#HondaMotorcycleThailand
#HondaCB150R
#RCClub
#VemarThailand
#KoalaRider
[SR] ขี่แล้วมาเล่า EP-2 กับ Honda CB150R ABS
ไม่ให้เสียเวลาเรามาดูภาพรวมกันก่อนนะครับ Honda CB150R คันที่ผมได้มาขี่นี้ผมเลือกสีเทา ครับจากสีทั้งหมด 4สี คือ สีดำเงา, สีแดงเงา, สีเขียวด้าน และสีเทาเงา เพราะส่วนตัวคิดว่ามันเข้ากับตัวรถที่ถูกออกแบบมาแนวๆ คลาสสิคร่วมสมัย ไฟหน้าทรงกลม, ไฟท้าย คล้ายๆ รถรุ่นเก่าบางรุ่นในอดีต, ไฟเลี้ยวเล่นเหลี่ยมมุม ทุกหลอดเป็นหลอด LED สว่างมาก ช่วยเรื่องเพิ่มความปลอดภัยได้ดีครับ, เบาะนั่งออกแบบเป็นสองตอนแยกชิ้น ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตนิดๆ, ชุดพลาสติกต่างๆรอบคันนั้นออกแบบให้มีมุมเหลี่ยมผสมมุมโค้งได้ลงตัว
โดดเด่นสุดคงไม่พ้นโช้คหน้าขนาดใหญ่สีทอง ของ Showa ที่ใหญ่ถึง 41มิลลิเมตร สวยมากดูแพง ทำให้ช่วงหน้าของรถดูเต็มดูแน่นขึ้นเป็นกอง, ชุดปั้มเบรคล่างด้านหน้าแบบรถขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า เรเดียลเมาท์ ของ Nissin 4ลูกสูบ เฟี้ยวสุดจริงๆสำหรับรถพิกัดนี้ประสิทธิภาพไม่ต้องถามครับมันดีแน่นอนอยู่แล้ว, ล้อแม็กซ์ลายสวยรัดด้วยยาง Dunlop Sport Max GPR-300 ขนาด 110/70 R17 ในล้อหน้า และ 150/60 R17 ในล้อหลัง ลายดอกยางก็สวยครับ
สวิงอาร์มหลังก็เด่นไม่แพ้กันเป็นเหล็กน้ำหนักเบาขึ้นรูปทรงสามเหลี่ยม แบบรถขนาดใหญ่ดูดี, บังโคลนหลังย้าวยาวจนหลายๆคนงงว่าทำไมยาวขนาดนี้มันคือการออกแบบแนวสปอร์ตหรือรถรุ่นใหม่ๆในปัจจุบัน, กระจกมองหลังรูปทรงสวยดีมองเห็นชัดเจน และก้านไม่สูงเหมือนรถหลายๆรุ่น, พักเท้าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นแบบไม่มียางหุ้มแกะร่องทรงสปอร์ตมาเลย จะโดนจับไหม 5555
เฟรมหลักของตัวรถเป็นอีกจุดที่น่าสนใจเพราะเป็นโครงสร้างน้ำหนักเบาที่เราๆเรียกกันว่า เฟรมถัก หรือ ทูปเฟรม ก็ได้ครับคือใช้ท่อเหล็กทรงกลมหรือทรงรี มาเชื่อมต่อกันเป็นโครงตัวถังหลักของรถ เราจะเห็นได้จากรถทางฝั่งตะวันตกมาก่อน แต่ในระยะหลังมานี้รถทางฝั่งตะวันออกก็เริ่มทำออกมาแล้วครับ ได้ประโยชน์ในเรื่องขนาดที่กะทัดรัดกว่า น้ำหนักเบากว่า แข็งแรงเพียงพอในการจะอุ้มหรือแบกรับเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆของตัวรถไว้ได้ครับ
เรือนไมล์ที่ให้มาสุดล้ำสมัย แบบ Digital Full LCD แสดงการทำงาน การวัดค่า ต่างๆไว้อย่างครบครัน ที่แหวกแนวกว่าชาวบ้านเค้าคงเป็นไฟเตือนรอบการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ ที่เราเรียกกันว่า Shift Light นั่นเองครับผม อ่อเกือบลืมครับ อีกอันที่ชอบคือ แฮนด์บาร์แบบอ้วนและเตี้ย ที่เราๆเรียกกัน Fat Bar ครับ มีขนาดใหญ่ทำให้ช่วงบนนั้นดูเต็มแน่นดีครับ
คราวนี้เรามาเริ่มขี่กันครับ ก่อนอื่นต้องดูดอกกุญแจกันก่อน ซึ่งดูดีครับ ใหญ่ดูแข็งแรง แต่รถให้ของมาขนาดนี้กุญแจน่าจะให้สุดมาเลย คือกุญแจอัจฉริยะ หรือ Smart Key ที่เราจะเห็นได้ในรถรุ่นใหม่ๆอย่าง Honda PCX หรือรุ่นใหญ่อย่าง Honda X-ADV ครับรับรองคนกรี้ดแน่นอนหวังว่าในโฉมใหม่น่าจะมีมาให้เนอะ พอขึ้นคร่อมเท่านั่นแหระ เขย่งจ้า เขย่งอีกแร้วไม่คิดว่ารถขนาด 150cc.จะต้องเขย่งขนาดนี้ ทั้งที่ดูจากสเปคแล้วความสูงจากพื้นถึงเบาะไม่ถึง 800มิล.ด้วยซ้ำ ผมสูง 169เซนติเมตร โดยประมาณ ทำไมเจ้านี้ถึงเขย่งเหมือนคร่อม รถที่เบาะสูงเกินกว่า 820มิล.อีก น่าจะเพราะตัวเบาะกว้างครับเท่าที่สังเกตดูดีๆ ทำให้ต้องระวังกันหน่อย ยังดีที่รถมีน้ำหนักเบาเวลาเป๋ๆยังพอคุมกลับมาได้ง่าย
แฮนด์บาร์ที่จับแล้วรู้สึกว่ามันจะกว้างมาก แต่พอวัดจริงๆก็ไม่ต่างจากค่ายอื่นเท่าไหร่ ไม่กี่มิล.เท่านั้นครับ คงเพราะมันเป็นแฮนด์อ้วน เลยดูเต็มมากกว่า ตำแหน่งชุดพักเท้าวางในลักษณะที่คล้ายๆรถสปอร์ตนิดๆครับ ทั้งคนขี่และคนซ้อน คือขาจะงอค่อนข้างมากกว่ารถทรงคลาสสิคทั่วๆไป แต่รวมๆผมชอบตำแหน่งท่านั่งแบบนี้นะมันกระชับและพร้อมสำหรับการขับขี่มากกว่า
หลังจากที่ได้ลองขับได้นิดเดียวผมก็ต้องจัดการปรับบางอย่าง นั่นก็คือระยะของคลัชกับระยะฟรีคันเร่งครับ คลัชมันปล่อยใกล้นิ้วเกินไปปกติผมกำคลัช2นิ้ว มันติดนิ้วครับ เลยต้องปรับให้ปล่อยมากกว่าเดิมที่ตั้งมาจากโรงงาน ดีขึ้นเยอะส่วนระยะฟรีคันเร่งผมตั้งให้ตึงสุดเท่าที่จะตั้งได้ เพราะชินกับการบิดคันเร่งนิดเดียวเครื่องก็ทำงานครับ มันช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองเราได้เร็วกว่า อ่อมีอีกอย่างครับคือผม ปรับองศาของแฮนด์บาร์ใหม่โดยหมุนมันขึ้นไปทางด้านหน้าอีกเล็กน้อย เพื่อกดมุมของก้านเบรก และก้านคลัชให้เอียงต่ำลงไปในด้านหน้า มันจะรองรับกับข้อมือและแขนได้พอดิบพอดีครับ
การขับขี่แบบที่หนึ่ง คือใช้งานบนถนนทั่วๆไปในเมืองนะครับ รถมีกำลังต้นดีมากครับ รอบมาไวเปลี่ยนเกียร์บ่อยหน่อยคนชอบเล่นจะสนุกโดยเฉพาะเวลาเร่งแซง ลากรอบจนไฟ Shift Light เตือน มันให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตจริงๆ ของผมจะตั้งเตือนไว้เมื่อเครื่องยนต์ทำงานที่ 8500รอบ/นาที เกียร์ก็เปลี่ยนง่ายครับ ไม่ยากเหมือนตัวเก่าเท่าที่ได้ลองและฟังจากคนที่เค้าเคยขี่มา, ตัวรถเบาวงเลี้ยวแคบดี การจะซิกแซกเวลารถติดๆทำได้สบายมาก ให้ความคล่องตัว
ต้องระวังเรื่องกระจกมองหลังจะไปตีกับกระจกรถเพราะถึงจะเตี้ยกว่าหลายๆรุ่นแต่ก็ยังกว้างอยู่ครับกระจก มองเห็นด้านหลังได้กว้างและชัดเจนมากแม้ขณะขับขี่ เพราะตัวกระจกไม่สั่นจนเบลอมองอะไรไม่เห็นเหมือนรถหลายๆรุ่น แฮนด์บาร์ที่กว้างช่วยเรื่องการควบคุมรถได้ดี เพราะแขนจะกางออกกว้างช่วยในการสร้างแรกและส่งแรงเพื่อควบคุมได้ดีกว่าแฮนด์แบบแคบๆเหมือนเราขี่รถวิบากล่ะครับที่แฮนด์ต้องกว้าง และถ้าเปลี่ยนตุ้มปลายแฮนด์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือหนักขึ้นได้จะช่วยได้ดีขึ้นไปอีกเรื่องความนิ่ง
ระบบช่วงล่างหน้าผมว่ามันมีความหนืดดีครับตึงๆผมเทียบความรู้สึกจากคันใหญ่ของตัวเองด้วยนะครับ ให้ความรู้สึกมั่นใจเวลาขับขี่ บนถนนทั่วไป จะเห็นชัดหน่อยตอนขึ้นหรือลงสะพานที่มีความเร็ว หรือผ่านทางขรุขระจะรู้สึกได้ว่าสะเทือนมากขึ้น เพราะโช้คมีความหนืดและแข็ง ตามคุณสมบัติของตัวมันเองที่มีขนาดใหญ่ ปริมาณน้ำมันที่มากกว่า ขนาดสปริงที่ใหญ่กว่า แข็งกว่า ส่งผลทั้งหมดครับ ส่วนด้านหลังจะรู้สึกว่านิ่มไปหน่อยโดยเฉพาะตอนไปเทียบกับรถค่ายอื่นในระดับเดียวกันแบบจับกดหรือโยกรถ แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปที่กำลังเครื่องขนาดนี้จะทำได้ครับ ถ้ามันปรับระดับแข็งอ่อนของสปริงหรือความหนืดได้จะเด็ดดวงมาก
ระบบเบรกทำงานได้ดีมากครับตามที่เค้าให้มาทั้ง ABS / G-Sensor ที่ทำงานร่วมกัน ทางบริษัทแจ้งว่าช่วยไม่ให้ล้อล็อค กระจายแรงเบรก และช่วยกันไม่ให้รถยกล้อหลังเวลาเบรกหน้ากะทันหันหรือรุนแรงเกินไป ซึ่งก็ช่วยได้จริงๆจากที่ได้ลองใช้น้ำหนักเยอะๆและรวดเร็วในการเบรก หลายๆครั้ง เห็นผลจริงๆครับ แต่ถ้าสภาพแวดล้อมเลวร้ายเกินกว่าที่ระบบเหล่านี้จะช่วยได้ก็มีโอกาสที่ทั้งล้อล็อค และล้อหลังยกได้เหมือนกันครับ
ระบบไฟส่องสว่างทั้งไฟหน้า ต่ำ-สูง, ไฟท้าย, ไฟเลี้ยว สว่างดีมากๆครับ นอกจากทำให้เราเห็นเส้นทางชัดเจนแล้ว คนอื่นๆก็ยังเห็นและสังเกตเราได้ง่ายขึ้นด้วย หลายๆครั้งตอนที่ขี่มุดฝ่ารถติดๆ รถคันหน้าผม เค้าหลบทางให้อยู่หลายครั้ง อาจจะคิดว่าเราเป็นรถใหญ่ก็ได้ เพราะไฟหน้าสว่างจริงโดยเฉพาะไฟสูงแยงตาแทบบอด ที่ชอบมากคือมีปุ่มไฟขอทางมาให้ด้วย หรือ Passing Light ใช้งานได้ดีเมื่อเราต้องการขอทางคนอื่นเพื่อไปก่อนหรือแจ้งให้รู้ว่าเรามาเร็ว เสียดายที่ไม่มีไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมากมาให้ด้วย เพราะมันสำคัญช่วยเรื่องความปลอดภัยได้อีกระดับจริงๆ คาดหวังให้มีในรุ่นถัดไปครับ
สำหรับการขับขี่แบบที่สอง ที่จะทำให้เราเห็นถึงสมรรถนะของรถนั้น การขับขี่ในสถานที่ปิด หรือตามสนามฝึกขับขี่โดยเฉพาะก็เป็นอะไรที่น่าจะต้องไปลอง ผมโชคดีได้โอกาสที่ไปร่วมเรียนหลักสูตรขับขี่ปลอดภัยระดับแอดวานซ์ ของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สำโรง ผมขี่เจ้า Honda CB150R ABS คันนี้แทบทั้งวันในรูปแบบการฝึกที่ต่างกัน ทั้งการใช้อัตราเร่งของเครื่องยนต์ทั้งทางตรงและทางโค้ง, การใช้เกียร์ทั้งเพิ่มและลด ทั้งสนามผมใช้แค่ 1-2-3 ในช่วงวงเลี้ยวแคบๆหรือกลับรถ ผมใช้เกียร์2 รถยังมีกำลังเหลือพอจะไปต่อได้แบบนุ่มนวลครับ, การใช้เบรกทั้งหน้าและหลัง, การใช้คลัช, การบังคับเลี้ยวในหลากหลาย เราสามารถใช้ของเหล่านี้ได้ค่อนข้างเต็มกำลังเต็มประสิทธิภาพ เพราะในสนามมีความปลอดภัยสูงกว่าถนนหรือพื้นที่สาธารณะมาก ทำให้เราได้เห็นสมรรถนะของรถได้อย่างชัดเจนมากที่สุดครับ
สิ่งที่ผมประทับใจสุดคงเป็นเรื่องระบบเบรกที่ให้มามันใช้งานได้ดีจริงๆ สามารถหยุดรถได้ในระยะที่สั้นมาก ABS / G-Sensor ทำงานร่วมกันได้ดีมากจริงๆ แต่ถ้าจังหวะในการเบรกนั้นมันแรงและเร็วมากพอก็ทำให้ล้อหลังลอยได้ครับ ตามภาพที่บอกระยะยุบของโช้คหน้าที่ผมเบรกจนล้อหลังลอยขึ้นครับ ช่วงล่างที่ให้มาโชว์ความพลิ้วให้คนที่ร่วมเรียนด้วยกันเห็นชัดเจน อยากจะบอกทุกๆคนเลยว่า การอบรมหรือการเรียนขับขี่ปลอดภัยเป็นเรื่องที่จำเป็นมากและดีมากๆจริงๆครับ อยากให้เรียนกันครับผม สามารถสอบถามไปที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ใกล้บ้านได้เลยครับผม
และสุดท้ายนี้ผมเอาเจ้า Honda CB150R ABS คันนี้ไปขี่ที่ลานฝึกขับขี่ปลอดภัยชมรม RC Club ที่มีรูปแบบการฝึกต่างจากทั่วๆไป
พอเริ่มลงลานฝึกรถมันเบามากจังหวะพลิกรถสะบัดแทบปลิว เพราะผมคุ้นกับการฝึกด้วยรถคันใหญ่น้ำหนักมาก ต้องค่อยๆปรับ การเปิดปิดคันเร่ง ทำได้ลำบากในเกียร์2 เพราะรอบสูงมากในความเร็วต่ำเลยต้องลองปรับเป็นเกียร์3 กลับได้ผลดีกว่าเยอะ มันราบรื่นกว่า คุมได้ง่ายกว่า และยังมีเอ็นจิ้นเบรก ให้เพื่อชะลอความเร็วรถได้
ยางติดรถเห็นผลมากในการฝึกแบบนี้ ผมขี่วนอยู่ ซักพัก พอเริ่มคุ้นมือเริ่มเอียงรถมากขึ้นเลี้ยวได้ไวขึ้นเรื่อยๆ จนใช้ได้หมดหน้ายางเลยหรือหมดขอบนั่นเอง แม้ในความเร็วต่ำ วงเลี้ยวแคบๆ ก็สามารถผ่านไปได้สบายๆครับ ช่วงล่างต้องบอกว่ารองรับการขับขี่ได้สบายๆครับ ถึงจะใช้ความเร็วต่ำแต่ในจังหวะที่มีการเลี้ยวการแบนการสะบัดรถนั้น แรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นไม่เบานะครับ
โดยสรุปแล้ว Honda CB150R ราคาไม่ถูกแต่ไม่ใช่แพงนะ เพราะของที่ได้รับมามันคุ้มค่าตัวมากๆ แม้บางอยางจะขาดๆไปบ้าง แต่หวังว่าทางฮอนด้า จะจัดมาให้ในรุ่นถัดไป สมรรถนะที่ได้ถือว่าดี ขี่ได้ทั่วในเมือง นอกเมือง ทั้งใกล้และไกล รูปลักษณ์โดดเด่นสวยงามขี่หล่อๆ อวดไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ขี่ไปไหนต้องมีคนมองล่ะ ถ้ามีกำลังซื้อก็นับเป็นตัวเลือกแรกๆที่ห้ามมองข้ามครับ
ขอบคุณทุกๆคนที่สละเวลาอ่านเรื่องเล่านี้จนจบครับ หากบกพร่องประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ ทั้งหมดมาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆครับ และหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนที่อ่านบ้างไม่มากก็น้อยครับ ไว้มีโอกาสได้ขี่อะไรแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังกันอีกครับผม
สามารถดูข้อมูลทางเทคนิคต่างๆของ Honda CB150R ทุกรุ่นย่อยได้จากที่นี่ครับผม https://www.aphonda.co.th/honda2017/en/products/sport/56
ขอบคุณรถจักรยานยนต์ Honda CB150R ABS : https://www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/
ขอบคุณหมวกนิรภัยจาก Vemar Thailand : https://www.facebook.com/Vemarthailand/
ขอบคุณร้าน Koala Riders : https://www.facebook.com/koalarider/
ขอบคุณชมรมฝึกขับขี่ปลอดภัย RC Club : https://www.facebook.com/RC-Club-287004661469743/
#Honda
#HondaMotorcycleThailand
#HondaCB150R
#RCClub
#VemarThailand
#KoalaRider