โดยกระทู้นี้จะรีวิวการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีโดยมีการสอดแทรกความรู้เข้าไปเล็กน้อยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่อาจจะเหมาะกับใครๆหลายคนที่สนใจไปจังหวัดกาญจนบุรี
การเดินทางไปจ.กาญจนบุรีในครั้งนี้มีผู้รวมการเดินทางมีทั้งหมด4คน รวมเจ้าของกระทู้ด้วย การเดินทางครั้งนี้เริ่มจากเราเดินทางโดยนั่งรถประจำทางสายบขส.999 กรุงเทพไปด่านเจดีย์สามองค์ ขึ้นที่ขนส่งหมอชิตรอบ 6.30 น. ราคา281บาท โดยพวกเรานัดเจอกันที่ขนส่งหมอชิตเวลา 05.30 น.
เมื่อต่างคนต่างเดินทางมาถึงก็ไปซื้อตั๋วรถทัวร์กัน และไปนั่งรอรถอยู่ด้านน้าที่ประตู11 รอไปก็นั่งคุยกันแต่เรื่อยเปื่อย ซักพักรถทัวร์มาแล้วน่าจะเวลาซัก 06.15 น.
พอขึ้นรถทัวร์ได้ซักพัก ยังไม่ทันทำอะไรเลยล้อก็หมุนแล้ว ตรงเวลามาก 06.30 น.บนรถทัวร์มีแจกอาหารว่างด้วยนะครับ
มีขนมปังไส้มันต่อเผือก กาแฟ น้ำเปล่า (ผมคอนเฟิร์มขนมปังอร่อยมากครับ) พอท้องตึงหนังตาก็หย่อนหลับกันหมด4คน ซักพักเจ้าหน้าที่บนรถมาปลุก (ทีแรกก็งงว่าปลุกทำไม) เขาจึงถามว่า “จะรับอาหารอะไรครับ มีข้าวผัดกับข้าวกระเพราหมูสับ” ด้วยความงัวเงียก็เลยเลือกข้าวกระเพราไปทั้งๆที่อยากกินข้าวผัด แต่ไม่เป็นไรชิวๆกินได้หมด
เวลา10.30น.ถึงอำเภอไทรโยค รถทัวร์จอดร้านๆอาหารเล็กๆซึ่งพบว่าที่เราสั่งอาหารกับเจ้าหน้าที่ไปบนรถ เราได้มากินที่ร้านนี้
รสชาติถือว่าโอเคนะครับ รสชาติเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป (แนะนำสั่งข้าวกระเพรา เพราะข้าวผัดมีหมูน้อยไปหน่อย555) จะรอไรละครับท้องตึงนอนต่อสิครับ แต่นับตั้งแต่จุดนี้ไปบอกเลย แทบนอนไม่ได้เพราะช่วงนี้รถจะเริ่มขับขึ้นเขา รถจะโยกมากครับ แต่ก็พยายามหลับจนได้จนถึงที่หมายอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 13.20 น. เราก็ต่ออีกหน่อยเพื่อไปที่พักที่แรก
Oh Dee คือที่พักที่แรกของพวกเรา เป็นที่พักแบบHostelสามารถค้นหาในgoogleได้ครับ ราคาที่พวกเราพักคิดเป็นต่อคน คนละ470บาท หนึ่งห้องพักได้4คน ประกอบด้วยเตียง2ชั้น2เตียง เรียบง่ายมีแค่แอร์ตัวเดียว ไม่มีทีวีตู้เย็น มีอาหารเช้าให้(แต่อาหารต้องทำทานเองนะครับ) ทางเจ้าของที่พักจะมีขนมปัง กาแฟและเครื่องปรุงครบถ้วนให้ บรรยากาศถือว่าดีเงียบสงบ จากนั้นเราก็เช็คอินเข้าห้องเพื่อเอาของไปเก็บ
จากนั้นต่างคนก็ต่างทำภารกิจส่วนตัว และออกไปเช่ามอเตอร์ไซด์ห่างจากที่พัก 200 เมตร เวลา14.10น. ราคา200บาท 24 ชม. แต่ต้องเติมน้ำมันเอง แนะนำว่าให้เลือกคันที่น้ำมันเยอะเพราะเจ้าของบอกว่าต้องเติมน้ำเองและคืนกลับมาน้ำมันเท่าไหรก็ได้ พวกเราก็เดินไปเช่ามา2คัน400บาท
แต่เราก็ไม่แคล้วมีแต่คันน้ำมันน้อยก็ต้องเติมอยู่ดีที่นี่มีปั้มน้ำมันด้วย แต่เป็นปั้มหลอดราคาลิตรละ32บาท เราก็เติมไปคันละลิตรเพราะความขี้เหนียวของเรา 5555
เมื่อมีมอเตอไซด์แล้วเราก็ขับไปจากที่พักประมาณ1กิโลเมตร ไปที่สะพานมอญ(สะพานไม้) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ สะพานยาวประมาณ 900 เมตร ถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์แลนด์มาร์คของเมืองสังขละบุรี
สะพานยาวมากมีเด็กน้อยวิ่งเล่น กระโดดน้ำเยอะแยะ ไปพูดคุยกับเด็กก็ได้ทราบว่าพวกเขาส่วนมากเป็นลูกคนขับเรือชาวมอญ ส่วนตามทางก็จะมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆหลายกลุ่มถามตลอดทางว่า “ปะแป้งไหมคะ แล้วแต่จะให้หนูค่ะ” ซึ่งพวกเราก็แวะพูดคุยกับน้องๆ(เด็ก 2 คนในรูป) น้องบอกว่าเขาเป็นชาวมอญมาหารายได้ช่วงปิดเทอม
พวกเราก็เดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยจนรู้ว่ามีบริการนั่งเรือไหว้พระ พวกเราจึงเข้าไปสอบถามราคาเพื่อจะนั่งไปไหว้พระในตอนเช้าวันพรุ่งนี้
1 วัด 300 บาท วัดใต้น้ำ ชื่อวัดวังก์วิเวการามเดิม
3 วัด 500 บาท วัดศรีสุวรรณ วัดสมเด็จเก่า วัดวังก์วิเวการามเดิม
เมื่อเที่ยวจนเหนื่อยก็ต้องหาอะไรลงท้องซักหน่อย พวกก็ขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากสะพานมอญ ถึงร้านอาหาร เวลา 16.00 น. ซึ่งก็เจอร้านส้มตำในย่านั้น เมนูเหมือนร้านส้มตำทั่วไป แต่ควรบอกกับแม่ค้าว่าให้เผ็ดน้อยหน่อย เพราะร้านนี้ทำรสชาติจัดจ้านมากครับ และราคาหารกันตกคนละ 100 บาท
เมื่อทานเสร็จก็ขับมอเตอร์ไซด์กลับมาพักที่พักเพื่อเตรียมตัวออกไปเที่ยวตลาดนัด แต่แล้วพวกเราก็พักเพลินจนเผลอหลับไปตื่นมาอีกทีเกือบจะ 2 ทุ่ม จึงรีบกันออกไปตลาดแต่ ตลาดก็วายซะแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่ร้านเราจึงหาอะไรทานกันเล็กน้อยก่อนกลับที่พักเข้าไปนอน อาหารที่เราทาน คนแถวนั้นเรียกว่า หมูจุ่มพม่าไม้ละหนึ่งบาท ไม่ได้มีแค่หมูแต่มียำอีกด้วย รสชาติอร่อยน่าจะถูกปากใครหลายๆคน ถ้าไปสังขละลองหาทานได้จะอยู่ในตลาดตัวอำเภอ มี2ร้านอยู่ใกล้ๆกัน
จากนั้นก็กลับเข้าที่พัก 21.15 น. นอนเล่นพักผ่อนจนหลับ ที่นี่เวลา 3 ทุ่มก็เงียบกันหมดแล้วแต่บริเวรที่พักจะมี ฝรั่งมานั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆอยู่บ้าง
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรกต่อคน
1.ค่ารถ 281 บาท
2.ค่าที่พัก472บาท
3.ค่ามอไซต์+น้ำมัน 116 บาท
4.ค่าส้มต่ำ 100 บาท
5.ค่าหมูจุ่ม 22 บาท
รวม 991 บาท
"นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเดินทาง แล้วเจอกันวันที่ 2"
[CR] เที่ยวสังขละหลงไปกาญ 3วัน2คืน ในงบ 2,300 บาท
การเดินทางไปจ.กาญจนบุรีในครั้งนี้มีผู้รวมการเดินทางมีทั้งหมด4คน รวมเจ้าของกระทู้ด้วย การเดินทางครั้งนี้เริ่มจากเราเดินทางโดยนั่งรถประจำทางสายบขส.999 กรุงเทพไปด่านเจดีย์สามองค์ ขึ้นที่ขนส่งหมอชิตรอบ 6.30 น. ราคา281บาท โดยพวกเรานัดเจอกันที่ขนส่งหมอชิตเวลา 05.30 น.
เมื่อต่างคนต่างเดินทางมาถึงก็ไปซื้อตั๋วรถทัวร์กัน และไปนั่งรอรถอยู่ด้านน้าที่ประตู11 รอไปก็นั่งคุยกันแต่เรื่อยเปื่อย ซักพักรถทัวร์มาแล้วน่าจะเวลาซัก 06.15 น.
พอขึ้นรถทัวร์ได้ซักพัก ยังไม่ทันทำอะไรเลยล้อก็หมุนแล้ว ตรงเวลามาก 06.30 น.บนรถทัวร์มีแจกอาหารว่างด้วยนะครับ
มีขนมปังไส้มันต่อเผือก กาแฟ น้ำเปล่า (ผมคอนเฟิร์มขนมปังอร่อยมากครับ) พอท้องตึงหนังตาก็หย่อนหลับกันหมด4คน ซักพักเจ้าหน้าที่บนรถมาปลุก (ทีแรกก็งงว่าปลุกทำไม) เขาจึงถามว่า “จะรับอาหารอะไรครับ มีข้าวผัดกับข้าวกระเพราหมูสับ” ด้วยความงัวเงียก็เลยเลือกข้าวกระเพราไปทั้งๆที่อยากกินข้าวผัด แต่ไม่เป็นไรชิวๆกินได้หมด
เวลา10.30น.ถึงอำเภอไทรโยค รถทัวร์จอดร้านๆอาหารเล็กๆซึ่งพบว่าที่เราสั่งอาหารกับเจ้าหน้าที่ไปบนรถ เราได้มากินที่ร้านนี้
รสชาติถือว่าโอเคนะครับ รสชาติเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป (แนะนำสั่งข้าวกระเพรา เพราะข้าวผัดมีหมูน้อยไปหน่อย555) จะรอไรละครับท้องตึงนอนต่อสิครับ แต่นับตั้งแต่จุดนี้ไปบอกเลย แทบนอนไม่ได้เพราะช่วงนี้รถจะเริ่มขับขึ้นเขา รถจะโยกมากครับ แต่ก็พยายามหลับจนได้จนถึงที่หมายอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 13.20 น. เราก็ต่ออีกหน่อยเพื่อไปที่พักที่แรก
Oh Dee คือที่พักที่แรกของพวกเรา เป็นที่พักแบบHostelสามารถค้นหาในgoogleได้ครับ ราคาที่พวกเราพักคิดเป็นต่อคน คนละ470บาท หนึ่งห้องพักได้4คน ประกอบด้วยเตียง2ชั้น2เตียง เรียบง่ายมีแค่แอร์ตัวเดียว ไม่มีทีวีตู้เย็น มีอาหารเช้าให้(แต่อาหารต้องทำทานเองนะครับ) ทางเจ้าของที่พักจะมีขนมปัง กาแฟและเครื่องปรุงครบถ้วนให้ บรรยากาศถือว่าดีเงียบสงบ จากนั้นเราก็เช็คอินเข้าห้องเพื่อเอาของไปเก็บ
จากนั้นต่างคนก็ต่างทำภารกิจส่วนตัว และออกไปเช่ามอเตอร์ไซด์ห่างจากที่พัก 200 เมตร เวลา14.10น. ราคา200บาท 24 ชม. แต่ต้องเติมน้ำมันเอง แนะนำว่าให้เลือกคันที่น้ำมันเยอะเพราะเจ้าของบอกว่าต้องเติมน้ำเองและคืนกลับมาน้ำมันเท่าไหรก็ได้ พวกเราก็เดินไปเช่ามา2คัน400บาท
แต่เราก็ไม่แคล้วมีแต่คันน้ำมันน้อยก็ต้องเติมอยู่ดีที่นี่มีปั้มน้ำมันด้วย แต่เป็นปั้มหลอดราคาลิตรละ32บาท เราก็เติมไปคันละลิตรเพราะความขี้เหนียวของเรา 5555
เมื่อมีมอเตอไซด์แล้วเราก็ขับไปจากที่พักประมาณ1กิโลเมตร ไปที่สะพานมอญ(สะพานไม้) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ สะพานยาวประมาณ 900 เมตร ถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์แลนด์มาร์คของเมืองสังขละบุรี
สะพานยาวมากมีเด็กน้อยวิ่งเล่น กระโดดน้ำเยอะแยะ ไปพูดคุยกับเด็กก็ได้ทราบว่าพวกเขาส่วนมากเป็นลูกคนขับเรือชาวมอญ ส่วนตามทางก็จะมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆหลายกลุ่มถามตลอดทางว่า “ปะแป้งไหมคะ แล้วแต่จะให้หนูค่ะ” ซึ่งพวกเราก็แวะพูดคุยกับน้องๆ(เด็ก 2 คนในรูป) น้องบอกว่าเขาเป็นชาวมอญมาหารายได้ช่วงปิดเทอม
พวกเราก็เดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยจนรู้ว่ามีบริการนั่งเรือไหว้พระ พวกเราจึงเข้าไปสอบถามราคาเพื่อจะนั่งไปไหว้พระในตอนเช้าวันพรุ่งนี้
1 วัด 300 บาท วัดใต้น้ำ ชื่อวัดวังก์วิเวการามเดิม
3 วัด 500 บาท วัดศรีสุวรรณ วัดสมเด็จเก่า วัดวังก์วิเวการามเดิม
เมื่อเที่ยวจนเหนื่อยก็ต้องหาอะไรลงท้องซักหน่อย พวกก็ขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากสะพานมอญ ถึงร้านอาหาร เวลา 16.00 น. ซึ่งก็เจอร้านส้มตำในย่านั้น เมนูเหมือนร้านส้มตำทั่วไป แต่ควรบอกกับแม่ค้าว่าให้เผ็ดน้อยหน่อย เพราะร้านนี้ทำรสชาติจัดจ้านมากครับ และราคาหารกันตกคนละ 100 บาท
เมื่อทานเสร็จก็ขับมอเตอร์ไซด์กลับมาพักที่พักเพื่อเตรียมตัวออกไปเที่ยวตลาดนัด แต่แล้วพวกเราก็พักเพลินจนเผลอหลับไปตื่นมาอีกทีเกือบจะ 2 ทุ่ม จึงรีบกันออกไปตลาดแต่ ตลาดก็วายซะแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่ร้านเราจึงหาอะไรทานกันเล็กน้อยก่อนกลับที่พักเข้าไปนอน อาหารที่เราทาน คนแถวนั้นเรียกว่า หมูจุ่มพม่าไม้ละหนึ่งบาท ไม่ได้มีแค่หมูแต่มียำอีกด้วย รสชาติอร่อยน่าจะถูกปากใครหลายๆคน ถ้าไปสังขละลองหาทานได้จะอยู่ในตลาดตัวอำเภอ มี2ร้านอยู่ใกล้ๆกัน
จากนั้นก็กลับเข้าที่พัก 21.15 น. นอนเล่นพักผ่อนจนหลับ ที่นี่เวลา 3 ทุ่มก็เงียบกันหมดแล้วแต่บริเวรที่พักจะมี ฝรั่งมานั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆอยู่บ้าง
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรกต่อคน
1.ค่ารถ 281 บาท
2.ค่าที่พัก472บาท
3.ค่ามอไซต์+น้ำมัน 116 บาท
4.ค่าส้มต่ำ 100 บาท
5.ค่าหมูจุ่ม 22 บาท
รวม 991 บาท
"นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเดินทาง แล้วเจอกันวันที่ 2"
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น