เริ่มเล่อ! เเบกเป้ (คน-เดียว) เที่ยวสังขละบุรี …

นี่เป็นการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของเรา / เรารู้ว่ามีคนมารีวิวการเที่ยวสังขละบุรีไว้ค่อนข้างมาก
แต่เราก็ยังอยากจะมาแชร์รูปภาพและความรู้สึกดีๆ ของการไปเที่ยวครั้งนี้ให้ทุกคนได้ดูกัน ...

สืบเนื่องจากเราเห็นรีวิวเพจท่องเที่ยว เค้าไปเที่ยวที่ สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี 
ซึ่งเราเห็นรีวิวเเล้วคือชอบมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ และมีวิถีชีวิตของทั้งชาวไทยและชาวมอญ 
เราตั้งใจว่าต้องไปที่นี่ให้ได้สักครั้ง...
ว่าแล้ว... ทริปการเที่ยวสังขละบุรีก็ได้เกิดขึ้น! ตอนแรกเราตั้งใจจะไปเที่ยวสิ้นปี 64 แต่มีอุปสรรคนิดน้อยเลยต้องเลื่อนทริปออกไป 
เลยปักหมุดไปเดือนมีนา 65 แล้วกัน ไปเที่ยวตรงกับวันเกิด ได้ไปทำบุญ และให้การเที่ยวครั้งนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองด้วยเลยย 

เริ่มเล่อ ... (สังขละบุรี 3 วัน 2 คืน) (ยิ้มแก้มปริ แล้ว 1) ...

 Day : 1 เริ่มต้นเดินทาง กทม – บขส. กาญจนบุรี

- เราเริ่มต้นเดินทางโดยขึ้นรถบัสที่หมอชิต ไปลงที่ บขส. กาญจนบุรี ขึ้นรถเวลา 8.00 ถึง บขส. กาญจนบุรี ประมาณ 10.30 น.


- พอมาถึงบขส. กาญจนบุรี ก็จะมีรถต่อขึ้นไปสังขละบุรี แต่! เราโชคดี ที่พี่เจ้าของโฮสเทล เค้ามาทำธุระที่ กทม. เค้าเลยจะมาแวะรับเราที่ บขส. แล้วขึ้นไปสังขละบุรีพร้อมกัน (พี่เค้าใจดีมาก) เราก็นั่งรอพี่เจ้าของโฮลเทลที่ร้านกาแฟในบขส. กาญ สักพักนึง...

เย็! พี่เจ้าของโฮลเทลมาแย้ววว ระหว่างทางขึ้นไปสังขละบุรี พี่เจ้าของโฮสเทลก็พาแวะเที่ยวสถานที่ต่างๆ
โดยที่แรกที่แวะเที่ยว คือ ... 

ระหว่างทางที่ 1 : ศูนย์ประวัติศาสตร์ (ช่องเขาขาด) อำเภอไทรโยค 

- เป็นพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ ซึ่งเป็นอนุสรณ์แก่แรงงานที่เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (เราหาจากอากู้มานะ)

- พอเข้าไปถึงที่นี่ เราก็ได้เข้าไปชมวีดีโอสั้นที่เล่าถึงการสร้างทางรถไฟแห่งนี้ (เอาจริงนะตอนเราฟัง ถึงขึ้นพูดในใจว่า...เฮ้ย! นี่ตรู เรียนประวัติศาสตร์ไทยมาหรือป่าว ทำไมไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์แบบนี้เลย) โอ้! แต่ก็ไม่น่าแปลก หรือป่าว! สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เราน่าจะยังไม่เกิดนะ ยังคงเป็นวุ้นอยู่ไหนสักแห่ง ฮ่า ๆๆ 

ระหว่างทางที่ 2 : เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ

- ได้แวะเที่ยวที่เขื่อนวชิราลงกรณ พอขึ้นไปถึงด้านบนสันเขื่อน มองเห็นวิวภูเขาและสายน้ำ พร้อมกับมีลมปะทะใบหน้า ให้ผมปลิวเบาๆ (เราหลับตา รับความเย็นของสายลมที่ปะทะเข้ามา มันช่างดีเหลือเกิน) ปลื้มปริ่มอยู่ในใจ ธรรมชาติบำบัด สวยงามจริงๆ 

ระหว่างทางที่ 3 : สะพานแขวนไม้ข้ามแม่น้ำแควน้อย อำเภอทองผาภูมิ

- สถานที่สุดท้ายที่แวะเที่ยวก่อนเดินทางขึ้นไปสังขละบุรี สะพายแขวนไม้ข้ามแม่น้ำแควน้อย ความสวยงามของภูเขา และสายน้ำยังทำให้เรารู้สึก...
(ปลื้มปริ่มอยู่ข้างในใจ) สวยงามจริงๆ

เย้! และแล้วเราก็เดินทางมาถึง สังขละบุรี ... 


- เดินทางมาถึงสังขละบุรีประมาณ 5 โมงเย็น มาเช็คอินเข้าที่พักกันเถอะ! ทริปนี้เราจองที่พักกับทาง Oh Dee Hostel ซึ่งช่วงนี้มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย พี่เจ้าของโฮเทลเลยให้เราเลือกห้องพักเองได้ ตอนแรกเราจะได้พักห้องดอม (ห้องรวม) แต่ด้วยช่วงนี้ไม่มีคนเราเลยได้พักห้องคู่
- ที่ Oh Dee เป็นที่พักเหมือนกับเราไปเที่ยวบ้านต่างจังหวัด ความรู้สึกเราคือมันสบายๆ ชิวส์ๆ ไม่น่ากลัว แถมพี่เจ้าของโฮลเทลก็สุภาพ บริการดี
เป็นกันเอง และนำเที่ยวด้วย  (พี่เค้าเลี้ยงน้องแมวด้วย เรานี่อยากอุ้มกลับ กทม. ซะจริง จริ๊ง) ฮ่าๆๆ



- หลังจากเช็คอิน เก็บสัมภารก เอ้ย! สัมภาระ เสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นที่สะพาญมอญก่อนเลย แว๊บแรกที่เดินไปถึงสะพานมอญ สายตามองออกไปไกล
และมองไปรอบๆ ตัว (ถึงกับพูดกับตัวเองในใจ โอ้โห้! วิว ภูเขา ท้องฟ้า สายน้ำ ช่างสวยงามจริงๆ) เราตื่นเต้นและดีใจที่ได้มาเที่ยวที่นี่ . . .  
และเรามาที่สะพานมอญช่วงเย็นก็ได้เก็บรูปภาพพระอาทิตย์ตกสวยๆ ไว้ด้วย 

หลังจากดูพระอาทิตย์ตกแล้ว

-  ก็เดินทางไปที่ตลาดหาของกินเลย ซึ่งตลาดจะอยู่ใกล้กับที่พัก มีเซเว่น และของกินทั่วๆ ไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นคนรีวิวที่เวลามาเที่ยวสังขละบุรีต้องมากินให้ได้ นั้นคือ ... (หมูจุ่มพม่า) เราก็กินไปเลยสิค่ะ 20 ไม้ ไม้ละ 2 บาทเอง! สำหรับเรารสชาติก็อร่อยดี เนื้อนุ่ม น้ำซุปหวานนิดนึง และต่อด้วยไปซื้อ SPY 2 ขวด กับแกล้ม หมูปิ้ง 2 ไม้ กลับไปกินที่โฮลเทล (อารมณ์ไหนหว่า ...) แบบเปลี่ยวหัวใจ นิดนึง ดื่มพอให้หลับสบาย ... 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่