[CR] ไปกาญ ณ บ้านอีต่อง

        สวัสดี๊สวัสดีเพื่อนทุกๆคนที่ที่เข้ามาในกระทู้การท่องเที่ยวของพวกเรา 3 คน ครั้งแรกที่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันแบบที่มีการวางแผนมาแล้วแต่แผนที่วางเอาไว้เราก็เปลี่ยนมันได้เสมอทุกเมื่อ  เมื่อเราต้องการเจอกับสิ่งที่ดีกว่า555555 มันเป็นการขับรถไปเอง ชมนกชมไม้ ได้ตามที่เราต้องการเพราะข้อดีของการเอารถไปเองเราจะสามารถไปไหนก็ได้แต่จะสงสารคนขับนิดนึง อิอิ

วันที่ 1 ออกเดินทางยาวๆ

        พวกเราเดินทางออกกันตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมจากบ้านเพื่อนตั้งแต่ ตี5 เพราะระยะจากที่บ้านถึงทองผาภูมิค่อนข้างเยอะเผื่อเวลาหลงและกลัวถึงที่หมายมืด


สงสารคนขับที่ไม่มือใครสามารถเปลี่ยนขับได้ตลอดระยะทาง


เรา 3 คนก็มาถึงกาญจนบุรีไม่สายมาก แวะซื้อขนมตุนกันก่อนจะเดินทางมุ่งสู่บ้านอีต่องกันต่อ โดยระยะทางที่เราขึ้นเขานั้นประมาณ 67 กิโลเมตร


ข้างหน้ามีหมอกจ้าาา ดีใจ
แต่ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าจะเข้าที่พักได้เราสามคน จึงตัดสินใจแวะเที่ยวแถวๆนี้ก่อนไหนๆก็ผ่านแล้ว


เริ่มด้วยเขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนใหญ๊ใหญ่ กว้างมากๆเลย

นายแบบและนางแบบ


แวะเข้าไปในชุมชนแถวนั้นเผื่อเจอของกินและจะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนเดินทางขึ้นไปบ้านอีต่องกัน อิอิ
แต่ไม่เจอปั๊ม55555 (ต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังนะเพราะที่บ้านอีต่องไม่มีปั๊ม)


ทองผาภูมิอยู่อีกไม่ไกลแล้ว เย่ๆๆ


การเดินทางไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเรา


ขับรถมาสักพักก็จะเจอจุดแวะพักทั้งรถและคน พร้อมสัญญานโทรศัพท์มือถือ

ต่อจากนั้นเราก็แวะทานข้าวกันที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยเสียค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท ค่ารถ 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท

เมื่อทานข้าวเสร็จจึงขึ้นเขาไปชมวิวเขาช้างเผือก

ข้างในอุทยานนอกจากจะมีร้านอาหารแล้วยังมีลานสำหรับกางเต้นท์และบ้านพักที่ทุกคนสามารถเข้าพักได้


หลังจากกินข้าวกลางวันละชมวิวเขาช้างเผือกแล้ว พวกเราก็ได้ออกเดินทางต่อกันเลย มุ่งหน้าไปน้ำตกจ๊อกกระดิ๋น ลุยๆๆ

เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยได้รับความมากนักต้องเสียค่าเข้าเนื่องจากอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิแต่ถ้าซื้อบัตรตั้งแต่จุดที่แวะพักกินข้าวที่เข้าเข้าไปชมวิวเข้าช้างเผือกก็ไม่ต้องเสียค่าเข้าน้ำตกแล้ว เดินเท้าเพื่อเข้าไปดูน้ำตกจ๊อกกระดิ๋นประมาณ 5-10 นาทีก็จะพบน้ำตกที่ไหลลงมาจากหุบเข้า ที่นี่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีจุดเด่นที่น้ำใสและยังเย็นชุ่มช่ำมากๆเลยทีเดียว เหมาะกับการมาแวะเที่ยวพักผ่อนก่อนเดินทางต่อ มีห้องน้ำห้องอาบน้ำรองรับนักท่องเที่ยว แต่ห้ามนำอาหารเข้ามากินบริเวณน้ำตกจ๊อกกระดิ่น


หลังจากแวะพักรถชมความสวยงามของน้ำตกเราก็ออกเดินทางต่อสู่บ้านอีต่องกันเลย



เมื่อมาถึงหมู่บ้านเราก็เตรียมของเข้าที่พักกันเลยเพื่อจะออกมาเดินเที่ยวในหมู่บ้าน ซึ่งเราพักที่ Pilok Hill house ห้องนอนของเราเป็นแบบ 3 เตียงเดี่ยวไม่มีแอร์แต่อากาศดีมากๆแทบไม่ต้องเปิดพัดลมก็อยู่ได้แบบสบายๆเหมือนห้องแอร์เลย ราคาก็ไม่สูงมากเพียง 800 บาท พร้อมอาหารเช้า


หลังจากเก็บของเสร็จพักผ่อนทำธุระส่วนตัวเราก็เริ่มออกหาข้อมูลของชุมชนนีพร้อมหาของกินในหมู่บ้านกันเลย เดินถ่ายรูปซื้อของกิน แวะร้านของฝาก กินข้าวไปเรื่อยๆจนค่ำๆ ชาวบ้านที่นี่น่ารักมากๆ  
บ้านอีต่อง มีบรรยากาศสดชื่น เย็นตลอดปี ยิ่งช่วงหน้าหนาว หรือหน้าฝน จะเห็นหมอกจัด และเราก็ได้สอบถามคุณป้า ท่านบอกว่า บ้านอีต่องนี้เป็นการผสมผสานหลายวัฒธรรมเข้าด้วยกัน ระหว่าง พม่า มอญ เนปาลและกะเหรี่ยง ส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่นี้ คุณป้าท่านบอกอีกว่า วัฒนธรรมของไทยที่นี้ไม่ค่อยแข็งแรง เพระาะรับวัฒนธรรมของพม่ามาเยอะพอสมควร จึงทำให้คนไทยมีน้อย จึงเห็นวัฒนธรรมของพม่าที่โดดเด่นออกมา  สังเกตได้จาก เสื้อผ้าที่สวมใส่ ภาษา อาหารการกินบางอย่าง ถือว่าเป็นเสน่ห์ของบ้านอีต่องเลยก็ว่าได้

ในบ้านอีต่องนี้ยังมีป้ายไม้ ให้เราเขียนอีกด้วย


ในยามค่ำคืนของบ้านอีต่อง จะสัมผัสถึงอากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวออกมาดื่มดำบรรยากาศยามค่ำคืนด้วย
ต่อจากนั้นเราก็เข้าที่พักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้


วันนี้เป็นวันเกิดของผู้ชายที่หล่อที่สุดในทริปครั้งนี้
โตเป็นหนุ่มแล้วนะ อิอิ

#GEn441JBG