สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนอื่นให้เลิกหมกมุ่นกับตาชั่ง นาน ๆ ชั่งที สิบวันครั้ง เดือนละครั้งไปเลยก็ได้ มีหน้าที่คุมอาหารก็คุมไป มีหน้าที่ออกกำลังกายก็ทำไปทำตรงนั้นให้ดีก็พอไม่ต้องไปสนว่าวันนี้ไขมันจะหายไปกี่กรัม เสียน้ำและเกลือแร่ไปกับเหงื่อเท่าไร กินน้ำกลับเข้าไปกี่ขวด
เชื่อป่ะผมอ่ะสิบกว่าปีชั่งที ในรอบสิบปีตั้งแต่เลิกเล่นกล้ามไปตอนปีสาม จนวันนี้กลับมาเล่นใหม่ ไม่เคยสนเรื่องน้ำหนักเลยเว้นแต่ไปโรงบาลแล้วพยาบาลบังคับจะเอาน้ำหนักเราให้ได้ ขอแค่ส่องกระจกดูแล้วโอเคก็พอแล้ว ที่เหลือจะหนักเท่าไรชั่งหัวมัน จะสนใจไปทำไม น้ำหนักมันก็แค่ตัวเลข ที่ประจานตัวเองคือ เหนียง แก้ม อก เอว นม สะโพก ก้น ต้นขา ต้นแขนต่างหากจะดีไม่ดีคือกายภาพภายนอกไม่ใช่ตัวเลขของตาชั่ง
น้ำหนักที่ลด ๆ เพิ่มอาจเป็นขี้ เป็นเยี่ยวในท้องเป็นน้ำหนักน้ำหรืออาหารที่กินเข้าไป หรือเหงื่อทีาไหลออกไป
ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ทำได้สิบกิโลโดยไม่หยุดเลยเมื่อไรก็ค่อยเริ่มหมกมุ่นกับตาชั่งมากขึ้นก็ได้
เชื่อป่ะผมอ่ะสิบกว่าปีชั่งที ในรอบสิบปีตั้งแต่เลิกเล่นกล้ามไปตอนปีสาม จนวันนี้กลับมาเล่นใหม่ ไม่เคยสนเรื่องน้ำหนักเลยเว้นแต่ไปโรงบาลแล้วพยาบาลบังคับจะเอาน้ำหนักเราให้ได้ ขอแค่ส่องกระจกดูแล้วโอเคก็พอแล้ว ที่เหลือจะหนักเท่าไรชั่งหัวมัน จะสนใจไปทำไม น้ำหนักมันก็แค่ตัวเลข ที่ประจานตัวเองคือ เหนียง แก้ม อก เอว นม สะโพก ก้น ต้นขา ต้นแขนต่างหากจะดีไม่ดีคือกายภาพภายนอกไม่ใช่ตัวเลขของตาชั่ง
น้ำหนักที่ลด ๆ เพิ่มอาจเป็นขี้ เป็นเยี่ยวในท้องเป็นน้ำหนักน้ำหรืออาหารที่กินเข้าไป หรือเหงื่อทีาไหลออกไป
ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ทำได้สิบกิโลโดยไม่หยุดเลยเมื่อไรก็ค่อยเริ่มหมกมุ่นกับตาชั่งมากขึ้นก็ได้
แสดงความคิดเห็น
ออกกำลังกายแล้วทำไมน้ำหนักขึ้น?
วิธีออกกำลังกายของเราคือการวิ่ง เราพึ่งเริ่มวิ่งได้ไม่นาน และวิ่งแค่ในระยะทางสั้นๆ ประมาณกิโลกว่าสลับกับเดิน หลังจากวิ่งมา เราก็จะชั่งน้ำหนักตลอด แต่น้ำหนักไม่ลดเลย กลับเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วยซ้ำ การกินก็กินปกติและลดปริมาณอาหารลง แต่น้ำหนักก็ไม่ลด
...มันเกิดจากอะไรคะ?