บัตรเครดิต เครื่องมือจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น ถึงขนาดบางคนดึงเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันกันเลยทีเดียว แต่มันก็เป็นเหมือนดาบ 2 คม ดีๆ ที่พร้อมจะเล่นงานเราเองได้หากไม่ศึกษาการใช้ หรือใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ โดยการใช้บัตรเครดิตคงแทบจะไม่ต้องสอนกันแล้วว่าใช้ซื้อสินค้าหรือบริการยังไง แต่เมื่อรูดไปแล้วนี่สิจะมีอะไรตามมาบ้าง วันนี้ขออธิบาย 3 เรื่องที่คนใช้มักจะเข้าใจผิดกัน
เรื่องแรก
ในการรูดซื้อสินค้า คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ดอกเบี้ยจะเริ่มจากวันที่เราค้างชำระหรือจากวันที่ใบสรุปยอดมาถึงบ้าน จริงๆแล้ว คนรูดจะถูกคิดดอกเบี้ยสูงสุดที่ 18% ต่อปีทันทีตั้งแต่วันที่รูด ยกตัวอย่างเช่นเราซื้อสินค้าวันที่ 5 ต.ค. 60 รูดไป 50,000 บาท ครบกำหนดชำระวันที่ 10 พ.ย. 60 แต่คุณพระ! เงินในกระเป๋าเหลือจ่ายเพียง 30,000 บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้ถูกคิดดอกเบี้ยจากวันที่ 25 ต.ค. 60 ในวันที่ใบสรุปยอดออกมานะ แต่จะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่รูดคือวันที่ 5 ต.ค. 60 นั่นเอง
เรื่องที่สอง
ข้อนี้สำคัญ จากตัวอย่างด้านบน ดอกเบี้ยที่ถูกคิดหากเกิดการค้างชำระจะถูกคิดจากทั้งยอดเงินที่ค้างจ่ายและยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีนั้น ฟังแล้วอาจจะ งง ลองดูที่ภาพดังนี้
แม้จะชำระยอดเต็มตามใบแจ้งยอดในวันที่ 10 ธ.ค. 60 แล้วก็ตาม ธนาคารยังคงเรียกเก็บดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากยอดค้างชำระในช่วงวันที่ 26 พ.ย.-10 ธ.ค.60 (4) ในรอบบิลถัดไป
ดังนั้น K-EXPERT อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ว่า เมื่อถึงวันสรุปยอด (ตามตัวอย่างคือ 25 พ.ย. 60) หากไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยในส่วนนี้เพิ่ม ก็สามารถนำเงินไปจ่ายยอดทั้งหมดเพื่อเป็นการหยุดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หากเพื่อนๆ ไม่ทราบยอดที่จะต้องจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ก็สามารถโทรสอบถาม call center ของธนาคารที่ตนเองถืออยู่ได้ครับ
เรื่องที่ 3
หากชำระขั้นต่ำ หรือชำระไม่ครบยอดที่กำหนด (แต่มากกว่ายอดขั้นต่ำ) ยอดที่รูดใหม่นั้นจะถูกคิดดอกเบี้ยรวมไปด้วย เพราะเราได้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไปแล้วนั่นเอง โดยหลายคนมักคิดว่า ดอกเบี้ยถูกคิดเฉพาะยอดเดิมที่ค้างอยู่ ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ อยากให้หยุดใช้บัตรเครดิตใบเดิมก่อน แล้วรีบหาเงินมาชำระหนี้บัตรให้หมด หลังจากนั้นค่อยกลับมาใช้บัตรใบเดิมนั่นเอง
พออ่านกันถึงตรงนี้คงมีคนเริ่มรู้สึกว่า การรูดบัตรที่ช่วยให้ชีวิตเราสบายขึ้นนั้น หากไม่รู้จักวางแผน หรือมีวินัย จะกลายเป็นว่าสร้างความลำบากให้เรามากกว่า แต่กลับกันหากมีการวางแผนและมีวินัย บัตรเครดิตคือเครื่องมือในการบริหารเงินได้เป็นอย่างดี ยังไม่นับรวมกับคะแนนสะสม หรือส่วนลดต่างๆ อีกนะ หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้เพื่อนๆ ใช้วางแผนในการรูดซื้อสินค้าครั้งต่อไปได้นะครับ
3 ข้อควรรู้กับบัตรเครดิต ก่อนคิด รูดปื๊ดๆ
บัตรเครดิต เครื่องมือจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น ถึงขนาดบางคนดึงเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันกันเลยทีเดียว แต่มันก็เป็นเหมือนดาบ 2 คม ดีๆ ที่พร้อมจะเล่นงานเราเองได้หากไม่ศึกษาการใช้ หรือใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ โดยการใช้บัตรเครดิตคงแทบจะไม่ต้องสอนกันแล้วว่าใช้ซื้อสินค้าหรือบริการยังไง แต่เมื่อรูดไปแล้วนี่สิจะมีอะไรตามมาบ้าง วันนี้ขออธิบาย 3 เรื่องที่คนใช้มักจะเข้าใจผิดกัน
เรื่องแรก
ในการรูดซื้อสินค้า คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ดอกเบี้ยจะเริ่มจากวันที่เราค้างชำระหรือจากวันที่ใบสรุปยอดมาถึงบ้าน จริงๆแล้ว คนรูดจะถูกคิดดอกเบี้ยสูงสุดที่ 18% ต่อปีทันทีตั้งแต่วันที่รูด ยกตัวอย่างเช่นเราซื้อสินค้าวันที่ 5 ต.ค. 60 รูดไป 50,000 บาท ครบกำหนดชำระวันที่ 10 พ.ย. 60 แต่คุณพระ! เงินในกระเป๋าเหลือจ่ายเพียง 30,000 บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้ถูกคิดดอกเบี้ยจากวันที่ 25 ต.ค. 60 ในวันที่ใบสรุปยอดออกมานะ แต่จะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่รูดคือวันที่ 5 ต.ค. 60 นั่นเอง
เรื่องที่สอง
ข้อนี้สำคัญ จากตัวอย่างด้านบน ดอกเบี้ยที่ถูกคิดหากเกิดการค้างชำระจะถูกคิดจากทั้งยอดเงินที่ค้างจ่ายและยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีนั้น ฟังแล้วอาจจะ งง ลองดูที่ภาพดังนี้
เรื่องที่ 3
หากชำระขั้นต่ำ หรือชำระไม่ครบยอดที่กำหนด (แต่มากกว่ายอดขั้นต่ำ) ยอดที่รูดใหม่นั้นจะถูกคิดดอกเบี้ยรวมไปด้วย เพราะเราได้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไปแล้วนั่นเอง โดยหลายคนมักคิดว่า ดอกเบี้ยถูกคิดเฉพาะยอดเดิมที่ค้างอยู่ ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ อยากให้หยุดใช้บัตรเครดิตใบเดิมก่อน แล้วรีบหาเงินมาชำระหนี้บัตรให้หมด หลังจากนั้นค่อยกลับมาใช้บัตรใบเดิมนั่นเอง
พออ่านกันถึงตรงนี้คงมีคนเริ่มรู้สึกว่า การรูดบัตรที่ช่วยให้ชีวิตเราสบายขึ้นนั้น หากไม่รู้จักวางแผน หรือมีวินัย จะกลายเป็นว่าสร้างความลำบากให้เรามากกว่า แต่กลับกันหากมีการวางแผนและมีวินัย บัตรเครดิตคือเครื่องมือในการบริหารเงินได้เป็นอย่างดี ยังไม่นับรวมกับคะแนนสะสม หรือส่วนลดต่างๆ อีกนะ หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้เพื่อนๆ ใช้วางแผนในการรูดซื้อสินค้าครั้งต่อไปได้นะครับ