ผมเคยฝึกกสินไฟโดยใช้การมองเทียน มันทำให้ผมรู้สึกสงบเร็วมากครับ ผมรู้สึกว่าช่วงที่ผมกำลังสงบ สามรถบังคับ เปลวไฟใด้ดั่งใจ ให้มันเอนซ้าย เอนขวา หรือให้มันควงใด้ ตามกำลังสมาธิ ก็ไม่ใด้เกิดอะไรขึ้นนอกจากนี้ ช่วงแรกที่ฝึกไม่ใด้เพ่งให้เกิดเป็นนิมิตนะครับ เพ่งไปให้ใจมันสงบ แต่ก็เกิดแค่นิมิต ลางๆ ผมก็เลยอาศัย ลืมตามองนิมิตดวงไฟนั้นในชีวิตประจำวัน แล้วทีนี้ ผมเลยไปเพ่งอย่างอื่นเพื่อให้มันเกิดภาพติดตา อาทิเช่น รูปพระพุทธรูปบ้าง ขวดน้ำบ้าง และอีกหลายๆอย่าง จนทุกวันนี้ผมมองอะไรภาพติดตาจะนานมาก อาทิเช่นผมเข้าห้องน้ำ ผมปัสสาวะ แล้วก็มองอวัยวะเราเพื่อทำความสะอาด และก็ ทีนี้ภาพอวัยวะเรามันติดตานะครับ หากวันไหนเราอาบน้ำทำธุระก่อนไหว้พระ พอเข้าห้องน้ำเสร็จเราไปมองพระ มีบางทีที่ภาพอวัยวะเราผุดมาในหัว บางทีไปอยู่หน้าองค์พระบ้าง ผมก็เลย ไปมองสาวๆบ้าง แต่ก็กลายเป็นพระหน้าพระ หรือองค์พระ ไปอยู่ตรงศรีษะเขาบ้าง อยู่ตรงนู้นตรงนี้บ้าง ทุกวันนี้ทรมาณมากกับภาพในหัว สลัดอย่างไรก็ไม่ออก รู้สึกบาปก็บาป ผมพอจะมีวิธีการแก้ไหมครับ ผมรู้สึกแย่มากๆเลยครับ ปกติ ผมเคยอ่านฉลากยา ถ้าเคยอ่านมาก่อนในหัว มันจะบอกว่ายาตัวนี้นะ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง แล้วก็มีอยู่ช่วงนึง ผมคิดถึงฉลากยาที่เคยเห็นภาพฉลากมันก็จะมาปรากฏในหัว ต้องเพ่งดูไกล้ๆ ถึงจะรู้รายละเอียด คล้ายๆกับเราท่องสูตรคูณครับปกติผมเคยค่อยท่อง 2×1=2 2×2=4ไปเรื่อยๆ แต่อันนี้มาเป็นหน้าทั้ง24แม่เลยครับคล้ายๆเรามีภาพสูตรคูณในสมอง อันนี้มันเกิดจากการที่เราฝึกผิดวิธีใช่ไหมครับ ใครมีวิธีแก้รบกวนช่วยบอกหน่อยนะครับ อย่าไล่ให้ผมไปพบแพทย์นะครับ ไปมาแล้ว ไม่ใด้ผล ผมเลยอยากถามว่า ผมจะรักษายังไงดีครับ ผมรู้สึกบาปจังเลย ทุกวันนี้แทบไม่กล้าจะนึกอะไร ไม่กล้าจะเข้าวัดหรือมองพระและองค์เทพต่างๆเลยครับ
แล้วอาการที่เราจำภาพสูตรคูณมาทั้งหมดนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ มีใครเป็นบ้างไหม อีกอย่างช่วงนี้มันเริ่มพัฒนามาเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้วครับ คล้ายกับการตัดต่อวีดีโอ ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆเพราะ ภาพสิ่งที่เป็นกุศลและสิ่งที่เป็นอกุศลมันมารวมกัน และ จะทำอย่างไรให้มันเหลือแค่เสียงความคิดเหมือนเดิมครับ
สุดท้าย แล้วครับผมเคยสอบถามพระวิปัสนา ท่านบอกว่าให้เรา พยายามหาอะไรมากระทบกับผัสสะบ่อยๆ ผมก็ลองทำดู แต่ทำไมมันรู้สึกงงๆครับ เวลาที่เราทำกิจกรรมต่างๆ
ขอถามเรื่องกสินครับ
แล้วอาการที่เราจำภาพสูตรคูณมาทั้งหมดนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ มีใครเป็นบ้างไหม อีกอย่างช่วงนี้มันเริ่มพัฒนามาเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้วครับ คล้ายกับการตัดต่อวีดีโอ ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆเพราะ ภาพสิ่งที่เป็นกุศลและสิ่งที่เป็นอกุศลมันมารวมกัน และ จะทำอย่างไรให้มันเหลือแค่เสียงความคิดเหมือนเดิมครับ
สุดท้าย แล้วครับผมเคยสอบถามพระวิปัสนา ท่านบอกว่าให้เรา พยายามหาอะไรมากระทบกับผัสสะบ่อยๆ ผมก็ลองทำดู แต่ทำไมมันรู้สึกงงๆครับ เวลาที่เราทำกิจกรรมต่างๆ