ในอดีต มีอคติกับรถไฟเพราะเป็นรัฐวิสาหกิจชั้น D ขาดทุนทุกปี
วิ่งตรงอย่างเดียว ไฟแดงไม่มี แต่ถึงช้ากว่ารถ บขส
นึกสนุกอยากนั้งรถไฟ ไม่คิดอะไรให้มาก เดินซื้อตั๋ว พร้อมลุย
จากที่เคยอคติ กลับกลายเป็นเห็นใจ นั้งชมวิว คิดในใจ
การที่ขาดทุน ไม่ใช้เพราะผู้โดยสารไม่เยอะ แต่เป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เยอะต่างหาก
ซึ่งระบบราง ก็มีแต่รถไฟ้เท่านั้นสามารถวิ่งได้ ซึง รฟท ต้องรับภาระสร้างและซ่อมบำรุงแต่ฝ่ายเดียว
และสถานีมีเยอะมาก ระดับจังหวัด อำเถอ ตำบล แม้แต่สถานีหมู่บ้านก็ยังมี
ซึ่งแต่ละสถานี ย่อมมีผู้ดูแล อย่างมีนายสถานีต่อ 1 สถานี ซึ่งแน่นอนว่าตำแหน่งนี้ เงินเดือนก็เยอะตามตำแหน่งไปด้วย
ซึ่งเป็นต้นทุนมหาศาล แม้กลุ่มคนใช้บริหารคือขบวนชั้น 3 เยอะสุดค่าตั๋วร้อยกว่าบาท
แต่ปัจจุบันก็ได้พัฒนาดีขึ้น รถวิ่งเร็วขึ้น เสียงตึกๆตักๆ น้อยลง
ซึ่งในอดีต ก็มักเปรียบเทียบกับรถทัวร์ ทำไมสู้รถทัวร์ไม่ได้ เขาวิ่งยังได้กำไรมาพัฒนาการการให้บริการ
ในคิด เพราะรถทัวร์วิ่งบนถนนหลวง จอดสถานีขนส่ง
หรือเอาง่ายๆ ซื้อรถ จ้างคนขับ เด็กรถ คนขายตั๋ว แต่3คน ก็พร้อมให้บริการแล้ว
ซึ่งต่างจากรถไฟ ที่ต้องรับผิดชอบคนเดียว จึงทำให้ขาดทุน ไม่มีเงินบำรุงรักษา
ในรอบ 20 ปี เมื่อได้นั้งรถไฟ ทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง
วิ่งตรงอย่างเดียว ไฟแดงไม่มี แต่ถึงช้ากว่ารถ บขส
นึกสนุกอยากนั้งรถไฟ ไม่คิดอะไรให้มาก เดินซื้อตั๋ว พร้อมลุย
จากที่เคยอคติ กลับกลายเป็นเห็นใจ นั้งชมวิว คิดในใจ
การที่ขาดทุน ไม่ใช้เพราะผู้โดยสารไม่เยอะ แต่เป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เยอะต่างหาก
ซึ่งระบบราง ก็มีแต่รถไฟ้เท่านั้นสามารถวิ่งได้ ซึง รฟท ต้องรับภาระสร้างและซ่อมบำรุงแต่ฝ่ายเดียว
และสถานีมีเยอะมาก ระดับจังหวัด อำเถอ ตำบล แม้แต่สถานีหมู่บ้านก็ยังมี
ซึ่งแต่ละสถานี ย่อมมีผู้ดูแล อย่างมีนายสถานีต่อ 1 สถานี ซึ่งแน่นอนว่าตำแหน่งนี้ เงินเดือนก็เยอะตามตำแหน่งไปด้วย
ซึ่งเป็นต้นทุนมหาศาล แม้กลุ่มคนใช้บริหารคือขบวนชั้น 3 เยอะสุดค่าตั๋วร้อยกว่าบาท
แต่ปัจจุบันก็ได้พัฒนาดีขึ้น รถวิ่งเร็วขึ้น เสียงตึกๆตักๆ น้อยลง
ซึ่งในอดีต ก็มักเปรียบเทียบกับรถทัวร์ ทำไมสู้รถทัวร์ไม่ได้ เขาวิ่งยังได้กำไรมาพัฒนาการการให้บริการ
ในคิด เพราะรถทัวร์วิ่งบนถนนหลวง จอดสถานีขนส่ง
หรือเอาง่ายๆ ซื้อรถ จ้างคนขับ เด็กรถ คนขายตั๋ว แต่3คน ก็พร้อมให้บริการแล้ว
ซึ่งต่างจากรถไฟ ที่ต้องรับผิดชอบคนเดียว จึงทำให้ขาดทุน ไม่มีเงินบำรุงรักษา