ผมอายุ50 ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันสูง เส้นเลือดหัวใจตีบ เริ่มเป็นเบาหวานตอน35จากนั้นเป็นความดัน และเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบตอน40 วันนั้นหมอบอกว่า ถ้าผมหลับผมจะไม่ได้ตื่น สาเหตุจากการเป็นโรคพวกนี้ก็มาจากพฤติกรรมผมทั้งนั้น กินไม่เลือก ดื่มน้ำอัดลม เหล้าเบียร์ ไม่ออกกำลังกาย สภาพตอนนั้นของผม

หลังจากป่วยเป็นโรคหัวใจผมก็เข้าโหมดคนป่วยเต็มรูปแบบ ทำอะไรช้าๆกลัวเหนื่อย ไม่กล้าจะออกแรงใดๆ อยู่ในโหมดผู้ป่วย4ปีกว่าๆ ลูกๆและแฟนก็ชวนเข้าฟิตเนส ตอนนั้นไม่คิดจะจริงจังอะไรคิดเพียงว่าเข้าฟิตเนสเป็นเพื่อนลูก เริ่มต้นด้วยการเล่นเวทกับลูกชายและคาร์ดิโอเบาๆ ผ่านไปได้สักพักเริ่มรับรู้ได้ว่าร่างกายดีขึ้น จึงเริ่มจริงจังเรียกได้ว่าปฎิวัติตัวเอง ทั้งการกิน ดื่ม และออกกำลังกาย เลือกกินของที่มีประโยช์น ตัดความหวานออกจากชีวิต ไม่ใส่น้ำตาลใดๆในของที่จะกิน กาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่นมข้นหวาน ก๊วยเตี๋ยวไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำปลา งดของมัน ลดของทอด ออกกำลังกายอย่างจริงจัง4-5วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ1-2ชั่วโมง ผลลัพทธ์ของการทำแบบนี้มาตลอด5ปี

ลดความอ้วนแล้วได้รูปร่างที่ดีผมถือว่าเป็นของแถมเพราะเป้าหมายจริงๆคือสุขภาพ 6เดือนที่แล้วผมมีความคิดอยากวิ่งจริงจัง เลยเริ่มซ้อมวิ่ง ด้วยโรคหัวใจที่เป็นและอายุที่มากมีเสียงทัดทานรอบด้านในความคิดนี้ เพราะกลัวหัวใจวาย กลัวเข่าเสื่อม จริงๆผมก็กลัวน่ะแต่คิดว่าถ้าค่อยๆฝึกน่าจะทำได้ เพราะจากวันที่ป่วยเป็นโรคหัวใจผมยังพาตัวเองกลับมาออกกำลังกายได้ เรื่องวิ่งน่าจะทำได้
ผมวิ่งโดนให้ความสำคัญการเต้นของหัวใจเป็นหลัก จะวิ่งไม่ให้หัวใจทำงานหนัก ถ้าหัวใจเต้นเร็วผมจะผ่อนฝีเท้าทันที เป้าหมายของผมไม่ได้อยู่ที่เวลาแต่อยู่ที่สุขภาพ ส่วนอาการเจ็บเข่าจากการวิ่ง แรกๆก็เป็นแต่ก็พบว่าเพราะวิ่งไม่ถูกท่า และควรเสริมกล้ามเนื้อที่จะช่วยเข่ารับแรง ผมผ่านจุดที่ซีเรียสทั้ง2มาได้
ระยะหลังผมให้ความสำคัญการวิ่งมากขึ้นมากพอๆกับการเล่นเวท และในอนาคตอาจจะให้ความสำคัญมากกว่าเล่นเวท เป็นเพราะการวิ่งทำให้ผมรู้สึกสดชื่นแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไขมันในตัวลดลงอย่างเป็นที่พอใจ ควบคุมน้ำตาลในเลือดของผมได้ 5เดือนที่ผ่านมาลงงานวิ่ง10km.ไป7งาน ตอนนี้มีเป้าหมายจะวิ่งHalfเดือนธค.

ผมโชคดีที่ครอบครัวร่วมทำกิจกรรมในการออกกำลังกายกับผม ผมทำเรื่องออกกำลังกายเป็นกิจกรรมครอบครัว มันเป็นกิจกรรมที่ดีและสนุก เล่นเวทกับลูกชาย วิ่งกับลูกสาว


ช่วงนี้ได้กลับมาเล่นกีฬาที่รักอีกครั้ง...ฟุตบอล ซึ่งตอนป่วยเป็นโรคหัวใจใหม่ๆผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสเล่นฟุตบอลอีกเลย

จริงๆผมว่าทุกคนรู้น่ะว่าการกินอาหารที่มีประโยช์นและการออกกำลังกาย จะทำให้คุณห่างไกลจากโรค มีรูปร่างดีและสุขภาพแข็งแรง แต่คิดว่ามันยากเลยละเลยที่จะทำมัน ลองตัดอาหารที่ไม่มีประโยช์นแล้วเลือกทานอาหารที่มีประโยช์น แล้วเริ่มให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย หาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อย30นาทีสัปดาห์ละ3-5วัน เลือกเอากิจกรรมที่ชอบคุณจะได้ไม่เบื่อและสนุกทึ่ได้ทำมัน
แค่เลือกทานอาหารและออกกำลังกาย คนที่ไม่มีโรคประจำตัวก็จะมีสุขภาพแข็งแรงปลอดจากโรค ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็จะมีสุขภาพดีขึ้นและกลายเป็นคนป่วยที่แข็งแรง
ปล.การออกกำลังกายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก คนป่วยควรออกกำลังกายให้เหมาะสม เป็นโรคอะไรก็ออกกำลังกายได้หมด มีโรคเดียวในโลกนี้ที่ออกกำลังกายไม่ได้ โรคขี้เกียจ
ลดความอ้วนกับเป้าหมาย ผมจะเป็นคนป่วยที่แข็งแรง...
หลังจากป่วยเป็นโรคหัวใจผมก็เข้าโหมดคนป่วยเต็มรูปแบบ ทำอะไรช้าๆกลัวเหนื่อย ไม่กล้าจะออกแรงใดๆ อยู่ในโหมดผู้ป่วย4ปีกว่าๆ ลูกๆและแฟนก็ชวนเข้าฟิตเนส ตอนนั้นไม่คิดจะจริงจังอะไรคิดเพียงว่าเข้าฟิตเนสเป็นเพื่อนลูก เริ่มต้นด้วยการเล่นเวทกับลูกชายและคาร์ดิโอเบาๆ ผ่านไปได้สักพักเริ่มรับรู้ได้ว่าร่างกายดีขึ้น จึงเริ่มจริงจังเรียกได้ว่าปฎิวัติตัวเอง ทั้งการกิน ดื่ม และออกกำลังกาย เลือกกินของที่มีประโยช์น ตัดความหวานออกจากชีวิต ไม่ใส่น้ำตาลใดๆในของที่จะกิน กาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่นมข้นหวาน ก๊วยเตี๋ยวไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำปลา งดของมัน ลดของทอด ออกกำลังกายอย่างจริงจัง4-5วันต่อสัปดาห์ ครั้งละ1-2ชั่วโมง ผลลัพทธ์ของการทำแบบนี้มาตลอด5ปี
ลดความอ้วนแล้วได้รูปร่างที่ดีผมถือว่าเป็นของแถมเพราะเป้าหมายจริงๆคือสุขภาพ 6เดือนที่แล้วผมมีความคิดอยากวิ่งจริงจัง เลยเริ่มซ้อมวิ่ง ด้วยโรคหัวใจที่เป็นและอายุที่มากมีเสียงทัดทานรอบด้านในความคิดนี้ เพราะกลัวหัวใจวาย กลัวเข่าเสื่อม จริงๆผมก็กลัวน่ะแต่คิดว่าถ้าค่อยๆฝึกน่าจะทำได้ เพราะจากวันที่ป่วยเป็นโรคหัวใจผมยังพาตัวเองกลับมาออกกำลังกายได้ เรื่องวิ่งน่าจะทำได้
ผมวิ่งโดนให้ความสำคัญการเต้นของหัวใจเป็นหลัก จะวิ่งไม่ให้หัวใจทำงานหนัก ถ้าหัวใจเต้นเร็วผมจะผ่อนฝีเท้าทันที เป้าหมายของผมไม่ได้อยู่ที่เวลาแต่อยู่ที่สุขภาพ ส่วนอาการเจ็บเข่าจากการวิ่ง แรกๆก็เป็นแต่ก็พบว่าเพราะวิ่งไม่ถูกท่า และควรเสริมกล้ามเนื้อที่จะช่วยเข่ารับแรง ผมผ่านจุดที่ซีเรียสทั้ง2มาได้
ระยะหลังผมให้ความสำคัญการวิ่งมากขึ้นมากพอๆกับการเล่นเวท และในอนาคตอาจจะให้ความสำคัญมากกว่าเล่นเวท เป็นเพราะการวิ่งทำให้ผมรู้สึกสดชื่นแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไขมันในตัวลดลงอย่างเป็นที่พอใจ ควบคุมน้ำตาลในเลือดของผมได้ 5เดือนที่ผ่านมาลงงานวิ่ง10km.ไป7งาน ตอนนี้มีเป้าหมายจะวิ่งHalfเดือนธค.
ผมโชคดีที่ครอบครัวร่วมทำกิจกรรมในการออกกำลังกายกับผม ผมทำเรื่องออกกำลังกายเป็นกิจกรรมครอบครัว มันเป็นกิจกรรมที่ดีและสนุก เล่นเวทกับลูกชาย วิ่งกับลูกสาว
ช่วงนี้ได้กลับมาเล่นกีฬาที่รักอีกครั้ง...ฟุตบอล ซึ่งตอนป่วยเป็นโรคหัวใจใหม่ๆผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสเล่นฟุตบอลอีกเลย
จริงๆผมว่าทุกคนรู้น่ะว่าการกินอาหารที่มีประโยช์นและการออกกำลังกาย จะทำให้คุณห่างไกลจากโรค มีรูปร่างดีและสุขภาพแข็งแรง แต่คิดว่ามันยากเลยละเลยที่จะทำมัน ลองตัดอาหารที่ไม่มีประโยช์นแล้วเลือกทานอาหารที่มีประโยช์น แล้วเริ่มให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย หาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อย30นาทีสัปดาห์ละ3-5วัน เลือกเอากิจกรรมที่ชอบคุณจะได้ไม่เบื่อและสนุกทึ่ได้ทำมัน
แค่เลือกทานอาหารและออกกำลังกาย คนที่ไม่มีโรคประจำตัวก็จะมีสุขภาพแข็งแรงปลอดจากโรค ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็จะมีสุขภาพดีขึ้นและกลายเป็นคนป่วยที่แข็งแรง
ปล.การออกกำลังกายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก คนป่วยควรออกกำลังกายให้เหมาะสม เป็นโรคอะไรก็ออกกำลังกายได้หมด มีโรคเดียวในโลกนี้ที่ออกกำลังกายไม่ได้ โรคขี้เกียจ